Wednesday, 2 July 2025
พรรคกล้าธรรม

‘กล้าธรรม’ ปักธงภาคใต้คว้าชัยสนามเมืองคอน สะท้อนภาพ ‘ประชาธิปัตย์’ คะแนนนิยมถดถอย

(28 เม.ย. 68) ‘บิ๊กโอ’ คว้าชัยสนามเมืองคอน สะท้อนอนาคตก้าวกระโดดของพรรคกล้าธรรม ความถดถอยของประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย

ผลการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีฯอย่างไม่เป็นทางการ แทนตำแหน่งว่าง หลังจาก “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” จากพรรคภูมิใจไทย โดนใบแดง

ผลการนับคะแนนครบทั้ง 233 หน่วยเลือกตั้งแล้ว ปรากฏว่า
เบอร์ 1     28,422 (ไสว)
เบอร์ 2     4,189 (ชินวรณ์)
เบอร์ 3     6,759 (ณัฐกิตติ์)
เบอร์ 4     286 (พรรคพร้อม)
เบอร์ 5     39,039 (ก้องเกียรติ)
เบอร์ 6     192 (ทางเลือกใหม่)

ผลการนับคะแนนเบื้องต้น “บิ๊กโอ-ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ” จากพรรคกล้าธรรมชนะขาดลอย กินขาดพรรคภูมิใจไทย ที่มีพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นหัวเรือใหญ่ หลังจากก่อนหน้านี้ ในการเลือกตั้งปี 2566 ยึด 2 เขตเลือกตั้งของนครศรีฯมาได้ คือเขต 7 ษฐา ขาวขำ เอาชนะชินวรณ์ บุณยะเกียรติ จากประชาธิปัตย์ เขต 8 มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล เอาชนะ ทั้งประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และประชาชน ส่ง “มุกดาวรรณ” เข้าไปนั่งในสภา แต่มุกดาวรรณถูกร้องเรียนเรื่องซื้อเสียง และโดนใบแดง

พรรคภูมิใจไทย กล้าหาญเกินเหตุส่ง “ไสว เลื่องสีนิล” สามีมุกดาวรรณ ที่โดนใบแดงลงสมัครอีกครั้ง กฎหมายไม่ได้ครอบคลุมว่า ภรรยาโดนใบแดง หรือสามีโดนใบแดง ถ้ายังไม่จ่ายค่าเสียหาย ห้ามลงเลือกตั้ง

น้ำ วาริน ชิณวงศ์ นายกฯอบจ.นครศรีฯมองว่า ใบแดงเป็น “เหตุสุดวิสัย”

ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาที่มาช่วยปราศรัยว่า ใบแดงของมุกดาวรรณ เป็นอุบัติเหตุทางการเมือง

แต่ประเด็นข้อเท็จจริง คือ มุกดาวรรณ ถูกร้องเรียนเรื่องซื้อเสียงเลือกตั้ง มีพยานหลักฐานจนศาลเชื่อ และพิพากษาให้ใบแดง จนนำมาสู่การเลือกตั้งใหม่

ผลการเลือกตั้งชัดเจนว่า คนนครฯเขต 8 ไม่เอาครอบครัวคนที่เคยมีประวัติซื้อเสียง ส่วนผลการเลือกตั้งจะนำมาสู่การร้องเรียน-ซื้อเสียงอีกหรือไม่ จะมีใบแดงรอบสองไหม ต้องติดตามกันต่อไป

แต่ชัยชนะของ บิ๊กโอ-ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช มีความหมายยิ่งสำหรับพรรคกล้าธรรม

พรรคกล้าธรรมที่มี สส.อยู่แล้ว 24 คน แต่พรรคกล้าธรรมไม่เคยผ่านสนามเลือกตั้งมาก่อน เป็นพรรคการเมืองที่เกิดใหม่ สส. 24 คน ส่วนใหญ่มาจากการถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ และมาสังกัดพรรคกล้าธรรม พร้อม รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่มานั่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค

ชัยชนะของ บิ๊กโอ จึงเป็นชัยชนะแรกของพรรคกล้าธรรมในสนามเลือกตั้ง นับต่อแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป คือการนับ 1 ของการ เขย่ง-ก้าว-กระโดด ของพรรคกล้าธรรม ในการเดินหน้าขับเคลื่อนพรรคืเพื่อเดินไปสู่สนามเลือกตั้งปี 70 ธรรมนัสจะต้องเดินเต็มกำลังเพื่อเข้ามายึดครองพื้นที่ภาคใต้ ในสถานการณ์ที่พรรคการเมืองเจ้าสนามเดิมกำลังอ่อนแอแอ ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ หรือภูมิใจไทย และหรือพรรคประชาชาติ

พรรคประชาธิปัตย์อ่อนแออันเกิดจากสนิทเห็น ภายในพรรคเองที่สถานการณ์ตกอยู่ในสภาพที่ยากต่อการฟื้นฟู ไม่แตกต่างจากตึกสำนักงาน สตง.ถล่ม หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เรื่องราวถูกขุดถูกรื้อขึ้นมาแฉเรื่องแล้วเรื่องเล่า สถานการณ์ของประชาธิปัตย์ก็ไม่แตกต่างกัน แกนนำพรรคขาดความน่าเชื่อถือ ถูกกระแนะกระแหนครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลที่มีทักษิณชักใยอยู่เบื้องหลังยิ่งไปกันใหญ่ 3-4 ผู้อาวุโสก็ยังเดินไปคนละทิศคนละทางกับมติพรรค

ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่ค่อยๆเข้ามาแทรกซึมยึดพื้นที่ภาคใต้ และขยายฐานออกไปเรื่อย ๆ ดูเหมือนจะดีกับวลี “พูดแล้วทำ” แต่ก็มีคำถามว่า ทำอะไรบ้าง แถมยังมีปัญหาเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟของ “อนุทิน ชาญวีระกูล” หัวหน้าพรรคที่รอการพิสูจน์ เรื่องที่ดินเขากระโดง ก็เป็นกลัดหนองอยู่ แถมยังมีปัญหาข้อขัดแย้งกับพรรคแกนนำรัฐ ทั้งเรื่องแก่รัฐธรรมนูญ เรื่องกาสิโน ที่ยังไม่รู้อนาคตว่าจะถูกปรับออกหรือ หรือจะถูกยึดกระทรวงสำคัญๆหรือไม่

พรรคประชาชาติ เมื่อ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ต้องล้างมือในอ่างทองคำ พรรคประชาชาติก็เดินไปยาก ต้องยอมรับความจริงว่า พรรคประชาชาติเกิดจาก “วันนอร์” คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังให้ความเคารพนับถือ “วันนอร์” อยู่มาก เมื่อวันนอร์ถอยออกไป ถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จะหอบหิ้วพรรคต่อไปได้แค่ไหน จึงน่าจะเปิดช่องให้พรรคกล้าธรรมเข้าโจมตีได้ง่ายขึ้น

กล่าวสำหรับภาคใต้เป้าหมายของพรรคกล้าธรรมจะจู่โจมเข้าโจมตีตั้งแต่ชุมพร ไล่ไปจนถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

ส่วนภาคอิสานต้องยอมรับความจริงว่า เป็นถิ่นของเพื่อไทย และภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรมจึงมีเป้าหมายตีพื้นที่ภูมิใจไทยในภาคอิสาน ประเดิมด้วยการดึงตระกูล “ช่างเหลา” แห่งเมืองขอนแก่นเข้ามาอยู่ชานคาเดียวกันเป็นการประเดิม หลังภูมิใจไทยมีมติขับ “เอกราช ช่างเหลา” ออกจากพรรค

ภาคเหนือก็เป็นฐานของเพื่อไทย ก็ให้เขาสู้กันกับพรรคประชาชน แต่พรรคกล้าธรรมจะเลือกสู้ในบางสนามที่มีความหวัง เช่นเดียวกับภาคกลางก็จะเลือกแข่งในสนามที่สู้ได้

ส่วนกรุงเทพคงไม่ใช่เป้าหมายของพรรคกล้าธรรม คงปล่อยให้พรรคเพื่อไทยราวีกับพรรคประชาชน

แต่แน่นอนว่า ชัยชนะของบิ๊กโอ ได้สร้างความฮึกเหิมให้กับพรรคกล้าธรรมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าชัยชนะนั้นจะได้มาด้วยวิธีการใดก็ตาม

ความพ่ายแพ้ของพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อนอนาคตชัดเจนว่าจะเดินไปสู่จุดไหน ให้พิจารณาคะแนนไม่เลือกใครด้วย

‘เทพไท’ จับตา!! พรรคกล้าธรรม ดูด!! ‘สส.’ เข้าพรรค อย่างคึกคัก!!

