Friday, 5 July 2024
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์

ประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม 

ภายหลังการประชุม เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ ฯ มอบหมายให้ พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง โฆษก ตร. พร้อมผู้แทนจาก สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ,กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงมหาดไทย,กระทรวงวัฒนธรรม,กรมการศาสนา , กรมเจ้าท่า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แถลงเรื่องการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน ในโอกาสดังกล่าว

เนื่องจากในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี พระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากสถูปโบราณปิปราห์วา เมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
และส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย
และสาธารณรัฐอินเดีย รวมทั้งให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ โดยมีกำหนดการ สรุปได้ดังนี้

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 มาประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และในช่วงเย็นวันเดียวกัน กระทรวงวัฒนธรรม กำหนดให้มีการซักซ้อมขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.00 น. พิธีตักบาตร ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง 

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ -  3 มีนาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น. ในช่วงเวลา 17.00 – 18.00 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์

วันที่ 5 - 8 มีนาคม 2567 ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น.

วันที่ 10 - 13 มีนาคม 2567 ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น. 

วันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567 ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น.

สำหรับ พระสงฆ์ ประชาชนชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เป็นพุทธศาสนิกชน ที่จะเข้าไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขอความร่วมมือให้เดินผ่านจุดคัดกรอง จำนวน 2 จุด ซึ่งอยู่รอบสนามหลวงบริเวณถนนผ่ากลาง ฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา และฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหน่วยรับผิดชอบการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร มีการตั้งกองอำนวยการร่วม ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 

สำหรับบริหารจัดการ จัดเตรียมสถานที่จอดรถ ณ ท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ กองสลากเก่า และถนนราชินีด้านหลังศาลฎีกา สำหรับประชาชนที่นำรถยนต์มา เตรียมสถานที่จอดรถสำรอง ณ หอประชุมกองทัพเรือ , กรมเจ้าท่าจัดเรือข้ามฟาก รับ-ส่งประชาชนจากหอประชุมกองทัพเรือไปยังท่าช้าง ส่วนประชาชน นักเรียน นักศึกษาที่เดินทางเป็นหมู่คณะจากในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ให้นำรถบัสไปจอดที่ร้านตำรับไท บริเวณแยกอรุณอมรินทร์ และใต้สะพานพระราม 8 จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร ดูแลรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินให้แก่ประชาชน สำหรับสถานบันการศึกษา หรือจังหวัดใกล้เคียงประสงค์ขอให้ส่วนราชการจัดรถบัสให้บริการรับ-ส่งประชาชน นักเรียน นักศึกษา ขอให้ประสานมายังกองอำนวยการร่วม หรือผ่านสำนักงานจังหวัดได้ 

กรณีประชาชนเดินทางรถโดยสารสาธารณะ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อำนวยความสะดวกจัดรถโดยสารให้บริการรับ-ส่งประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2567 โดยจัดเดินรถโดยสารให้บริการประชาชน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สนามหลวง (ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า) และเส้นทางที่ 2 วงเวียนใหญ่ - สนามหลวง (ตรงข้ามศาลฎีกา) ได้จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ทั้งจุดต้นทางและปลายทาง 

ส่วนกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกับบริษัทเอกชนต่าง ๆ จัดเรือบริการฟรี โดยให้บริการ (1) เรือข้ามฟาก จาก ท่าวัดระฆัง - ท่าวังหลัง - ท่าวัดอรุณ ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2567 เวลา 08.30 – 18.00 น. , เรือจาก บริษัท ไทย สมายส์ โบ้ท จากท่าน้ำนนท์ ถึงท่าช้าง ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2567 ให้บริการวันละ 4 เที่ยว , เรือจากบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จากท่าน้ำนนท์ ถึงท่าช้าง ระหว่าง วันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2567 จากท่าน้ำนนท์ เวลา 09.00 น. , 10.00 น. , 15.00 น. และ 16.00 น. 

การบริการทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดชุดบริการทางการแพทย์ประจำเต็นท์บริการ และชุดพยาบาลเดินเท้า พร้อมรถพยาบาลกู้ชีพ สำหรับให้บริการประชาชนที่อาจเจ็บป่วยในขณะเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ การประปานครหลวง จัดรถน้ำดื่ม จำนวน 3 คัน ให้บริการประชาชน กรุงเทพมหานคร จัดรถสุขาเคลื่อนที่บริเวณรอบท้องสนามหลวง ทั้งฝั่งศาลฎีกา และฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก จัดเจ้าหน้าที่บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนบริเวณจุดขึ้น-ลงรถรับจ้างสาธารณะรอบท้องสนามหลวง

เปิดตัว “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” และร่วมหารือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อ ยกระดับงานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติอำนวยความยุติธรรม

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ได้มีการจัดตั้ง “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนางานสอบสวน และพนักงานสอบสวนให้มีประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน โดยมี พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ 
เป็นประธานชมรมฯ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ (ผู้ริเริ่มก่อตั้ง) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ และ พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ เป็นที่ปรึกษา

ในส่วนของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล พล.ต.ต.เจนกมล คํานวล พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ ดีพอ พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ พ.ต.อ.กีรติ ตรีวัย พ.ต.ท.ภูมิรพี ผลาภูมิ และผู้แทนจากกองบัญชาการที่มีอำนาจสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการบริหาร และคณะที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหางานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกรณีเร่งด่วน มีมติในเสนอมาตรการถึงท่านผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

1. เรื่องระบบตำแหน่งควบ สายงานสืบสวนสอบสวน โดยแบ่งเป็น “พนักงานสอบสวนปกติ” ที่มีการแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เหมือนกับตำรวจสายงานอื่นทั่วไป และ “พนักงานสอบสวนตำแหน่งควบ” ที่มีตำแหน่งปรับระดับเพิ่มลดได้ในตัวเอง มีแท่งเลื่อนไหลตั้งแต่ระดับ รองสารวัตร ถึงระดับรองผู้บังคับการ โดยใช้การประเมินเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

