Friday, 17 May 2024
ผู้โดยสาร

ตำรวจท่องเที่ยวเอาจริง รวบตัวแท็กซี่แสบ ส่งตำรวจท้องที่ ฐานทำภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย เรียกราคาเกินจริง -ปฎิเสธรับ 'นักท่องเที่ยว-ผู้โดยสาร'

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) พล.ต.ต.อภิชาติ  สุริบุญญา รอง ผบช.ทท และโฆษก บช.ทท.เปิดเผย จากกรณีที่ บช.ทท.ได้รับร้องเรียน ทาง 1155 จากนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปฎิเสธ การรับผู้โดยสาร รวมถึงการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินกฏหมายกำหนด จากรถรับจ้างสาธารณะนั้น 

ซึ่ง พล.ต.ท.สุคุณ  พรหมายน ผบช.ทท.ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยในสังกัด บช.ทท. ให้กวดขันจับกุมผู้ขับรถสาธารณะที่ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางบก อย่างจริง เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในการฝ่าฝืนการกระทำผิด ทำให้เสียภาพลักษณ์ประเทศซึ่งเป็นช่วงกำลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว จากทั่วโลก ซึ่งนโยบายจากรัฐบาลเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ 

ในวันนี้ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ท.จิรัฏฐวัฒน์ กาญจนวรางกูร รอง ผกก.1 บก.ทท.1 ฯพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บก.ทท.1 ได้ทำการจับกุม นายวิทูลย์ พิหูสูตร อยู่บ้านเลขที่ 359/527 หมู่ที่3 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการโดยกล่าวหาว่า กระทำผิดฐาน “ปฏิเสธผู้โดยสาร”เหตุเกิดที่ บริเวณถนนข้าวสาร ชั้นจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวส่ง พงส.สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

รายที่ 2 งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 ร่วมจับกุมผู้กระทำความผิด ชื่อนายสุพรหม อ่อนศรี
อายุ  43 ปี ความผิดฐาน "ไม่ใช้มาตรมิตเตอร์ (จ้างเหมา) "โดยจับกุมที่ บริเวณริณปากซอยถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.นำส่ง สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

แท็กซี่ซื่อสัตย์ รีบนำเงินส่งคืนผู้โดยสาร หลังพบว่าโอนค่ารถเกินกว่า 2.5 แสนบาท

(21 ต.ค. 65) นายศักรินทร์ อั๋นประเสริฐ อายุ 48 ปี แจ้งผ่านหมายเลขโทรฟรี 1644 ว่า...เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น. ได้ใช้บริการรถแท็กซี่ แต่จำรายละเอียดไม่ได้ โดยเรียกรถจากแถว ๆ เทเวศน์ ไปลงที่ซอยพหลโยธิน 64 ค่าโดยสาร 253 บาท และใช้วิธีโอนเงินจ่ายไป จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้โชเฟอร์แท็กซี่ดูว่าโอนแล้วนะ แล้วก็แยกย้ายลงจากรถ 

ปรากฏว่าพอตื่นเช้ามา มาเช็กเงินในแอปโทรศัพท์มือถือ ก็ตกใจอย่างมาก เพราะเงินในบัญชีหายไปกว่า 2 แสนบาท จึงได้เช็กประวัติการใช้เงิน จึงทราบว่า ที่โอนเงินจ่ายค่าโดยสารแท็กซี่ไป จาก 253 บาท แต่กลับโอนไป 253,303 บาท และปลายทางที่โอนไปคือ คุณธนสรณ์ ทองดี

จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการ ‘รถไฟจีน’ ยอดพุ่งทะลุ 70 ล้านครั้ง เร่งเพิ่มกำลังการขนส่ง รองรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลเรือมังกร

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, ปักกิ่ง รายงานว่า บริษัท การรถไฟแห่งประเทศจีน จำกัด รายงานว่า ปริมาณการหมุนเวียนของผู้โดยสารรถไฟในจีนพุ่งสูงขึ้น ระหว่างมหกรรมการเดินทางช่วงหยุดเทศกาลเรือมังกรที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟทั่วจีน ระยะ 5 วัน (นับระหว่างวันที่ 21-25 มิ.ย.) สูงเกือบ 70.38 ล้านครั้ง ซึ่งมากกว่ามหกรรมการเดินทางช่วงหยุดเทศกาลเรือมังกรในปี 2019 ราว 7.14 ล้านครั้ง

โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟรายวันในจีน สูงแตะ 16.09 ล้านครั้ง ซึ่งถือเป็นการเดินทางของผู้โดยสารภายในวันเดียวที่สูงเป็นประวัติการณ์ ระหว่างมหกรรมการเดินทางช่วงหยุดเทศกาลเรือมังกร

อนึ่ง หน่วยงานการรถไฟของจีนได้เพิ่มกำลังการขนส่งผู้โดยสาร เพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางของประชาชน พร้อมกับยกระดับคุณภาพการบริการเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นของเหล่าผู้โดยสาร

สำหรับเทศกาลเรือมังกร หรือ ‘เทศกาลตวนอู่’ ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติจีน และตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 22 มิ.ย. ในปีนี้
 

‘แอร์-สจ๊วด การบินไทย’ รับมือ ‘ผดส.ไม่น่ารัก’ รอจนเครื่องจอดเยอรมนี ตำรวจเข้ารวบทันที

(24 ก.ค. 66) เฟซบุ๊ก My Pride My THAI ได้โพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์บนสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า

เหตุเกิดบนเที่ยวบินหนึ่ง…เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19.7.2023 เดินทางจาก BKK~FRA สิ่งที่จะเล่าให้เห็นมีมุมมองให้คิดได้เยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมต้องโพสต์นี้คืออะไร … ติดตามอ่านได้ครับ

เมื่อเที่ยวบินนี้ ออกเดินทางได้สัก 1:30 ชม. บนน่านฟ้าอินเดีย
ในขณะที่ลูกเรือเสิร์ฟเสร็จ จู่ๆ ก็มี ผดส.ชายรูปร่างใหญ่
เดินไปนั่งที่เก้าอี้ ‘long-leg’ โดยไม่ได้ชำระค่าโดยสารเพิ่ม !

ลูกเรือจึงได้แจ้งว่า ให้กลับไปนั่งที่ของตนเอง แล้วยังไงก็ไม่รู้ ผดส.ท่านนั้นเริ่มมีอาการไม่พอใจ และเริ่มขึ้นเสียง ผมนั่งอยู่ห่างจากเหตุการณ์ประมาณ 8 แถว ก็เริ่มสังเกตได้ว่า เขาเริ่ม ‘ไม่น่ารัก’ แล้ว

ผ่านไป 5 นาที ผมสังเกตว่า มีลูกเรือเริ่มนำเอกสารไปชี้แจง
ปรากกฏว่า …สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ ก็ได้เกิดขึ้น !

‘ผดส.’ คนนี้ เริ่มเสียงดังและ ‘ทุ่ม’ ของใส่โต๊ะ และ ทำลายเก้าอี้ฝั่งที่เขานั่ง ผมนี่แบบตกใจเลย ต้องออกตัวว่า ลูกเรือพี่เขาเป็นผู้หญิง และ สจ๊วต บนไฟล์ผู้ชายเท่าที่เห็นน่าจะยืนกันแค่สองคน !
ผมก็รู้แล้วล่ะว่า …ความ ‘ท้าทาย’ เริ่มเกิดขึ้นครับ

สิ่งแรกที่เห็นคือ … พี่สจ๊วตท่านแรกเริ่มปกป้องประตูที่เฝ้าแล้ว และเห็นว่าพี่เขาเริ่มโทรคุยกับทางนักบิน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

ผ่านไป 10 นาที เชื่อไหมครับ ผมเตรียมไว้แล้วว่ามีจับกุมหรือมัดตัวแน่นอน ! เพราะ คุกคามคนของเราแล้ว ซึ่งผมเองก็ไม่รู้หรอกว่า ระเบียบต้องจัดการยังไง แต่ปรากฏว่า ?

สิ่งที่ผม ‘เดา’ กลับตรงกันข้าม ลูกเรือ ‘ปล่อย’ ให้เขานิ่งก่อนและ สถานการณ์ที่ตึงเครียดกลับนิ่งลง ! เฮ้ย..คืออะไร ?

