Wednesday, 4 June 2025
ผลบอล

‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่จากสเปน ครองเจ้ายุโรปสมัยที่ 15 เอาชนะ ‘เสือเหลือง’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี 2-0

(2 มิ.ย.67) เกมที่สนามนิว เวมบลีย์ มหานครลอนดอน อังกฤษ ‘ดอร์ทมุนด์’ ต้องเจ็บปวดที่สนามแห่งนี้เป็นคำรบที่ 2 หลังจากเคยแพ้ บาเยิร์น 1-2 เมื่อปี 2013 มาในครั้งนี้พวกเขามีโอกาสมากกว่าบานตะไทในครึ่งแรก โดยเฉพาะการเล่นหนามยอกเอาหนามบ่ง

บอลทะลุไลน์ที่เป็นจุดเด่นของ เรอัล มาดริด วันนี้โดน ดอร์ทมุนด์ ดักได้ดีและมีวินัยสูงมาก แค่ครึ่งชั่วโมงแรก โดน ดอร์ทมุนด์ แทงตัดขั้วหัวใจไปแล้ว 3 ที ดีที่ไม่เสียประตู

มาดริด ครองบอลมากกว่าแต่ ‘ตัวทำ’ อย่าง จู๊ด เบลลิ่งแฮม ไร้บทบาท และ ‘ตัวจ่าย’ อย่าง โทนี่ โครส ไม่มีโอกาส

ดอร์ทมุนด์ เล่นได้ดีมากกับแผนการปิดพื้นที่ได้เหนียวแน่น ทุกคนวินัยสูงมาก และมีโอกาสทำประตูจะแจ้งกว่าโดยเฉพาะบอลทะลุถึง 4 ครั้ง แต่เมื่อทำไม่ได้ ทุกคนเห็นภาพซ้ำเดิม ๆ ในครึ่งหลัง เปิดครึ่งหลังมา 15 นาทีแรก

จังหวะบอลของ เรอัล มาดริด เร็วขึ้นและแรงขึ้น บีบพื้นที่ขึ้นมาสูงขึ้น และฟรีคิกของ โทนี่ โครส เกือบเสียบตาข่าย แต่ ดอร์ทมุนด์ ยังคงอยู่ในแผนที่ดี โดยเฉพาะการเล่นเป็นกลุ่ม กระทั่ง คาริม อเดเยมี่ วิ่งจนหมดถูกปรับทัพคนแรก ด้วยการส่ง  มาร์โก้ รอยส์ อดีตกัปตันทีมลงสนาม
แต่แค่ไม่ถึงสองนาที นาฬิกาเดินมา นาทีที่ 73.14 เรอัล มาดริด นำจนได้ 1-0 จากลูกเตะมุม

ดานี่ คาร์บาฆาล ขึ้นไปโหม่งที่เสาแรกเสียบตาข่าย เป็นประตูแรกของเขาในการเตะยูซีแอลตลอด 9 ปีที่่ผ่านมา แต่เป็นประตูทองจริง ๆ ต้นครึ่งหลัง เขามีโอกาสได้โหม่งจุดเดิมจุดเดียวแบบนี้มาแล้ว แต่ข้ามคาน และหนนี้ฉีกมาอยู่จุดมาร์กจุดเดิม ซึ่งไม่พลาด

แล้วไม่กี่นาทีต่อมา หลังจาก ดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจเกหมดหน้าตัก ก็มาพลาดเองเมื่อ มาตเซ่น ที่เล่นได้เด่นตลอดครึ่งซีซั่นหลัง ไปจ่ายบอลขวางสนาม ทำให้พวกเขาสังเวียประตูที่ 2 ให้กับ วินิซิอุส นาทีที่ 83

ปีกแซมบ้า วัย 23 ปี 325 วัน ทำสถิติเป็นนักฟุตบอลอยู่น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงในแชมเปียนส์ลีกสองสมัย แซงหน้า ลีโอเนล เมสซี่ ไปแล้ว โดยทำไว้ 23 ปี 338 วัน

ดอร์ทมุนด์ ดีที่สุดเกมนี้คือ ความวูบวาบ และปิดโอกาสของอดีตเด็กเก่าอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม ได้อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาทิ้งโอกาสสำคัญ ซึ่งเกมใหญ่ขนาดนี้มันพลาดไม่ได้

