Sunday, 20 April 2025
ผบตร

ผบ.ตร.เอาจริง สั่งตำรวจคุมเข้มยกระดับแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เร่งบังคับใช้กฎหมาย รถควันดำ ลักลอบเผา โรงงาน การก่อสร้าง ที่ก่อเกิดมลพิษ เน้นบูรณาการร่วมทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาทุกมิติ ตามนโยบายรัฐบาล

วันนี้ (14 มี.ค.66 ) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า “ ตามข้อสั่งการความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อประชาชนกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินมาตรฐานที่เกิดขึ้น โดยให้ทุกหน่วยบูรณาการยกระดับร่วมกันแก้ไขปัญหาทุกมิติ


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขานรับนโยบาย สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ตร.ยกระดับเพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) เกินมาตรฐาน ที่มีมาจากหลายสาเหตุทั้ง การคมนาคมขนส่ง การเผาในที่โล่งแจ้ง การเกิดไฟป่า ภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และหมอกควันต่างๆ  
ผบ.ตร.ได้มีวิทยุสั่งการ ไปยังทุกหน่วยให้ดำเนินการดังนี้

1) เพิ่มความเข้มตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวดกับผู้ที่นำรถยนต์ที่มีลักษณะปล่อยพิษควันดำมาใช้บนถนน  ออกคำสั่งห้ามใช้รถที่ก่อให้เกิดมลพิษ รวมทั้งบูรณาการร่วมกับขนส่ง หน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนด้านเครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

2) เพิ่มมาตรการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย กับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยมลพิษทางอากาศ และการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดฝุ่น


3) ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาพืชไร่และพื้นที่เพาะปลูก การเผาในที่โล่งแจ้ง และกิจการที่ก่อให้เกิดอันตราย 

ผบ.ตร. ชื่นชม ตำรวจรถไฟ CPR ผู้โดยสารส่งรักษาตัว รพ.อย่างปลอดภัย และ ตำรวจ 191 ช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกบิดาแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศ

วันนี้ (23 มี.ค.66) เวลา 11.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟหาดใหญ่และตำรวจ 191 ให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 12.00 น.  ด.ต.ไพศาล แก้วมณี  และ ด.ต.สราวุธ เกื้อสกุล ผบ.หมู่ ส.รฟ.หาดใหญ่ กก.3 บก.รฟ. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ได้เข้าให้ความช่วยเหลือชายไม่ทราบชื่อ มีอาการเป็นลม ชักเกร็ง และหยุดหายใจ ที่ บริเวณ ชานชาลาของสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้อย่างทันท่วงที โดยทำการ CPR จนสามารถช่วยชีวิต และนำตัวส่ง รพ.เพื่อรักษาตามอาการต่อไป ปรากฏคลิปวีดีโอการช่วยชีวิตดังกล่าว ถูกส่งต่อในโลกสังคมออนไลน์

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 โดย ส.ต.ท.วรชัย ศิริอัฐ และ ส.ต.ท.นฤชิต กอพงษ์ ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ปฏิบัติหน้าที่รถยนต์สายตรวจ น.จักรพล 103 ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจเขตรับผิดชอบ ได้พบเด็กหญิง อายุ 13 ปี เข้ามาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งว่าพี่สาวของตน อายุ 17 ปี ถูกบิดาแท้ๆล่วงละเมิดทางเพศและกักขังไว้อยู่ภายในห้องพัก ซึ่งตั้งอยู่ที่ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ทั้งนี้เด็กหญิงคนดังกล่าวยังได้แสดงกระดาษที่พี่สาวเขียนข้อความขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ

โยก ‘รอย’ ไป สมช. ลดแรงเสียดทาน ‘บิ๊กต่อ’ ขึ้นแท่น!! เชื่อ!! เต็งจ๋าไม่พลิก แม้มีมือดีหาเรื่องดิสเครดิตกันระวิง

ถ้าจำกันได้ เมื่อเดือน ก.ย.เมื่อปี 2554 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ขณะนั้น ก็เคยถูกคำสั่งของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ไปนั่งตำแหน่งใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาล คือ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยโยกนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช.ไปนั่งตบยุ่งในตำแหน่งที่ปรึกษา

ทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อเปิดทางให้ พี่สาวของคุณหญิงอ้อ ‘พจมาน ดามาพงศ์’ อย่าง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผงาดขึ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.เพราะเหลือเวลาปีเดียว

ไม่น่าเชื่อ… กรณีย้ายนายถวิลโดยมิชอบดังกล่าว ทำให้ เดือน พ.ค. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ พ้นจากตำแหน่งนายกฯ และถูกดำเนินคดี… หนีหมายศาลอยู่จนทุกวันนี้ นอกเหนือจากคดีจำนำข้าว

