Friday, 18 April 2025
บอล

‘สวาทแคท’ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผงาดชูถ้วยแชมป์ อย่างยิ่งใหญ่ หลังคว้าชัยเอาชนะ ‘หนองบัว พิชญ’ ท่ามกลางแฟนบอลกว่า 25,000 คน

เมื่อไม่นานมานี้ มีฟุตบอลแมตช์สุดมันส์ เดิมพันด้วยตำแหน่งแชมป์ และ เจ้าแมวพิฆาตก็ไม่ทำให้แฟนบอลชาวโคราชผิดหวัง ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะทีมหนองบัว พิชญ คู่แข่งสำคัญที่กำลังเบียดกันลุ้นแชมป์ไปสุดมันส์ 3-0 ผงาดคว้าแชมป์ ครองความยิ่งใหญ่ท่ามกลางแฟนบอลเข้าชมเต็มสนามกว่า 25,000 คน ที่เดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม พร้อมกลับขึ้นสู่ไทยลีกอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

สำหรับการแข่งขันแมตช์สำคัญในครั้งนี้ มีบุคคลสำคัญ ๆ ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักเตะของทีมอย่างคับคั่ง ประกอบไปด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาสโมสรฯ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานบริหารสโมสร คณะผู้บริหารของสโมสรฯ พร้อมด้วยผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ รวมถึงเหล่าบรรดานักเตะแมวพิฆาต ทีมสตาฟโค้ช ฝ่ายเทคนิค และนักฟุตบอลเยาวชนจากอะคาเดมี่ ร่วมชมและเชียร์แมตช์นี้จนล้นสนาม

ตลอดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมสู้กันสุดเร้าใจท่ามกลางกองเชียร์กว่า 25,000 คน หลังจบเกมการแข่งขันทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นฝ่ายเอาชนะทีมหนองบัว พิชญ เอฟซี ไปได้ 3-0 คว้าแชมป์ไทยลีก 2 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีพิธีมอบถ้วยฉลองแชมป์สุดอลังการ และได้รับเกียรติอย่างสูงจาก มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมชมการแข่งขันและมอบถ้วยเกียรติยศในครั้งนี้

'มิโรสลาฟ โคลเซ่' เผย!! ความคิดของ 'เด็กรุ่นใหม่' ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เขาต้องหันหลังให้ 'ฟุตบอล'

จากบทความโดย 'Mansion Sports' ได้นำเสนอเรื่องราวของ 'มิโรสลาฟ โคลเซ่' อดีตกองหน้าทีมชาติ เยอรมนี ถึงมุมมองความคิดต่อ 'เด็กรุ่นใหม่' ที่มีส่วนสำคัญทำให้เขาต้องหันหลังให้อาชีพ 'ฟุตบอล' ในที่สุด ว่า...

"ผมเลิกเล่นฟุตบอล เพราะว่าผมไม่รู้จักมันอีกต่อไป ทุกวันนี้ เหล่าผู้เล่นดาวรุ่งเอาแต่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ"

"สมัยที่ผมยังเด็ก ผมคิดอยู่อย่างเดียวว่านั่นก็คือ การฝึกซ้อม และการได้กลายเป็นใครสักคนในกีฬาที่ผมรักเสมอมา ทั้งตอนที่อยู่ ลาซิโอ้ หรือกับ ทีมชาติเยอรมนี"

โคลเซ่ เล่าอีกว่า "หลังจากซ้อมเสร็จ ผมเอาตัวเองไปแช่ในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่พวกดาวรุ่งในทีมเลือกปฏิเสธที่จะทำแบบนั้น”

เขาเล่าต่อด้วยว่า "ตอนนั้นพวกเขาเห็นผมหยิบถุงใส่ลูกบอลและเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ หลังจบการฝึกซ้อม พวกเขาก็ถามผมว่า 'ใครเป็นคนบอกให้คุณทำแบบนั้น?'"

"ณ ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า ‘เอ็งอายุ 20 ปีแล้วนะ เอ็งไม่คิดจะช่วยเหลือคนงานอายุ 60 ปีกันเลยเหรอวะ?'"

"ดาวรุ่งเหล่านี้สนใจว่ารองเท้าสตั๊ดที่ใส่จะเข้ากับถุงเท้าของทีมหรือไม่ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลิกเล่น นี่ไม่ใช่ฟุตบอลที่ผมรู้จักอีกต่อไปแล้ว" โคลเซ่ กล่าวและว่า...

