Saturday, 19 April 2025
พรรคชาติไทยพัฒนา

แนวคิดนักการเมืองรุ่นใหม่ ‘ประวิทย์ สุวรรณสัญญา (ปู้)’ | TIME TO LISTENING EP.16

‘ประวิทย์ สุวรรณสัญญา (ปู้)’ ทายาทห้างยาสุวรรณโอสถ ผักไห่ ในวัยเพียง 29 ปี ซึ่งครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเป็นอาสาสมัครช่วยชาวบ้านในช่วงน้ำท่วมทำให้เห็นความเดือดร้อนของประชาชนชาวผักไห่ เลยตั้งใจอยากช่วยเหลือพี่น้องชาวอยุธยาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงสนใจลงการเมืองในนามพรรคชาติไทยพัฒนา แนวคิดของนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงจะเป็นอย่างไรติดตามรายละเอียดในคลิปนี้…

ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์
Content Manager THE STATES TIMES

แขกรับเชิญ คุณประวิทย์ สุวรรณสัญญา (ปู้)
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พระนครศรีอยุธยา เขต 5 พรรคชาติไทยพัฒนา

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ :  https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIME PODCAST

รองหัวหน้า ‘ชทพ.’ ลุยช่วย ‘ปู้ ประวิทย์’ หาเสียง ชูนโยบาย ‘ว้าวไทยแลนด์’ อ้อน!! ขออาสาพัฒนาอยุธยา

รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เดินตลาดเสนา ช่วย ปู้-ประวิทย์ เจ้าตัวลั่น พร้อมพัฒนาอยุธยา ขอปักธง

(24 เม.ย. 66) ที่จ. พระนครศรีอยุธยา นายกนก วงษ์ตระหง่าน และ นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ลงพื้นที่ตลาดเสนาอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วย นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา พระนครศรีอยุธยา เขต 5 เบอร์ 12 หาเสียง ด้วยการเดินแจกแผ่นพับแนะนำตัว พบปะพี่น้องประชาชน ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดรวมถึงพ่อค้าแม่ค้า เพื่อขอคะแนนเสียงให้เลือกนายประวิทย์ เบอร์12 และพรรคชาติไทยพัฒนา เบอร์ 18

นายประวิทย์ กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนามาแนะนำนโยบายว้าวไทยแลนด์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่มารับฟังปัญหา จากพี่น้องประชาชนแล้ว ก็ได้นำเสนอเพื่อปรับเป็นนโยบายพรรค โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ที่หลายคนเห็นว่าเศรษฐกิจในพื้นที่อยุธยาเขตห้านี้ยังไม่โตเท่ากับจังหวัดสุพรรณบุรี เพิ่งถือเป็นเมืองหลวงของพรรคชาติไทยพัฒนา ตนจึงมีความตั้งใจอยากจะเข้ามาพัฒนาพื้นที่เขต 5 อยุธยา ให้เหมือนกับจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่นี้ จึงอยากขอคะแนนให้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ปักธง

‘สมเกียรติ’ ยัน!! ไม่ใช่งูเห่า พร้อมแจงเหตุที่ต้องออกจาก ‘ก้าวไกล’ เผย ตนทุ่มเททำงานมาตลอด แต่พรรคกลับเลือกคนอื่นลง ส.ส.แทน

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 66 นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ หรือ ‘เป้’ อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ปัจจุบันเป็นผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางนา-พระโขนง เบอร์ 9 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณคอนโดนิรันดร์ ในซอยสุขุมวิท 93 ในขณะกำลังหาเสียง ได้มีประชาชนเข้ามาพูดคุยและสอบถาม ถึงสาเหตุที่นายสมเกียรติได้ออกจากพรรคก้าวไกล