ผ่านไป 10 ชม. จนถึงเสิร์ฟอาหารเช้า ลูกเรือทุกท่านดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ! งงดิ ใครๆ ก็งง ผดส.ท่านนั้น ยังเดินมาขอกล้วย กาแฟ และ ทำมาคุยกับคนอื่นได้ เสมือนหนึ่งว่าสิ่งที่เขาทำ เหมือนแค่ฝันไป แต่…

ทีมนักบิน และ ลูกเรือทุกคน ได้ทำการ ‘วางแผน’ ไว้อย่างเรียบร้อยแล้วครับ
ก็คือ … พอเครื่องแตะพื้นปุ๊ปเว้ย จอดเสร็จปุ๊ปใช่ป่ะ
กัปตันประกาศว่า “ท่าน ผดส.โปรดนั่งอยู่กับที่” อย่าเพิ่งลุก
พอรอได้ 2 นาที

จนท.ตำรวจเยอรมันนี 5 นาย อาวุธครบมือ เดินไปยังตำแหน่งของคนนั้น และเข้าจับกุมทันที !
นี่คือกระบวนการที่ทาง กัปตันได้ปรึกษากันแล้วว่า

ถ้าเรา ใส่กุญแจมือ ในช่วงเวลาที่เขาก่อกวน มีการ ‘บาดเจ็บ’ แน่นอน เพราะเขาตัวใหญ่ และไม่ได้เมาด้วย ! ทางทีมจึงเห็นว่า ปล่อยไปก่อน รอเครื่องลง เจอกัน !

จากเหตุการณ์นี้ ที่ผมแอบสังเกต ตั้งแต่เกิดเรื่อง จนถึงปลายทางนั้น ผมปรบมือให้เลยครับ กับการตัดสินใจของหัวหน้าพนักงานต้อนรับ ทีมีความเป็นมืออาชีพมากๆ

ที่ชั่งดูแล้วว่า อะไรควรทำบ้าง สุดยอดครับ ปรบมือให้
สุดท้าย เรื่องที่เกิดขึ้น คงฝากเป็น ‘ประสบการณ์’ ให้พี่ๆ ทุกท่าน ลูกเรือทุกคน และ การบินไทย 🇹🇭 ของเรานั้น ยังคงเป็นสายการบินที่ผมเชื่อมั่นและไว้ใจครับ

สุดยอดครับ ..
19:07:2023

แฟรงค์เฟริต, เยอรมันนี
PS.ผมได้ใส่รูปบางส่วนในคอมเม้นใต้ภาพ และ ผมได้ให้กำลังใจลูกเรือทุกท่านเป็นลายลักษ์อักษรครับ — at Frankfurt Airport

Cr: ขอบคุณเรื่องจาก FB: Kitiphong Santiwatr

ผู้โดยสารหญิงนั่งฉี่ในห้องโดยสารสายการบินสหรัฐฯ หลังพนักงานต้อนรับไม่อนุญาตให้เธอใช้ห้องน้ำ

(26 ก.ค. 66) นิวยอร์กโพสต์ รายงาน ผู้หญิงคนหนึ่งถูกบันทึกภาพขณะกำลังนั่งฉี่ตรงหัวมุมหนึ่งของห้องโดยสารของเครื่องบินสปิริต แอร์ไลน์ส สายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติสหรัฐฯ ระหว่างนั้นก็ส่งเสียงคร่ำครวญอ้างว่าพวกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินไม่อนุญาตให้เธอใช้ห้องน้ำ ในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ตามรายงานของเว็บไซต์ airlive.net 

"ฉันอยากปัสสาวะมา 2 ชั่วโมงแล้ว แต่คุณเอาแต่บอกฉันว่าไม่สามารถฉี่ได้ คุณปิดประตู" ผู้หญิงรายดังกล่าวโวยวายใส่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พร้อม ๆ กับนั่งยอง ๆ ปลดทุกข์บนพื้นห้องโดยสาร

จากนั้นได้ยินเสียงพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่งพูดกับผู้โดยสารหญิงรายนี้ว่า "พูดทักทาย กล้องหน่อย" กระตุ้นให้เธอตอบโต้ว่า "เครื่องบินจอดแล้ว ฉันอั้นฉี่ไม่ไหว" และบอกว่าพวกพนักงานต้อนรับลูกเรือต้องโทษตัวเองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "พวกคุณจะทำอะไรก็ตามใจ พวกคุณสามารถส่งหมายจับ หรือจะให้ดี ก็จับฉันเลย" ผู้โดยสารหญิงพูดประชด