(18 พ.ค. 68) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า กล้าธรรม-เพื่อไทย เป็นอะไรกัน?

ช่วงนี้มีหลายฝ่ายจับตาความเคลื่อนไหวของพรรคกล้าธรรม ที่กำลังเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างร้อนแรง และเป็นที่สนใจของบรรดานักการเมือง นักเลือกตั้ง มีกระแสการดูดส.ส. ดึงสส.เข้าพรรคอย่างคึกคัก มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การก่อเกิดพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ต้องการเป็นพรรคการเมือง ที่เสียบแทนหรือสนับสนุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แทนบางพรรคการเมืองที่อาจจะถูกปรับออกหรือไม่ หรือเป็นพรรคสาขา พรรคนอมินี ให้กับพรรคเพื่อไทยของคุณทักษิณ ชินวัตรหรือไม่

มีแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน ออกมาปฏิเสธว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีแนวความคิดจัดตั้งพรรคสาขา และพรรคกล้าธรรมก็ไม่ใช่สาขาของพรรคเพื่อไทย ในขณะเดียวกันแกนนำผู้บริหารพรรคกล้าธรรมหลายคน ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส คุณนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ต่างออกมาปฏิเสธว่า พรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคสาขาของใคร พรรคกล้าธรรมให้เกียรติกับทุกคน ที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรค แต่ในขณะเดียวกัน สังคมก็สงสัยการตอบคำถามสื่อมวลชน ของผู้กองธรรมนัส เมื่อถูกถามถึงกรณีการดึง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กับคุณการุณ โห่สกุล เข้าร่วมพรรคว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกับคุณทักษิณมาก่อนหรือไม่ ผู้กองธรรมนัส ตอบว่าได้พูดคุยกับคุณทักษิณมาก่อนแล้ว ก่อนจะเปิดตัว น.อ.อนุดิษฐ์ และคุณเก่ง การุณ ต่อสื่อมวลชน

จึงเกิดคำถามว่า ถ้าหากพรรคกล้าธรรมกับพรรคเพื่อไทยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน หรือพรรคกล้าธรรมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณทักษิณ หรือคุณทักษิณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้กองธรรมนัส ต้องถามว่า ทำไมผู้กองธรรมนัส ต้องไปบอกคุณทักษิณก่อน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ย้อนแย้งมาก ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งพรรคสาขาและพรรคกล้าธรรมไม่ใช่สาขาของพรรคเพื่อไทย

ถ้าย้อนไปในอดีตก่อนที่จะเลือกตั้งปี 2562 มีการเสนอทฤษฎีแตกแบงค์พัน หรือแตกแบงค์ย่อยของคุณทักษิณ คือมีพรรคสาขา มีพรรคนอมินี จะเห็นในพื้นที่บางแห่ง ที่พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ไม่ได้ ไม่มีคะแนนนิยม ก็มีพรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ แต่ไม่ประสบความสำเร็จทางการเมือง คงเหลือพรรคประชาชาติพรรคเดียว ที่ทำพื้นที่แทนพรรคเพื่อไทยใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้พรรคเพื่อไทยยังขาดพรรคมาเติมเต็มให้กับพรรคเพื่อไทยในบางพื้นที่ ที่พรรคเพื่อไทยเจาะพื้นที่ไม่ได้ ก็เป็นโอกาสของพรรคกล้าธรรม ที่สามารถไปทดแทนในพื้นที่ ที่พรรคเพื่อไทยทำไม่ได้ เช่น พื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ตอนบน รวมไปถึงในจังหวัดอื่นๆ ที่พรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัดในการเอาชนะคู่แข่งขันทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพรรคภูมิใจไทย จึงจำเป็นต้องมีพรรคกล้าธรรมขึ้นมาทดแทน หรือมาเติมเต็มให้กับพรรคเพื่อไทย ในสนามเลือกตั้งครั้งต่อไป หรือสนามเลือกตั้งปี 2570

