Friday, 17 May 2024
ปืนเถื่อน

‘บิ๊กตู่’ เด็ดขาด!! จับกุมเอาผิด ‘ยาเสพติด-ปืนเถื่อน’ ชี้!! ผลระดมกวาดล้างช่วงที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจ

‘บิ๊กตู่’ สั่งการเด็ดขาด จับกุม ดำเนินคดี ลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง ให้ทุกหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ‘เผย’ ผลระดมกวาดล้างยาเสพติด-อาวุธปืน เป็นที่น่าพอใจ

(29 ต.ค. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน และยาเสพติดที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหา นำหน่วยงานในท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เข้มข้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างยาเสพติดและอาวุธปืนอย่างจริงจัง 

นายอนุชา กล่าวว่า ผลการระดมกวาดล้างยาเสพติดในช่วงวันที่ 10-19 ต.ค. 65 ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีผลการดำเนินการจับกุมบุคคลตามหมายจับคดีอาญาได้ 3,884 หมายจับ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 15,710 คดี (ผู้ต้องหา 15,866 คน) ของกลางยาบ้า 18,314,853 เม็ด ยาไอซ์ 297,690 กรัม เฮโรอีน 30,735 กรัม ยาอี 6,550 กรัม ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน ทั้งสิ้น 3,984 คดี ยึดของกลางอาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 2,438 กระบอก มีทะเบียน 452 กระบอก วัตถุระเบิด 600 รายการ และเครื่องกระสุน 16,168 นัด โดยการจับกุมแบ่งเป็นการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายอาวุธปืนฯ โดยผิดกฎหมาย ทั้งทางตรงและทางออนไลน์ จำนวน 97 คดี ผู้ต้องหา 63 คน ยึดของกลางอาวุธปืนไม่มีทะเบียน 46 กระบอก มีทะเบียน 12 กระบอก วัตถุระเบิด 156 รายการ เครื่องกระสุน 1,296 นัด และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฯ อื่นๆ จำนวน 3,887 คดี (จับกุมผู้ต้องหา 3,864 คน) พร้อมของกลาง อาวุธปืนสงคราม 27 กระบอก อาวุธปืน (ไม่มีทะเบียน) 2,392 กระบอก มีทะเบียน 440 กระบอก วัตถุระเบิด 444 รายการ เครื่องกระสุน 14,872 นัด

‘ตร. PCT’ เข้าตรวจค้นร้าน ‘LOS SANTOS’ ยึดอาวุธปืนสงคราม-กระสุนปืนได้จำนวนมาก

วันที่ (19 ธ.ค. 65) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค./ผหน.ด้านปฏิบัติการฯ และ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สพฐ.ตร./หน.ด้านข่าวสารฯ พร้อม ตร.PCT ชุดที่ 4 พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก สส ตม.3 ได้ร่วมกันแถลง การเข้าตรวจค้นร้านปืนออนไลน์ ยึดอาวุธปืนสงครามและกระสุนปืนจำนวนมาก พร้อมขยายผลยึดทรัพย์สิน

พล.ต.อ.รอย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทราบว่ากลุ่มเครือข่ายมีการกระทำผิดและหลบซ่อนตัวอยู่ในหลายพื้นที่ได้แก่ อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่, อ.เมือง จว.สุรินทร์ และ อ.บ้านบึง จว.ชลบุรี ก่อน เปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ภายใต้ชื่อ ‘LOS SANTOS’ ได้ดังนี้

1. หมายค้นศาลอาญาที่ 1522/2565 ลง 14 ธ.ค.65 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 118/8 ม.8 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอุปกรณ์ยิงปืน ชื่อ Shooter Tactical CNX ผลการตรวจค้น

(1.1) จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ได้แก่ นายอิทธิเดช สงวน นามสกุล และ น.ส.ภชรธร สงวนนามสกุล 
(1.2) ของกลาง 
- อาวุธปืน จำนวน 30 กระบอก (ปืนยาว 24 กระบอก,ปืนสั้น 6 กระบอก)
- กระสุนปืน จำนวน 16,578 นัด (ได้แก่ ขนาด .22, ขนาด.38, ขนาด 9 มม., ขนาด .45, ขนาด 308, ขนาด 5.56 และกระสุนปืนลูกซองเกรด 12) 
- โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง
- อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง
- บัญชี ธนาคาร จำนวน 18 บัญชี
(1.3) ตรวจยึด
- เงินสด จำนวน 3,004,000 บาท    
- รถยนต์หรู จำนวน 5 คัน ได้แก่ นิสสัน GTR สีดำ จำนวน 1 คัน, บีเอ็มดับบลิว 730Ld สีดำ จำนวน 1 คัน, ออดี้ R8 สีเทา จำนวน 1 คัน, เบนซ์ CLA200 สีเทา จำนวน 1 คัน และ บีเอ็มดับบลิว x1 สีเทา จำนวน 1 คัน
- รถจักรยานยนต์ ฮาร์เล่ย์เดวิดสัน จำนวน 4 คัน