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพูดเหน็บแนมกลับ แนะนำให้ผู้โดยสารรายนี้ดื่มน้ำมากๆ "เพราะว่ากลิ่นฉี่ของคุณน่าสะอิดสะเอียนมาก" พร้อมสะบัดมือใกล้ ๆ จมูก ทำท่าเหม็นกลิ่น

ในช่วงท้ายของคลิปวิดีโอสั้นๆ ซึ่งโพสต์เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) พบเห็นผู้หญิงดังกล่าวลุกขึ้นและดึงกางเกงกลับเข้าที่ ก่อนเดินออกไป ในขณะที่พบเห็นผู้โดยสารหลายคนเดินออกไปทางประตูเครื่องบิน

ทั้งนี้ ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนเที่ยวบินไหน และอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น โดยทาง airlive.net พยายามติดต่อสอบถามไปยังสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้โดยสารรายหนึ่งเลือกฉี่บนพื้นของเครื่องบิน หลังจากอั้นไม่ไหว โดยในปี 2018 ผู้โดยสารรายหนึ่งบนเที่ยวบินของสายการบินวิซซ์ แอร์ เข้าไปปลดทุกข์ในห้องครัวของเครื่องบิน หลังได้รับแจ้งว่าไม่สามารถใช้ห้องน้ำได้ ในระหว่างที่เครื่องบินกำลังเติมเชื้อเพลิง

'โค้ชแหม่ม' เผย!! เมื่อผู้โดยสารบนเครื่องบินกลายเป็นศพ แอร์ฯ รันงานบริการต่อ-ประคองใจญาติผู้เสียชีวิตจนถึงสุดทาง

เมื่อไม่นานนี้ ผู้ใช้ TikTok บัญชี @skycoachmamteam หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม ‘โค้ชแหม่มสอนแอร์’ ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ในการทำงานอาชีพแอร์โฮสเตส เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ผู้โดยสารเสียชีวิตกะทันหัน ขณะกำลังบินอยู่เหนือน่านฟ้า พร้อมอธิบายข้อปฏิบัติที่แอร์ฯ จะต้องทำการจัดการ โดยระบุว่า…

“จากประสบการณ์ตรงของโค้ชที่ท่านผู้โดยสารเสียชีวิต บนไฟล์ทจากดูไบเพื่อบินไปนิวยอร์ก ไฟล์ทนั้นเราต้องนําศพท่านผู้โดยสารใส่ลงใน Body Bag ซึ่งก็คือ ‘ถุงเก็บศพ’ นั่นเอง แต่เราห้ามรูดซิปปิดไว้ทั้งหมด ทำไม่ได้เด็ดขาด เพราะว่าแอร์ฯ ไม่ใช่หมอ โดยตามกฎหมายแล้ว เราไม่สามารถที่จะประกาศได้ว่าท่านผู้โดยสารคนนี้เสียชีวิตตอนกี่โมง เพราะฉะนั้น เราจะรูดซิปถึงแค่คอ และยังคงต้องเปิดหน้าท่านผู้โดยสารเอาไว้

“ดังนั้น เราควรจะนำศพของท่านผู้โดยสารไปวางไว้ที่ไหน? ซึ่งไม่ควรวางไว้ที่ Crew Bunk เด็ดขาดเลย สําหรับสายการบินเอมิเรตส์ เราจะเก็บศพท่านผู้โดยสารไว้ในครัว ซึ่งในไฟล์ทนั้น เหตุเกิดตอนประมาณสามชั่วโมงก่อนการ Landing นั่นแปลว่า หลังจากที่ท่านผู้โดยสารเสียชีวิตแล้ว แอร์ฯ ยังต้องทําหน้าที่เซอร์วิสผู้โดยสารบนเครื่องบินต่อไป แล้วศพท่านผู้โดยสารนั้นเก็บที่ครัวหน้า โดยที่มีโค้ชเป็นหัวหน้าประจำไฟลท์นั้น…”

