Saturday, 31 May 2025
พรรค

‘ส.ส.เดโมแครต’ จี้!! หน่วยงานไทยเคารพเสียงของประชาชน หยุดปฏิเสธประชาธิปไตย หวั่น ยุบ ‘ก้าวไกล’ กระทบเสถียรภาพ

‘ส.ส.เดโมแครต’ จี้ หน่วยงานไทยเคารพผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ออกโรงเตือนความพยายามยุบพรรคก้าวไกล พรรคอื่น ๆ จะเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพไทย ขณะนักวิเคราะห์ออสเตรเลีย ชี้ ‘กลุ่มอนุรักษ์นิยม’ กำลังทำลายผลการเลือกตั้ง ส่งผลให้การต่อสู้ลงสู่ถนน ขณะรอง ‘ผอ.ฮิวแมนไรท์ วอช’ เตือน ‘ศาล-รธน.-กกต.’ ควรหยุดใช้กฎหมายเป็นอาวุธ ปฏิเสธประชาธิปไตยไทย

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 66 รายงานข่าวความเคลื่อนไหวต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทย หลังจากที่ที่ประชุมรัฐสภาได้เห็นชอบกรณีที่มีสมาชิกรัฐสภาเสนอคัดค้านว่า การเสนอโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลให้นายกรัฐมนตรีดังกล่าวขัดกับ ข้อที่ 41 ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภา 2563 เพราะว่าเป็นญัตติซ้ำ ประกอบกับศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากต้องดำเนินการวินิจฉัยในกรณีที่นายพิธาถือครองหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น

โดยล่าสุดทางด้านคณะกรรมการกิจการต่างประเทศ พรรคเดโมแครตของสหรัฐอเมริกา มีการนำเสนอถ้อยแถลงของนายเกร็กกอรี่ มีกส์ ส.ส.พรรคเดโมแครต จากรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า “ผมขอเรียกร้องให้หน่วยงานในไทยเคารพเจตจํานงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทย

การเคลื่อนไหวใด ๆ เพื่อยุบพรรคก้าวไกล หรือพรรคอื่น ๆ จะกัดกร่อนประชาธิปไตยของไทยและเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในประเทศไทย”

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่น ๆ นั้นมีรายงานว่าทางด้านของนายนาธาน รูเซอร์ สถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย (Australian Strategic Policy Institute : ASPI) ได้ออกมาทวีตข้อความกรณีนายพิธาระบุว่า ผู้ที่ถูกแต่งตั้งโดยเผด็จการทหาร ได้ทำลายประชาธิปไตยลงด้วยการประกาศว่า ผู้นำพรรคร่วมที่ได้คะแนนเสียงมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นไม่มีความเหมาะสมในฐานะ ส.ส.

กลุ่มผู้อนุรักษ์นิยมนั้นได้ทำลายผลการเลือกตั้งลง ทำให้พวกเขาต้องไปฟังสิ่งที่อยู่บนถนน

ทางด้านของนายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอช ประจำภาคพื้นเอเชียได้ทวีตข้อความหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งใจความว่า ไอทีวีไม่ได้ออกอากาศเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยได้เพิกถอนหุ้นไปเมื่อปี 2557 หุ้นของพ่อของนายพิธานั้นก็มีจำนวนที่น้อง ไม่มีผลต่อการดำเนินการของบริษัทแต่อย่างใด ศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการการเลือกตั้งควรหยุดดำเนินการใช้กฎหมายเป็นอาวุธ เพื่อปฏิเสธสิทธิประชาธิปไตยของประชาชนคนไทย

‘โฆษกรัฐบาล’ อัด ‘ก้าวไกล’ หลังจี้ ‘เศรษฐา’ ตอบกระทู้กรณีปัญหาตำรวจ พร้อมถาม “รู้ทั้งรู้ว่านายกฯ ติดภารกิจเยือนกัมพูชา จะทำไปเพื่ออะไร?”

(28 ก.ย. 66) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงความคิดเห็นกรณี นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตำหนิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าหนีตอบกระทู้ถามสด กรณีปัญหาเกี่ยวกับตำรวจ แต่กลับไปราชการที่กัมพูชา ว่า…

“รู้ทั้งรู้ ว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจเยือนกัมพูชา แต่ก็ยังหาเรื่องตั้งกระทู้ถามสดในสภาฯ ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร? ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์อะไรครับ?”

อย่างไรก็ตามขณะนี้ นายชัย ได้ติดตามภารกิจนายกฯ อยู่ประเทศกัมพูชา

รทสช. ส่ง 'จุติ' นำทีม 11 ขุนพลอภิปรายงบ 69 ยันมติพรรคพร้อมรับหลักการหวังประเทศเดินหน้า

โฆษกรวมไทยสร้างชาติ เผย ส่ง 'จุติ ไกรฤกษ์' นำทีม 11 ขุนพลลุยอภิปรายงบประมาณ '69 ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ยันมติพรรคพร้อมรับหลักการงบประมาณ '69 ให้งบต่อเนื่อง ปิดช่องการแก้ปัญหาให้ประชาชนสะดุด เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาประเทศชาติ

(28 พ.ค. 68) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา พรรครวมไทยสร้างชาติได้ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในส่วนของการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ ระหว่างวันที่ 28-31 พฤษภาคม 2568 โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นประธานการประชุม 

สำหรับการพิจารณาพระราชกำหนดในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่จะมีการพิจารณาพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 หรือ Cyber Security Law และ พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ทางพรรครวมไทยสร้างชาติมีมติเห็นชอบต่อพระราชกำหนดทั้ง 2 ฉบับ 

ในส่วนของการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นั้นทางพรรครวมไทยสร้างชาติมีมติรับหลักการกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเช่นเดียวกัน 

และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ ในครั้งนี้ ตั้งแต่ 17.00 น. ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไปจะเป็นการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 

โดยที่ประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติได้จัดเตรียมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 11 ท่านเพื่อเป็นผู้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้อภิปรายนำและควบคุมประเด็นในการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้การอภิปรายในครั้งนี้ของ 11 ขุนพลของพรรครวมไทยสร้างชาติเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน และสามารถให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมทั้งเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขในวาระที่ 2 ในชั้นกรรมาธิการต่อไป

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการคัดเลือกกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 4 ท่าน คือในสัดส่วนของสภาผู้แทนราษฎร และสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีอย่างละ 2 ท่าน เพื่อให้การพิจารณางบประมาณรายจ่ายมีประสิทธิภาพที่สุด

และที่สำคัญพรรครวมไทยสร้างชาติมีมติเห็นชอบ รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เพื่อให้รัฐบาลได้มีเครื่องมือในการใช้แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจและใช้ในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป การให้งบประมาณรายจ่ายประจำปีมีความต่อเนื่องสามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 จึงมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจะไม่สะดุดหยุดลงเนื่องด้วยเหตุผลด้านงบประมาณ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top