ใครจะปฏิเสธอย่างไรว่า พรรคกล้าธรรมไม่ใช่สาขาของพรรคเพื่อไทย หรือพรรคเพื่อไทยไม่คิดจะตั้งพรรคสาขา ก็ปฏิเสธได้ เพราะถ้ายอมรับว่าจริง จะผิดกฎหมายพรรคการเมือง จึงจำเป็นต้องปฏิเสธไว้ก่อน แต่ว่าความจริงก็คือความจริง ประชาชนรับรู้และเข้าใจได้ว่า นี่คือการเมืองแบบไทยๆ

ถอดรหัส อนาคตการเมือง ‘ภาคใต้’ หลัง!! ‘กล้าธรรม’ ปักธงเขต 8 เมืองคอน

(31 พ.ค. 68) นายเฉลียว คงตุก อดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เนชั่นทีวี เปิดเผยว่า ได้รับสายโทรศัพท์จำนวนมากสอบถามถึง #อนาคตการเมืองในภาคใต้ จะเป็นอย่างไร ยิ่งหลังพรรคกล้าธรรม ชนะการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช ยิ่งมีการสอบถามเข้ามามากยิ่งขึ้น

”ลึก ๆ แล้วผมก็ไม่ทราบจริง ๆ ว่าอนาคตการเมืองภาคใต้จะเป็นอย่างไร และทำไมถึงมีคำถามเข้ามามาก ผมก็ตอบไม่ได้ แต่ตอบแบบกลาง ๆ พอได้ จึงมานั่งคิดและหารือกับพรรคพวกว่า ถ้างั้นเราจัดเสวนาดีกว่าเพื่อถอดรหัส และหาคำตอบเรื่องนี้จากผู้รู้ จากคนวงใน

โครงการจัดเสวนา 'ถอดรหัสเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีฯ บิ๊กโอ ปักธงให้พรรคกล้าธรรมกับอนาคตการเมืองภาคใต้' จึงเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 โดยเครือข่ายสื่อมวลชนจับตาสังคม ณ ลานเพลิน หนองนกเพา คาเฟ่ ต.เขาพังไกร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นกระบวนความ

นายเฉลียว กล่าวอีกว่า

การเลือกตั้งซ่อมเขต 8 นครศรีธรรมราช แทน มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล จากพรรคภูมิใจไทย โดยก้องเกียรติ์ เกตุสมบัติ จากพรรคกล้าธรรม ชนะคู่แข่งขาดลอย ชนะพ่อตา 'ชินวรณ์ บุณยะเกียรติ' จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือว่าพ่ายแพ้อย่างบอบช้ำกับคะแนนที่ได้แค่ 4000 กว่าคะแนน 'Money politic' คือปัจจัยสำคัญที่มีการกล่าวถึงทำให้พรรคกล้าธรรม ปักธงในจังหวัดนครศรีธรรมราชได้กับการเลือกตั้งครั้งแรกใช่หรือไม่ แม้จะมีความพยายามรณรงค์ 'กินเหยื่อไม่กินเบ็ด' หมายถึงรับเงิน แต่ไม่เลือก แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะการเมืองนครศรีธรรมราช การเมืองในภาคใต้เปลี่ยนไปแล้ว นักเลือกตั้งผ่านหน้าบ้าน เจ้าของบ้านถามว่า “เท่าไหร่”

เมื่อก่อนถ้าพูดถึงการใช้เงินซื้อเสียง ต้องพูดถึงภาคอีสาน ภาคใต้เขาเลือกกันด้วยอุดมการณ์ แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่ใช่ และเริ่มเป็นมาตั้งแต่การเลือกตั้งปี 62 เรื่อยมา โรคร้อยเอ็ดระบาดหนักเข้าสู่ภาคใต้ในการเลือกตั้งทุกระดับ

