Tuesday, 14 May 2024
บางขุนเทียน

“เอ้ สุชัชวีร์” ระดมสมองร่วมชาวบ้านบางขุนเทียน แก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะ  เชื่อ! กรุงเทพฯ แก้ได้ ด้วยหลักวิศวกรรม 

“เอ้ สุชัชวีร์” สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย พร้อมด้วย นายสารัช ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางขุนเทียน และนายสากล ม่วงศิริ อดีต ส.ส. 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณชายทะเลบางขุนเทียน เพื่อรับฟังปัญหาของเขตบางขุนเทียน ซึ่งกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากน้ำทะเลหนุนสูง และในอนาคตเมื่อปัญหาโลกร้อนหนักขึ้น ก็จะยิ่งทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น ปัจจุบันเขตบางขุนเทียนสูญเสียที่ดินจากการถูกน้ำทะเลกัดเซาะลึกเข้ามากว่า 2 กม. สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนและที่ดินทำกินของพี่น้องประชาชน 

“เอ้ สุชัชวีร์” พบว่าปัจจุบันเขื่อนป้องกันน้ำทะเลหนุนของ กทม. มีลักษณะเป็นไม้ไผ่ซึ่งไม่ใช่วัสดุทำเขื่อนป้องกันทะเลได้ เพราะไม่มีความแข็งแรง เมื่อติดตั้งเพียง 1-2 ปี เจอแดดและความชื้นไม่นานก็เสื่อมสภาพ กลายเป็นขยะไหลเข้าไปในวังเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงหอยของชาวบ้าน 

ส่วนการไฟฟ้านครหลวงบริจาคเสาไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้ว มาปักเป็นแนวเขื่อนป้องกันทะเล แม้มีคุณภาพดีกว่าต้นไผ่ แต่ก็ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาได้ เพราะเสาไฟฟ้าจะเอียงตามสภาพของแรงคลื่นที่กระทบตลอดเวลา ถือเป็นการช่วยเหลือเพียงชั่วคราว รวมทั้งการปลูกป่าโกงกางเพื่อป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากน้ำทะเลซัดจนต้นโกงกางไม่สามารถหยั่งรากได้

ในต่างประเทศที่ประสบปัญหาน้ำทะเลหนุน อย่างญี่ปุ่น มาเลเซีย หรือยุโรป จะนิยมใช้วิธีถมด้วยหินเทียม จากการหล่อคอนกรีต มีลักษณะสามขา โดยไม่ใช้หินจริงที่ต้องระเบิดจากภูเขา ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการถมด้วยหินเทียมมีข้อดีคือมีน้ำหนักมาก นอกจากนั้นจะมีช่องให้สัตว์น้ำสามารถเข้าไปวางไข่ได้ ไม่กระทบกับการทำประมงชายฝั่ง อีกทั้งปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการหล่อคอนกรีตที่บริษัทของไทยสามารถทำได้

‘บางขุนเทียน’ จัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ เปิดพื้นที่ให้คู่รัก LGBTQ+ จูงมือจดแจ้งคู่สมรส 

วันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. 65 ของสำนักงานเขตบางขุนเทียน จัดงาน ”บางขุนเทียนแสงเทียนแห่งรัก" เปิดให้คู่รักชายหญิงเข้าจดทะเบียนสมรส นอกจากนี้ยังมีความพิเศษ คือ ได้เปิดให้คู่รักเพศทางเลือก LGBTQ+ ได้มาจดทะเบียนสมรสเช่นกัน โดยทุกคู่จะได้รับทะเบียนสมรสที่เรียกว่า ใบรับการแจ้งคู่ชีวิต พร้อมของที่ระลึกเป็นหลอดไฟเพื่อนำเป็นสัญลักษณ์ในการส่องสว่างชีวิตของคนทั้งคู่ 