“ดังนั้น โค้ชเลยต้องถามลูกเรือว่า ลูกเรือในทีมโอเคไหม? ที่จะต้องทํางานอยู่ครัวหน้า ใครไหวหรือใครไม่ไหวอย่างไร ย้ายไปทําครัวหลังได้นะ ซึ่งก็มีน้องลูกเรือที่เขาไม่ไหวจริง ๆ กับการที่ทํางานแล้วจะต้องมีศพท่านผู้โดยสารอยู่ในครัว โค้ชก็เลยโทรศัพท์ขึ้นไปขอความช่วยเหลือจากลูกเรือเฟิร์สคลาส แล้วอธิบายว่าเรามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ขอให้มาช่วยหน่อย จากนั้นจะมีน้อง Cabin Service Attendant หรือ ‘พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน’ ซึ่งปกติน้องเขาจะเป็นคนที่ดูแลทําความสะอาดห้องน้ำและสปาในเฟิร์สคลาส โดยปกติน้องจะไม่เสิร์ฟ แต่วันนั้นพอเกิดเหตุฉุกเฉิน น้องเขาก็มาช่วยโค้ชเสิร์ฟ ซึ่งน้องน่ารักมาก มีสปิริตมาก… วันนั้นเราก็เลยทําหน้าที่เซอร์วิสโดยที่มีศพท่านผู้โดยสารอยู่ในครัวไปกับเราด้วย”

“จนกระทั่งก่อนที่จะ Landing ฝ่าย Purser ได้เข้ามาแจ้งว่าอยากให้มีใครสักคนไปนั่งจับมือกับคุณป้า เพราะว่าคุณลุงเพิ่งเสียชีวิตไป โค้ชจึงอาสา เพราะเป็นคนที่คุยกับคุณป้าตั้งแต่ตอนแรก โค้ชเป็นคนแรกที่ทำ CPR และเป็นคนที่ปิดตาท่านผู้โดยสาร ดังนั้น โค้ชจึงอาสาไปนั่งจับมือกับคุณป้า ซึ่งตอนที่ไปนั่งจับมือ คุณป้าได้บอกกับโค้ชก่อน Take Off ว่า…

“Befor taking off, I still had husband. Now i am widow.” (ตอนนี้ฉันน่ะ กลายเป็นม่ายแล้ว…)

สิ่งที่โค้ชบอกกับคุณป้าคือ “At least, when he is gone. He is close to God.” (อย่างน้อยตอนที่เขาจากไป คุณลุงก็ได้อยู่ใกล้กับพระเจ้านะ)

โดยคุณป้าได้เอ่ยขอบคุณที่พวกเราพยายาม ซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าเราพยายามอย่างมาก ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถช่วยชีวิตคุณลุงได้…

“พอ Landing และไปถึงที่ JFK เมื่อประตูเครื่องบินเปิด จะมีหน่วย NYPD ซึ่งคือตํารวจของที่นิวยอร์กขึ้นมาสอบสวนเราว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นก็มีคุณหมอได้ให้นามบัตรกับตํารวจเพื่อคุยกัน แล้วเขาจึงนําศพออกไป ซึ่งมีการสืบสวนอยู่ตรงบริเวณนั้นประมาณเกือบชั่วโมง และในที่สุดลูกเรือก็ได้ออกจากสนามบิน…”

รถไฟความเร็วสูง ‘จาการ์ตา-บันดุง' กระแสตอบรับดี!! ยอดโดยสารทะลุ 1 ล้านครั้ง หลังเปิดให้บริการตั้งแต่ ต.ค.

(26 ธ.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บริษัท การรถไฟแห่งประเทศจีน จำกัด เปิดเผยว่าทางรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นทางรถไฟความเร็วสูงสายแรกในอินโดนีเซียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับรองการเดินทางของผู้โดยสารมากกว่า 1 ล้านครั้งแล้ว นับตั้งแต่เริ่มต้นดำเนินงานเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. 2023

รายงานระบุว่า การเดินทางของผู้โดยสารทางรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง ได้สูงแตะหลัก 1 ล้านครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (24 ธ.ค.) โดยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทพีที เคเรตา เซปาต อินโดนีเซีย-ไชน่า (KCIC) กิจการร่วมค้าระหว่างบริษัทอินโดนีเซียและจีนที่ก่อสร้างและดำเนินงานทางรถไฟสายนี้ เพิ่มการเดินรถจาก 14 เป็น 48 เที่ยวต่อวัน