"นักเตะอายุน้อยในปัจจุบันต่างก็คิดถึงเรื่องการมีรถขับเป็นอันดับแรก, สัญญาส่วนตัวกับสปอนเซอร์ และ รองเท้าคู่ใหม่ นี่คือเรื่องทั้งหมดที่พวกเขาสนใจก่อนจะมาถึงเรื่องฟุตบอล ... สำหรับพวกเขาภาพลักษณ์คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด แต่สำหรับผมสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอก็คือ 'ฟุตบอล' ในรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุด"

โดยสรุปแล้ว สิ่งที่ทำให้ยอดตำนานอย่าง มิโรสลาฟ โคลเซ่ เลือกปิดฉากเส้นทางค้าแข้งกับ ลาซิโอ้ เมื่อปี 2016 ไม่ใช่อายุอานามที่แตะหลัก 36-37 และไม่ใช่ความอิ่มตัวบนเส้นทางอาชีพกว่า 17 ปี แต่เป็นความคิดความหมกมุ่นของเด็กคนใหม่ที่ทำให้ฟุตบอลที่เขารัก กลายเป็นสิ่งที่ไม่รู้จักอีกต่อไป

แม้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ จะไม่ใช่กองหน้าระดับหัวแถวในยุคสมัยของเขา เพราะมีทั้งช่วงเวลาที่ดีและไม่ดีในทุกๆ ที่ๆ เขาไป ไม่ว่าจะทั้งที่ ไกเซอร์สเลาเทิร์น, แวร์เดอร์ เบรเมน, บาเยิร์น มิวนิค ตลอดจนกับ ลาซิโอ้ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จักเขา หรือตั้งข้อกังขาในฝีเท้าของเขาอย่างแน่นอน

ยิ่งกับทีมชาติเยอรมนีด้วยแล้ว เขาคือ ดาวยิงระดับตำนาน โดยเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาลบนเวทีระดับ 'ฟุตบอลโลก'

...และทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ก้าวมาอยู่ในจุดๆ นั้นได้ ก็มาจากสิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด นั่นก็คือ การมีวินัยกับตัวเอง และมองว่า 'ฟุตบอล' นั้นสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด

‘มาดามแป้ง’ เผย ‘นักเตะทีมชาติไทย’ ไร้ปัญหาการปรับตัวที่ ‘จีน’ ดูแลอย่างดี!! ‘ที่พัก-อาหาร-การเดินทาง’ เพื่อพร้อมลุยบอลโลก

(3 มิ.ย.67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่าในส่วนของเรื่องนอกสนาม ทีมชาติไทย มีความพร้อมเต็มที่ โดยไม่มีปัญหาต้องปรับตัวที่ประเทศจีน ทั้งในแง่สภาพอากาศ และ อาหารการกิน เพราะมีเชฟคนไทยคอยประจำทุกวัน ก่อนเกมสำคัญ เตรียมพบกับ ทีมชาติจีน ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5

มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ มีนโยบายให้ความสำคัญเรื่องนอกสนามเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทีมชาติ เดินทางมาตรวจเช็คความพร้อม ที่พัก , สนามซ้อม และ สนามแข่งขัน ล่วงหน้า ส่วนการบินมาที่ เมืองเสิ่นหยาง ครั้งนี้ ยังได้ประสานกับทาง TOA ช่วยอำนวยความสะดวก เดินทางแบบเช่าเหมาลำ ทั้งไปและกลับด้วย

มาดามแป้ง กล่าวว่า เรื่องนอกสนาม เป็นสิ่งที่ พูดอยู่เสมอว่าเราให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะเชื่อว่าถ้านอกสนามเราพร้อมเต็มที่ ก็จะส่งผลดีต่อฟอร์มการเล่นในสนาม และ ช่วยให้ทีมโค้ชอิชิอิ เค้นศักยภาพ และ ทำงานร่วมกับนักเตะได้ง่ายขึ้น
 
