Thursday, 23 May 2024
ปีมังกร

งบประมาณ 3.48 ลลบ. ใต้ ‘รัฐบาลเศรษฐา’ กับภารกิจกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีมังกร 

ต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2567 เริ่มต้นปี กับการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่จะผลักดันในเศรษฐกิจไทยใน ‘ปีมังกร’ ที่น่าจะได้เห็นฝีมือทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่รับบทบาท เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีก 1 ตำแหน่ง ว่าจะมีศักยภาพในการจัดการเศรษฐกิจของไทย หลังผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ ทั้ง วิกฤติ Covid-19 ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน จนมาถึงสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ทีมเศรษฐกิจชุดนี้ จะมีประสิทธิภาพมากน้อย เพียงใด

การลงมติร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ในวาระรับหลักการ มีผู้เห็นด้วย 311 เสียงไม่เห็นด้วย 177 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียงนั้น ก็เป็นไปตามคาดการณ์ ที่จะต้องรับร่างงบประมาณ เพื่อผลักดันการใช้จ่ายเงินตามโครงการต่าง ๆ ของแต่ละกระทรวงอย่างเร่งด่วน เนื่องจาก การทำงบประมาณปี 2567 ล่าช้าจากเหตุกระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน กว่าจะได้เบิกจ่ายเงินงบประมาณ ก็คงเริ่มเบิกจ่ายได้ เมษายน - พฤษภาคม 2567 ถือว่าล่าช้าไปกว่าครึ่งปี

มาดูกันต่อกับวงเงินงบประมาณ ในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง…

ปี 2567 วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.480 ล้านล้านบาท : รัฐบาล เศรษฐา

ปี 2566 วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.185 ล้านล้านบาท : รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

ปี 2565 วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.100 ล้านล้านบาท : รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

ปี 2564 วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.285 ล้านล้านบาท : รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

ปี 2563 วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 3.200 ล้านล้านบาท : รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์

กลับกลายเป็นว่า วงเงินงบประมาณ 2567 ถือเป็นประวัติการณ์กับวงเงินที่สูงถึง 3.480 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินงบประมาณที่มากที่สุดเท่าที่รัฐบาลที่ผ่านมาเคยได้จัดทำ และยังมีอัตราส่วนที่สูงขึ้นกว่าปีงบประมาณที่แล้ว กว่า 9.3% และถือว่าเป็นการเพิ่มวงเงินในสัดส่วนที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี อีกด้วย 

อีกประเด็นที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา ของ พล.อ.ประยุทธ์ เคยถูกพิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่า ได้ตั้งงบกลางสูงมากเกินไป เพราะงบกลาง จะไม่มีรายละเอียดในการใช้งบประมาณ มีเพียงหัวข้อ และวงเงินของแต่ละโครงการ แต่เมื่อดูงบกลางของรัฐบาล เศรษฐา จะพบว่า วงเงินงบกลางกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่า 2.8% โดยตั้งงบกลางไว้ที่ 6.06 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16,295 ล้านบาท จากปีงบประมาณ 2566

ปี 2567 วงเงินงบกลาง 6.067 แสนล้านบาท 

ปี 2566 วงเงินงบกลาง 5.904 แสนล้านบาท งบค่าใช้จ่ายบรรเทา เยียวยาโควิด 3,000 ล้านบาท

ปี 2565 วงเงินงบกลาง 5.874 แสนล้านบาท งบค่าใช้จ่ายบรรเทา เยียวยาโควิด 16,362 ล้านบาท

ปี 2564 วงเงินงบกลาง 6.146 แสนล้านบาท งบค่าใช้จ่ายบรรเทา เยียวยาโควิด 40,326 ล้านบาท

ปี 2563 วงเงินงบกลาง 5.187 แสนล้านบาท 

และหากพิจารณาในหัวข้อรายการใช้จ่ายงบกลาง 5 ปี ย้อนหลัง (ปี 2563-2567) ก็พบว่า งบกลางที่มีการตั้งวงเงินที่สูงที่สุด ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีการตั้งงบกลาง ในปี 2564 อยู่ที่ 6.146 แสนล้านบาท แต่สาเหตุที่ตั้งงบกลางไว้สูง เนื่องจาก มีหัวข้อค่าใช้จ่ายในการบรรเทา เยียวยา ผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 40,326 ล้านบาท หากไม่นับหัวข้อนี้มารวมในงบกลาง วงเงินงบกลางจะอยู่ที่ 5.74 แสนล้านบาท ซึ่งงบกลาง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไม่มีหัวข้อค่าใช้จ่ายด้านนี้ 