2. เรื่องการแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวดขัน
ห้ามพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการในสายงานอื่น

3. เรื่องการเพิ่มเงินประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนการทำสำนวนการสอบสวน 
โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน และการดำรงตนอยู่ในความยุติธรรมได้อย่างมีเกียรติ โดยเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม

4. เรื่องการแก้ไขคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 และระเบียบคำสั่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน

5. เรื่องการจัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำช่วยเหลือประชาชนและพนักงานสอบสวน
ในการอำนวยความยุติธรรม เพื่อเปิดช่องทางให้ประชาชนและพนักงานสอบสวนสอบถามปัญหา หรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

ซึ่งในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจได้เข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ผู้บังคับการกองอัตรากำลัง และผู้บังคับการกองทะเบียนพล เพื่อร่วมหารือ และยื่นหนังสือถึงท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขและพัฒนางานสอบสวนตามมาตรการดังกล่าว

เบื้องต้น ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความยินดีและเห็นชอบกับมาตรการดังกล่าว โดยหลังจากนี้ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหางานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับ
งานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานสอบสวน และแก้ไขปัญหาในการ
อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนต่อไป

ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ 3 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.ลำปาง สั่งดูแลเรื่องการรักษาและสิทธิโยชน์อย่างเต็มที่

วันนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 , พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.อัครินทร์ กาสา รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม รอง ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.ภูชิชย์ ตรียัมปราย ผกก.สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง เดินทางไปยังอาคารนวมินทร์ ชั้น 4 หอผู้ป่วยอุบัติเหตุสามัญ โรงพยาบาลลำปาง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อเยี่ยมให้กำลังข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขณะปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา จำนวน 3 ราย ได้แก่ พ.ต.ต.วิทย์วศิน นิธิกุลกาญน์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ ใจยะสุ ผบ.หมู่ (ป) สภ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ แก้วปวน ผบ.หมู่ (คฝ.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 16.40 น. พ.ต.ต.วิทย์วศินฯ , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ฯ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ฯ เดินทางไปปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ ศอ.ปส.ตร. โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้ออีชูซุ สีบรอนซ์เงิน ระหว่างเดินทางได้มีนายเดชาฯ ขับรถกระบะแค๊ป ยี่ห้ออีชูซุ สีบรอนซ์เงิน สวนมา บริเวณที่เกิดเหตุ กิโลเมตรที่ 422-423 ถนนสายลำปาง-เด่นชัย อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นทางโค้งฝนตกถนนลื่น รถยนต์เสียหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลแม่ทะ และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งทั้ง 3 รายขณะนี้อยู่ห้องเฝ้าสังเกตอาการ ผู้บังคับบัญชากำลังประสานกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อส่งตัวไปทำการรักษาต่อไป

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้ให้กำลังใจ พ.ต.ต.วิทย์วศินฯ , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ฯ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ฯ ตลอดจนญาติของข้าราชการตำรวจทั้ง 3 ราย พร้อมมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือ และได้กำชับผู้บังคับบัญชาให้ดูแลทำการรักษา ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่เรียนดี ประพฤติดี และบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและเป็นขวัญกำลังใจ

วันนี้ (1 กรกฏาคม 2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2567 ณ ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ที่เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สมาคมแม่บ้านตำรวจได้ดำเนินนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการ ขวัญกำลังใจ และความสามัคคีให้แก่ครอบครัวตำรวจและสมาชิกแม่บ้านตำรวจ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว โดยการจัดทำโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2567 สมาคมแม่บ้านตำรวจได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่มีผลการเรียนดีและโดดเด่น หรือเป็นบุตรที่มีความประพฤติดี จนถึงบุตรของข้าราชการตำรวจที่เสียสละชีวิตและร่างกายเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคม สำหรับการมอบทุนการศึกษาในวันนี้ เป็นการมอบทุนใน 2 ประเภท คือ การมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจนต้องออกจากราชการ จากการปฏิบัติหน้าที่ และการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่ประพฤติดีขาดแคลนทุนทรัพย์

นายกสมามคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สำหรับทุนการศึกษาบุตรของข้าราชการที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยผ่านการพิจารณาจากสำนักงานกำลังพล สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาทต่อครอบครัวจำนวน 11 ครอบครัว ส่วนทุนการศึกษาบุตรของข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์  สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษา มูลค่า 3,000 บาทต่อทุน จำนวนมากกว่า 2,000 ทุน โดยเฉลี่ยสัดส่วนจำนวนทุนตามกำลังพลของแต่และหน่วย ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับทุนการศึกษาด้านความประพฤติดีมากที่สุดในปีนี้ 3 ลำดับแรก คือ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรภาค 9

นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สนับสนุนทุนการศึกษาต่อเนื่องระดับปริญญาตรี เพื่อมอบให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือพิการทุพพลภาพจนให้ออกจากราชการจากการปฎิบัติหน้าที่ จำนวน 5 ทุน และสมาคมแม่บ้านตำรวจขอขอบคุณมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ที่สนับสนุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจด้วยดีตลอดมา ตลอดจนขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการในทุกด้าน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขอบคุณสมาคมแม่บ้านตำรวจที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ และส่งเสริมการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเชิดชูเกียรติยศของตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเป็นการส่งมอบกำลังใจให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น ถือเป็นการจัดสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจ เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอแสดงความยินดีกับบุตรหลานที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้ทุกคน ขอให้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาให้มากที่สุด เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top