“ทีมชาติไทย เดินทางถึงเมืองเสิ่นหยาง เป็นที่เรียบร้อย ในฐานะนายกสมาคมฯ ต้องขอบคุณ TOA อีกครั้ง ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ ส่วนในแง่การปรับตัวด้านอื่น ๆ เท่าที่ แป้ง พูดคุยกับโค้ชอิชิอิ ก็ไม่มีปัญหา เพราะสภาพอากาศ ไม่ต่างจากที่ไทย , เวลาต่างกันแค่ 1 ชั่วโมง และ สนามซ้อมก็อยู่ในสภาพที่ดี รวมถึง ที่พัก ก็มีเชฟไทยคอยประจำทุกวัน ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเราส่งเจ้าหน้าที่ มาเช็คล่วงหน้า ยืนยันว่าทุกคนแฮปปี้ กินอิ่มหลับนอนได้เต็มที่ ก่อนเกมสำคัญ ในวันที่ 6 มิถุนายนนี้“ มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีโปรแกรมต้องทำการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5 พบกับ ทีมชาติจีน ที่ เสิ่นหยาง โอลิมปิก เซ็นเตอร์ สเตเดียม ประเทศจีน วันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ต่อด้วยเปิดบ้านพบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 11 มิถุนายน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐ ทีวี ทั้งสองนัด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตือน ดูบอลให้สนุก อย่าต้องทุกข์เพราะการพนัน

วันนี้ (14 มิถุนายน 2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่ามีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินให้กับการพนัน และตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน ถึง 14 กรกฎาคม 2567 มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 17 หรือ ฟุตบอลยูโร 2024 ซึ่งเว็บไซต์การพนันผิดกฎหมายต่าง ๆ อาจเปิดรับพนันผลการแข่งขันฟุตบอลเพื่อล่อลวงพี่น้องประชาชน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอให้พี่น้องประชาชนรับชมการแข่งขันฟุตบอลอย่างสร้างสรรค์ อย่าหลงผิดไปเล่นพนันฟุตบอล เพราะผลเสียที่จะตามมานั้นมีมากมาย เช่น

1. เสียทรัพย์ - การพนันอาจนำไปสู่การสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถก่อให้เกิดหนี้สินและปัญหาทางการเงินในระยะยาว

2. เสียมิตร - การเสพติดการพนันสามารถทำลายความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ และการเล่นพนันมากเกินไปอาจทำให้เวลาและเงินที่ควรใช้ในการดูแลครอบครัวลดลง

3. เสียจิต- การพนันสามารถทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า และผู้ที่พ่ายแพ้ในการเดิมพันอาจรู้สึกผิดหวังและเสียใจมากจนทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่

4. เสียรู้ – การสมัครสมาชิกและเล่นการพนันในเว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัว ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และข้อมูลอื่น ๆ ถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด และอาจถูกโกงไม่สามารถถอนเงินจากเว็บพนันได้

5. ติดคุก - ผู้เล่น ผู้ชักชวน และผู้จัดให้มีการพนันฟุตบอลจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12(2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ขอให้ช่วยกันหยุดวงจรการพนันออนไลน์ โดยหากพบเห็นการกระทำความผิดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังสายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

หนุ่มน้อยนักเตะ ‘รร.กีฬาหนองคาย’ ดังไกลถึง ‘พรีเมียร์ ลีก’ หลังเป็นไวรัล!! มีคนนำไปเทียบ ‘เทรนท์-แจ็ค กรีลิช-เมซุต โอซิล’

(19 ต.ค. 67) เหตุเกิดในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คนชิงแชมป์ 7 สี เมื่อวันก่อนซึ่ง โรงเรียนกีฬาหนองคาย ถล่ม หนองกี่พิทยาคม จาก บุรีรัมย์ ไปแบบขาดลอยถึง 5-0 แต่ทุกคนกลับติดภาพจำจังหวะที่ไม่เป็นประตูเมื่อ ชญานนท์ กะมุตะเสน นักเตะตัวรุกของทีมผู้ชนะได้ลากเลื้อยเข้าไปยิงเต็มข้อ พร้อมหันมาทำท่าดีใจด้วยการทำนิ้วรูปตัว N โดยไม่ได้ดูว่า ลูกบอลเจ้ากรรมถูกคู่แข่งสกัดได้บนเส้นประตู

เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็น ไวรัล ทำเป็นคลิปแชร์ว่อนโซเชียล เกิดมีมต่าง ๆ มากมาย ถึงขั้นสกรีนลวดลายบนเสื้อยืดยังมี กระทั่งล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก พรีเมียร์ลีก ได้นำรูปของ ชญานนท์ มาโพสต์แบบ 4 ช่องเคียงข้างท่าดีใจของสตาร์ดังทั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา ลิเวอร์พูล, แจ็ค กรีลิช ปีกทีมชาติอังกฤษสมัยสังกัด แอสตัน วิลล่า และ เมซุต โอซิล อดีตจอมทัพ อาร์เซนอล

พร้อมกันนั้นยังโพสต์แคปชันข้อความแบบปั่น ๆ พลางให้กำลังใจในเวลาเดียวกันว่า ‘ไม่เป็นไรนะน้อง...อย่างน้อยเราก็เท่’

‘บิ๊กเต่า’ เล็งแจ้ง!! อีกหลายข้อหา ‘สามารถ’ หลังพบเส้นทางการเงิน พบเอี่ยว!! ‘รีดไถผู้ประกอบการ - พนันบอล’ ยัน!! มีหลักฐานชัดเจน

(1 ธ.ค. 67) ที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบ.ช.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ว่า จากการตรวจสอบยอดเงิน 100 กว่าล้านในบัญชี มีการแตกไปในหลายเส้นทางการเงิน และเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา เราพบร่องรอยการโอนเงินเข้าบัญชีของนายสามารถ ประมาณ 500,000 บาท จึงเรียกเป้าหมายคนดังกล่าวมาพูดคุย พร้อมนำหลักฐานมาแสดง ซึ่งเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์จึงน่าจะมีการแจ้งข้อหานี้กับนายสามารถอีกหนึ่งคดี

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 บุคคลใกล้ชิดนายสามารถ ที่มีการเรียกเข้ามาสอบปากคำ ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ได้บอกถึงเส้นเงิน ที่ตัวเขาเป็นคนถือบัญชี ซึ่งนายสามารถอ้างว่า เป็นเงินใช้หนี้ และให้โอนเข้ามาในบัญชีนี้ และพบว่ามีการโอนเงินเข้ามา 2 ส่วน คือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป แต่ไม่ใช่จากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล แต่เป็นหนึ่งในบอสของ ดิไอคอน ประมาณ 3 ล้านบาท โดยต้องตรวจสอบว่าเป็นการโอนเข้ามา เพราะบอสพอล เป็นคนสั่งการหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาแล้วเป็นการเรียกรับ ตำรวจสอบสวนกลางจะเป็นคนสอบเอง แต่หากพบว่าโอนเข้ามาจากบริษัท ดิไอคอน จะเข้าข่ายคดีฟอกเงินเพิ่มอีกหนึ่งคดี ตอนนี้ได้ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อที่จะสอบปากคำพยานคนดังกล่าวในสัปดาห์หน้า ส่วนเงินในบัญชีอีกส่วนเป็นการโอนเข้ามาของผู้ประกอบการที่ถูกรีดไถ จำนวน 500,000 บาท ซึ่งมีการแจงความไว้แล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนอื่นๆที่เราได้มีการตรวจสอบ พบว่าเกิดเหตุในลักษณะนี้ กับอีกหลายคนและอีกหลายส่วน และบางส่วนยังไม่ให้ความร่วมมือ เราจึงพยายามพูดคุย และพบว่าเกี่ยวข้องกับคนในหลายแวดวง ทางข้าราชการ หรือแม้แต่บุคคลที่บริษัท ดิไอคอน จ้างงาน ซึ่งมีเส้นเงินเชื่อมโยง ดังนั้น ต้องมีการตรวจสอบบัญชีอีกหลายส่วน ทั้งนี้ เส้นเงินที่เราแตกออกไปหลายส่วนนั้น อยู่ในจำนวน 100 กว่าล้านบาท ซึ่งเงินบางส่วนเราเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นเงินที่มาจากการเล่นพนันบอล ซึ่งพบจากคนใกล้ชิด ประมาณ 30 ล้านบาทและเสียไปประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งยังเหลืออีก 50-60 ล้านบาท ที่ต้องตรวจสอบที่มาที่ไป ดังนั้นตำรวจสอบสวนกลางต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าเส้นเงินไปถึงใครบ้าง เพื่อพยายามที่จะเรียกบุคคลนั้นๆเข้ามาสอบปากคำ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีในทุกเรื่อง