ติบอร์ กูร์กตัวส์ นายประตูเรอัล มาดริด โชว์เกมใหญ่อีกครั้ง หลังจากไม่ได้เล่นเลยด้วยซ้ำในปีนี้ถ้วยนี้ แต่กลายเป็นฮีโร่ เซฟให้ทีมจะ ๆ อย่างน้อย 4 ครั้ง ก่อนทำให้ทีมอยู่ในเกมและก้าวไปสู่ชัยชนะ ไม่รู้ว่าใครจะเบื่อขั้นไหน แต่นี่คือความสำเร็จที่น่ายกย่องอีกครั้งของ เรอัล มาดริด กับแชมป์สมัยที่ 15

‘มาดามแป้ง’ เผย ‘นักเตะทีมชาติไทย’ ไร้ปัญหาการปรับตัวที่ ‘จีน’ ดูแลอย่างดี!! ‘ที่พัก-อาหาร-การเดินทาง’ เพื่อพร้อมลุยบอลโลก

(3 มิ.ย.67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่าในส่วนของเรื่องนอกสนาม ทีมชาติไทย มีความพร้อมเต็มที่ โดยไม่มีปัญหาต้องปรับตัวที่ประเทศจีน ทั้งในแง่สภาพอากาศ และ อาหารการกิน เพราะมีเชฟคนไทยคอยประจำทุกวัน ก่อนเกมสำคัญ เตรียมพบกับ ทีมชาติจีน ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5

มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ มีนโยบายให้ความสำคัญเรื่องนอกสนามเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทีมชาติ เดินทางมาตรวจเช็คความพร้อม ที่พัก , สนามซ้อม และ สนามแข่งขัน ล่วงหน้า ส่วนการบินมาที่ เมืองเสิ่นหยาง ครั้งนี้ ยังได้ประสานกับทาง TOA ช่วยอำนวยความสะดวก เดินทางแบบเช่าเหมาลำ ทั้งไปและกลับด้วย

มาดามแป้ง กล่าวว่า เรื่องนอกสนาม เป็นสิ่งที่ พูดอยู่เสมอว่าเราให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเชื่อว่าถ้านอกสนามเราพร้อมเต็มที่ ก็จะส่งผลดีต่อฟอร์มการเล่นในสนาม และ ช่วยให้ทีมโค้ชอิชิอิ เค้นศักยภาพ และ ทำงานร่วมกับนักเตะได้ง่ายขึ้น
 
“ทีมชาติไทย เดินทางถึงเมืองเสิ่นหยาง เป็นที่เรียบร้อย ในฐานะนายกสมาคมฯ ต้องขอบคุณ TOA อีกครั้ง ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ส่วนในแง่การปรับตัวด้านอื่น ๆ เท่าที่ แป้ง พูดคุยกับโค้ชอิชิอิ ก็ไม่มีปัญหา เพราะสภาพอากาศ ไม่ต่างจากที่ไทย , เวลาต่างกันแค่ 1 ชั่วโมง และ สนามซ้อมก็อยู่ในสภาพที่ดี รวมถึง ที่พัก ก็มีเชฟไทยคอยประจำทุกวัน ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเราส่งเจ้าหน้าที่ มาเช็คล่วงหน้า ยืนยันว่าทุกคนแฮปปี้ กินอิ่มหลับนอนได้เต็มที่ ก่อนเกมสำคัญ ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้“ มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีโปรแกรมต้องทำการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5 พบกับ ทีมชาติจีน ที่ เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ สเตเดียม ประเทศจีน วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐ ทีวี ทั้งสองนัด

หนุ่มน้อยนักเตะ ‘รร.กีฬาหนองคาย’ ดังไกลถึง ‘พรีเมียร์ ลีก’ หลังเป็นไวรัล!! มีคนนำไปเทียบ ‘เทรนท์-แจ็ค กรีลิช-เมซุต โอซิล’

(19 ต.ค. 67) เหตุเกิดในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คนชิงแชมป์ 7 สี เมื่อวันก่อนซึ่ง โรงเรียนกีฬาหนองคาย ถล่ม หนองกี่พิทยาคม จาก บุรีรัมย์ ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 แต่ทุกคนกลับติดภาพจำจังหวะที่ไม่เป็นประตูเมื่อ ชญานนท์ กะมุตะเสน นักเตะตัวรุกของทีมผู้ชนะได้ลากเลื้อยเข้าไปยิงเต็มข้อ พร้อมหันมาทำท่าดีใจด้วยการทำนิ้วรูปตัว N โดยไม่ได้ดูว่า ลูกบอลเจ้ากรรมถูกคู่แข่งสกัดได้บนเส้นประตู

เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็น ไวรัล ทำเป็นคลิปแชร์ว่อนโซเชียล เกิดมีมต่าง ๆ มากมาย ถึงขั้นสกรีนลวดลายบนเสื้อยืดยังมี กระทั่งล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พรีเมียร์ลีก ได้นำรูปของ ชญานนท์ มาโพสต์แบบ 4 ช่องเคียงข้างท่าดีใจของสตาร์ดังทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา ลิเวอร์พูล, แจ็ค กรีลิช ปีกทีมชาติอังกฤษสมัยสังกัด แอสตัน วิลล่า และ เมซุต โอซิล อดีตจอมทัพ อาร์เซนอล

พร้อมกันนั้นยังโพสต์แคปชันข้อความแบบปั่น ๆ พลางให้กำลังใจในเวลาเดียวกันว่า ‘ไม่เป็นไรนะน้อง...อย่างน้อยเราก็เท่’

‘อาร์เนอ’ เปิดใจหลัง ‘ลิเวอร์พูล’ แซงชนะ ‘ไบรตัน’ อวย!! ลูกทีมเต็มที่ ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง ‘หนังคนละม้วน’

(3 พ.ย. 67) ‘ลิเวอร์พูล’ โกงความตายอีกแล้ว พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง ไบรตัน ไปก่อน 0-1 จากประตูของ แฟร์ดี คาดิโอกลู ในนาที 14 กลับมายิงสองลูกรวดช่วงครึ่งหลังจาก โคดี กักโป นาที 69 และโมฮาเหม็ด ซาลลาห์ นาที 72 แซงชนะ 2-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ ‘หงส์แดง’ เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนนจาก 10 นัดแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้งหลังมีแต้มมากว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ 2 คะแนนในจำนวนนัดเท่ากัน ส่วน ไบรตัน หยุดอยู่ที่ 16 คะแนนจาก 10 นัดอยู่อันดับ 7 ตาราง

หลังเกม อาร์เนอ ซึ่งทำสถิติเป็นเฮดโค้ชของ ลิเวอร์พูล คนแรกที่พาทีมชนะในลีก 8 จาก 10 นัดแรก กล่าวถึงผลงานของทีม รวมถึงการขึ้นไปครองจ่าฝูงว่า 

“เราต้องการฟอร์มการเล่นในครึ่งหลังอีกครั้ง เพราะเราเล่นได้แย่ในครึ่งแรก พวกเขาเล่นได้ดีขึ้นเมื่อครองบอล เล่นเกมรุกได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีบอล จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในครึ่งหลังเพราะมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”

“กองหน้าของเรายิงประตูได้ แต่ความแตกต่างหลักคือเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า และได้บอลมากขึ้น เมื่อไม่มีบอล พวกเขาสร้างปัญหาให้เรา แต่ในครึ่งหลังเรายังคงวิ่งต่อไป”

“(เกี่ยวกับตำแหน่งจ่าฝูง) มันสำคัญกว่าหากคุณเล่นกับ อาร์เซนอล ในสนามของพวกเขา และคุณสามารถเสมอได้นอกบ้าน ไบรตัน ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน พวกเขาแสดงให้เห็นในฤดูกาลนี้ หากคุณเผชิญหน้ากับทีมแบบนี้ และตามหลังอยู่ 1-0 และสามารถกลับมาชนะ 2-1 ซึ่งในความคิดของผม มันสมควรแล้ว มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น และมากกว่าตำแหน่งที่เราอยู่ตอนนี้”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 46 ปียังอัพเดตอาการบาดเจ็บของ อิบราฮิมา โคนาเต กองหลังคนสำคัญซึ่งมีอาการเจ็บที่แขน และค้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งแรกว่า 

“เขาเจ็บมากในช่วงพักครึ่ง ดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนตัว สิ่งดีคือเรามีตัวสำรองสองคนซึ่งดีมากคือ โจ โกเมซ และจาเรลล์ ควานซาห์ ผมเลือก โจ ในวันนี้เพราะ จาเรลล์ เหนื่อยมาก และเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ผมคิดถูก เพราะเขาเล่นได้โดดเด่นในครึ่งหลัง”