‘บิ๊กก้อง’ นำทัพบุกค้น 114 เป้าหมาย ทลายปืนเถื่อนทั่วประเทศ หลังพบซื้อ-ขายเกลื่อนออนไลน์ เร่งสกัดจับ ป้องกันเหตุสลดซ้ำ

(9 ต.ค. 66) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ ‘หนุมานกองปราบ’ กว่า 800 นาย ปล่อยแถวระดมเพื่อกวาดล้างอาชญากรรม

โดยเป้าหมายมุ่งเน้นไปที่การจับกุมผู้จำหน่าย และผู้ลักลอบใช้หรือพกพาอาวุธปืนเถื่อน และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ รวมทั้ง แบลงค์กัน หรืออาวุธปืนดัดแปลง ซึ่งปฏิบัติการมีขึ้นใน 47 จังหวัด รวม 114 เป้าหมายทั่วประเทศ

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลางทุกกองบังคับการในสังกัด จัดกำลังชุดปฏิบัติการออกระดมกวาดล้างหาเป้าหมายแหล่งอาชญากรรม มุ่งเป้าไปที่การจับกุมผู้จำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน และผู้ที่พกพาอาวุธปืนผิดกฎหมาย หลังจากที่ผ่านมามีการลักลอบใช้อาวุธปืนเถื่อน อาวุธปืนติดมือ หรือแม้กระทั่งปืนถูกกฎหมายไปก่อเหตุร้ายในหลายพื้นที่

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ล่าสุดเกิดคดีเด็กวัย 14 ปี ก็นำอาวุธปืนแบลงค์กันไปก่อเหตุกราดยิงในศูนย์การค้า จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าอาวุธปืนเถื่อนส่วนมาก มีการซื้อขายกันผ่านระบบออนไลน์ จึงต้องเร่งกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนอย่างเร่งด่วน ส่วนผลการตรวจค้นจะมีการสรุปผล และแจ้งให้ทราบต่อไป

‘มท.’ ร่วมมือ ‘สตช.-ดีอีเอส’ ปราบปืนเถื่อน ออกมาตรการคุมใช้ปืนเข้ม สั่งห้ามออกใบอนุญาต-พกปืนในจังหวัด พร้อมสกัดซื้อ-ขายออนไลน์

(10 ต.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบ ตามที่กระทรวงมหาดไทย รายงานความคืบหน้า มาตรการควบคุมการพกพาอาวุธปืนและกระสุนปืน รวมถึงสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ดัดแปลงเป็นอาวุธ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย หลังจากเกิดเหตุการณ์กราดยิงในห้างดัง เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยกระทรวงมหาดไทย ชี้แจง ครม.ว่าได้ออกคำสั่งให้ดำเนินมาตรการ ดังนี้
1.) ให้เข้มงวดเรื่องการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ระเบิดและดอกไม้ไฟ หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยให้นายทะเบียนผู้มีอำนาจในการอนุญาตออกใบอนุญาต งดออกใบอนุญาต ในการสั่งนำเข้าสิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดแบลงค์กันหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่น ที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธโดยง่าย

2.) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายทะเบียนในท้องที่ ให้แจ้งคนที่ครอบครองแบลงค์กันและสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ครอบครองอยู่ ให้มาลงทะเบียนลงบันทึกประจำวันในภูมิลำเนาที่อยู่

3.) การขอมีหรือใช้ซึ่งอาวุธปืน หรือการขอซื้อ สั่ง หรือนำเข้าเครื่องกระสุนปืนของสมาคมกีฬายิงปืน การอนุญาตออกใบ ป.3 หรือ ใบ ป.4 ให้แก่สมาคมกีฬายิงปืนให้อนุมัติเฉพาะที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมกีฬาเท่านั้น และเครื่องกระสุนปืนที่สั่งเข้ามาต้องตรงกับอาวุธปืนที่ครอบครอง ห้ามต่างชนิดกันเด็ดขาด

4.) การออกใบอนุญาตให้พกอาวุธปืนติดตัว ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการที่จะอนุญาตให้พกพาในจังหวัด จากนี้ให้งดห้ามออกใบอนุญาตพกพาภายในเขตจังหวัด

นอกจากนั้น ได้ขอความร่วมมือไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ร่วมมือกันปราบปรามการซื้อขายอาวุธปืน สิ่งเทียมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ผ่านช่องทางออนไลน์ และให้กรมศุลกากรตรวจสอบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่นำเข้า ก่อนที่คำสั่งนี้จะประกาศใช้ ให้ตรวจเช็กว่าสิ่งเทียมอาวุธปืนดังกล่าวมีการดัดแปลงนำเข้ามาหรือไม่

นายชัย กล่าวว่า และให้สนามยิงปืนเข้มงวด ตรวจจำนวนผู้มาใช้บริการ โดยจดบันทึกรายละเอียดผู้เข้ามาใช้ทุกคน และอาวุธปืนที่นำมาใช้ต้องได้รับอนุญาต ส่วนกระสุนที่ใช้ในการซ้อมยิงห้ามนำออกจากสนามและต้องตรวจนับให้ชัดเจน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top