โดยนายสมเกียรติได้ตอบว่า เรื่องที่ตนออกจากพรรคก้าวไกลนั้น ยังมีคนไม่ทราบอีกเยอะ ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะมีใครไม่รู้ และได้กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้อยากลาออกจากพรรคก้าวไกล แต่ทางพรรคได้ส่งหัวหน้าการ์ดผู้ชุมนุมมาลง ส.ส.แทนตน ทั้งที่ตนเป็นผู้ผลักดันให้ผู้ช่วย ส.ส.ของตน ชนะ ส.ก.ในเขตพื้นที่บางนาและพระโขนงให้กับพรรคก้าวไกล ซึ่งนับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในพรรค แต่ทางพรรคกลับส่ง นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ ‘โตโต้’ หัวหน้าการ์ดผู้ชุมนุม มาลง ส.ส.แทนตน

‘วราวุธ’ ย้ำจุดยืน ไม่เลือกพรรคหนุนแก้ ม.112 ยัน!! ไม่กดดัน แม้ม็อบชุมนุมหน้ารัฐสภาฯ

(13 ก.ค. 66) ที่รัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคำร้องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครองว่า พรรคชาติไทยพัฒนายังยึดมั่นจุดยืนเดิมในเรื่องมาตรา 112 และมองว่าในที่ประชุมรัฐสภาวันนี้คงจะมีการถกกันในหลาย ๆ ความเห็น ส่วนจะให้ความเห็นชอบหรืองดออกเสียงนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาต้องไปพิจารณากันอีกที 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่สนับสนุนนายพิธาใช่หรือไม่ เพราะสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นเราคงต้องยึดตามจุดยืนเดิมของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งแต่ละพรรคมีจุดยืนแตกต่างกันไป 

เมื่อถามว่า สถานการณ์วันนี้ควรเลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไปก่อนหรือไม่ เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีของนายพิธาก่อน นายวราวุธ กล่าวว่า ในที่ประชุมรัฐสภาคงมีการหารือกันในประเด็นนี้ ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างไร ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนามีเพียง 10 เสียงเท่านั้น คงต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ แต่หากจะโหวตกันวันนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะมองว่าในอนาคตหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเราก็เคารพคำวินิจฉัยของศาล แต่ในขณะเดียวกัน ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นว่านายพิธาเองก็ถูกสังคมจับตามอง และมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ซึ่งเข้าใจในสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้นต้องมีความโปร่งใส และชัดเจนในระดับหนึ่ง เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเลื่อนการประชุมรัฐสภาไปเป็นวันที่ 19 ก.ค.หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงต้องหารือกัน เพราะการจะประชุมรัฐสภา 750 คนไม่ใช่เรื่องง่าย 

เมื่อถามถึงการชุมนุมหน้ารัฐสภาของกลุ่มคนที่มาสนับสนุนนายพิธาในวันนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า ถือเป็นการแสดงออกแบบหนึ่ง แต่การแสดงออกต้องเคารพสิทธิของประชาชนเสียงส่วนใหญ่ด้วย แสดงออกได้ แต่ต้องมีกรอบและแนวทางชัดเจน และไม่เลยเถิดไปประเด็นอื่น 

เมื่อถามว่า ทางพรรคชาติไทยพัฒนาและนายวราวุธได้รับแรงกดดันจากการชุมนุมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนอยู่การเมืองมาทั้งชีวิต โดนทั้งกดทั้งดันมาตลอด ฉะนั้น ไม่มีปัญหา แต่ตนเข้าใจความต้องการของประชาชนแต่ละฝ่ายว่ามีความต้องการเช่นไร การแสดงออกก็จะแตกต่างกันออกไป

‘กัญจนา’ โพสต์เฟซบุ๊ก  ย้ำจุดยืน  กรณี ‘เสรีพิศุทธ์’ โทรหาท็อป ชวนชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมรัฐบาล ‘ก้าวไกล’

วันนี้ (17 ก.ค. 66) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

"ว่าจะไม่พูดการเมือง แต่จำเป็นต้องชี้แจง … กรณีมีข่าวว่า วราวุธ บอกว่า เสรีพิศุทธิ์ ทาบทามร่วมรัฐบาลก้าวไกล..ข่าวเรื่องนี้ไม่ได้ออกจากเราเป็นต้นทาง และขอยํ้าว่าจุดยืนเราชัดเจนเสมอมา คือ ไม่แตะต้องม.112” น.ส.กัญจนา กล่าว