คณะทำงานจากจีนและอินโดนีเซียได้ร่วมผลักดันการดำเนินงานที่มีคุณภาพสูงของทางรถไฟความเร็วสูงสายนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม โดยมีการส่งเสริมการจำหน่ายบัตรโดยสารทางออนไลน์ การปรับปรุงขึ้น-ลงรถไฟของผู้โดยสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และการบูรณาการระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เข้ากับทางรถไฟสายนี้

นอกจากนั้นมีการเปิดให้บริการร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อที่สถานีรถไฟฮาลิม สถานีรถไฟปาดาลารัง และสถานีรถไฟเตกัลลัวร์ รวมถึงมีการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถไฟด้วย

อนึ่ง ทางรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง ระยะทาง 142.3 กิโลเมตร มีความเร็วออกแบบ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย และนครบันดุงในจังหวัดชวาตะวันตก จากกว่า 3 ชั่วโมง เหลือราว 40 นาที

‘เพจดัง’ สวด!! ผู้โดยสารโชว์เหนือ ด้อยค่า ‘สายการบินไทย’ ลั่น!! “นักบินหน่อมแน้ม ที่ท่านดูแคลนนี้แหละที่พารอด”

(29 ม.ค.67) จากเพจ ‘กัปตันไฟซอล บิน กิน เที่ยว Captain Faisal’ ได้โพสต์ข้อความตอบคำถามกรณีผู้ใช้บริการสายการบินไทยโพสต์เนื้อหาตำหนิ ‘การบินไทย’ ระบุว่า...

แม้ว่าท่านจะแสดงถึงความไม่รู้ ใช้คำดูถูกด้อยค่า กัปตันและนักบินที่เพิ่งพาท่านรอดมาได้ แต่ผมขออธิบายเป็นวิทยาทาน เผื่อท่านอาจจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น

ช่วงที่ท่านไปถึงเมลเบิร์น อากาศจริงๆ คือ Low visibility จัดมาทัศนวิสัย 200 เมตรและหมอกหนา Fog เอาว่าขนาดขับรถยังแทบไม่เห็นทาง

และจากเมนต์ด้านล่าง ช่วงเวลาเดียวกัน มีเครื่องบิน Divert กันบานเลย

ข่าวอากาศการบินมันเป็นข่าวเฉพาะ ไม่ได้มีแถมมาในมือถือ ท่านลองไปดูในแอปฯ Airport มันบอกท่านชัดเจนว่าอากาศเมืองที่ท่านอยากรู้มันเป็นไง ออกทุก 30 นาที

อ่ะ!! ตอบคำถามที่ถูกสรุปจากความไม่รู้ของท่าน…

1. ใส่น้ำมันมาไม่พอ ไม่เผื่ออะไรเลย?
>> ตอบ #การเติมน้ำมันเครื่องบิน เติมตามกฎหมายที่กำหนดครับ ต่ำกว่านี้ไม่ได้ โดยทั้งหมดมันเผื่อมาให้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ถ้าไม่พอ สุดวิสัย ก็ต้องไปลงสนามบินสำรอง เป็นหลักสากลที่คนเดินทางเขาเข้าใจ การไดเวิร์ดโดยเฉพาะจากสภาพอากาศเป็นของคู่กับการบิน

2. กัปตันไม่มีความหนักแน่น หรือ Pushy พอกับ ATC อาจเป็นเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่มั่นใจ สู้ความ Hustle ของกัปตัน Aussie เที่ยวบินอื่นที่แย่งกันขอลงไม่ได้ ทั้งที่ low fuel แล้ว ความหน่อมแน้มที่ไม่ควรมีในผู้ชายซักคน?
>> ตอบ #เรื่องภาษาอังกฤษ นักบินต้องมีการสอบ Aviation English ทุกคนและ ‘ต้องผ่าน’ ถ้าไม่ผ่านบินไม่ได้ และสอบกับสถาบันกลาง ไม่ได้งุบงิบสอบกันเอง

#เรื่องการลงสนามก็ตามคิวครับ ถ้าเจออากาศปิดแบบนี้มาถึงก่อน วนรอก่อน อากาศดีขึ้นลงก่อน มาถึงช้าบินวนรอเพื่อลงตามคิว รอได้รอ รอไม่ได้ไปลงสนามบินสำรอง จะมาขอแซงคิวไม่ได้ ไม่มีต่อรองครับ

