Saturday, 18 May 2024
ประเทศมาเลเซีย

6 หน่วยงานการศึกษาไทยจับมือโรงเรียนดังรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย แลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและพัฒนาความเป็นเลิศด้านการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์

เมื่อเร็ๆวนี้ที่โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายศักดา ชัยภัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น(ผอ.สพม.ขอนแก่น) ได้เป็นประธานและร่วมลงนามในโครงการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนด้านวิชาการ ระหว่างหน่วยงานทางการศึกษาและโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับโรงเรียนเคอร์ปาลา บาตัส และโรงเรียนตุน ไซเอ็ด เชห์ ชาฮาบูดิน รัฐปีนัง  ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นโรงเรียนชั้นนำและมีชื่อเสียงด้านการสอนวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  โดยมีนายวิศรุต  ปู่เพ็ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้เกียรติเป็นสักขีพยานการลงนามจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนด้านวิชาการ ในครั้งนี้ 

นายชัยภร  สีมาตร ผู้อำนวยการโรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร ประธานดำเนินงานการทำ MOU ในวันนี้ กล่าวว่า โรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร สพม.ขอนแก่น ตอบสนองนโยบายการจัดการเรียนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการในทุกๆด้าน รวมทั้งการพัฒนาทักษะความเป็นเลิศของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ  โดยเฉพาะทักษะด้านโค้ดดิ้ง โรงเรียนได้ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และโชคดีที่โรงเรียนเรามีบุคลากรหลายคนที่มีความสามารถด้านทักษะโค้ดดิ้ง โดยเฉพาะท่านรองกิจวัฒน์  แสนศรีระ รองผู้อำนวยการโรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร ซึ่งมีความรู้ความสามารถในด้านนี้เป็นพิเศษ และเป็นประธานชมรมวิทยาการหุ่นยนต์ไทย ได้ช่วยผลักดันให้มีโครงการที่สำคัญระหว่างประเทศเช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนด้านวิชาการ ในวันนี้มีหน่วยงานทางการศึกษาร่วม MOU ได้แก่ สพม.ขอนแก่น, สพม.ชัยภูมิ, สพป.ขอนแก่น เขต 5, สพป.หนองบัวลำภู เขต 1  องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย และโรงเรียนในสังกัดดังกล่าวข้างต้น รวม 90 โรงเรียนร่วมทำ MOU นอกจากนี้แล้วยังได้รับความสนใจจากโรงเรียนต่าง ๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ที่สนใจด้านการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ กว่า 30 โรงเรียนขอเข้าร่วมชมการจัดงานในครั้งนี้ด้วย

นายชัยภร  สีมาตร ผอ.รร.จตุรมิตรวิทยาคาร กล่าวต่อว่า การจัดทำ MOUระหว่างหน่วยงานและโรงเรียนทั้งหมดกับโรงเรียนเคอร์ปาลา บาตัส และโรงเรียนตุน ไซเอ็ด เชห์ ชาฮาบูดิน รัฐปีนัง  ประเทศมาเลเซีย ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ การแลกเปลี่ยนความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี  การแลกเปลี่ยนแนวคิด ความคิดสร้างสรรค์และสิ่งประดิษฐ์ การฝึกภาษาเพื่อการสื่อสาร เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครู นักเรียนของทั้งสองประเทศ และท้ายสุดที่สำคัญอย่างหนึ่งคือเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาด้านการเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์สำหรับครูและนักเรียน 

ทางด้านนายศักดา  ชัยภัย ผอ.สพม.ขอนแก่น กล่าวว่า กิจกรรมความร่วมมือในครั้งนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีที่โรงเรียนทั้งหมดจะได้ร่วมมือกันในการที่จะพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนทั้งทางด้านวิชาการและทักษะ ตลอดจนเป้นการส่งเสริมความเข้าใจทางสังคมและทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันอยู่แล้วในแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  ซึ่ง สพม.ขอนแก่น เองก็มีนโยบายที่ส่งเสริมในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว  วันนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านวิศรุต  ปู่เพ็ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้เกียรติมาเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือของโรงเรียนต่างๆในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทย และโรงเรียนจากรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย

สตม.แถลงผลจับกุมบังกลาเทศ 7 คนหลบหนีเข้าเมืองเพื่อทำงานประเทศมาเลเซีย

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงศ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.ท.กฤตกรอิชณน์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้ 

ขยายผลจับกุมขบวนการขนแรงงาน ตม.จว.ปัตตานี สนธิกำลัง กก.สส.บก.ตม.6, สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี, กก.6 บก.ปคม., กก.3 บก.ปส.1 จับกุมนายเลาะ (นามสมมติ) อายุ 56 ปี บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ในฐานความผิด “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร, ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” สถานที่จับกุมในพื้นที่ อ.หนองจิก จว.ปัตตานี  นำตัวส่ง พงส.สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี ดำเนินการตามกฎหมาย  

สืบเนื่องจากการขยายผลจากการจับกุม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ตม.จว.ปัตตานี สนธิกำลังร่วมกับ สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี ทหารพราน 44 และฝ่ายปกครอง ขณะตั้งจุดตรวจความมั่นคง ด่านตรวจตอกอ อ.สายบุรี จว.ปัตตานี ได้จับกุมนายเจ๊ะอารง (นามสมมติ) อายุ 64 ปี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ และโทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง ในฐานความผิด “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และจับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติบังกลาเทศ จำนวน 7 ราย ในฐานความผิด “เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยคนต่างด้าวทั้งหมดนั้นเดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศมายังประเทศกัมพูชาด้วยสายการบิน และใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยจะมีนายหน้าที่ประเทศกัมพูชา ให้ความช่วยเหลือนำคนต่างด้าวฯ ลักลอบเข้าประเทศไทย มายังจุดพักคอย ซึ่งเป็นบ้านพักที่อยู่ตามแนวชายแดนฝั่ง อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อหัวรายละ 100,000 ถึง 140,000 บาท จากการสืบสวนขยายผลพบว่านายเลาะ เป็นหนึ่งในขบวนการขนแรงงานข้ามชาติที่จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย 

โดยทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถยนต์ตู้ลักลอบขนชาวบังกลาเทศจากบ้านพักคอย อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ไปส่งต่อให้นายเจ๊ะอารง(นามสมมติ) ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จว.ปัตตานี เพื่อนำชาวบังกลาเทศลักลอบออกทางช่องทางธรรมชาติไปประเทศมาเลเซีย พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และศาลจังหวัดปัตตานีได้อนุมัติหมายจับนายเลาะ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่านายเลาะ ได้เดินทางไปในพื้นที่ อ.หนองจิก จว.ปัตตานี จึงได้ไปสืบสวนติดตามตรวจสอบพบนายเลาะ จึงได้แสดงหมายจับและจับกุมตัวนำส่ง พงส.สภ.สายบุรี จว.ปัตตานี ดำเนินการตามกฎหมาย ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้นายเลาะ บุคคลเฝ้าระวังที่เป็นตัวการสำคัญในฐานข้อมูลขบวนการลักลอบนำพาฯ พื้นที่ บก.ตม.6 ที่พบความเคลื่อนไหวในช่วงปี 2564 จากการจับกุมเครือข่ายลักลอบนำพาฯ แรงงานชาวเมียนมา ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยทำหน้าที่ประสานงานและเคลื่อนย้ายคนต่างด้าวฯ จากพื้นที่ จว.ปัตตานี ไปยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน จว.นราธิวาส ก่อนที่ในปัจจุบันจะผันตัวมาลักลอบนำพาฯ ชาวบังกลาเทศ จาก จว.สระแก้ว ไปประเทศมาเลเซีย และพบว่าผู้ครอบครองรถตู้ที่ใช้กระทำความผิด มีความเกี่ยวข้องกับอดีตผู้ต้องหาในเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าวฯ ของเครือข่ายนายละมอร์(นามสมมติ) ที่ลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาในปี 2564

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จะกขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top