‘วราวุธ’ เชื่อ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง แม้ ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน ชี้!! ไม่ว่าอยู่ที่บ้านหรือโรงพยาบาล รัฐบาลก็ยังทำงานกันตามปกติ

(17 ก.พ. 67) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ ถูกมองว่าอาจส่งผลต่อสถานการณ์การเมือง ว่า เบื้องต้นตนต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตร ที่ได้บุคคลอันเป็นที่รักกลับมาสู่อ้อมกอด ถือเป็นเรื่องปกติที่ตนเชื่อว่า ครอบครัวใดเมื่อได้บุคคลอันเป็นที่รัก กลับมาสู่ครอบครัวและอ้อมกอดของทุกคน ได้คงมีความดีใจจึงต้องขอแสดงความดีใจในเบื้องต้น

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่กันว่าจะมีแรงกระเพื่อมทางการเมืองนั้น ตนคิดว่า คงไม่ได้ต่างอะไรกันมาก อยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนได้เห็นแล้วว่าทางรัฐบาลก็ทำงานไปตามปกติ และเท่าที่ตนเห็นก็ไม่ได้มีการเข้ามายุ่งเกี่ยวแต่อย่างใดในการที่รัฐบาลทำงานอยู่ ดังนั้นเมื่อนายทักษิณย้ายจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่ที่บ้านคงไม่มีเหตุการณ์อะไรมาก รัฐบาลก็ยังคงทำงานเช่นเดิม ยังมีปัญหาของประเทศชาติก็ยังมีเหมือนเดิม ปัญหายังอยู่เราก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงทิศทางทางการเมือง ที่อาจมีการเขย่าและปรับ ครม. ตามที่ยังมีกระแสข่าว นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ที่รัฐบาลอยู่กันมา 5-6 เดือนแล้ว แต่คงต้องดูพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลว่าจะมีนโยบายอย่างไร เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาเรามีเพียง 10 คน เราก็ติดตามสถานการณ์ไป แต่จะทำอะไรอย่างไรตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงส่งข่าวกันมาก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่มีวี่แวว ยังไม่มีการส่งสัญญาณมาว่าจะปรับ ครม.

‘ยุทธพล’ เผย!! โครงการย้ายลิงสู่ที่พักพิงใหม่ คืบหน้า 90% ดันสู่ ‘เพชรบุรีโมเดล’ ตัวอย่างแก้ปัญหาลิงล้นเมืองในทุกพื้นที่

(25 เม.ย. 67) ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษาในคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘ยุทธพล อังกินันทน์’ ถึงปัญหาลิงล้นเมือง ระบุว่า…

‘ย้ายลิง’ เขาวัง ‘รอบ 2’ วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 เวลา 9 โมงเช้าเป็นต้นไปนะครับ

ตามที่เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดเพชรบุรี ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้จัดทำกรงพักพิงลิง และย้ายลิงเขาวัง บางส่วนไปปรับพฤติกรรม เพื่อนำเข้าสู่กรงพักพิงลิง ตามโครงการแก้ไขปัญหาลิงล้นเมือง ไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 แล้วนั้น

โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการนำร่อง เพื่อที่จะนำไปเป็น ‘เพชรบุรีโมเดล’ ให้กับจังหวัดอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาลิงล้นเมืองในทุกพื้นที่ หลังจากที่พวกเราทุกคนได้ทำงานหนัก ลองผิดลองถูก ซึ่งถือว่าโครงการดำเนินไปได้ด้วยดี ความสำเร็จไปแล้วถึง 90% เนื่องจากเป็นโครงการนำร่องจึงอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร 

ดังนั้นเครือข่ายภาคประชาชน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า จะดำเนินการย้ายลิงรอบสอง ในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 นี้ เพื่อเป็นการดำเนิน โครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้เราจะดำเนินการวางกรงดักลิงไว้ทั้งหมด 12 จุดรอบเขาวัง ดังนี้

1. โรงเรียนพรหมานุสรณ์
2. วัดเขาวัง
3. ศาลเจ้าข้างร้านของฝากขนมหม้อแกง
4. วัดถ้ำแก้ว
5. วัดพระนอน
6. วัดข่อย
7. เขาวังเมืองใหม่
8.ร้านหมูสมนึก
9. เคเบิลคาร์
10. ทางขึ้นเขาวัง
11. โรงแรมเขาวัง
12. วัดสระบัว