คู่แรกที่ได้จดแจ้งชีวิตคู่อย่าง น.ส.ณัฐรดา ฉิมช้าง ชาวไทย กับ MISS SHANNON DENISE BATES ชาวอเมริกัน บอกว่า การแต่งงานเพศทุกเพศสำคัญไม่ว่าจะเพศอะไร สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีการแบ่งแยก การจดทะเบียนในวันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นนำร่องทางกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตคู่สมบูรณ์ขึ้น เช่นในกรณีเจ็บป่วย เราไม่สามารถเซ็นยินยอมให้รักษาได้ เพราะโรงพยาบาลไม่ยินยอม ต้องไปตามครอบครัวมาเซ็นยินยอม ซึ่งถ้าข้อกฎหมายนี้ผ่าน เราก็สามารถให้เขาที่คอยอยู่กับเรามีสิทธิเซ็นยินยอมได้ แต่ถ้ายังไม่มีการเริ่มก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ 

‘ต๊ะ นารากร’ จี้!! หยุด CSR สร้างภาพ ต้นเหตุทำ ‘โลมา’ ตายที่บางขุนเทียน

‘ต๊ะ นารากร ติยายน’ ผู้ประกาศข่าวคนดัง โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลเสียของการทำ CSR ปลูกป่าชายเลน ที่มาแค่สร้างภาพพีอาร์ ถ่ายรูปเสร็จ ก็กลับทิ้งแนวไผ่ที่ปักไว้ จนเป็นต้นเหตุให้โลมาตาย ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ที่ทนไม่ไหว ได้ส่งข้อมูลมาให้ ว่า...

หยุด CSR ปลูกป่าชายเลน ต้นเหตุทำโลมาตายที่บางขุนเทียน

การทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลน จะมีการปักไม้ไผ่เป็นแนว บริษัทที่มาทำ CSR ปลูกป่า พอมาถึงก็จะถ่ายรูป พอได้รูปสำหรับการ PR เสร็จก็กลับ ทิ้งแนวไผ่ที่ปักไว้ บริษัทอื่นมาก็ทำแบบนี้ = ถ่ายรูปแล้วก็กลับ

พอระดับน้ำขึ้น (ตอนกลางคืน) ระดับน้ำสูงเลยแนวไผ่ โลมาก็จะว่ายเข้ามาหากินปลาดุก แต่พอรุ่งเช้า ระดับน้ำลด โลมาติดอยู่ในแนวไม้ไผ่ที่ปักไว้ ว่ายน้ำออกไปไม่ได้

ชาวบางขุนเทียนเสนอว่า ให้ ททท. ในพื้นที่ เข้ามาจัดระเบียบแนวไม้ไผ่ CSR ตามระดับน้ำขึ้นน้ำลง ให้โลมาว่ายหลบไปได้ หรือล้อมพื้นที่สำหรับการทำ CSR เพื่อป้องกันไม่ให้โลมาว่ายเข้ามาติดกับดักอีก

'ณัฐชา' โหมลงพื้นที่บางบอน-บางขุนเทียน หวั่นสับสนแบ่งเขตใหม่ ชี้!! ปชช. ให้การตอบรับดี พร้อมเชื่อมั่นการทำงานแบบ ‘ก้าวไกล’

(6 เม.ย.66)  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.แบ่งเขตพื้นที่ใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกังวล ที่ผ่านมาทำงานเข้าถึงพื้นที่และขยายไปยังพื้นที่รอบ ๆ มาตลอดอยู่แล้ว เพราะงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นงานเชิงประเด็นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน ไม่ว่าเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยหรือเบี้ยยังชีพคนชราที่ตนขับเคลื่อนอยู่ไม่สามารถแบ่งขาดด้วยการขีดเส้นเขตปกครองหรือมองเป็นเขตใครเขตมันได้ เมื่อลงไปจัดการแก้ปัญหาใด ๆ ก็จะพยามยามแก้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมที่สุด

อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตใหม่พี่น้องประชาชนอาจยังไม่รู้ว่าเขตไหน ใครลงสมัครบ้าง ช่วงนี้จึงขยับไปแนะนำตัวในจุดใหม่ ๆ ซึ่งพบว่าเมื่อไปตั้งโต๊ะปราศรัยจุดใดพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้ตอนแรกพี่น้องประชาชนสะท้อนว่าการแบ่งเขตใหม่ทำให้สับสน แต่เมื่อรู้ว่าตนจะเป็นตัวแทนที่เขาเลือกไปทำงานในสภาได้ กลายเป็นยิ่งยินดีเพราะเชื่อมั่นในการทำงานแบบก้าวไกลและอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่รวมถึงในระดับโครงสร้างของประเทศ