#ยกเว้น วนจนน้ำมันเหลือต่ำที่เราเรียกว่า Mayday Fuel อันนั้นคืออันตรายสุด คือต่ำกว่าน้ำมันสำรองก้นถัง อันนี้ขอลงก่อนได้ แต่โดนสอบสวนไส้แตกแน่ว่าทำไมเอาตัวไปเสี่ยงแบบนั้น

ถ้านักบินกล้าหาญอย่างที่ท่านว่า เอ๊า วนไป แล้วไปต่อรองเอา ต่อไปเรื่อยๆ ถ้า Low fuel จริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้คงไม่ทำให้ท่านปากแจ๋วได้แบบนี้ครับ

#นักบินหน่อมแน้ม ที่ท่านดูแคลนพวกนี้แหละครับที่พาท่านรอด ส่วนพวก Macho หรือ #มานะชาย เหมือนที่ท่านว่า ส่วนใหญ่ตายห่าก่อนเกษียณครับ 

ตอนนี้เขาถอดเคสพวกมานะชายเหมือนที่ท่านว่ามาแบบนี้มาให้นักบินทั่วโลกเขาเรียนชื่อวิชา CRM หรือ Crew Resource Management 

#สุดท้ายก่อนจบ นักบินการบินไทยมาตรฐานระดับโลก ไปสอบที่ไหนเขาก็รับ อยู่เมืองนอกกันก็เยอะแยะครับ 

นักบินเราบินกันด้วยมาตรฐานที่สูงสุด เพราะเราก็กลัวตาย นักบินมีลูก เมีย พ่อ แม่ คนรักที่รอเรากลับบ้านอยู่เช่นกัน

กรุณาให้เกียรตินักบินคนที่ดูแลชีวิตท่านด้วย

‘ผู้โดยสาร’ อัดคลิปสภาพเบาะเครื่องบิน สายการบินดัง สุดช็อก!! ทั้งดำสกปรก แถมเปื่อย-ขาด สภาพเกินจะทน

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 67 ได้เกิดไวรัลบนโลกโซเชียล โดยมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมคลิปวิดีโอลงในกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ เผยให้เห็นสภาพเบาะบนสายการบินหนึ่ง เมื่อผู้โพสต์นำกระดาษทิชชู่มาเช็ดเบาะแล้วพบว่า มีคราบฝุ่นติดมาจำนวนมากจนทำให้ทิชชู่มีสีดำ รวมไปถึงเบาะอยู่ในสภาพขาดทรุดโทรม นอกจากนี้ รวมถึงพื้นของเครื่องบินมีสภาพสกปรก

โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “บินสายการบินนี้เหมือนมาสู้ชีวิต อาทิตย์ที่แล้วเบาะสกปรกเอาทิชชู่ชุบน้ำเช็ดดำปี๋ อาทิตย์นี้เจอสภาพเบาะสู้ชีวิต น้องเปื่อย เบาะขาด”

นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังไปแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์อีกว่า “ขออนุญาตชี้แจงก่อนนะครับ จริงๆ แล้ว อาทิตย์ก่อนที่เจอเบาะดำ ไม่สะอาด สกปรก เราได้ส่งแจ้งเรื่องทางสายการบินให้ได้รับทราบแล้วนะครับ และช่วงนี้เราต้องบินไป-กลับบ้านกับสายการบินนี้ทุกศุกร์และอาทิตย์ จนถึงเดือนมีนาคม (เพราะจองล่วงหน้าไว้)

ทางสายการบินมีการติดต่อมา จะทำการ DEEP CLEAN ซึ่ง ส่วนตัวเราว่า มันไม่ได้ถึงขนาดต้องเรื่องใหญ่ขนาดตั้ง BUDGET ขอ DEEP CLEAN แค่การทำความสะอาดทั่วไป เช่น ผ้าหรือวัสดุอุปกรณ์ ที่ถูกต้องกับคุณลักษณะของเบาะ เช็ดเบาะให้สะอาดเป็นประจำ ก็น่าจะเพียงพอ

และ… เราค่อนข้างแน่ใจอีกอย่างคือ เค้ามีการส่งข้อมูล EMAIL กันภายใน ว่า ผดส. คนนี้จะเดินทางอีกวันนี้ๆ นะ สิ่งที่เค้าทำคือ ไปทำความสะอาดที่นั่งที่เราจะนั่ง ซึ่งดูสะอาดมากๆ (เฉพาะที่นั่งเรา)