คงเริ่มเห็นภาพบางอย่าง ในยุคที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ที่บริหารจัดการโดย ‘นักการเมือง’ และภาพที่คนบางกลุ่มชอบเรียกว่า ‘รัฐบาลประชาธิปไตย’ กับเม็ดเงินงบประมาณ ที่จะใช้ในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับรายได้ ของประชาชนคนไทย 

‘จีน’ เผย ยอดจองเที่ยว-จับจ่ายช่วงตรุษจีนพุ่งสูง สะท้อน!! เศรษฐกิจฟื้นตัวดี-การบริโภคแข็งแกร่ง

(10 ก.พ. 67) สำนักข่าวซินหัว, ปักกิ่ง รายงานสถานการณ์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ว่า แทนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อรวมตัวกับครอบครัวและญาติมิตรในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ‘เฉิงว่านฉี’ เป็นหนึ่งในชาวจีนที่เลือกจองโรงแรมในเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) เพื่อท่องเที่ยวกับครอบครัว

‘เหม่ยถวน เตี่ยนผิง’ (Meituan Dianping) บริษัทอีคอมเมิร์ซจีน เจ้าของแพลตฟอร์มรวมบริการออนไลน์ เช่น รีวิวร้านอาหาร สั่งอาหาร เผยว่าช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนปีนี้ การบริโภคที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น จองที่พัก ตั๋วเข้าจุดชมวิว และบัตรการคมนาคมขนส่งจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยยอดคำสั่งซื้อที่เป็นการจองล่วงหน้าระยะครึ่งเดือนเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2023

บริษัทฯ ระบุว่าหลายๆ เมือง เช่น ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, ซานย่า, ฮาร์บิน, เฉิงตู, กว่างโจว, ซีอัน และอื่นๆ ขึ้นแท่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศจีน ขณะที่ชาวจีนที่ทำการจองเพื่อท่องเที่ยวในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

นอกจากนี้ ยอดจองและคำสั่งซื้ออาหารมื้อค่ำในคืนส่งท้ายปีเก่าตามธรรมเนียมจีน ซึ่งเป็นวันที่ครอบครัวชาวจีน จะรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว ยังเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว เหม่ยถวน เตี่ยนผิงระบุด้วยว่า มีผู้บริโภคสั่งอาหารทั้งมื้อหรือสั่งอาหารเพื่อนำมาเสริมในมื้ออาหารผ่านบริการสั่งอาหารบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น และพบว่าในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ ยอดจองรับประทานอาหารค่ำสำหรับครอบครัวตามร้านอาหารต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อไม่กี่วันมานี้โดยแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์แห่งหนึ่งซึ่งเชื่อมโยงกับเหม่ยถวน เตี่ยนผิง ระบุว่าช่วงเดือนที่ผ่านมา ยอดขายสุรา นม และเชอร์รี ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ขณะที่ยอดขายสินค้าหลายประเภททั้งเครื่องใช้ในบ้าน ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ของใช้สำหรับแม่และเด็ก รวมถึงเสื้อผ้าพุ่งสูงขึ้นเกินร้อยละ 100

ด้าน ‘พินตัวตัว’ (Pinduoduo) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของจีน ได้เปิดตัวแคมเปญชอปปิงรับตรุษจีน ร่วมกับบรรดาผู้ประกอบการจากทั่วประเทศในเดือนมกราคม เพื่อรับรองว่าอุปทานจะเพียงพอสำหรับการจับจ่ายช่วงเทศกาล และพบว่าปริมาณการขายสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดเพิ่มสูงขึ้นในหลากหลายระดับ เช่น ยอดขายอาหารสดคุณภาพสูงอย่างเชอร์รี สตรอว์เบอร์รี และปูยักษ์ (King Crab) ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

‘หานหยาง’ ชาวจีนผู้ทำงานในกรุงปักกิ่งมานาน 5 ปี เลือกที่จะสั่งซื้ออาหารและผลไม้ทางออนไลน์ เพื่อจัดส่งให้พ่อแม่ซึ่งอยู่ที่บ้านเกิดในเมืองสวี่ชาง มณฑลเหอหนานทางตอนกลางของประเทศ แม้ว่าเขาจะเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงวันหยุดก็ตาม โดยให้เหตุผลว่าการซื้อของขวัญออนไลน์ล่วงหน้านั้นสะดวกสบายมาก

‘หลี่จี้เหว่ย’ ผู้บริหารจากสถาบันวิจัยเหม่ยถวน (Meituan Research Institute) ระบุว่า ข้อมูลการจองล่วงหน้าก่อนถึงวันหยุดที่มีแนวโน้มดีนั้น ตอกย้ำถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน พร้อมเสริมว่าแนวโน้มเชิงบวกด้านการจับจ่ายนี้ ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการบริโภคออนไลน์ในปี 2024 ด้วยเช่นกัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top