‘เฒ่าวัย 67 ปี’ ใช้มีดแทงป้าดับสลด เพราะ ‘พัดลม’ ตัวเดียว หลังตนเปิดจ่อ แต่โดนหันหนี ก่อน ตร.ตามจับตัวได้ที่คอนโด

เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.67) ร.ต.ท.พชร ปุ้มฤทธิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับเเจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกาย ด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในร้านอาหารตามสั่ง ซอยเอกชัย 66 แขวงคลองบางพลาน เขตบางบอน กทม. ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง พบ ร่างน.ส.พรพิมล อายุ 64 ปี มีบาดเเผลถูกเเทงบริเวณหน้าอก 2 เเผล กู้ชีพปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมะลิ เเต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะเดียวทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ห้องพัก ชั้น 7 ของคอนโดแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังพังประตูเข้าควบคุมตัวไว้ได้

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนายวรพงษ์ อายุ 67 ปี จากการตรวจค้นพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบถามเบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การวกไปวนมา พยายามอ้างตัวว่าตัวเองเป็นตำรวจยศนายพล และบอกว่า “ผู้การจะต้องมารับผิดชอบในความปลอดภัยของตัวเองนะ” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ สน.บางขุนเทียน

จากการสอบถามแม่ค้าขายอาหารจุดเกิดเหตุเผยว่า นายวรพงษ์ ผู้ก่อเหตุ เดินมานั่งในร้านก่อนนั่งเฉย ๆ อยู่หน้าพัดลม ยังไม่ได้สั่งอาหารอะไรกิน จากนั้นน.ส.พรพิมล ผู้เสียชีวิต เดินเข้ามาในร้าน สั่งแกงจืดและไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะลุกไปหันพัดลมที่ผู้ก่อเหตุนั่งจ่ออยู่ ให้หันไปทางโต๊ะที่ผู้ตายนั่ง ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ลุกขึ้นพุ่งเข้าไปใช้มีดแทงทันที โดยที่ยังไม่ทันได้มีปากเสียงอะไรกันเลย

ทั้งนี้นายวรพงษ์ ชอบมานั่งเฉย ๆ บ่อยครั้งและไม่ได้สั่งอาหารกิน แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะรู้ว่าสภาพจิตดูไม่ค่อยปกติ และที่ผ่านมาก็มักจะเห็นพกมีดติดตัวไว้เป็นประจำ เท่าที่ทราบทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตทั้งสองคนจะมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป แต่ไม่เคยมีเหตุรุนแรงมาก่อน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเบื้องต้นก็พอพูดจารู้เรื่อง ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกับผู้เสียชีวิตมาก่อน ก่อนเกิดเหตุไปซื้อข้าว ระหว่างนั่งรอ ทันใดนั้นคู่กรณีเดินมานั่งและแย่งพัดลมตรงจุดที่นั่งอยู่ ทำให้โมโหใช้มีดแทงไปที่หน้าอก 2 แผลจนเสียชีวิต

แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ กับพกพาอาวุธมีดฯ ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านบอกว่าผู้ชายคนนี้มีอาการป่วยทางจิตเวช ตำรวจจะติดต่อให้ญาตินำหลักฐานหรือเอกสารมายืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชจริงหรือไม่ และจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พบว่าเคยเป็นตำรวจหรือข้าราชการแต่อย่างใด คาดว่าที่ผู้ก่อเหตุอ้างตัวเป็นตำรวจมาจากอาการทางจิตเวชก็เป็นได้

ทั้งนี้ ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัวนายวรพงษ์ ไปที่ห้องกักขังผู้สื่อข่าวพยายามเข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุไม่ตอบคำถามใดๆ แต่ผู้ก่อเหตุได้หันไปทำท่า ‘วันทยหัตถ์’ ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top