‘โอลิมปิก ลียง’ ถูกปรับตกชั้นไปเล่น ‘ลีก เดอซ์’ หลังมีหนี้สินมหาศาล!! เกือบ 20,000 ล้านบาท

(16 พ.ย. 67) หน่วยงานกำกับดูแลวงการฟุตบอลฝรั่งเศส สั่งปรับตกชั้น โอลิมปิก ลียง สโมสรชั้นนำในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส เป็นการชั่วคราว เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ฐานกระทำผิดกฎทางการเงินอย่างร้ายแรง

นอกจากถูกสั่งให้ลงไปเล่นใน ลีก เดอซ์ แล้ว ลียง ยังโดนห้ามซื้อ-ขายนักเตะอีกด้วย ซึ่งถ้าหากพวกเขาไม่สามารถชำระหนี้ได้หมดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลปัจจุบัน ก็จะถูกปรับตกชั้นจากเวที ลีก เอิง อย่างเป็นทางการ 

ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า ตอนนี้ ลียง มีหนี้สินเพิ่มจาก 458 ล้านยูโร (ประมาณ 16,946 ล้านบาท) เป็น 508 ล้านยูโร (ประมาณ 18,796 ล้านบาท) เรียบร้อย 

สำหรับ โอลิมปิก ลียง ถือเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลเมืองน้ำหอม และประสบความสำเร็จอย่างมากช่วงต้นยุค 2000 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ ลีก เอิง ได้ถึง 7 สมัย (2000/01, 2002/03, 2003/04, 2004/05, 2005/06, 2006/07 และ 2007/08)

‘ผีแดง’ แพ้!! ‘ฟอเรสต์’ คาบ้าน 2-3 ปราชัย!! ในลีก 2 นัดติดต่อกันแล้ว

(8 ธ.ค. 67) ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม พลาดท่าพ่าย น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คาบ้าน 2-3 ปราชัยในลีก 2 เกมติดต่อกัน

เกมดังกล่าว น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น นิโคลา มิเลนโควิช โขกเข้าไป อย่างไรก็ดี แมนฯ ยู มาตีเสมอ 1-1 จากราสมุส ฮอยลุนด์ และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ออกนำอย่างรวดเร็วอีกครั้ง 2-1 จากลูกยิงนอกกรอบสุดสวยของ มอร์แกน กิ๊บส์ ไวท์ น.47 ก่อนจะมาบวกสกอร์เพิ่มหนีห่าง 3-1 จากลูกโหม่งของ คริส วูด น.54

แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ได้ประตูตีตื้นมาเป็น 2-3 จากจังหวะที่ อาหมัด ดิยัลโล่ จ่ายย้อนกลับมาที่หัวกะโหลกให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าถิ่นพยายามโหมบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูคืน แต่จบสกอร์ไม่เฉียบคมพอ สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ คาบ้าน 2-3 ปราชัย 2 เกมติดต่อกัน รั้งอันดับ 13 ของตาราง มี 19 คะแนน จาก 15 นัด ส่วน ‘เจ้าป่า’ มี 25 แต้ม รั้งอันดับ 5

'ช้างศึก' กลับถึงบ้านเกิด พร้อมความมั่นใจเกินร้อย!! 'ปฏิวัติ' ลั่น!! พร้อมสู้เพื่อแชมป์ ต่อหน้าแฟนบอลชาวไทย

เมื่อวานนี้ (3 ม.ค. 68) เวลา 18.30 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเสร็จภารกิจการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 หรือ ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก กับทีมชาติเวียดนาม

โดย ทีมชาติไทย เพิ่งบุกไปพ่ายเวียดนาม ในนัดแรก ที่ เวียด จี๋ สเตเดียม ด้วยสกอร์ 1-2 ซึ่งหลังจากนี้จะกลับมาฟื้นฟูร่างกายและฝึกซ้อมต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเกมนัดที่สอง

หลังเดินทางถึง ‘ปฏิวัติ คำไหม’ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าวว่า “มันยังมีอีกเกมให้เราแก้ตัว พี่นิว (พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี) พยายามปลุกใจ ให้นักเตะทุกคนมั่นใจว่าเราสามารถกลับมาได้ เราต้องทำเต็มที่ ต้องสู้ต่อในเกมสุดท้าย”

