Friday, 28 June 2024
พยาบาล

‘พยาบาลสาว’ รุดช่วยคนเจ็บจากอุบัติเหตุรถล้ม ไม่แคร์แม้ชุดขาวจะเปื้อน สนใจแค่ ‘ช่วยชีวิตคน’

เมื่อวานนี้ (7 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ‘ขวัญดาว ตรีศูนย์’ ได้โพสต์ข้อความว่า “ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนหัวใจก็ยังเป็นพยาบาล…ขณะที่ขับรถอยู่ก็มองเห็นไกล ๆ ว่ามีคนขับมอเตอร์ไซด์ข้ามเลน ขับตัดหน้ารถบรรทุก แบบเฉียดฉิว จากนั้นก็ตกลงไปในร่องหลุมลึกข้างทาง คนขับน่าจะวูบจากโรคประจำตัว…ใด ๆ นั้นคือคนขับรถผ่านไปมาบริเวณนั้นไม่มีใครมองเห็นผู้บาดเจ็บเลย…รถมอไซด์และคนเจ็บตกลงไปในหลุมซะลึกทำให้ขาซ้ายผิดรูปมีบาดแผลที่ศีรษะ ดีใจที่ได้ช่วยเหลือนะคะ ขอบคุณทีมร่มโพธิ์คะ” 

พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพของตนเอง ในขณะที่กำลังให้การช่วยเหลือหญิงรายหนึ่ง ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทาง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ

เวลาต่อมาทราบว่า ผู้ที่กำลังให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บชื่อ น.ส.ขวัญดาว ตรีศูนย์ เป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งกำลังจะเดินทางไปทำธุระส่วนตัว ได้ผ่านมาเจอเหตุการณ์ และได้ให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลังจากภาพและข้อความดังกล่าว ถูกโพสต์ออกไปได้ไม่นาน ก็ได้มีผู้เข้ามาแสดงความชื่นชมในการกระทำดังกล่าวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ามาแสดงความชื่นชมว่า “I see เก่งจัง ชื่นชมครับ ความเป็นพยาบาล เป็น 24 ชั่วโมง ตลอดอายุไข”

ทั้งนี้ น.ส.ขวัญดาว เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถเพื่อที่จะไปทำธุระส่วนตัวที่ ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยขับรถไปเพียงคนเดียว ขณะนั้นได้ขับรถตามหลังรถบรรทุกมาห่าง ๆ และได้สังเกตเห็นคนขี่รถจักรยานยนต์ขับสวนทาง โดยรถมีลักษณะส่าย ๆ จากนั้นก็ได้ตัดหน้ารถบรรทุก และพุ่งลงไปข้างทาง ตกลงไปในท้องร่องข้างถนน จึงได้จอดรถห่างออกไปประมาณ 200 เมตร จากนั้นก็ได้วิ่งมาดูก็พบว่ามีรถจักรยานยนต์ตกอยู่ในท้องร่อง และมีผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงนอนสลบซุกเข้าไปในท่อ และมีเลือดออกบริเวณศรีษะ ตนจึงรีบวิ่งกลับไปที่รถเพื่อหาผ้าสะอาดมาทำการห้ามเลือด และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

‘ยูทูบเบอร์สาวลาว’ ชื่นชม ‘หมอไทย’ เก่งด้วย ใส่ใจคนไข้ด้วย ไม่แปลกใจทำไม ‘คนลาว’ แห่ไปรักษาที่ รพ.ไทยกันหมด

จากกรณีที่ คุณ ‘แบงค์’ ยูทูบเบอร์ดังสายท่องเที่ยว เจ้าของช่อง ‘Wepergee’ ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ‘Thailand Influencer Awards 2023’ ด้าน ‘Best Travel Influencer’ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เล่าอุทาหรณ์ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ ‘สปป.ลาว’ หลังประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนที่หลวงพระบาง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อคุณแบงค์ถูกนำตัวมาถึงที่โรงพยาบาลก็พบกับสิ่งที่น่าช็อก คือ เจ้าหน้าที่พยายามจะขอเงินทุกอย่าง ต้องขอเงินสดทุกครั้ง หากตนจะขอให้ทำอะไรให้ ขอฉีดยาแก้ปวดก็เจอพยาบาลถามว่า “มีเงินไหม ถ้ามีเงินจะเอามาฉีดให้” คุณแบงค์อ้อนวอนจนท้ายที่สุด ทางโรงพยาบาลก็เอาใบสัญญามาให้เซ็น ซึ่งคุณแบงค์เซ็นไม่ไหว ลุกนั่งไม่ได้ จนต้องปั๊มนิ้วเซ็นสัญญาในการรักษาแทน หลังจากนั้น ต้องหาคนลาวที่มีแอปพลิเคชันธนาคารไทยมาให้ตนโอนเงินจนได้รักษา

