Sunday, 8 June 2025
พวกเราคือผู้บริโภค

สยอง!! หนุ่มซื้อซูชิแถวบ้าน เจอหมึกคล้าย ‘หมึกบลูริง’ ร้านแจงไม่ได้แล่เอง สับปนกันมา พร้อมรีบคืนเงินให้

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 66 สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพเตือนภัยลงในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ หลังไปซื้อซูชิจากร้านแห่งหนึ่งแถวบ้าน และไปเจอซูชิหน้าหมึกที่ลักษณะคล้ายกับ ‘หมึกบลูริง’ ที่มีพิษร้ายแรง โดยระบุข้อความว่า…

“อันนี้จากร้านซูชิแถวบ้านครับ ฝากเตือนกันด้วยนะครับ ค่อนข้างจะชัดว่าเป็นวงที่หนวด ไม่ใช่ที่โคนหนวดครับผม ยังไงถ้าไม่มั่นใจ แนะนำว่าไม่ให้กิน ดีที่สุดครับ”

พร้อมกับโพสต์ภาพของซูชิหน้าหมึกคำดังกล่าว โดยที่หนวกหมึกนั้นมีวงแหวนอยู่ทุกชิ้น ซึ่งลักษณะคล้ายกับหนวดของ ‘หมึกบลูริง’ และได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบระหว่างหมึกบลูริง กับ ‘หมึกอิคคิว’ ซึ่งหมึกอิคคิวนั้นมีวงแหวนที่แก้มแค่ 1 วง กินได้ไม่เป็นอันตราย ส่วนหมึกบลูริงนั้นมีวงแหวนที่หนวดหลายจุด มีพิษร้ายแรง

โดยผู้โพสต์บอกว่า “แจ้งทางร้านเรียบร้อยครับ ร้านขอโทษแล้ว คืนเงินมาแล้ว ร้านแจ้งว่าไม่ได้แล่เอง แต่ซื้อที่เค้าสับปนกันมาครับ”

สำหรับ ‘หมึกบลูริง’ จะมีลักษณะลำตัวขนาดเล็ก มีลายวงแหวนสีฟ้าสะท้อนแสงเล็กๆ กระจายอยู่ตามลำตัวและหนวด ตัวเต็มวัยมีขนาด 4-5 เซนติเมตร และหนวดยาวประมาณ 15 เซนติเมตร อาศัยอยู่ตามซอกหินและชอบหลบซ่อนตัวอยู่ในทรายใต้ท้องทะเล เคลื่อนที่โดยการใช้หนวดเดินจะไม่ใช้การพ่นน้ำเพื่อพุ่งตัวในการเคลื่อนที่เหมือนหมึกกล้วย

พิษของหมึกบลูริงหรือ ‘หมึกสายสีน้ำเงิน’ มีชื่อว่า ‘Maculotoxin’ (มาคูโลทอกซิน) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพิษของปลาปักเป้าที่มีชื่อว่า ‘Tetrodotoxin’ (เทโทรโดทอกซิน) สามารถพบพิษนี้ได้ในต่อมน้ำลาย (Salivary gland) ปาก หนวด ลำไส้ และต่อมหมึก พิษชนิดนี้จะทำลายระบบประสาททำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และทำให้เหยื่อตายหรือเป็นอัมพาต ผู้ที่ถูกหมึกบลูริงกัดเปรียบเหมือนการฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดโดยตรง

โดยพิษจะออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าพิษจากปลาปักเป้า อาการเริ่มแรกของผู้ที่ถูกกัดหรือกินหมึกบลูริงเข้าไปจะมีอาการคลื่นไส้ ตาพร่าเลือน มองไม่เห็น ประสาทสัมผัสไม่ทำงาน พูดหรือกลืนน้ำลายไม่ได้ จากนั้นจะเป็นอัมพาตและหยุดหายใจเนื่องจากสมองขาดออกซิเจน หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจะทำให้ตายในที่สุด

‘ผู้โดยสาร’ อัดคลิปสภาพเบาะเครื่องบิน สายการบินดัง สุดช็อก!! ทั้งดำสกปรก แถมเปื่อย-ขาด สภาพเกินจะทน

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 ได้เกิดไวรัลบนโลกโซเชียล โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมคลิปวิดีโอลงในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ เผยให้เห็นสภาพเบาะบนสายการบินหนึ่ง เมื่อผู้โพสต์นำกระดาษทิชชู่มาเช็ดเบาะแล้วพบว่า มีคราบฝุ่นติดมาจำนวนมากจนทำให้ทิชชู่มีสีดำ รวมไปถึงเบาะอยู่ในสภาพขาดทรุดโทรม นอกจากนี้ รวมถึงพื้นของเครื่องบินมีสภาพสกปรก

โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “บินสายการบินนี้เหมือนมาสู้ชีวิต อาทิตย์ที่แล้วเบาะสกปรกเอาทิชชู่ชุบน้ำเช็ดดำปี๋ อาทิตย์นี้เจอสภาพเบาะสู้ชีวิต น้องเปื่อย เบาะขาด”

นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังไปแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์อีกว่า “ขออนุญาตชี้แจงก่อนนะครับ จริงๆ แล้ว อาทิตย์ก่อนที่เจอเบาะดำ ไม่สะอาด สกปรก เราได้ส่งแจ้งเรื่องทางสายการบินให้ได้รับทราบแล้วนะครับ และช่วงนี้เราต้องบินไป-กลับบ้านกับสายการบินนี้ทุกศุกร์และอาทิตย์ จนถึงเดือนมีนาคม (เพราะจองล่วงหน้าไว้)

ทางสายการบินมีการติดต่อมา จะทำการ DEEP CLEAN ซึ่ง ส่วนตัวเราว่า มันไม่ได้ถึงขนาดต้องเรื่องใหญ่ขนาดตั้ง BUDGET ขอ DEEP CLEAN แค่การทำความสะอาดทั่วไป เช่น ผ้าหรือวัสดุอุปกรณ์ ที่ถูกต้องกับคุณลักษณะของเบาะ เช็ดเบาะให้สะอาดเป็นประจำ ก็น่าจะเพียงพอ

และ… เราค่อนข้างแน่ใจอีกอย่างคือ เค้ามีการส่งข้อมูล EMAIL กันภายใน ว่า ผดส. คนนี้จะเดินทางอีกวันนี้ๆ นะ สิ่งที่เค้าทำคือ ไปทำความสะอาดที่นั่งที่เราจะนั่ง ซึ่งดูสะอาดมากๆ (เฉพาะที่นั่งเรา)

แต่บังเอิญ… มีเหตุให้เราได้ต้องย้ายที่ และสิ่งที่เจอคือ สกปรกเหมือนเดิม เพราะเค้าเช็ดแต่ที่นั่งเรา แล้ววันนี้บินอีก เจอเบาะสู้ชีวิตอีกกกก สภาพน้องคือ ไม่พร้อมให้บริการอย่างแรงงง จนต้องเขยิบไปนั่งที่ข้างๆ

สิ่งที่เราจะสื่อคือ ไม่ได้ต้องการสิ่งใดทดแทน หรือ ดูแลเฉพาะแค่เรา แต่เรื่องความสะอาดมันเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกๆ คนที่มาใช้บริการควรได้รับให้เป็นมาตรฐาน และสุขลักษณะที่ทุกๆ คนควรได้รับจากผู้ให้บริการเท่าเทียมกัน”

ร้านสุดแสบ นำเนื้อปลาย้อมสี ขายเป็น ‘แซลมอน-ทูน่าดองซีอิ๊ว’ ชาวเน็ต ชี้!! ‘ปลาดอลลี่’ ไม่สามารถรับประทานสดๆ ได้

(3 มิ.ย.67) เป็นอีกเรื่องร้อน สำหรับคนที่ชอบรับประทานปลาดิบ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ ระบุข้อความว่า

ผู้บริโภครายหนึ่งแจ้งว่า มีร้านๆ หนึ่งในปราจีนบุรีย้อมปลาดอลลี่ เป็นสีแดงคล้ายทูน่า เพื่อดองขายให้กับผู้บริโภค

พร้อมแนบภาพปลาที่มีแดงคล้ายทูน่า แต่เมื่อดูเนื้อด้านในของปลาพบเป็นเนื้อปลาสีขาว คล้ายเนื้อปลาดอลลี่อย่างมาก ซึ่งเป็นปลาที่ไม่สามารถรับประทานสดๆ ได้

นอกจากนี้โพสต์ดังกล่าวยังแนบคอมเมนต์จากเพจ ‘กินไรดี ปราจีนบุรี’ ที่มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์รูปดังกล่าว ที่มีย้อมปลาดอลลี่ เป็นสีแดงคล้ายทูน่า พร้อมระบุว่า 

เตือนภัย ร้านนี้เลยแฟนเราซื้อมา ย้อมแมวขาย เอาปลาดอลลี่มาชุบสีเป็นปลาทูน่ากับแซลมอน เอาเอ็นหอยจอบมาดองแทนโฮตาเตะ

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย

ผู้บริโภคโวยลั่น!! จอด ‘รถไฟฟ้า’ ตากฝนแค่ 20 นาที แบตเตอรี่พัง โชว์รูมแจง ‘ค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้านบาท’ เตรียมเดินหน้าร้อง ‘สคบ.’