เมื่อถามถึงที่นายสามารถ ระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการถูกดำเนินคดี และมีการอดข้าวประท้วง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เราไม่อยากให้มีการอดอาหารประท้วง และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้กลั่นแกล้ง การตรวจสอบเส้นเงินเป็นวิทยาศาสตร์ และผู้เสียหายก็มีอยู่จริง

"นายสามารถ ต้องยอมรับสภาพว่าสิ่งที่ทำจะทิ้งหลักฐานไว้ สิ่งเหล่านี้กำลังตามหลอกหลอน ให้ต้องถูกดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีใครที่จะไปกลั่นแกล้ง แต่นายสามารถเป็นบุคคลคนหนึ่งที่เราต้องการ นำเข้าสู่การบังคับใช้กฎหมาย และนำเข้าสู่สำนวนคดี เพราะมีคลิปเสียงชัดเจนในการเรียกรับ และมีคำพูดค่อนข้างดูถูกข้าราชการ ในการแต่งตั้งข้าราชการเข้าไปดูแลบอสพอล หรือช่วยเหลือผู้ประกอบการ ดังนั้น เราต้องมีความพยายาม ต้องดำเนินการแม้บอสพอล จะไม่ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดี ยืนยัน ไม่มีการกลั่นแกล้งและขอให้ไปสู้กันในชั้นศาล หากมีพยานที่สามารถหักล้างเหตุผลได้ ก็ไม่จำเป็นต้องอดข้าว ขณะนี้ยังมีเวลาแก้ไข หากกระทำผิดก็ต้องชดใช้ ในสิ่งที่ทำไว้" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

เมื่อถามต่อว่าจะมีการมอบของขวัญช่วงปีใหม่ให้กับอินฟลูเอนเซอร์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดิไอคอนอีกหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการปัดกวาดทางสังคมให้สะอาด ให้บรรดาอินฟลูเอนเซอร์เพจต่างๆ เข้ามาสู่ระบบเคารพกฎหมาย เพราะที่ผ่านมามีการบูลลี่หน่วยงานรัฐ โดยไม่มีหลักฐาน แต่ยืนยันพวกเราไม่ใช่คนไร้น้ำใจ หรือเป็นคนใจร้าย แต่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ระบุว่าสิ่งใดที่ทำให้สังคมไขว้เขว ใส่ร้ายสังคม ใส่ร้ายข้าราชการ เราต้องปัดกวาด รวมถึงหากข้าราชการตำรวจมีการกระทำความผิด ก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเอาออกไปเช่นกัน ก็เป็นการกวาดบ้านตัวเอง เป็นการทำทุกหน่วยงานให้เป็นของขวัญให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงปีใหม่

‘กลุ่มเต้นแอโรบิก’ เปิดเพลงสุดมัน!! เสียงดังรบกวน ลั่น!! สนามกีฬากลาง คือ ‘พื้นที่ส่วนรวม’ ควรเกรงใจ

(5 ธ.ค. 67) สายรักสุขภาพ คนชอบออกกำลังกาย อาจจะคุ้นชินกับบรรยากาศการ ‘เต้นแอโรบิก’ ในสนามกีฬาสาธารณะ ซึ่งก็จะมีการเปิดเพลงประกอบจังหวะ ทำให้สามารถเต้นได้อย่างพร้อมเพรียงและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

ทว่า ล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นถกสนั่นในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้บัญชี X : @Mr_Whathapened ออกมาแชร์คลิปจากผู้ร้องเรียนรายหนึ่ง โวยกลุ่มคนกำลังเต้นแอโรบิก พร้อมข้อความเขียนในคลิปว่า 

สนามกีฬากลางไม่ใช่สนามกีฬาส่วนตัว ใช่ว่าทุกคนจะอยากฟังเสียงเพลงแอโรบิก ซึ่งพวกคุณเปิดดังมาก ไม่มีความเกรงใจคนที่เขามาใช้สนามกีฬาเลย

โดย บัญชี X : @Mr_Whathapened ก็ได้เขียนแคปชันชวนชาวเน็ตมาถกเถียงเสนอความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว ระบุว่า 

ประเด็นนี้น่าถกว่า สนามกีฬากลางที่มีการเต้นแอโรบิกแล้วใช้เครื่องเสียงซึ่งดังมาก จนไปรบกวนการเล่นกีฬาชนิดอื่น ๆ เหมาะสมหรือไม่ หรือคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ

ฝั่งเต้นแอโรบิกก็บอกว่า แค่ชั่วโมงเดียวเองจะอะไรนักหนา ไม่ได้เต้นทั้งวัน หรือ ไปบอกให้เบาเสียงก็ได้ แต่คนถ่ายคลิปบอกกูเคยเดินไปบอกแล้ว สรุปคือเปิดดังกว่าเดิม 

งานนี้ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันสนั่น โดยเสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยว่าพื้นที่ส่วนกลางควรลดเสียงและเกรงใจผู้ใช้สนามรายอื่น กับฝ่ายที่มองว่า เป็นเรื่องปกติ และการเต้นแอโรบิกก็ใช้เวลาไม่นาน ควรแบ่งปัน

ความคิดเห็นนั้นมีหลากหลาย อาทิเช่น

คนไทยจำนวนมากติดเสียงดังเกินความจำเป็นอะ ตามงานวัด งานโอท็อป กาชาด หมอลำ ฯลฯ จะเจอเปิดเพลงดังเยอะมาก แบบไม่สนใจความเดือดร้อนของคนอื่น แล้วก็อ้างสารพัดว่าปีละครั้ง หรือ แค่แป๊ปเดียว ประเด็นคือการทำให้คนอื่นเดือดร้อน แค่แป๊ปเดียวก็ไม่ควรทำป่ะ เปิดเสียงเบาลงแล้วจะเต้นไม่ได้เหรอ?

เอาแค่ให้คนที่เต้นได้ยินก็พอ ไม่ต้องสาระแนเผื่อแผ่ชาวบ้าน บีทดนตรีมันไม่ได้ชิวค่ะ มันหนวกหู แล้วมันอยู่ติดบ้านคนด้วยมั้ยล่ะ ถ้าติดด้วยนี่ควรโดนด่าเลย ไม่มีมารยาท

หลังบ้านเป็นอนามัยเมื่อก่อนมีกลุ่มแม่บ้านมาซ้อมรำทุกเย็นเปิดเพลงดังมากกกก จนเด็กที่กำลังจะอ่านหนังสือสอบอ่านไม่ได้เลยพี่เราเลยไปแจ้งเทศบาล เค้าก็เปิดเบาลงนะ คือสมัยนี้คนไทยก็ได้เรียนหนังสือกันแล้วก็น่าจะคุยกันได้นะ (ถ้ามีจิตสำนึกบ้าง)

ส่วนมากที่เจอ เสียงดังจริงค่ะ แต่ก็คิดว่าเขาเต้นไม่นานหรอก แต่เราแค่คนผ่านมาไง เราไม่ใช่คนใช้ชีวิตตรงนั้น ไม่ได้มาฟังทุกวันๆ ก็น่าเห็นใจคนที่บ้านอยู่แถวนั้นนะคะ ถ้าเบาได้ก็ช่วยเบาลงหน่อยน่าจะดี

เปิดเสียงในระดับที่ร้านคาเฟ่เขาเปิดกันก็พอแล้วมั้ย มากไปก็เป็นมลพิษทางเสียง
เปิดปกติ มันก็เต้นได้ ไม่เข้าใจจะเปิดดังๆทำไม เบียดเบียนคนอื่น เอาจริงๆ ไม่ควรเปิดเสียงรบกวนคนอื่นในที่สาธารณะเลย คนอื่นเค้าไม่ได้อยากฟังด้วย กทม. มาทำไรหน่อย

ไม่ได้รู้สึกว่าดังอะไรเลย สนามกีฬาก็ฟีลประมาณนี้อยู่แล้ว แล้วที่ว่ารบกวนกีฬาชนิดอื่น คืออะไร หมากรุก? เตะบอลก็ต้องมีเสียงเฮ ตะกร้อลอดห่วงก็ต้องมีเสียงเอ้วๆ แม้แต่อาม่ารำไทเก็กเช้าก็ยังเปิดเพลงจีน

ไม่ต้องเปิดเผื่อคนอื่นก็ได้ หนวกหู!!

งานนี้ก็คงต้องรอดูว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการเคลื่อนไหวเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันหรือไม่ 

‘สาวเวียดนาม’ โดนโซเชียลถล่มยับ!! หลังเชียร์นักเตะช้างศึก ทีมชาติไทย

(4 ม.ค. 68) Youtube ช่อง ‘UP Comment’ ได้นำเสนอเรื่องราวของ 'สาวเวียดนาม' ซึ่งโดนโซเชียลถล่มหนัก หลังเชียร์ทีมชาติไทย โดยในคลิปนั้นมีใจความว่า ...