ร่ายมาซะยาว… เพียงเพื่อจะโยงเข้าเรื่องว่า โยกย้ายตำรวจปีนี้ ‘บิ๊กตู่’ อดีตประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.คนเก่า (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) ไม่กล้าทุบโต๊ะเหมือนย้ายทหาร ส่งมอบให้นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธาน ก.ตร.คนใหม่ บริหารจัดการเอง… ว่า 4 แคนดิเดต ผบ.ตร.จะให้ที่ประชุมเลือกใคร… 

มีรายงานข่าวน่าเชื่อถือว่า… รัฐบาลเสี่ยนิดจะโยก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ที่อาวุโสสูงสุด แต่จะเกษียณปี 2567 ไปนั่งตำแหน่งเลขาธิการ สมช.แทน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม ที่จะเกษียณปีนี้… ทำให้แคนดิเดต ผบ.ตร.เหลือ 3 คน มีอาวุโสตามลำดับคือ… 

- พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ‘บิ๊กต่าย’ เกษียณปี 2569
- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ‘บิ๊กโจ๊ก’ เกษียณปี 2574 
- พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ‘บื๊กต่อ’ เกษียณปี 2567

ชื่อ ‘บิ๊กต่อ’ นั้นเป็นเต็งหนึ่งมาโดยตลอด… ถ้า พล.ต.อ.รอย นั่งอยู่ที่เดิมแปลว่าต้องข้ามอาวุโสถึงสามคน แต่พอท่านรองรอยลุกไป ก็จะข้ามแค่สองคน อยู่ปีเดียวแล้วลุกจากไป… ปีหน้าเปิดทางให้ บิ๊กต่าย กับ บิ๊กโจ๊ก และรอง ผบ.ตร.คนใหม่อีกคนไปลุ้นกัน… 

เรื่องอาวุโสก็เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่เป็นปัจจัยชี้ขาด ยังมีปัจจัยความรู้ความสามารถความเหมาะสมด้วย… เพียงแต่ระบบราชการไทยโดยเฉพาะแวดวงสีกากี ไม่มีใครไว้ใจใครได้ ถ้ามีโอกาสก็จะต้องคว้าเอาไว้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน… เพราะปล่อยไปวันหน้าการเมืองเปลี่ยน… ไม่มีอะไรที่แน่นอน… 

แม้แต่กรณีบิ๊กโจ๊กที่จะเกษียณอีก 8-9 ปีข้างหน้า ดูแล้วก็คงไม่พลาด เก้าอี้ ผบ.ตร.ไม่มีไปไหนแน่… 

แต่เอาเข้าจริง… ไม่มีอะไรแน่นอน

ดังนั้น สรุปรวมความนาทีนี้… เต็งจ๋าไม่น่าจะแปรเป็นอื่นก็คือ ‘บิ๊กต่อ’ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายปราบปราม ที่เพิ่งไปดูการวิสามัญ ‘หน่อง ท่าผา’ มือปืนที่ฆ่าสารวัตรทางหลวงอย่างอุกอาจเมื่อไม่กี่วันก่อน…

แต่ล่าสุดสายข่าวตะแล็บแก๊บรายงาน ‘เล็ก เลียบด่วน’ มาว่า ขณะที่เดินหน้าลุยงานโน่น นี่ นั่น ปรากฏว่ามีมือดีพยายามปฏิบัติการเผยแพร่เอกสารโจมตี ‘บิ๊กต่อ’ ข้อหาต่างๆ… โยงใยเรื่องแรงงานต่างด้าว เรื่องชายแดน...เป็นเรื่องเสียๆ หายๆ ในทางลบ...

พร้อมๆ กับจุดกระแสว่า… อาจจะมีการพลิกโผ ผบ.ตร.

เรื่องของเรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละครับท่านสารวัตร...แต่ ‘เล็ก เลียบด่วน’ ไม่เชื่อหรอกว่าจะพลิก...

คนที่มาพลิกนั่นแหละ… จะพลิกแทน!!

สวัสดี

‘บิ๊กโจ๊ก’ ร่วมยินดี ‘บิ๊กต่อ’ นั่ง ผบ.ตร.คนใหม่ พร้อม ‘พูดคุย-ถ่ายภาพ’ ลบข้อครหาปมขัดแย้ง

(29 ก.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เดินทางไปยังห้องทำงานของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ที่กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อแสดงความยินดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ที่ได้รับเลือกจากคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่

โดยทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมกับถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เพื่อลบข้อครหาว่าทั้งสองขัดแย้งกัน ก่อนจะเดินทางกลับ

หลังจากก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ว่าที่ ผบ.ตร.กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตั้งแต่เช้าวันที่ 25 ก.ย.เป็นต้นมา หลังจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยกล่าวหาว่า ลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พัวพันกับเว็บพนันออนไลน์

ขณะที่กระแสข่าวระบุว่า เป็นการดิสเครดิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 27 ก.ย.