แม้คุณแบงค์จะทำประกันการเดินทางมาแล้ว แต่กลับพบว่าประกันนั้นไม่ครอบคลุม จนต้องเสียเงินหลักแสนบาท เพื่อกลับมารักษาตัวที่ไทย

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค. 66) ‘คุณดาว’ ยูทูบเบอร์สาวชาวลาว ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่มีคลิปประเด็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝั่งของคนไทย อีกทั้งได้มีคนไทยบางส่วนคอมเมนต์ว่า “ถ้าอย่างนั้น คนไทยเอาคืนคนลาวได้ไหม? จะไม่ให้คนลาวเข้ามารักษาตัวที่ฝั่งของไทยดีไหม เพราะทางฝั่งลาวปฏิเสธการรักษาประชากรของไทย”

โดยคุณดาวได้แสดงความคิดเห็นว่า จริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพของการเป็นแพทย์ คือ คุณต้องรักษาชีวิตของคนไข้ให้หายดีก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องเงินทีหลัง

นอกจากนี้ คุณดาวยังได้กล่าวว่า ปัจจุบันคนลาวที่มีกำลังทรัพย์มากพอ ก็จะข้ามมารักษาตัวที่ฝั่งไทย เพราะหากเทียบคุณภาพในการรักษาแล้ว ทางฝั่งไทยให้การรักษาที่ดีกว่าฝั่งลาวมาก เนื่องจากทีมแพทย์ของไทยนั้นรักษาเก่งมาก มีความรอบคอบ และมีความสะอาดในทุกขั้นตอนของการรักษา ผิดกับทางฝั่งลาว เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวของคุณดาวที่เคยไปทำการรักษา พบว่า โรงพยาบาลและคลินิกที่ลาวนั้นมีความสกปรกเป็นอย่างมาก แพทย์และพยาบาลส่วนใหญ่นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ ไม่ได้สนใจคนไข้ที่มาใช้บริการเลย

“คนไทยอย่าเพิ่งไปน้อยใจนะคะ ว่าคุณเลือกปฏิบัติ เพราะแม้แต่คนลาวด้วยกันเองก็ถูกเลือกปฏิบัติเช่นกัน ทำให้คนลาวส่วนใหญ่ถึงแห่มารักษากับหมอไทย เพราะว่าจรรยาบรรณของหมอลาวบางคนนั้นไม่ได้เรื่อง ไร้ซึ่งจิตสำนึกในหน้าที่ของตัวเอง เข้าใจว่าทุกอย่างต้องใช้เงิน แต่คุณต้องมีจิตสำนึก ถ้าคุณจะเป็นแพทย์ เป็นหมอ เป็นพยาบาล คุณต้องมีจิตใจที่เมตตาก่อน” คุณดาว กล่าว

คุณดาวยังได้กล่าวต่อว่า ตนนั้นไม่ได้มีเงินมากพอจะเรียนแพทย์ เรียนหมอ แต่สิ่งหนึ่งที่ตนเองและทุกคนควรจะมีคือ ‘จิตใต้สำนึก’ สิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งที่กำลังจะตาย ไปโรงพยาบาลหาหมอเพื่อรักษา เพราะอยากมีชีวิตรอดกลับบ้าน สิ่งที่เขาต้องการ คือ การได้รับความใส่ใจจากแพทย์ จากหมอ จากพยาบาล

นอกจากนี้ คุณดาวยังได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ตนเคยพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลแล้วเจอหมอที่ไม่กระตือรือร้นจะทำอะไร นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ เวลาไปขอใบรับรองแพทย์ ก็เจอหมอนั่งสั่นขาไปมา ไร้มารยาท

อย่างไรก็ตาม คุณตาวได้เน้นย้ำว่า ตนไม่ได้เหมารวมหมอลาวทั้งหมด สิ่งที่ตนเล่ามานั้น คือประสบการณ์การส่วนตัวที่ตนเคยได้ไปเจอมา แพทย์ หมอ พยาบาลส่วนใหญ่ที่ดี มีความตั้งใจในการรักษาคนไข้ก็มี ตนอาจจะโชคร้ายเองที่ไปเจอหมอที่นิสัยแย่