เป็นประเด็นในโซเชียลมีเดีย ประเทศเวียดนาม เมื่อ ‘ง็อก-เหวียน-โด’
สาวเวียดนามรายหนึ่ง ที่ได้มีการปรากฏภาพของเธอสวมเสื้อเชียร์ทีมชาติไทยในศึกเอเอฟเอฟคัฟ ที่เวียดนาม นั้นสามารถเปิดบ้านเอาชนะทีมชาติไทยไปได้สองประตูต่อหนึ่ง 

งานนี้เธอโดนชาวเวียดนามรุมประณามอย่างหนักด้วยข้อหาไม่รักชาติพร้อมกับตั้งคําถามเพราะเหตุอันใดเธอจึงเชียร์ทีมชาติไทย

ตามข้อมูล ได้มีการระบุว่า เธอได้มีการติดตามเชียร์ทีมชาติไทยมากว่า 10 ปีแล้วและทุกครั้งที่ทีมชาติไทยมาแข่งขันที่ประเทศเวียดนามเธอก็มักจะเข้าไปให้กําลังใจทีมชาติไทยอยู่เสมอ ซึ่งจากภาพดังกล่าวที่ถูกสื่อเวียดนามเผยแพร่นี้เอง ก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเวียดนามเป็นจํานวนมาก จนถึงขั้นที่เธอนั้นถูกชาวเวียดนามรุมสาปแช่ง แล้วรวมถึงมีการรุมรีพอร์ตเฟซบุ๊ก และติ๊กต็อกของเธอจน ถูกระงับการใช้งานไปเป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ชาวเวียดนาม ได้มีการออกมาแสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงมีการบูลลี่เธอเป็นอย่างมาก 

เรามาเริ่มต้นกันที่ความคิดเห็นของชาวเวียดนามท่านแรกครับท่านนี้เค้าบอกว่า ถ้าผมอยู่ใกล้ ๆ ผมจะฉีกเสื้อตัวนั้นทิ้งท่านนี้ก็น่าจะหมายถึงเสื้อทีมชาติไทยนะครับ

ความคิดเห็นต่อไป ช่างมันเถอะมันก็โต ๆกันแล้ว แล้ว เธอมีจุดประสงค์อะไรที่ไปสนามกีฬาที่มีคนเวียดนามเยอะขนาดนั้น

ความคิดเห็นต่อไป นอกจากกีฬาสีแล้วฉันยังไม่เคยเห็นใครทําร้ายเด็กแบบนี้เลย ชอบทีมไหนเชียร์ทีมไหนก็ลุยเลยเธอไม่ใช่คนทรยศเธอไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายและเธอก็ไม่เคยสาปแช่งประเทศตัวเอง

คุณกินข้าวเวียดนามดื่มน้ำเวียดนามและสูดอากาศของเวียดนามที่บรรพบุรุษต้องเสียสละ เพื่อให้ได้มันมา แต่พอเวียดนามยิงประตูได้ ทําไมเธอถึงโกรธ

ความคิดเห็นต่อไป ทําไมคนไทยคนนี้ถึงมีชื่อเหมือนเวียดนามท่านนี้ก็แสดงความคิดเห็นแบบประชดประชันไว้

ตั้งฐานทัพบินมาถล่มเวียดนาม อยากจะถามเธอว่าเธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า

เธอคงตั้งหน้าตั้งตาที่จะไปทํางานในประเทศไทยนั่นแหละ เธอเลยสร้างภาพเพื่อให้ได้สมัครงานมาง่าย ๆ

ความคิดเห็นต่อไปครับทั้งนี้เขาบอกว่าทุกคนคงยังไม่เข้าใจอะไรบางอย่างจริง ๆ แล้วเธอคนนี้เป็นเด็กผู้ชายที่เกิดมาในร่างของเด็กผู้หญิงดังนั้นเธอจึงต้องการไปที่ประเทศไทยเพื่อกลายเป็นคนข้ามเพศ เธอจงใจดึงดูดความสนใจเพื่อที่จะทําให้เธอเป็นคนข้ามเพศในไทยและทําให้คนไทยนั้นเห็นใจเธอ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top