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบนะครับ 
ดร.ยุทธพล อังกินันทน์
ประธานเครือข่ายภาคประชาชน  

‘วราวุธ’ ย้ำ!! ไม่นิรโทษกรรม ‘ม.112-คดีอาญาร้ายแรง-ทุจริต’ เชื่อ!! พรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นในแนวทางเดียวกัน

(5 ก.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมอาจจะได้ข้อสรุปเรื่องการนิรโทษกรรม จะครอบคลุมคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 112 หรือไม่ ว่า พรรคชทพ. เสนอนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคเข้าไปเป็น กมธ. และทราบว่าจะให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน 

ส่วนขั้นตอนการดำเนินงาน จะมีหน่วยงานใดเข้าร่วม และพิจารณาอย่างไร คงต้องไปลงในรายละเอียดอีกครั้งนึง 

ทั้งนี้พรรคชทพ.มีจุดยืนและย้ำมาตลอด ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลนี้และเป็นหัวใจสำคัญที่จะร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่าคดีที่มีความอ่อนไหว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับประเด็นมาตรา 112 คดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมและทำให้เสียชีวิต คดีที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน เราจะไม่ร่วมอยู่ในการพิจารณาและไม่ควรนำมารวมอยู่ในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเชื่อว่าพรรคร่วมทุกพรรคคงเห็นตรงกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 พรรคชาติไทยพัฒนาจะยืนยันจุดยืนเดิมหรือหันไปร่วม เพื่อให้เป็นแนวทางเดียวกัน นายวรวุฒิกล่าวย้ำว่า ชทพ. ยืนยันจุดยืนเดิม 3 ประเด็น คือ ไม่พิจารณาคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 112 เรื่องคดีอาญาร้ายแรงที่เสียชีวิต รวมไปถึงคดีทุจริต

เมื่อถามว่าจะไม่มีปัญหาใช่หรือไม่หากพรรคแกนนำเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม มาตรา 112 ในขณะที่ชทพ.ยังยืนยันในจุดยืนไม่รวม นายวราวุธ กล่าวว่า ให้ถึงเวลานั้น แล้วค่อยมาพิจารณาอีกทีแต่จุดยืนของเราไม่เปลี่ยนแปลง อย่าเพิ่งตั้งสถานการณ์ถ้าเผื่อ เพราะไม่แน่ใจว่าในอนาคต จะเกิดอะไรบ้าง แต่คิดว่าในท้ายที่สุดคงเห็นไปในแนวทางเดียวกัน

‘หนูนา’ เดือดซัดใส่!! คนใจมืดบอด เอาความอยู่รอดของช้าง มาโจมตี ลั่น!! ฟ้องให้หมด พวกที่ชอบโจมตีว่าร้าย หยาบคายใส่ผู้อื่น

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 67) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ ‘หนูนา’ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า …

โพสต์นี้ดิฉันขอชี้แจงบางเรื่อง..ที่มีคนบางคนลงข้อมูล ที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม

1. การนำสัตว์ป่าไปฝากเลี้ยงในสถานที่ของเอกชนทำได้..
ในเมื่อสัตว์นั้นอยู่ในสภาวะเสี่ยงถึงแก่เสียชีวิต และกรมอุทยานฯอาจไม่อยู่ในฐานะที่จะรองรับได้ ..

2. กรมอุทยานฯจะทำเป็นบันทึกข้อตกลงกับสถานที่ของเอกชน..
อย่างกรณีของกันยา กรมอุทยานฯก็ทำข้อตกลงกับภัทรฟาร์มในเรื่องการฝากเลี้ยงโดยสิทธิ์ของกันยายังเป็นของกรมอุทยานโดยสมบูรณ์

3. คนที่ลงเรื่องกันยาโดยไม่รู้จริง บอกว่าไม่เคยเห็นการนำสัตว์ป่าไปฝากให้กับเอกชนเลี้ยง..
ได้โปรดรับทราบด้วย กรณีของฟ้าใส ฟ้าแจ่ม กรมอุทยานฯก็ไปฝากสวนนงนุชเลี้ยงไปหาแม่รับที่นั่น