“ส่วนตัวดาวเชื่อว่า แม้คนไทยจะขู่ว่า จะไม่ให้คนลาวข้ามมาหาหมอที่ฝั่งไทยแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ คนไทยเขาก็คงทำไม่ลงหรอก และสิ่งสำคัญที่ดาวอยากจะบอก คือ รัฐบาลไทยนั้น ออกงบประมาณสวัสดิการการดูแลคุ้มครองต่างด้าว หรือชาวต่างประเทศที่มารักษาตัวที่ประเทศไทย ปีหนึ่งพันกว่าล้านบาท แก่กระทรวงสาธารณสุขไทย ทำไมเราถึงไม่มีจิตสำนึกว่า ประชาชนลาวของเราก็ไปรักษาตัวที่ประเทศเขาเยอะแยะมากมาย แล้วเมื่อคนไทยเขามาประเทศเรา เหตุใดเราจึงไม่ดูแลคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือเขาคืนบ้าง” คุณดาว กล่าวทิ้งท้าย

พยาบาลเพิ่งออกเวร เจอคนเจ็บระหว่างทาง รีบลงรถ ช่วยปั๊มหัวใจ แม้สุดท้าย ไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้ แต่ก็ได้รับคำชมจากโลกโซเชียล 

(10 มี.ค.67) เมื่อเวลา 09.40 น. ร.ต.อ.นที ดวนพล รอง สว.ทล.1 กก.8 บก.ทล. (บางละมุง) พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมอเตอร์เวย์ และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์บนถนนสาย 7 ตอน 5 ขาเข้าพัทยา ก่อนถึงแยกสุขุมวิทประมาณ 100 เมตร

มื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้พบพยาบาลสาว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมอเตอร์เวย์ กำลังช่วยกันปั๊มหัวใจยื้อชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ น.ส.ศิริกานต์ เศกกลาง อายุ 51 ปี เพื่อรอให้รถพยาบาลมารับตัวไปทำการรักษา แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะจนทำให้มีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก ส่วนขายังหักผิดรูปจนทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ Retro 110 สีฟ้า ทะเบียน 3 กธ 4525 ชลบุรี สภาพพังยับ ส่วนในเลนขวาห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ สีดำ หมายทะเบียน กข 9888 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าซ้ายพัง กระจกด้านซ้ายล่างมีรอยร้าว กระจกมองข้างซ้ายหัก โดยมี Mr.Peng Zhimin อายุ 46 ปี ชาวจีน เป็นคนขับ และมีลูกน้องชาวต่างชาติอีก 2 คน

ด้านคนขับรถสองแถวซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ขณะกำลังขับรถออกจากห้องน้ำจุดบริการตำรวจทางหลวง ได้เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตวิ่งอยู่เลนกลาง กระทั่งมีรถยนต์เก๋งของชาวต่างชาติที่ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนอย่างจัง

ขณะที่พยาบาลสาวซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนเพิ่งออกเวรจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และได้เดินทางมาเที่ยวพัทยากับแฟนหนุ่ม แต่มาถึงจุดเกิดเหตุได้เห็นว่ามีผู้บาดเจ็บอยู่กลางถนนจึงรีบลงมาช่วยเหลือและพยายามปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่สำเร็จ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทางตำรวจทางหลวงบางละมุง ได้เชิญตัวคนขับรถเก๋งชาวจีนไปสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โรงพยาบาลตำรวจ นำทีมแพทย์ พยาบาล ตรวจสุขภาพฟรี ตามโครงการจิตอาสา "ตำรวจรักษ์ประชาชน" เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567

วันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.2567 ณ ศูนย์กีฬาชุมชนห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร  พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่(สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบขวัญกำลังใจแก่คณะเเพทย์  พยาบาลผู้ปฏิบัติหน้าที่ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการตรวจสุขภาพให้แก่ข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไปที่เข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรี ตามโครงการจิตอาสา "ตำรวจรักษ์ประชาชน" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2567  ในการนี้ พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ นายแพทย์(สบ 7) โรงพยาบาลตำรวจให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ พล.ต.ท. ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า โครงการ "ตำรวจรักษ์ประชาชน" เป็นโครงการที่โรงพยาบาลตำรวจ ขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ เสริมสร้างความเชื่อมั่น ความศรัทธา ความรักความเข้าใจระหว่างตำรวจกับประชาชน