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) ในเพจกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ มีเจ้าของรถรายหนึ่งร้องเรียนถึงรถไฟฟ้าจอดตากฝนแค่ 20 นาที ปรากฏว่าแบตเตอรี่พัง ค่าซ่อมล้านกว่าบาท

รายละเอียดในเพจที่เขียนไว้ว่า ขอแจ้งเตือนให้ข้อมูลเพื่อนำความปรารถนาดีต่อผู้บริโภคด้วยกันนะคะ แค่จอดรถหน้าบ้านขณะฝนตกสัก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเขาบอกมา เสนอราคาค่าซ่อมเปลี่ยนแบตเตอรี่รวมอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา บอกมาเกือบ 1.1 ล้านเชียวนะคะ

ตอนนี้ยังจอดสนิทอยู่ที่โชว์รูมเป็นซากรถมาเกือบ 30 วันแล้วค่ะ ดิฉันยังไม่ได้รับการติดต่อหรือให้การบริการรถสำรอง เยียวยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากโชว์รูม หรือจากประกันชั้นหนึ่งเลยค่ะ ความเสียหายอันแสนเป็นบทเรียนของการตัดสินใจซื้อรถยี่ห้อ ไร้คุณภาพและบริการคันนี้นะคะ ทำให้ตอนนี้คือแจ้งความกับ สคบ. และแต่งตั้งทนายดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายและออกสื่อต่อไปคะ ทุกๆ ทางคะ

อย่างไรเรื่องนี้ ต้องรอ ทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า BYD ออกมาชี้แจง แก้ไขปัญหาในเคสนี้

สำหรับรุ่นนี้ เป็นรถ BYD SEAL ราคาเริ่ม 1,325,000 -1,599.000 บาท 

‘เอ็มเคสุกี้’ ออกแถลงการณ์ ปมลูกค้าแพ้อาหารจนต้องแอดมิต เข้าเยี่ยม-ติดตามอาการใกล้ชิด พร้อมรับผิดชอบค่ารักษาทั้งหมด

(21 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ลงในกลุ่ม 'พวกเราคือผู้บริโภค' เผยว่าได้พาครอบครัวไปรับประทานสุกี้เจ้าดังแห่งหนึ่ง ซึ่งทางครอบครัวรับประทานกันเป็นประจำ โดยเมนูสั่งมาคือ ‘ลูกชิ้นปู’ กับ ‘หมูทรงเครื่อง’ เมื่อรับประทานไปได้สักระยะลูกชายเริ่มมีอาการไอและอาเจียน พูดไม่มีเสียง ตนจึงรีบเช็กบิลและพาลูกส่งรพ.เอกชนที่ใกล้เคียงที่สุด เมื่อมาถึงหมอแจ้งว่าดีนะที่มาไว หากช้ากว่านี้สัก 2-3 นาทีลูกชายอาจจะหายใจเองไม่ได้แน่ เพราะว่าตอนที่มาถึงหลอดลมตีบมาก แต่หมอและพยาบาลได้ช่วยจนได้พ้นขีดอันตราย

ล่าสุด MK Restaurants บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ออกหนังสือชี้แจงระบุว่า…

“เรื่อง ชี้แจงความคืบหน้ากรณีลูกค้าแพ้อาหารในร้านอาหาร MK Restaurants”

“จากกรณีลูกค้าแพ้อาหารที่เกิดขึ้น ทางบริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ครั้งนี้ หากทราบข้อมูลการแพ้อาหารก่อนรับประทาน ทางบริษัทสามารถตรวจสอบส่วนผสมในอาหารทุกรายการอย่างละเอียด และให้ข้อมูลกับลูกค้าก่อนสั่งอาหารได้”

“ทั้งนี้ ทางบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ดำเนินการติดตามอาการของลูกค้าตั้งแต่ขณะรับประทานที่ร้าน จนถึงโรงพยาบาล เข้าเยี่ยมติดตามอาการด้วยกระเช้าดอกไม้และมื้ออาหารสำหรับผู้ปกครองเฝ้าไข้ และดูแลลูกค้าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อย่างเต็มที่ โดยทางร้านได้ติดต่อกับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว” 