“ไม่ว่าจะเจอใครเราต้องรัดกุมอยู่แล้ว แต่ต้องเน้นให้มันมากขึ้น เพราะมันเป็นเกมสุดท้ายของเรา เกมที่จะส่งผลว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ได้แชมป์ หลังจบเกมโค้ชอิชิอิ บอกว่าเราต้องสู้ ผ่านมาเจ็ดเกมแล้ว เหลืออีกแค่นัดเดียว ไม่มีทางอื่น ต้องก้มหน้าก้มตาสู้อย่างเดียว”

“ผมมั่นใจครับ เพราะถ้วยมาที่ไทยแล้ว มั่นใจว่าเราจะได้ ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่คอยซัพพอร์ตพวกเรา เกือบ 50,000 คนที่จะมาในสนาม ขอบคุณมากครับ พวกเราจะสู้ให้เต็มที่ที่สุด มันเป็นเกมนัดสุดท้ายของพวกเราด้วย เราอยากได้แชมป์ เราจะสู้เต็มที่ต่อหน้าแฟนบอลชาวไทย”

โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย จะทำศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบชิงชนะเลิศ เลกสอง พบกับ ทีมชาติ เวียดนาม ที่ สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 5 มกราคม 2568 เวลา 20.00 น. 

ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, AIS PLAY, True sport2 ช่อง 667

มาร่วมกันเชียร์บอลไทยไปด้วยกัน

อดีตนาวิกโยธินอังกฤษ วัย 53 ปี ถูกตั้งข้อหาหนัก!! หลังขับรถพุ่งชนฝูงชน!! ในงานฉลองแชมป์ลิเวอร์พูล

(31 พ.ค. 68) Amthaipaper (หนังสือพิมพ์ไทยในอังกฤษ) รายงานว่า ชายชาวอังกฤษนาม Paul Doyle วัย 53 ปี จากย่าน West Derby เมืองลิเวอร์พูล อดีตนาวิกโยธินของกองทัพอังกฤษ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาหลายกระทง หลังจากเขาขับรถพุ่งชนกลุ่มแฟนบอลจำนวนมากในงานขบวนแห่ฉลองแชมป์ของสโมสร Liverpool FC จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง เกือบ 80 คน บางรายอาการสาหัส

แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในช่วงขบวนแห่ที่ผู้คนหลั่งไหลกันมานับหมื่น แต่นาย Doyle ไม่ได้มาร่วมขบวนแห่แชมป์ ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น เขาขับรถมาส่งเพื่อนที่บริเวณใกล้เคียงจุดจัดงาน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าพฤติกรรมของเขาในขณะนั้นเป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าหรือเกิดขึ้นด้วยเหตุอื่น

จากรายงานของตำรวจและสื่อหลายสำนัก นาย Paul Doyle ถูกตั้งข้อหาดังนี้
• ขับรถโดยประมาทอันตราย (Dangerous driving)
• ทำร้ายร่างกายสาหัสโดยเจตนา (Grievous bodily harm – GBH – with intent)
• พยายามทำร้ายร่างกายสาหัส (Attempted GBH)
• และทำร้ายร่างกายโดยมีเจตนา (Wounding with intent)

Paul Doyle คือใคร

Paul Doyle เป็นอดีตทหาร Royal Marine ที่เคยรับใช้ชาติ แต่หลังปลดประจำการ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในฐานะ คุณพ่อลูกสาม และถูกมองว่าเป็น คนรักครอบครัว (family man) โดยผู้ที่รู้จักใกล้ชิด

ภาพของเขาที่ยิ้มแย้ม นั่งเล่นกับลูก ๆ หรือสวมหมวกปาร์ตี้ในบรรยากาศครอบครัว ถูกนำมาเปรียบเทียบกับภาพขณะนั่งอยู่หลังพวงมาลัยในรถที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งสร้างความสับสนและตกใจให้กับสาธารณชนอย่างมาก

แม้จะมีบุคลิกดูอ่อนโยนและไม่มีประวัติน่ากังวลในอดีต แต่ข้อกล่าวหาจากทางการในครั้งนี้ชี้ว่าการกระทำของเขาอาจเกิดขึ้นโดยเจตนา ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่กำลังถูกสอบสวนอย่างละเอียด

คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีและการไต่สวนในชั้นศาล ผู้ต้องหายังไม่ได้รับการตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมาย ข่าวนี้เป็นการรายงานข้อกล่าวหาที่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ

‘ฮุนได มอเตอร์’ ขึ้นแท่น!! พันธมิตรหลักศึกฟุตบอลอาเซียน ประเดิมทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ‘ASEAN Hyundai Cup™’

(31 พ.ค. 68) สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน (ASEAN Football Federation หรือ AFF) เคาะชื่อใหม่ศึกลูกหนังทีมชาติสุดยิ่งใหญ่ของภูมิภาค เปลี่ยนเป็น 'ASEAN Hyundai Cup™' อย่างเป็นทางการ หลังจับมือ ฮุนไดมอเตอร์ (Hyundai Motor) ขึ้นแท่นพันธมิตรหลัก ผู้นำระดับโลกด้านสมาร์ทโมบิลิตี้

ข้อตกลงครั้งนี้เกิดขึ้นโดยการดำเนินงานของ SPORTFIVE พันธมิตรเชิงพาณิชย์รายเดียวของ AFF โดย ฮุนไดไม่ได้หยุดแค่การเป็นสปอนเซอร์หลักของ ASEAN Hyundai Cup™ เท่านั้น แต่ยังขยายบทบาทควบอีก 3 รายการสำคัญ ได้แก่ ASEAN Club Championship Shopee Cup™, ASEAN Women’s MSIG Cup™ และ ASEAN U-23 Championship™ โดยทั้งหมดถูกรวมภายใต้แบรนด์ ASEAN United FC เพื่อขับเคลื่อนวงการลูกหนังภูมิภาคร่วมกัน

ฮุนได มอเตอร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 และปัจจุบันดำเนินธุรกิจในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจสู่สมาร์ทโมบิลิตี้โซลูชัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ การเคลื่อนที่ทางอากาศ และยานยนต์ปลอดมลพิษ อาทิ รถยนต์ไฟฟ้าและเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน การสนับสนุนวงการฟุตบอลเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของแบรนด์มายาวนานตั้งแต่ปี 1999 ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ FIFA ก่อนจะขยายบทบาทสู่ระดับทวีปผ่านการสนับสนุนศึก CONMEBOL Libertadores ในลาตินอเมริกา

Hyundai Cup™ ถือเป็นการจับมือครั้งแรกของฮุนได มอเตอร์ กับเวทีฟุตบอลอาเซียน ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์สำคัญในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งสร้างการเติบโตในตลาดหลัก เพิ่มการรับรู้แบรนด์ และกระชับสายสัมพันธ์กับกลุ่มแฟนบอลอาเซียนที่ความหลงใหลในเกมลูกหนัง ศึกชิงแชมป์อาเซียนในปี 2024 พิสูจน์ความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยสถิติผู้ชมถล่มทลายกว่า 541.5 ล้านคนทั่วโลก และยอดชมรวมทางโซเชียลมีเดียกว่า 12.66 พันล้านครั้ง ตอกย้ำสถานะของรายการนี้ในฐานะเวทีลูกหนังอันดับ 1 แห่งภูมิภาคอย่างแท้จริง

มร.ซันนี่ คิม ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า “ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬา แต่มันคือพลังแห่งการรวมใจและขับเคลื่อนชุมชนให้เติบโตไปด้วยกัน กว่า 26 ปีในฐานะพันธมิตรระดับโลก เราเห็นศักยภาพของภูมิภาคอาเซียน ดินแดนที่ฟุตบอลไม่เคยหลับใหล และแฟนบอลยังเปี่ยมไปด้วยแพสชัน การเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของ ASEAN Hyundai Cup™ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของแบรนด์หรือธุรกิจ แต่คือการเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ “Progress for Humanity” ที่มุ่งผลักดันด้านการศึกษา ความเท่าเทียม และการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านพลังของกีฬาฟุตบอล”