โดยในส่วนของ พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล  ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า โครงการจิตอาสา "ตำรวจรักษ์ประชาชน" เป็นการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสานต่อในเรื่องของการดูเเลด้านสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจของข้าราชการตำรวจ ครอบครัวและประชาชน  โดยมีกลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ เป็นกลุ่มงานหลักในการดำเนินงาน พร้อมทีมแพทย์ พยาบาล ทั้ง 28 กลุ่มงาน ลงพื้นที่นำอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยตรวจสุขภาพร่างกายฟรี อาทิ บริการฝังเข็มระงับปวด คัดกรองโรคไทรอยด์ ตรวจโรคไขมันพอกตับ ตรวจหมู่โลหิต คัดกรองสุขภาพเพศสตรี คัดกรองโรคเบาหวานด้วย การเจาะเลือดปลายนิ้ว ตรวจสุขภาพฟัน ตรวจดวงตา หูดีมีสุข คัดกรองความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ให้การอบรมกู้ชีพพื้นฐานสำหรับประชาชน เป็นต้น หากพบภาวะเจ็บป่วย ทีมแพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษาพยาบาล ถ้าอยู่ในภาวะฉุกเฉิน จะส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที

นอกจากนี้ การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้  ได้รับเกียรติจากสมาคมช่างผมเสริมสวยแห่งประเทศไทย ในการสนับสนุนทีมจิตอาสาบริการตัดผมฟรีให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ จำนวนทั้งสิ้น 100 ราย พร้อมได้รับเกียรติจากศิลปินผู้มีชื่อเสียง อาทิ คุณชรัส เฟื่องอารมณ์, คุณสุดา ชื่นบาน, คุณวินัย พันธุรักษ์, คุณสุทธิพงษ์ วัฒนจัง และ คุณกัณพล ปรีดาปราโมช วงฟรุตตี้, และคุณหนู มิเตอร์ ในการมาขับกล่อมบทเพลงอันไพเราะร่วมกับวงดนตรีจิตอาสา "PGH BAND" ของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งภายในงานยังได้มีบริการแจกจ่ายเครื่องดื่มสมุนไพรและขนม อาหารว่าง (น้ำแข็งไส และไอศกรีม) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก คุณอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษา รมว.พลังงาน อีกด้วย

โดยกิจกรรมวันนี้มี ตำรวจ ครอบครัวตำรวจ และประชาชน ให้ความสนใจ มารับบริการด้านสุขภาพ เป็นจำนวนมากถึง 400 ราย และมีผู้มารับบริการตัดผมฟรีจำนวน 42 ราย ทั้งนี้ ข้าราชการตำรวจ, ครอบครัวข้าราชการตำรวจ และประชาชน ที่มีความประสงค์ที่จะปรึกษา หรือเข้ารับการตรวจรักษา สามารถติดต่อไปยังโรงพยาบาลในสังกัดโรงพยาบาลตำรวจในพื้นที่ของท่านทั่วประเทศ หรือติดต่อมายังโรงพยาบาลตำรวจ ผ่านช่องทาง facebook Fanpage รวมถึงช่องทางให้คำปรึกษาสุขภาพจิตความรุนแรงในครอบครัว ที่สายด่วน 081-932-0000 และ เพจ Depress We Care , Because We Care  ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แชร์สนั่นโซเชียล ‘ชายใจดี’ ก้มผูกเชือกรองเท้าให้ ‘คนตาบอด’ ชี้!! คนไทยมีการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี มีน้ำใจให้ทุกคน 

(26 พ.ค.67) ทำเอาชาวเน็ตไทยถึงกับปลื้มไปตามๆ กันอยู่ในขณะนี้ หลังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ออกมาเผยความรู้สึกประทับใจคนไทยเป็นอย่างมาก จนต้องถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เธอเห็นว่า ‘ถ้ามีคนถามว่าทำไมถึงชอบเมืองไทย นี่แหละคือคำตอบ’ โดยได้แชร์ไปให้โลกออนไลน์รู้

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก@Laigene Garcia ได้เผยคลิป Reels บนเฟซบุ๊ก ขณะที่เธอเจอเหตุการณ์บนรถไฟฟ้า ขณะที่ผู้พิการทางสายตา กำลังยืนจับราวอยู่ ได้มีชายใจดี ก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าให้เธอ หลังจากนั้นก็ยังมีคุณพยาบาลสาว ได้เข้ามาพาเธอไปนั่งยังที่นั่งพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตมาแชร์ต่อ พร้อมขอบคุณที่ทำให้ยิ้มได้ เป็นเรื่องราวดีๆ ที่แม้คนไทยเห็นก็ยังใจฟู ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายๆ คนที่เคยมาเที่ยวเมืองไทย ก็ต่างบอกเป็นเหตุผลเดียวกันที่ทำให้ชื่นชอบเมืองไทยอีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top