“ในส่วนของมาตรการของบริษัทในการป้องกันการแพ้อาหารของลูกค้า ทางบริษัทได้มีการจัดกลุ่มการแพ้อาหารกลุ่มหลัก โดยระบุข้อมูลในรายการอาหารทั้งหมด พร้อมคำแนะนำในเมนู หากลูกค้าแพ้อาหารชนิดใดสามารถแจ้งพนักงานเพื่อตรวจสอบส่วนผสมในรายการอาหารที่ลูกค้าต้องการสั่งได้ อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทตั้งใจที่จะปรับปรุงมาตรการให้ดีขึ้นเพื่อดูแลลูกค้าอย่างดีต่อไป”

สาวสั่ง ‘ข้าวไข่เจียว’ ผ่านแอป รอกินด้วยความหิว แต่สิ่งที่ได้ ไม่ตรงปกอย่างแรง!! ดูยังไงก็ไม่น่ากิน

(11 ส.ค. 67) ในโลกออนไลน์มีการแชร์ต่อและวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวจากสมาชิกกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภครายหนึ่ง หลังจากที่ได้กดสั่งอาหารผ่านแอป แต่กลับต้องหมดอารมณ์รับประทาน หลังจากที่ได้รับเมนูอาหารมา เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของข้าวไข่เจียวที่ดูยังไงก็ไม่ตรงปก

โดนสมาชิกดังกล่าว ได้โพสต์ภาพเมนูข้าวไข่เจียวกับตำแตง ที่สั่งผ่านแอปซึ่งจากรูปในเมนูข้าวไข่เจียว กับตำแตงนั้นดูน่ารับประทาน แต่สิ่งที่ได้กลับไม่ตรงปกอย่างมาก

โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความอีกว่า 

“สั่งอาหารตามรูปจากออนไลน์ แต่สิ่งที่ได้มา ต้องตกใจไรก่อนดี!! ข้าวไข่เจียวที่ตั้งหน้าตั้งตารอนานแสนนาน ทำกันได้ลงคอ ร้านส้มตำเจ็ดยอดแห่งหนึ่ง”

สั่งทีวีจากร้านออนไลน์ เจอจอแตก ทักไปขอเปลี่ยนเครื่อง แอดมินถามหา คลิปตอนแกะ ‘ทนายเกิดผล’ ชี้!! ไม่เป็นธรรม ร้านต้องรับเปลี่ยน แล้วค่อยเรียกค่าเสียหายจาก ‘ผู้ขนส่ง’

(17 ส.ค.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ หลังสั่งซื้อทีวีจากออนไลน์มาแล้วปรากฏว่าทีวีจอแตกใช้ไม่ได้ ความว่า ซื้อทีวีจากแพลตฟอร์มออนไลน์ สภาพคือแตก กล่องมีรอยเล็กน้อย ทักไปทางร้านไม่เปลี่ยนเครื่องถ้าไม่มีวิดีโอตอนแกะกล่อง ปล.2 คนแกะก็ลำบากแล้ว ใครจะตั้งกล้องถ่ายไว้

เมื่อผู้โพสต์ทักไปพูดคุยกับแอดมินร้านค้า และแจ้งว่าไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้ตอนแกะกล่อง โดยแอดมิน แนะนำว่า ให้คนอื่นช่วยถ่ายได้ หรือมีขาตั้งกล้อง หรือสถานที่ที่สามารถวางโทรศัพท์ได้หรือไม่

หลังโพสต์มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยแนะนำให้ผู้โพสต์ทำเรื่องคืนสินค้ากับแพลตฟอร์มออนไลน์ บางส่วนให้ถามกลับว่าตอนแพ็กสินค้า ได้ถ่ายคลิปไว้หรือไม่

ทั้งนี้สำหรับประเด็นถ่ายวิดีโอตอนแกะกล่องนั้น ‘ทนายเกิดผล แก้วเกิด’ เคยให้ข้อมูล โดยยกคดีที่ ‘ศาลจังหวัดอุดรธานี’ คดีหนึ่ง ผู้ซื้อสินค้า รับสินค้าไว้ แต่ไม่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน เมื่อเปิดกล่องพัสดุ ผลคือ สินค้าแตกหัก ขอคืนสินค้า แต่ผู้ขายปฏิเสธ เพราะผู้ซื้อไม่ได้ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานในขณะรับสินค้า ลูกค้าจึงนำคดีมาฟ้องเป็นคดีผู้บริโภค

