Wednesday, 23 April 2025
บุตรบุญธรรม

‘หญิงเกาหลีใต้’ วัย 44 รับเพื่อนสนิทเป็น ‘บุตรบุญธรรม’ เพื่อให้ได้สิทธิ์ตัดสินใจยามเจ็บป่วยฉุกเฉิน อย่างถูกต้องตามกม.

(20 ธ.ค.66) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หญิงชาวเกาหลีใต้รับเลี้ยงเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ใหญ่ของเธออย่างถูกกฎหมาย หลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ ทำให้เธอตระหนักว่า พวกเขาต้องการความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้นในการดูแลกันและกัน

อึน ซอรัน วัย 44 ปี เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลางที่มีพ่อของเธอเป็นคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัว และแม่ของเธอถูกมอบหมายให้รับหน้าที่เป็นแม่บ้าน แถมแม่ยังต้องดูแลครอบครัวของพ่อ แต่ไม่เคยได้รับความดีความชอบหรือคำขอบคุณจากคู่สมรสของเธอแม้แต่น้อย

แต่แม่พยายามให้ซอรันได้เดินตามเส้นทางอื่นในชีวิต แม่ไม่เคยให้เธอเข้าครัวเลยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และมักจะบอกเธอเสมอว่าให้รักษาอิสรภาพไว้ แม่มักพูดว่า “อย่าใช้ชีวิตเหมือนแม่” อึนซอรันสาบานว่าจะไม่เหมือนแม่และตัดสินใจที่จะไม่แต่งงานหรือมีลูก จนถึงทุกวันนี้

ด้วยความเบื่อหน่ายและเหนื่อยล้าในปี 2016 เธอย้ายไปอยู่ชนบทจอลลาเพื่อหลีกหนีจากความเครียดของชีวิตในเมืองและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น อึนซอรันได้พบกับอีออรี หญิงสาวที่มีความคิดเหมือนกัน ซึ่งย้ายมาอยู่ที่นั่นด้วยเหตุผลที่คล้ายกันมาก

ทั้งคู่จึงกลายเป็นเพื่อนที่ดีและภายในหนึ่งปีพวกเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่มีความรักในพืชพรรณ การทำอาหารมังสวิรัติ และโปรเจกต์ DIY รวมถึงทั้งคู่ต่างก็เป็นโสดอย่างมีความสุข ไม่กี่ปีต่อมา เมื่อข้อตกลงดำเนินไปได้ด้วยดี พวกเขาจึงตัดสินใจซื้ออพาร์ตเมนต์ด้วยกันเพื่อลดความไม่มั่นคงในการใช้ชีวิตตามลำพัง

ซึ่งการย้ายมาอยู่ด้วยกันทำให้ทั้งคู่มีคนคอยดูแลในวัยชราหรือในกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ แต่ทั้งคู่เผยว่า พวกเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่เหมือนครอบครัวมากกว่า

ทั้งคู่เริ่มแบ่งปันค่าใช้จ่าย ทำงานบ้าน และแม้กระทั่งเป็นเจ้าของบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ไม่นานพวกเขาก็ได้เรียนรู้ว่าในบางสถานการณ์ พวกเขายังคงเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน โดยก่อนหน้าเมื่ออึนซอรันต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากอาการปวดหัวเรื้อรัง

เธอตระหนักว่ากฎหมายของเกาหลีใต้อนุญาตให้เฉพาะสมาชิกในครอบครัวทำการตัดสินใจที่สำคัญเพื่อผู้ป่วย หรือแม้แต่ไปเยี่ยมพวกเขาในโรงพยาบาลเท่านั้นจึงทำให้พวกเธอสงสัยว่า แผนการดูแลกันและกันจะเป็นอย่างไร

ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันภายใต้กฎหมายครอบครัวที่เข้มงวดของเกาหลีใต้ ในตอนแรก ทั้งสองใคร่ครวญถึงความคิดที่จะแกล้งทำเป็นความสัมพันธ์โรแมนติกเพื่อที่พวกเขาจะได้แต่งงานกัน แต่เกาหลีใต้ไม่ยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน ดังนั้น พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นจนเกิดไอเดียรับบุตรบุญธรรมแทน

อึนซอรันทำการพิสูจน์ว่า เธอมีอายุมากกว่าอีออรีที่อายุ 38 ปี โดยได้รับการอนุมัติจากแม่ของออรี เมื่อส่งเอกสารแล้ว กระบวนการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น

“สิ่งที่เราต้องการคือ สิ่งง่าย ๆ เช่น การดูแลซึ่งกันและกัน การลางานเพื่อดูแลคนใดคนหนึ่งเมื่ออีกคนป่วย หรือจัดงานศพเมื่อเราคนหนึ่งจากไป แต่นั่นไม่สามารถทำได้ในเกาหลี เว้นแต่เราจะเป็นครอบครัวที่ถูกกฎหมาย” อึนซอรัน กล่าว

เรื่องราวของหญิงสาวชาวเกาหลีใต้ที่กลายมาเป็นแม่ของเพื่อนสนิทของเธอแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและเป็นแรงบันดาลใจให้อึนซอรันเขียนบันทึกความทรงจำชื่อ ‘I Adopted a Friend’

'จิรายุ' แนะ!! ส่วนราชการ เร่งทำความเข้าใจกฎหมายสมรสเท่าเทียม เหตุเกี่ยวพัน 'แพ่ง-อาญา' มีผลต่อชีวิตคู่ทั้ง 'สินสมรส-บุตรบุญธรรม'

(25 ก.ย. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ส่งผลให้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน ในวันที่ 22 มกราคม 2568 นั้น

นายจิรายุกล่าวว่า ตามกรอบกฎหมาย 120 วันที่จะบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568 โดยระหว่างนี้ ให้ส่วนราชการทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะรายละเอียดกฎหมายที่ผูกพัน ทั้งอาญา และแพ่ง เพื่อให้ประชาชนจะได้เข้าใจถึงสิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสิทธิจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย เป็นต้น

“พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเป็นอีกก้าวของความสำเร็จของรัฐบาลไทย เป็นเครื่องตอกย้ำความพยายามของรัฐบาลที่ดำเนินการด้านความเสมอภาค และความเท่าเทียมกันตลอดมา และเชื่อว่ารัฐบาลจะผลักดันความเท่าเทียมอย่างต่อเนื่องเพื่อประชาชนไทย” นายจิรายุกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top