ในฐานะศูนย์กลางสำคัญของฮุนไดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮุนได มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก เดินหน้าใช้เวที ASEAN Hyundai Cup™ เปิดตัวแนวคิด ‘Move the Game’ สื่อสารจุดยืนชัดเจนของแบรนด์ในการสนับสนุนผู้สร้างความเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งผลักดันอนาคตของการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน เพราะสำหรับฮุนได นวัตกรรมไม่ใช่แค่เรื่องของรถยนต์ แต่คือการสร้างผลกระทบเชิงบวกในสังคมผ่านโครงการต่าง ๆ อย่าง 'Hyundai Kids Mobile Library' รถบัสพลังงานไฟฟ้าที่ดัดแปลงเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ เพื่อเปิดโลกการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ และเติมเต็มโอกาสในพื้นที่ห่างไกล ฮุนไดจึงไม่ได้เพียงแค่ 'ขับเคลื่อนอนาคต' บนท้องถนน แต่ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความก้าวหน้าให้เกิดขึ้นจริงทั้งในและนอกสนาม

พล.ต. เคียฟ ซาเมธ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน กล่าวเสริมว่า “ในนามของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน (AFF) และสมาคมสมาชิก เราขอต้อนรับฮุนไดผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการเคลื่อนที่และนวัตกรรมอย่างเป็นทางการ ที่ยืนหยัดเคียงข้างวงการฟุตบอลมาโดยตลอด สู่บทบาท พันธมิตรหลักของการแข่งขัน ASEAN Hyundai Cup™ อย่างเป็นทางการ

ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของฮุนไดที่มีต่อวงการฟุตบอลทั่วโลก สอดคล้องอย่างสมบูรณ์แบบกับพันธกิจของ AFF ในการผลักดันการเติบโตและพัฒนาฟุตบอลในอาเซียน ASEAN Hyundai Cup™ จึงไม่ใช่แค่ทัวร์นาเมนต์ แต่มันคือสัญลักษณ์แห่งความฝันของนักเตะ แฟนบอล และทุกชาติในภูมิภาคนี้ วันนี้ AFF และฮุนได พร้อมร่วมกันเปิดฉากบทใหม่สุดเร้าใจ—บทที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจสำหรับคนรุ่นต่อไป เสริมสร้างพลังให้ชุมชน และส่งเสียงของอาเซียนให้กึกก้องบนเวทีโลก”

มร. ซีมัส โอไบรอัน ประธานและประธานกรรมการ SPORTFIVE ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “พันธมิตรของฮุนได ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของฟุตบอลอาเซียน โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ศึก ASEAN Championship กำลังเปลี่ยนผ่านจากรายการระดับภูมิภาค สู่เวทีระดับนานาชาติอย่างเต็มตัว ด้วยฐานแฟนบอลเหนียวแน่น และกระแสตอบรับที่เหนือความคาดหมาย ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ ที่สายตาทั่วโลกเริ่มจับจ้องมาที่อาเซียน ภูมิภาคที่กำลังกลายเป็นพลังเศรษฐกิจใหม่ของโลก”

“การเติบโตของทีมชาติอาเซียน เดินหน้าเคียงข้างกับบทบาทใหม่ของภูมิภาคในฐานะศูนย์กลางยานยนต์และการผลิตระดับโลก และ Hyundai Cup™ ก็เป็นฟันเฟืองสำคัญในกลยุทธ์ของฮุนได ที่ต้องการปักหมุดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นหัวใจของยอดขายทั่วโลก พร้อมไปกับการยกระดับแบรนด์ในเวทีฟุตบอลระดับสากล เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับฮุนไดและ AFF เพื่อยกระดับศึก Hyundai Cup™ ให้ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น ครองแชมป์ด้านเรตติ้ง และในขณะเดียวกัน ก็สนับสนุนวิสัยทัศน์ของฮุนไดในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง”

การประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้มีขึ้นในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่กรุงจาการ์ตา โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า ได้แก่ ได้แก่ พล.ต. เคียฟ ซาเมธ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน, มร. วินสตัน ลี เลขาธิการสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน, มร.ซันนี่ คิม ประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิก สำนักงานใหญ่ และ มร. ซีมัส โอไบรอัน ประธานและประธานกรรมการ SPORTFIVE เอเชีย

ติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดของการแข่งขันในเครือ ASEAN United FC ได้ที่ https://aseanutdfc.com และทุกช่องทางโซเชียล @aseanutdfc บน Instagram, Facebook, TikTok, YouTube, X และ LinkedIn


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top