คะแนน 39000 กว่าคะแนนของก้องเกียรติ์ น่าสนใจยิ่งว่า มาได้อย่างไร จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตัวเลขกลม ๆ 120,000 คะแนน ถ้ามาใช้สิทธิ์ 70% ก็น่าจะอยู่ที่ 70,000 คะแนน นั้นก็แปลว่า ก้องเกียรติ์ได้ไปเกินกว่าครึ่ง ทิ้งพ่อตาให้คะแนนเรี่ยดิน ทิ้งห่างพรรคประชาชนที่ได้คะแนนมาแค่ 6000 กว่าคะแนน จากการเลือกตั้งครั้งก่อนคะแนนมีอยู่ 11000 กว่าคะแนน กระแสนิยมของพรรคประชาชนถดถอยขนาดนั้นเหรอ ก็ไม่น่าจะใช่ ปัจจัยที่เป็นกระสุนดินดำ จึงน่าจะเป็นตัวชี้วัดที่มาของคะแนน เพราะพรรคกล้าธรรมก็ไม่ได้ฟรีเว่อร์อะไรนักหนา แม้ตัวผู้สมัครจะโดดเด่นในพื้นที่ก็ตาม

การปักธงแรกของพรรคกล้าธรรม จึงน่าถอดรหัสยิ่งว่า จะเป็นแนวทางในการเป็นธงนำในการเลือกตั้งครั้งต่อไป (ปี 70) หรือไม่ ในสถานการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์เจ้าถิ่นก็ป่วยติดเตียง พรรคภูมิใจไทยที่ก้าวคืบเข้าไป ก็เป็นมะเร็งร้าย พรรคประชาชาติ แกนนำหลักก็อ่อนล้าหมดเรี่ยวหมดแรง จะเป็นช่องทางให้พรรคกล้าธรรมรุกคืบไปอย่างฮึกเหิมกับความสำเร็จ หรือไม่

น่าสนใจถอดรหัส กับการเสวนา การปักธงเมืองคอนของบิ๊กโอ จะเป็นก้าวที่ฮึกเหิมของพรรคกล้าธรรมในสนามภาคใต้หรือไม่

พบกับนักการเมือง อดีตนักการเมือง นักวิชาการสายการเมือง สื่อมวลชน นายเฉลียว กล่าวถึงวิทยากรที่จะมาร่วมวงเสวนา ประกอบด้วย
 
-นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย อดีต สส.หลายสมัยของสงขลา
-รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ อดีต สส.นครฯ พรรคพลังประชารัฐ นักวิชาการผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเมือง
-อานนท์ มีศรี นักสังเกตการณ์ทางการเมือง
-พุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว ตัวแทนจากพรรคประชาชน
-สส.ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.เขต 4 สงขลา ตัวแทนจากพรรคกล้าธรรม 
-พระครูรัตนสุตากร ดร.
รองเจ้าคณะอำเภอหัวไทร เจ้าอาวาสวัดคลองแดน ต.รามแก้ว อ.หัวไทร
เป็นต้น

วันที่ 14 มิย.เสวนา ณ ลานเพลิน ร้านหนองนกเภาคาเฟ่ (บ้านสวนสจ.ละม้าย เสนขวัญแก้ว) เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป และพบกับครับ เรียนเชิญผู้สนใจทุกท่านครับ 

‘ปวิช พรหมทอง’ แต่งตัว!! ลงชิง สส.เขต 2 พัทลุง ‘พรรคกล้าธรรม’

(1 มิ.ย. 68) ผมไล่ดูในเฟซบุ๊กของพรรคพวก @ปวิช พรหมทอง กรรมการในการยางแห่งประเทศไทย พบข้อมูลที่น่าสนใจ

น่าสนใจว่า ปวิช พรหมทอง ลงไปพัทลุงบ่อยครั้งในช่วงปีนี้ น่าจะมีภารกิจพิเศษที่น่าสนใจมากกว่าการลงไปปฏิบัติภารกิจในฐานบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)

พบข้อมูลว่า ปวิชลงไปแจกเอกสารประเภทหนึ่งที่เรียกว่า 'โฉนดต้นยาง' บอกตามตรงว่า ไม่รู้จัก เคยรู้ที่ นส.3 /โฉนด/หรือ สค.1 แต่คำว่า โฉนดต้นยาง ยังไม่เคยรู้จักมาก่อน