ซึ่ง ศาลชั้นต้น (ศาลจังหวัดอุดรธานี ) พิพากษาว่า “…ข้อความดังกล่าวนี้ถือเป็น ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม สัญญาที่ฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมากเกินสมควร ประกอบกับคู่สัญญาไม่ได้รับความยินยอมในสัญญาตั้งแต่ต้น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 มาตรา 4 วรรคสาม ข้อตกลงดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะตามมาตรา 11 สิ่งที่ควรกระทำผู้จัดส่งควรถ่ายวิดีโอขณะแพ็กสินค้า ผู้รับควรถ่ายวิดีโอขณะแกะสินค้า เมื่อมีการชำรุด แตกหัก ร้านค้าต้องรับผิดชอบในเบื้องต้น และเรียกค่าเสียหายจากผู้ขนส่งมิใช่เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภคฝ่ายเดียว…”

สาวสั่งข้าวซอย ผงะ!! เจอ ‘หมูดิบ’ แม่ค้าแก้ปัญหา ด้วยการเติมน้ำร้อนให้

(15 ธ.ค. 67) กลายเป็นโพสต์ไวรัลวิจารณ์สนั่น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กบัญชี คุกกี้ซ์ โพสต์แชร์ประสบการณ์ทานอาหารที่จำไม่รู้ลืม ลงใน กลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค

แนบภาพอาหารขึ้นชื่อทางภาคเหนืออย่าง ข้าวซอย ทว่าอาหารจานดังกล่าวในภาพ กลับเห็นหมูสีชมพูสดชันเจน ลักษณะคือ หมูยังมีเนื้อบางส่วนที่ไม่สุก หรือ สุกไม่ทั่วกันทั้งชิ้น

โดยเธอเขียนข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า ‘ข้าวซอยหมู ณ ร้านข้าวซอยแห่งหนึ่งในลำปาง’

‘จะกินอะไรก็ดูกันดี ๆ ก่อนกินนะคะ นี่แจ้งทางร้านไปแล้ว ปรากฎเขาเทน้ำมาเพิ่ม น้ำปริ่มขอบเลย คงกะเพิ่มความร้อนให้มันสุก แต่มันก็ยังแดงค่ะ ทำไมไม่เอาไปลวกใหม่สุก ๆ มาให้นะ งง’

ทั้งนี้ การทานหมูดิบมีอันตรายต่อร่างกาย อาจเสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้ อาการอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ทำให้โซเชียลต่างเข้ามาคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์จวกร้านกันสนั่น ทั้งความประมาทในการประกอบอาหาร และวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกสุขอนามัย พร้อมเรียกร้องให้ทางร้านออกมาชี้แจง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เหมาะสม

มีความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากโลกโซเชียล ยกตัวอย่างเช่น 

เป็นเราจ่ายตังแล้วเดินออกเลย หมูไม่สุกแบบนี่เสี่ยงเป็นไข้หูดับ

ข้าวซอยสูตรไหน สีแบบนี้ แล้วข้าวซอยหมูก็ไม่เคยเจอนะ เจอแต่ไก่กับเนื้อ ร้านทำไมมักง่ายแบบนี้

งานหยาบมาก

ข้าวซอยหมูหูดับ

หูจะดับเอานะคะ คืนเขาเถอะค่ะ

โหยอันตรายมาก!!! หมูนะไม่ใช่เนื้อจะเน้นสดๆมันไม่ใช่555

เราคนลำปางกินข้าวซอยมาก็หลายร้านแต่ไม่เคยเห็นแบบนี้เลยค่ะ

สาวซื้อหมึกย่าง เปิดถุง!! เจอครบเซต ทั้ง ‘สำเนาบัตรปชช.–เอกสารผู้ป่วย’

(2 ก.พ. 68) สาวซื้อหมึกย่าง เปิดถุงเจอสำเนาบัตรปชช.-เอกสารผู้ป่วย ชาวเน็ตถาม ความเป็นส่วนตัวอยู่ไหน

เรียกได้ว่าเจอ บ่อยจนชาวบ้านชักเริ่มชิน กับข้อมูลส่วนตัวจากเอกสารสำคัญที่ไปโผล่บนถุงกล้วยทอด ล่าสุด โผล่อีกบนถุงหมึกย่าง ครบทั้งข้อมูลผู้ป่วย สำเนาบัตรประชาชน

โดยผู้ใช้สื่อโซเชียลรายหนึ่งได้โพสต์ในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ โดยระบุข้อความว่า 

“ซองปลาหมึกย่าง แถวประชาอุทิศ เอกสารผู้ป่วยเอย สำเนาบัตร ปชช. เอย”

โดยหลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้ใช้สื่อโซเชียลรายอื่นๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า 

“Privacy อยู่ไหน”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top