4. คุณรู้หรือไม่ว่าตอนกันยาอยู่ที่ภูวัว น้องท้องเสียเกือบทุกวันแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ทั้งที่เจ้าหน้าที่ที่นั่นก็ดูแลอย่างเต็มที่..
ถ้ากันยาไม่ได้มาที่ภัทรฟาร์มน้องคงตายตั้งแต่เดือนแรก

5. คนต้องใจมืดบอดขนาดไหนถึงเอาเรื่องโอกาสความอยู่รอดของกันยาในเวลานั้น มาโจมตีกัน

6. ที่ผ่านมาดิฉันไม่ให้ค่ากับคนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม…
แต่ ณ วันนี้ดิฉันพิจารณาแล้ว อาจจะฟ้องพวกที่ชอบเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่หยุดหย่อน ไม่สำนึก ฟ้องเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ให้พวกนี้ก่อให้เกิดความสับสนในสังคม ให้ความรู้ที่ไม่ถูกต้องกับผู้คน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน

7. รวมทั้งพวกที่มีนิสัยโจมตีว่าร้ายหยาบคายผู้อื่น ถ้าฟ้องก็จะฟ้องหมด

8. และโปรดทราบว่าคนอย่างดิฉันเมื่อทำอะไรแล้วทำจริง ทำจนสุดทาง..

‘หนูนา ศิลปอาชา’ โพสต์เฟซเดือด!! ถึงพวกเกรียน ชี้!! โดนโจมตี!! ลามถึงบุพการี ด้วยความหยาบคาย

(10 พ.ย. 67) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หรือ ‘หนูนา’ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรมช. ศึกษาธิการ ผู้มีบทบาทอนุรักษ์ช้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า …

ตามที่ดิฉันได้พิจารณาจะดำเนินคดีกับผู้ที่ชอบเอาข้อมูลอันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับช้าง…
รวมทั้งพวกที่ชอบให้ร้ายสร้างเรื่องเท็จ หมิ่นประมาท โจมตีดิฉัน และหนักกว่านั้นคือบางคนมีความหยาบคายมากด้วย…

ลามปามไปถึงบุพการีของดิฉัน…

ถ้าพูดกันด้วยเหตุด้วยผล บนข้อมูลที่เป็นจริง ดิฉันพร้อมรับฟัง เพราะคนเราก็ไม่ได้มีใครถูกเสมอไป…

แต่การมาให้ร้ายกันด้วยเรื่องเท็จ ผสมด้วยความหยาบคาย เป็นสิ่งที่รับไม่ได้…

ดิฉันได้ทราบว่า แม่ๆหลายท่านสนับสนุนการดำเนินการนี้ และมีทีมแคปทันไทยแลนด์ ที่แคปข้อความที่คนเหล่านี้มักโพสต์แล้วลบ โพสต์แล้วลบ …แต่ไม่ทันเพราะแม่ ๆ หลายคนแคปไว้หมดแล้ว…

รวมทั้งบางท่านก็ยินดีจะไปเป็นพยานให้ดิฉัน …

ดิฉันขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งนะคะ..

เมื่อดิฉันตัดสินใจแน่ชัดแล้ว ดิฉันจะแจ้งในเฟส..

ซึ่งจริง ๆ ตอนนี้ดิฉันมีรายชื่ออยู่ในใจแล้ว …

ทั้งพวกที่ชอบเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และพวกที่ด่าว่าดิฉันด้วยถ้อยคำหยาบคาย….หมิ่นประมาท..
รวมพวกชอบต่อยอดด้วย..

คนเหล่านี้สมควรได้รับบทเรียน 

และจะต้องเป็นบทเรียนราคาแพงด้วย..

ไม่เช่นนั้นก็จะพูดเรื่องเท็จ ให้ข้อมูลบิดเบือนกับคนทั่วไป..

ให้ร้ายคนอื่น ใช้ถ้อยคำหยาบคายไม่จบสิ้น ไม่มีความละอายใจ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของสังคม…


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top