แต่บังเอิญ… มีเหตุให้เราได้ต้องย้ายที่ และสิ่งที่เจอคือ สกปรกเหมือนเดิม เพราะเค้าเช็ดแต่ที่นั่งเรา แล้ววันนี้บินอีก เจอเบาะสู้ชีวิตอีกกกก สภาพน้องคือ ไม่พร้อมให้บริการอย่างแรงงง จนต้องเขยิบไปนั่งที่ข้างๆ

สิ่งที่เราจะสื่อคือ ไม่ได้ต้องการสิ่งใดทดแทน หรือ ดูแลเฉพาะแค่เรา แต่เรื่องความสะอาดมันเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกๆ คนที่มาใช้บริการควรได้รับให้เป็นมาตรฐาน และสุขลักษณะที่ทุกๆ คนควรได้รับจากผู้ให้บริการเท่าเทียมกัน”

‘การบินไทย’ วุ่น!! เจอผู้โดยสารแพนิก พยายามเปิดประตู ทำ ‘สนบ.เชียงใหม่’ หลายเที่ยวดีเลย์ - หนีไปลงลาว

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ. 67) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ โพสต์ภาพเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ระบุว่า เกิดเหตุผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดอาการตื่นตระหนก (Panic) บนเที่ยวบินที่กำลังจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ มายังท่าอากาศยานดอนเมือง และลุกขึ้นพยายามเปิดประตู ทำให้เครื่องบินไม่สามารถออกเดินทางได้

ทีมข่าวไทยพีบีเอสตรวจสอบพบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว มีเที่ยวบินจำนวนมากอยู่ระหว่างเตรียมลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ หลายลำต้องบินวน เพื่อรอลงจอด ขณะที่บางลำเช่น สายการบินโคเรียนแอร์ ที่มาจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ต้องเปลี่ยนมาลงที่สุวรรณภูมิแทน หรือบางลำเปลี่ยนไปลงที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว

ขณะที่เที่ยวบินขาออกจากสนามบินเชียงใหม่ บางเที่ยวบินสามารถออกเดินทางได้ โดยใช้ทางขับเคลื่อนเส้นอื่น และใช้ทางวิ่งที่สั้นลงในการบินขึ้น

ล่าสุด การบินไทยได้ออกมาชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว โดยระบุว่าเที่ยวบินทีจี 121 เส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ วันที่ 7 ก.พ.ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส A 320 ขณะเครื่องบินอยู่ระหว่างไลน์ อัพ (line up) เพื่อรอทำการวิ่งขึ้นบนรันเวย์ มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน

หลังจากเจ้าหน้าที่ช่างได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว จึงสามารถออกเดินทางได้ในเวลา 23.34 น. ของวันที่ 8 ก.พ. โดยผู้โดยสาร นักบินและลูกเรือ ทุกคนปลอดภัย

เหตุการณ์เปิดประตูเครื่องบินของผู้โดยสารบนเครื่อง เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเดือน ม.ค. เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา มีกรณีที่ผู้โดยสารเดินขึ้นเครื่องบินแต่กลับไม่ไปที่นั่ง แล้วไปเปิดประตูเครื่องบินฝั่งที่อยู่ตรงข้าม ตกลงไปบริเวณลานจอดจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สนามบินโตรอนโต เพียร์สัน ประเทศแคนาดา

จากนั้นวันที่ 21 ม.ค.ยังมีกรณีผู้โดยสารสูงอายุที่พยายามเปิดประตูเครื่องบิน เที่ยวบินจากลอนดอน ไปโตรอนโต ขณะที่กำลังบินอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก

นอกจากนี้ ในวันที่ 25 ม.ค.เกิดเหตุผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบินขณะกำลังจะบินขึ้น แล้วไปเดินอยู่บนปีก ที่ประเทศเม็กซิโก

ก่อนหน้านี้ ช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ได้รายงานว่า พฤติกรรมของผู้โดยสารเครื่องบินที่ไม่เชื่อฟังกฎระเบียบ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19

ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2022 ระบุว่าเหตุการณ์ก่อกวนของผู้โดยสารส่วนใหญ่ เกี่ยวข้องกับการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด การใช้วาจา-คำพูดไม่สุภาพ และการมึนเมา ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจดูแรงไม่มาก แต่จัดว่าเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการบิน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top