ต่อมาวันที่ 27 ก.ย.คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) มีมติเลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ขณะที่วันดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ขอลาหยุด ถึงวันที่ 29 ก.ย.

‘ชัยวุฒิ’ ยก ‘บิ๊กต่อ’ คนตรงแห่งสีกากี ทำงานซื่อสัตย์ ไม่เกรงใจใคร เชื่อ!! พลิกภาพวงการตำรวจไทย คืนศรัทธาครั้งใหญ่สู่ประชาชน

(30 ก.ย.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เผยถึง บทบาทในการเป็นนายตำรวจที่มีความซื่อตรง และมีความตั้งใจในหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนล่าสุด (14) ในช่วงเวลาที่ตนเคยได้ร่วมงานและรู้จัก ว่า...

“ผมในฐานะ คนที่เคยทำงาน กับ ‘พี่ต่อ’ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ขอชื่นชม ว่าท่านเป็นคนจิตใจดี อาจจะพูดจาไม่หวาน และพีอาร์ไม่เก่ง เเต่มีความจริงใจ ที่สำคัญเป็นนายตำรวจที่มีความตั้งใจในการทำงานสูงมากครับ”

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า “ดังนั้น ผมจึงเชื่อมั่นว่าท่าน จะเป็น ผบ.ตร.ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของไทย และเชื่อว่าท่าน คือ ผู้ที่เหมาะสม กับ สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้”

เมื่อถามว่า ภาพลักษณ์ของ ‘บิ๊กต่อ’ จะช่วยฉุดภาพรวมที่ดีคืนแก่วงการตำรวจไทยได้มากน้อยแค่ไหน? นายชัยวุฒิ มองว่า “พื้นฐานของ ‘บิ๊กต่อ’ เป็นผู้มีความเมตตาสูง ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีคุณธรรมอย่างมาก ตรงนี้จะทำให้ท่านเป็น ผบ.ตร.ที่ทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างเเท้จริง เเละท้ายที่สุดแล้ว ด้วยสิ่งที่ท่านจะขับเคลื่อนต่อจากนี้ จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาจากประชาชนกลับมาสู่องค์กรตำรวจได้อีกครั้ง”

นายชัยวุฒิ ทิ้งท้าย อีกด้วยว่า “ในจังหวะที่บ้านเมืองไทยยังเต็มไปด้วยปัญหาอาชญากรรมมากมาย จนเกิดความเดือดร้อนในหลายส่วน ของประชาชน ความตรงไปตรงมา จริงจัง จริงใจ ของท่าน จะทำให้สามารถเเก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้เเน่นอน”

ผบ.ตร.ลงพท.จังหวัดชายแดนใต้ติดตามคลี่คลายคดีสำคัญ ให้น้อมนำยุทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มีส่วนร่วมกับชุมชน เป็นมาตรการเชิงรุกป้องกันเหตุยุติความรุนแรง กำชับดูแลความเป็นอยู่ ผู้ปฏิบัติทุกมิติ พร้อมลงเยี่ยมจุดตรวจมั่นคง สร้างขวัญกำลังใจตำรวจชายแดนใต้

วานนี้ (31 ต.ค. 66) เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รรท.รอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รรท.ผบช.ภ.9 , พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.9 , พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 , พล.ต.ต.อาชน จันทร์ศิริ รรท.รอง ผบช.ภ.9 , พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาลรรท.ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ,พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล รรท.ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ,พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สงขลา , หัวหน้าสถานีตำรวจในพื่ยทีา จว.ปัตตานี 16 สถานี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 3 ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี

การลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญที่เกิดขึ้น และให้แนวทางในการสืบสวนสอบสวนคดีต่างๆ สำหรับในส่วนของการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่นั้น ได้มอบแนวทางให้กับสถานีตำรวจในพื้นที่ น้อมนำยุทธศาสตร์ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาเป็นหลักปฏิบัติในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อยุติเหตุและความรุนแรงด้วยมาตรการเชิงรุก ให้ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและผู้นำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งกำชับหัวหน้าสถานี ให้ความสำคัญกับผู้ใต้บังคับบัญชา ดูแลความเป็นอยู่ และขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้ฝากความห่วงใยไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกท่าน พร้อมจะเป็นกำลังใจ สนับสนุนการปฏิบัติ ดูแลขวัญกำลังใจทุกมิติ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี ให้ผู้บังคับบัญชาลงลึกดูรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ปฏิบัติตามนโยบายของ ตร.และรัฐบาล   

