Tuesday, 22 April 2025
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญตำรวจปลายด้ามขวาน เร่งรัดคดีคนร้ายลอบยิงตำรวจภูธรรือเสาะ เสียชีวิต

วันนี้ (10 ก.พ.67) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ ผบ.ศปก.ตร.สน.  พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ. 9 , พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์  รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.พิทักษ์  อุทัยธรรม  รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด./รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. , พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พร้อมส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบยิง จ.ส.ต.บินหลี เศรษฐสุข ผบ.หมู่ (ป) สภ.รือเสาะ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และแนะนำแนวทางในการปฏิบัติแก่ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรรือเสาะ

โดยในการประชุม พล.ต.ท.สำราญ ได้นำความห่วงใยของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญต่อกำลังพล พร้อมรับฟังปัญหาข้อขัดข้องและความต้องการของหน่วย โดยเน้นย้ำการปฏิบัติในการจัดเวรยาม เฝ้าที่พักพิจารณาให้เหมาะสม ไม่ควรนำผู้ที่พักอยู่ด้านนอกมาเข้าเวรที่พัก , หัวหน้าหน่วยต้องให้ความสำคัญความปลอดภัยโดยเฉพาะหน่วยที่ตั้ง และที่พักอาศัย วางมาตรการป้องกันโดยเฉพาะเส้นทางเข้า-ออกให้ดี , กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาต้องมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตส่วนตัว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะเฝ้าสังเกตอยู่เสมอและจะลงมือหากมีโอกาส , หัวหน้าหน่วยต้องนำบทเรียนการรบ ในแต่ละเหตุการณ์ไปสอนและกำชับการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ทราบยุทธวิธีของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกระทำต่อหน้าที่ พร้อมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจทุกนายในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อย่าเสียขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่

จากนั้น พล.ต.ท.สำราญ ได้เดินทางต่อไปยัง่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว พร้อมกับมอบเงินสวัสดิการตำรวจแก่ข้าราชการตำรวจที่ได้บาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกำชับแนวทางการปฏิบัติต่อกำลังพลในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง ไม่สร้างเงื่อนไขในพื้นที่ สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชน

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี “สงกรานต์ช่วงเทศกาลปลอดภัย เที่ยวพัทยาอุ่นใจ”

วานนี้ (3 เม.ย. 67) เวลา 19.00 น. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ภายใต้ยุทธการ “สงกรานต์ปลอดภัย เที่ยวพัทยาอุ่นใจ“ ณ ลานแยกชายหาดพัทยา (นิภาลอดจ์) เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมี พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 , พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี , นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา , นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง และข้าราชการตำรวจ  ทหาร ฝ่ายปกครองและอาสาสมัคร เข้าร่วมพิธี

พล.ต.ท.อัคราเดช ฯ เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรม  ดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 นั้น เพื่อให้การดำเนินการตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการรักษาความสงบในพื้นที่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีจึงกำหนดให้มีพิธีปล่อยแถว ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ประจำปี 2567 “สงกรานต์ปลอดภัย เที่ยวพัทยาอุ่นใจ ” โดยบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน 

จากนั้น พล.ต.ท.อัคราเดช ฯ พร้อมคณะ ได้เดินแจกโบรชัวร์การเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน “PATTAYA SAFETY” เพื่อบริการประชาชนและนักท่องเที่ยวในเรื่องการแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแสออนไลน์ 24 ชั่วโมง โดยสามารถติดตามสถานการณ์การแจ้งเหตุด้วยปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน พูดคุยผ่านแชทสดกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งรองรับสองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น ทันสมัย ใช้งานง่าย

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมพิธีปิดฉาก "สองเล เกมส์" – นักกีฬาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 ครองถ้วยพระราชทานฯ คะแนนรวมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

วานนี้ (25 เมษายน 2567) เวลา 16.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ครั้งที่ 10 ประจำปี 2567  "สองเลเกมส์" ที่สนามกีฬาราชนิเวศน์กรีฑาสถาน กองกำกับการ 1 กองบังคับการฝึกพิเศษ (ค่ายพระรามหก) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยมี ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา , พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  พร้อมคณะผู้บริหาร และผู้ร่วมการแข่งขัน ร่วมในพิธี