สืบค้นพบว่า เอกสารโฉนดต้นยางเป็นนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขออนุญาตนำเรียนว่าด้วยความไม่รู้จึงไปสืบค้นผ่าน 'ปัญญาประดิษฐ์' หรือ AI ด้วยการเสิร์ชหาผ่าน Chat GPT พบข้อมูลที่น่าจะพออธิบายคำว่า 'โฉนดต้นยาง' ซึ่งแตกต่างจากโฉนดเพื่อการเกษตร ที่แปลงโฉมมาจาก สปก.4-01

อธิบายความอย่างนี้จากข้อมูลผ่าน Chat GPT พบว่า คำว่า 'โฉนดต้นยาง' อาจหมายถึงเอกสารสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับ ต้นยางพารา หรือ ที่ดินที่ปลูกต้นยาง แต่ในกฎหมายไทย ไม่มีเอกสารชื่อว่า 'โฉนดต้นยาง' โดยตรง ดังนั้นคำนี้อาจมีความหมายในบริบทใดบริบทหนึ่งต่อไปนี้:

1. โฉนดที่ดินที่ปลูกต้นยางพารา
• เป็นโฉนดที่ดิน (น.ส.4) ที่เจ้าของใช้ปลูกสวนยาง
• ใช้เป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ปลูกต้นยาง
• สามารถนำไปใช้ค้ำประกันกู้เงินจากธนาคารหรือกองทุนต่าง ๆ ได้

2. ทะเบียนต้นยางพารา (เอกสารขึ้นทะเบียนสวนยาง)
• เอกสารที่กรมส่งเสริมการเกษตร หรือการยางแห่งประเทศไทย ออกให้เมื่อเกษตรกรไปแจ้งขึ้นทะเบียนต้นยาง
• ใช้ประกอบการขอรับเงินสนับสนุน หรือเงินช่วยเหลือจากรัฐ เช่น โครงการประกันรายได้
• ไม่ใช่โฉนด แต่เป็นหลักฐานแสดงการครอบครองและดูแลต้นยาง

3. ใบรับรองหรือสัญญาซื้อขายต้นยาง
• หากเป็นกรณีซื้อขายต้นยางโดยเฉพาะ เช่น ขายยางก้อนถ้วยหรือขายต้นยางที่ตัดแล้ว อาจมีใบสัญญาหรือใบรับรองแยกต่างหาก
• เอกสารเหล่านี้ใช้ในการค้ายางหรือขอสินเชื่อในรูปแบบที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตร

แต่ข้อมูลที่พบปรากฏว่า ปวิช พรหมทอง เดินทางไปแจก โฉนดต้นยาง ในจังหวัดพัทลุง โซนเหนือแบบถี่ยิบ ผิดสังเกต เช็กข้อมูลพบว่า ปวิช กับ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่มีบทบาทสำคัญในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าจะร่วมกันผลักดันนโยบายโฉนดต้นยาง เพื่อให้เกษตรกรใช้เอกสารนี้เข้าถึงแหล่งทุน

ฟังดูแล้วน่าจะยังพื้น ๆ แต่เช็คลงไปในเชิงลึกพบว่า พรรคกล้าธรรม ที่มี รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธานที่ปรึกษา กำลังเปิดเกมรุกในภาคใต้ หลัง บิ๊กโอ-ก้องเกียรติ์ เกตุสมบัติ ปักธงให้กล้าธรรม ในการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 นครศรีธรรมราช

ปวิช พรหมทอง ถูกวางตัวให้ลงสมัคร สส.พัทลุง เขต 2 ในนามพรรคกล้าธรรมในการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงไม่แปลกที่ปวิช ปรากฏตัวในจังหวัดพัทลุงบ่อยครั้งหนึ่งในช่วง 3-4 เดือนมานี้

ปวิช เป็นคนพัทลุง เคยเป็นสมาชิกสภาเขต ในย่านห้วยขวาง เขาก็มีฐานเสียงอยู่ไม่น้อยย่านป่าพะยอม ควนขนุน เขามีประวัติที่น่าสนใจไม่น้อยกับการแทรกตัวเข้าไปในสนามการเมืองระดับชาติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top