ต่อมา เวลา 20.40 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รรท.ผบช.ภ.9/ผบ.ศปก.ตร.สน. ตรวจเยี่ยมจุดตรวจท่าสาป และมอบนโยบาย พร้อมมอบสิ่งของตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจประจำจุดตรวจ ณ จุดตรวจท่าสาป อ.เมืองยะลา จว.ยะลา สร้างขวัญกำลังใจให้ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ที่ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญ ลงพื้นที่เยี่ยมจุดตรวจความมั่นคงจังหวัดชายแดนใต้ด้วยตนเอง 

'พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ' ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยม อัศวินสีส้ม🧡 บก.จร.

วานนี้ (23 ก.พ.67) เวลา 13.15 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมมอบของบำรุงขวัญ แก่ข้าราชการตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) โดยมี, พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร. พร้อม รอง ผบก.จร. ,ผกก., รอง ผกก., สว. ข้าราชการตำรวจในสังกัด และที่ปรึกษา บก.จร. ร่วมให้การต้อนรับ

ผบ.ตร.ได้ตรวจแถว รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ของ บก.จร. สักการะพระพุทธรูป ปรางห้ามสมุทร ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ บก.จร. ก่อนเข้าอาคาร ทำการมอบหมวกนิรภัย ในโครงการ “บก.จร. ปลอดภัยสวมหมวกนิรภัย 100% ”ให้ กับข้าราชการตำรวจและลูกจ้างที่ปฎิบัติหน้าที่ภายในอาคาร บก.จร. จากนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยม ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร บก.02 รับชมวิดีทัศน์แนะนำหน่วย มอบนโยบายและมอบของบำรุงขวัญให้กับข้าราชการตำรวจ จากนั้น ผบก.จร.ได้มอบหมวกนิรภัยตำรวจจราจร ให้กับ ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นของที่ระลึก ได้เยี่ยมชม ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ อุปกรณ์ที่ใช้ปฏิบัติงานในการช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนนที่มีการจราจรหนาแน่น

ผบ.ตร. กล่าวว่า การช่วยเหลือประชาชน นำผู้ป่วยหรืออวัยวะสำคัญ ให้ ทันท่วงที ต้องใช้รถจักรยานยนต์ เพื่อนำรถพยาบาลหรือการเข้าไปแก้ปัญหาบนท้องถนนที่มีการจราจรติดขัดแต่สีของรถจักรยานยนต์ก็เป็นสีขาวทั่วไปทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบ จึงแนะนำให้ติดสติกเกอร์แบบสะท้อนแสงสีเขียวมะนาวซึ่งการวิจัยจากต่างประเทศแล้วว่าประชาชนจะมองเห็นในระยะ 500 เมตร เมื่อประชาชนมองเห็นรถจักรยานยนต์ในสีเขียวมะนาวผ่านมาจะทำให้รู้ว่าเป็นรถฉุกเฉินจะต้องเปิดทางให้

‘แพทองธาร’ เตรียมนั่งหัวโต๊ะ ชี้ชะตาเบอร์ 1 สตช. ตั้งตัวชี้วัดผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องสางปัญหาอาชญากรรม-ยาเสพติด

(6 ต.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี จะไปเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ในวันพรุ่งนี้ (7 ตุลาคม) เวลา 14.30 น. โดยมีวาระสำคัญ คือ การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมีชื่อผู้มีอาวุโส 3 คน ได้แก่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 1, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ อาวุโส อันดับ 2 และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 3

สำหรับขั้นตอนการคัดเลือก ผบ.ตร. ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2565 มาตรา 78 ระบุว่า ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้คัดเลือกรายชื่อเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยการประชุมเมื่อเข้าพิจารณาวาระนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พล.ต.อ.ไกรบุญ และพล.ต.อ.ธนา จะต้องออกจากห้องประชุม เนื่องจากถือว่ามีส่วนได้เสียองค์ประชุมจึงมีเพียง นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. นายปิยะวัฒน์ ศิวะรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. ในฐานะก.ตร. โดยตำแหน่ง และ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ รองศาสตราจารย์ประทิต สันติประภพ และศาสตราจารย์ศุภชัย ยาวะประภาษ เป็นคณะกรรมการพิจารณา

“ไม่ว่าท่านใดจะมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป้าหมายสำคัญตามนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาคือการดูแลทุกข์สุข พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้กับพี่น้องประชาชน แก้ไขปัญหายาเสพติดและลดอาชญากรรมทุกประเภทให้ได้”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top