การแข่งขันในครั้งนี้ มีกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 เมษายน 2567 มีการชิงชัย 7 ชนิดกีฬา คือ กรีฑา แชร์บอล เซปักตะกร้อ เปตอง ฟุตบอล 7 คน วอลเลย์บอล สแต็ค และกีฬาพื้นบ้าน  มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่กว่า 1,400 คน จากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 222 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน

สำหรับผลการแข่งขันฯ รางวัลชนะเลิศคะแนนรวม ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4  (29 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 15 เหรียญทองแดง) และกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1, 2 และ 3 ตามลำดับ

ในช่วงท้ายได้มีพิธีส่งมอบธงการแข่งขันกีฬาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ให้กับกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันในปีหน้า

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจและสังเกตการณ์การบริหารจราจรหน้าโรงเรียน 3 แห่ง กำชับตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกและเร่งระบายรถ เพื่อไม่ให้กระทบกับการจราจรภาพรวม

วันนี้ (21 พฤษภาคม 2567) เวลาประมาณ 05.45 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กำกับดูแลงานจราจร ได้เดินทางไปตรวจสอบและสังเกตการณ์การบริหารงานจราจร บริเวณหน้าโรงเรียน 3 แห่งในกรุงเทพมหานคร ที่ตั้งอยู่บนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน ได้แก่ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ถ.สามเสน , โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ คอนแวนต์ ถ.ราชวิถี เขตดุสิต และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ถ.สาธร แขวงสีลม เขตบางรัก โดยมี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิต ผู้บังคับการตำรวจจราจร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร , สถานีตำรวจนครบาลสามเสน , สถานีตำรวจนครบาลดุสิต และสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา ร่วมตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์

จากการตรวจสภาพการจราจรและการอำนวยการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ ในทุกจุดที่ตรวจเยี่ยม ภาพรวมพบว่ามีผู้ปกครองจำนวนมากขับรถมาส่งบุตรหลานที่โรงเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางโรงเรียน ผู้ปกครองจิตอาสา ช่วยกันบริหารจัดการการรับ-ส่งนักเรียนให้เกิดความรวดเร็ว ไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้ทางสัญจรบนถนนร่วม ทำให้การจราจรมีความคล่องตัว ทั้งนี้ ได้มีผู้ปกครองร่วมพูดคุยถึงสภาพปัญหาการจราจรในบางจุดที่อาจมีปัญหา ซึ่ง พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้กำชับให้ตำรวจจราจรประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดูแลอำนวยความสะดวกการจราจรให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด

นอกจากนี้ ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน อาจมีฝนตกในชั่วโมงเร่งด่วน หรือมีน้ำท่วมขังบางจุด ส่งผลให้มีปัญหาการจราจรได้ ขอให้ตำรวจจราจรได้ระดมกำลังออกไปอำนวยการจราจร ให้ความช่วยเหลือ แก้ไขสถานการณ์ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน อย่างเต็มกำลัง 

ทั้งนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ ได้ขอบคุณทีมงานเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ร่วมกันบริหารจัดการจราจรอย่างเป็นระบบ เกิดความสะดวกและปลอดภัยต่อตัวนักเรียนและประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว พร้อมให้กำลังใจตำรวจจราจรทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมภาคีเครือข่าย มอบรางวัลพลเมืองดีส่งคลิปผู้ขับขี่ฝ่าฝืนกฎหมายตาม “โครงการอาสาตาจราจร” ผู้ช่วย ผบ.ตร.เน้นย้ำเคารพกฏเพื่อลดอุบัติเหตุ “จราจรสอนวินัยชาติ”

วันนี้ (27 มิ.ย. 67) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ , คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) , คุณนิตยา ลีธีระกุล ผู้แทน สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 , คุณอัจฉรา บัวสมบูรณ์ ผู้แทน สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมแถลงผลการมอบรางวัล และเกียรติบัตรโครงการอาสาตาจราจร โดยมอบรางวัลให้กับประชาชนเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ ที่บันทึกอุบัติเหตุทางถนนหรือการกระทำผิดกฎจราจรที่สำคัญ ประจำเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2567 รวมรางวัลทั้งสิ้น 20 รางวัล เงินรางวัลสูงสุด 20,000 บาท รวมเงินรางวัลที่จะมอบในวันนี้ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท โดยบริษัท วิริยะประกันภัย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสร้างการตระหนักรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร การมีส่วนร่วมดังกล่าวเป็นการสร้างมาตรฐานทางสังคมให้เกิดความยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งร่วมขับเคลื่อนสังคมให้น่าอยู่ โดย “จราจรสอนวินัยชาติ” โครงการนี้ทำให้กระตุ้นเตือนภาคประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนให้มีความระมัดระวัง ทุกวินาทีมีผู้เสียชีวิตได้เสมอ และต้องขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกองค์กรที่ร่วมสนับสนุนโครงการมาโดยตลอด นับแต่เริ่มโครงการมาจนถึงปัจจุบัน สังคมมีความตื่นตัว มีคลิปการกระทำผิดกฎจราจรจากภาคประชาชนส่งมาให้คณะทำงานพิจารณาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเบาะแสเหล่านี้ แสดงถึงความสนใจ ใส่ใจกับปัญหาการจราจร และจะเป็นการขับเคลื่อนที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับผู้ใช้ทาง สำหรับผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดี โครงการนี้มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ ยับยั้งชั่งใจในการกระทำความผิด เพื่อมุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ต้องการไปจับกุมใคร หรือให้ใบสั่งใคร แต่จะเน้นการเตือน จดชื่อ-นามสกุล หมายเลขทะเบียนรถ เก็บไว้ในระบบ หากพบการกระทำผิดเกิน 3 ครั้ง จึงจะดำเนินการจับปรับ ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมนั้นจะสามารถตรวจสอบประวัติของตนเองได้ด้วย ตำรวจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในเรื่องของการควบคุมและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุคือความเสี่ยง ที่อาจสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้

และในช่วงนี้เป็นช่วงเปิดภาคการเรียน สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เพิ่มความระมัดระวังในขณะขับขี่บริเวณโดยรอบสถานศึกษา โดยเฉพาะบริเวณทางข้าม หรือ ทางม้าลาย ขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ลดความเร็วในการขับขี่ ชะลอความเร็วเมื่อเข้าเขตทางข้าม และหยุดรถให้ นักเรียน นักศึกษา และคนเดินเท้า ทุกครั้ง สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทั้งผู้ปกครอง และเยาวชนให้สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยขอให้สถานศึกษาทุกแห่งมีมาตรการกระตุ้นเตือน จัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ใช้รถใช้ถนนตามกฎแห่งความปลอดภัย

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรมายังช่องทางที่หลากหลาย ได้แก่ เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง  เพจกองบังคับการตำรวจจราจร รวมถึงเพจเครือข่ายที่ร่วมโครงการ ทั้งเพจมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 และ จส.100  คลิปที่มีเนื้อหาน่าสนใจผ่านการคัดเลือก นอกจากได้รับเงินรางวัลแล้ว ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะพลเมืองดี ช่วยส่งพยานหลักฐานเพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด เป็นส่วนหนึ่งในการลดอุบัติเหตุทางถนน

“พล.ต.ท.ประจวบฯ” ยกระดับงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ บช.น. พร้อมตรวจเยี่ยมกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน

วันนี้ (19 สิงหาคม 2567) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.) มอบนโยบายพร้อมขับเคลื่อนและกำชับการปฏิบัติงาน ความมั่นคงและกิจการพิเศษ แก่หน่วยกองบัญชาการตำรวจนครบล (บช.น.) ณ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ตรวจเยี่ยมและมอบของบำรุงขวัญแก่กำลังพล กก.อารักขา 1 และ 2, กก.ควบคุมฝูงชน 1 และ 2, กองร้อยน้ำหวาน, ชุดตอบโต้, ชุดช่างสนาม และชุดพยาบาลสนาม พร้อมเยี่ยมชมและตรวจความพร้อมของยานพาหนะและยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติภารกิจของ บก.อคฝ. โดยมี ผู้แทน บช.น., บก.อคฝ., รอง ผบก.ที่รับผิดชอบงาน มค และ กศ, ผบ.ร้อย คฝ. ในสังกัด บช.น. พร้อมข้าราชการตำรวจ บก.อคฝ. ร่วมให้การต้อนรับและรับฟังนโยบาย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ ที่มุ่งให้ความสำคัญในการเทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างสูงสุด โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน รักษาความมั่นคงของประเทศ และสร้างความสงบเรียบร้อยแก่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า งานความมั่นคงและกิจการพิเศษ มีความสำคัญยิ่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องรับผิดชอบและถือปฏิบัติให้เรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะภารกิจการถวายความปลอดภัยจะเกิดความผิดพลาดไม่ได้ บช.น.ถือเป็นหน่วยงานที่สำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นหน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันเป็นเมืองหลวง และมีที่ตั้งของสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น เขตพระราชฐาน สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ ตลอดจนเป็นพื้นที่ที่มีบุคคคลสำคัญพำนัก พักอาศัยอยู่จำนวนมาก และเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ถือเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของประเทศ การปฏิบัติภารกิจในงานความมั่นคงและกิจการพิเศษของ บช.น. จึงถือเป็นสิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ

ในโอกาสนี้ พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้มอบนโยบายด้านงานถวายความปลอดภัย โดยต้องถือหลัก "ปลอดภัยสูงสุด สมพระเกียรติ เป็นไปตามพระประสงค์ และส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด" ต้องติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการสร้างความเสียหายให้กับสถาบัน และส่งมอบข่าวให้กับหน่วยที่มีหน้าที่ ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ แผน ในการปฏิบัติภารกิจถวายความปลอดภัย ทั้งในส่วนของเขตพระราชฐานที่ประทับ หรือในการเสด็จพระราชดำเนิน และต้องมีการประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่เสมอ รวมทั้งให้มีการซักซ้อมและทบทวนการปฏิบัติตามแผน กำลังพลต้องมีความพร้อมทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ การแต่งกาย บุคลิกภาพ และทัศนคติที่ดีต่อสถาบัน ตลอดจนอุปกรณ์และยานพาหนะต้องมีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานและเพียงพอกับภารกิจ

ในส่วนด้านงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ เช่น งานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญ งานจราจร งานบรรเทาสาธารณภัย งานดูแลการชุมนุมสาธารณะ งานกำกับดูแลนักท่องเที่ยว งานอาชญากรรมข้ามชาติ งานต่อต้านการก่อการร้าย งานตรวจคนเข้าเมือง ต้องศึกษาทำความเข้าใจเนื้องานในความรับผิดชอบ มีการสำรวจข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่ (IPB) จัดเก็บสารบบบุคคลกลุ่มเสี่ยง และปรับปรุงฐานข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ในส่วนของคนไทยต้องทราบข้อมูลทั้งในส่วนบุคคลท้องถิ่นและผู้ย้ายถิ่น ส่วนคนต่างชาติ หากเป็นกรณีนักท่องเที่ยวต้องมีการประสานงานกับผู้ให้บริการที่พักและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ส่วนคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานก็ต้องมีการประสานงานกับเจ้าของแรงงานนั้นและกระทรวงแรงงาน มีการวิเคราะห์ภัยคุกคามและแสวงหาข้อมูลด้านการข่าว และต้องพร้อมปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายในทุกสถานการณ์

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ประจวบฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจด้านงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ อย่างเสียสละและเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอด ขอเป็นกำลังใจและพร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติอย่างเต็มที่ และมีความมุ่งหวังว่าการระดมสรรพกำลังของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและทุกภาคส่วน ในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย จะประสบผลสำเร็จ ตอบสนองนโยบายรัฐบาล ประชาชนและสังคมมีความสงบเรียบร้อย มั่นคงอย่างยั่งยืนสืบไป

พระราชทานเพลิง ตชด.พลีชีพ จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด มอบธงไตรรงค์ สดุดีความกล้าหาญและเสียสละเพื่อประเทศชาติ

วันที่ (4 ม.ค. 68) เวลา 14.00 น. ที่วัดวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ  สิบตำรวจโท สรวิศ ฉ่ำชื่น ผบ.หมู่ กก.ตชด.44 (ร้อย ตชด.448) ปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ ร้อย ฉก.ตชด.441 ซึ่งพลีชีพจากเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง พร้อมทั้งใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาด ซุ่มยิง ขณะเดินทางโดยใช้รถยนต์บรรทุกหุ้มเกราะ เพื่อไปยังกองร้อย ตชด.441 ( วัดบันนังกระแจะ ) จ.ยะลา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมี พลตำรวจโท นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) พลตำรวจตรี บรรพต มุ่งขอบกลาง รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (รอง ผบช.ตชด.) ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทหาร ส่วนราชการในพื้นที่ ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดนและพี่น้องประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก

สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้ จัดขึ้นอย่างสมเกียรติเพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อครอบครัวของสิบตำรวจโท สรวิศ ฉ่ำชื่น อย่างหาที่สุดมิได้ โอกาสนี้ พลตำรวจโท สำราญ ได้พูดคุยให้กำลังใจแก่ครอบครัว พร้อมมอบธงไตรรงค์ เพื่อแสดงความกล้าหาญและเสียสละต่อประเทศชาติ  และมอบเงินสวัสดิการ เงินบำรุงขวัญและเงินช่วยเหลือให้แก่ทายาท

การเสียชีวิตของสิบตำรวจโท สรวิศ นับว่าเป็นความสูญเสียของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นการสละชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาเลื่อนขั้นสูงขึ้น เป็น พันตำรวจตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว และขอสดุดีในคุณงามความดีของ สิบตำรวจโทสรวิศ ฉ่ำชื่นที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละตนเพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต 

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ประชุมติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ในห้วงเดือนรอมฎอน

(15 มี.ค.68) เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร./ผบ.ศปก.ตร.สน.) ได้เดินทางไปยังประชุมติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ในห้วงเดือนรอมฎอน(ถือศีลอด) และนำความห่วงใยของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มาแจ้งแก่กำลังพล ณ ห้องประชุม war room ศปก.ตร.สน. จังหวัดยะลา โดย มี พล.ต.ท.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ9/รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น./รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. , พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9/รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. , พล.ต.ต.ธเรศ แก้วละเอียด รอง ผบช.ภ.9/รอง ผบ.ศปก.ตร.สน. , พล.ต.ต.ณฐกรณ์ กาญจนภรณ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา , พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี , พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส , พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฏ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา , พล.ต.ต.ยุทธพงษ์ ทองนุ้ย ผบก.ศฝร.ภ.9 , พล.ต.ต.อนุราช จิตศีล ผบก.สพฐ.10 ฝ่ายสืบสวน/อำนวยการและสนับสนุน และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม พร้อมทั้งหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรทั้ง 62 แห่ง ร่วมประชุม ผ่านระบบ zoom

ในการประชุมได้เน้นเรื่องการกำหนดแผนให้ครอบคลุม ครบถ้วนตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ จากนั้นมอบหมาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ที่รับผิดชอบพื้นที่ ลงรายละเอียดเพื่อช่วยหัวหน้า สภ.ทุกแห่ง กำกับดูแลพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนมาตรการต่างๆ ของทุกส่วนรับผิดชอบเพื่อลดความสูญเสียของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรักษาความสงบปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ได้อย่างแท้จริง เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

จากนั้น พล.ต.ท.สำราญฯ พร้อมคณะ ได้ออกตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญและทบทวนการปฏิบัติ การซ้อมแผนเผชิญเหตุ จากการถูกซุ้มโจมตี ของ มว.ฉก.ตร.ยะลา 9121 (เมืองยะลา) และ มว.ฉก.นปพ.ยะลา 13 (กรงปินัง) และรับข้อเสนอ จากผู้ปฏิบัติ ด้านอาวุธ อุปกรณ์ โดยจะได้สนับสนุน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของหน่วย ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อไป

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ สภ.สัตหีบ ที่บาดเจ็บจากการระงับเหตุทะเลาะวิวาท

(25 มี.ค. 68) เวลา 16.30 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ ระดับ ตร./ประธานที่ปรึกษาโครงการ “ครอบครัวตำรวจ เราไม่ทิ้งกัน” (ด้านตำรวจทุพพลภาพ) พร้อมด้วย ผศ.ดร.สุเนตร สุวรรณละออง รองประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทนประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 , พ.ต.อ.อรรถพล พงษ์สุพรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และคณะแม่บ้านชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ ร.ต.ต.ภาสกร ภาชูระเบียบนา รอง สวป.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาทและช่วยเหลือหญิงสาวคนหนึ่ง ที่บ้านพักในพื้นที่หมู่ 4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและชิงอาวุธปืน แล้วหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ 

ในโอกาสนี้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ พร้อมด้วย คุณนภัสนันท์ฯ , ผศ.ดร.สุเนตรฯ และคณะแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 2 ได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคและเงินช่วยเหลือ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ ร.ต.ต.ภาสกรฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top