Thursday, 16 May 2024
บอยปกรณ์

‘บอย ปกรณ์’ เผยสาเหตุบวชเงียบ ยัน!! ไม่ได้เตรียมเบียด พร้อมบอก อยากบวชมานานแล้วแต่ยังไม่มีจังหวะเฉยๆ

แฟนคลับร่วมอนุโมทนาบุญใหญ่กับพระเอกหนุ่ม ‘บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์’ ที่เข้าอุปสมบททดแทนบุญคุณพ่อแม่ไปก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังมีเรื่องที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า จู่ๆ ทำไมเจ้าตัวถึงได้บวชเงียบๆ เรียบง่าย หรือมีสาเหตุอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจจนต้องไปพึ่งผ้าเหลืองหรือเปล่า

ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค. 66) ได้เจอกับพระเอกหนุ่มที่สึกออกมาได้สักพักใหญ่ ในงานประกาศรางวัล ‘ContentAsia Awards 2023’ เพื่อคัดเลือกผลงานคุณภาพมาตรฐานระดับเอเชียเผยแพร่สู่ตลาดโลก ที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทลแบงค็อก (แกรนด์ฮอลล์)

ไปบวชมาเงียบมากๆ?

บอย : “ความจริงแล้วต้องบอกพี่ๆ สื่อว่าเราเกรงใจพี่ๆ ด้วยครับ ที่ไม่ได้ชวนไปเพราะเกรงใจ ผมชวนคนน้อยมากชวนเฉพาะคนใกล้ๆ ตัว ไม่กล้าเชิญใครเลย อันนี้พูดจริงๆ เราเกรงใจทุกๆ คนเลย ไม่ใช่แค่เฉพาะพี่ๆ สื่อ แต่คนที่รู้จักก็จะเชิญเฉพาะคนที่ใกล้ตัวจริงๆ เพราะงานมันเช้าด้วย และเราเป็นคนไม่ค่อยกล้าบอกเรื่องอะไรพวกนี้ เกรงใจ ก็ดีครับ ได้ไปบวชอยู่ 3 อาทิตย์ ก็ใช้คำว่าดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ”

ความตั้งใจคือยังไง?

บอย : “ความตั้งใจสำหรับผมเอง เราเกิดมาเป็นลูกผู้ชาย เป็นคนไทย ครั้งหนึ่งเราก็ต้องบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ก็เรียกว่าเป็นจุดประสงค์หลักเลยที่ตั้งใจบวช ซึ่งผมตั้งใจมากสำหรับผมและครอบครัว แต่ความจริงก็คือต้องบวชมานานแล้ว แต่ยังหาจังหวะไม่ได้ ก็เพิ่งจะมีจังหวะนี้ที่ละครจบ จริงๆ ต้องบวชตั้งแต่ช่วงโควิดแล้ว เพราะตอนนั้นรอเรื่องสายลับลิปกลอสปิดนี่แหละ

ผมก็บอกกับทางช่องแล้วว่าหลังจากเรื่องนี้ผมขออนุญาตไปบวชก่อน แล้วก็มาเจอเรื่องโควิด ละครหยุดถ่าย มันก็ดีเลย์ไปอีก 1-2 ปี ก็เลยมาเป็นช่วงนี้ที่จังหวะพอดี ซึ่งก็ยากเหมือนกัน เพราะการเคลียร์งานนู่นนี่ ช่วง 3 อาทิตย์ที่หายไปมันไม่ยากหรอก แต่หลังจากที่ต้องรอผมยาวก็ยากตรงนี้ เพราะมันมีทั้งงานละครด้วย งานถ่ายโฆษณาอะไรก็ตามที่มันต้องใช้ทรงผม ก็ต้องวางแผนให้ดีครับ”

บอย ปกรณ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า “ความจริงผมรู้อยู่แล้วว่าอยากจะบวชให้แม่ เป็นสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้ว แต่หาจังหวะไม่ได้เลย เวลาถามเพื่อน เห็นหมาก (ปริญ) บวช เห็นเกรท (วรินทร) บวช ก็ยังถามว่าเคลียร์ยังไงเนี่ย เขาบอกก็เคลียร์ยากกว่าจะลงตัว จนถึงจุดที่เราพยายามจะเคลียร์ ความจริงผมบอกแม่ตั้งแต่ช่วงถ่ายเรื่องลิปกลอสจบประมาณสัก 2-3 ปีที่แล้ว

แม่ก็บอกว่า เออดีๆ บวชสักที เพราะตอนนั้นภัทรบวชไปแล้ว แต่หน่องยัง แต่ความจริงไม่ได้เกี่ยวกับที่หน่องบวชนะเพราะผมเองก็อยากบวชอยู่แล้ว ก็พยายามหาช่วงที่สามารถทำได้ ก็มาได้จังหวะตรงนี้ แม่เขาก็ดีใจอยู่แล้วครับ ก็เรียกว่าอิ่มบุญอิ่มใจ”

แม่บอกยังไงบ้าง หลังจากได้เห็นผ้าเหลืองของเรา?

บอย : “ผมก็สัมผัสได้ว่าแม่เขาดีใจแหละ มันคงเป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจ ปลื้มปลิ่ม ก็ไม่ได้มีอะไรมาก อาจจะแค่โมเมนต์ที่ผมขอขมาแม่ บอกว่าถ้าผมเคยทำอะไรให้แม่ไม่สบายใจ แม่ก็บอกว่าเหมือนกัน คุณแม่ก็มีน้ำตาไหล แต่ผมเข้มแข็ง(ยิ้ม) ผมไม่เหมือนหน่องกับภัทรที่ไม่เข้มแข็ง(หัวเราะ) จริงๆ ก็ตั้งใจทำให้แม่กับคุณพ่อนั่นแหละ รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ของลูกชายครับ”

บอกว่าดีกว่าที่คิด?

บอย : “ใช่ๆ คือถ้าพูดตรงๆ ก่อนที่จะมาบวชเราก็เป็นคนที่มีคำถามในหัวตลอด ว่าปกติแล้วทำไมคนเราที่มีชีวิตอยู่ทางโลกถึงมาบวช แล้วไปอยู่ทางธรรมนานๆ เป็นปี ที่ไม่ใช่มาบวชเหมือนผมช่วง 1 เดือน หรือคนที่เป็นพระวันๆ หนึ่งทำอะไรบ้าง นอกจากสวดมนต์ แต่พอได้มาอยู่ตรงนี้ก็ได้มาเจอพระพี่เลี้ยงที่เขาเป็นสายเคร่งมากๆ ดีมากๆ เลย

ผมก็ได้ซึมซับอะไรจากหลวงพี่ท่านนี้เยอะเลย ได้เห็นเลยว่าวันนึงพระมีอะไรทำเยอะเลยนะ มากกว่าแค่ทำวัตร สวดมนต์เช้า-เย็น มีงานเอกสารที่ผมเห็นว่าหลวงพี่ยุ่งมาก ต้องทำโน่นทำนี่หลายอย่าง มีเอกสารทางวัดที่ต้องไปติดต่อโน่นนี่ งานทางวัดมีเยอะมาก”

“และอีกมุมหนึ่งก็ได้มาตอบคำถามของตัวเอง ว่าทำไมเขาถึงละทางโลกแล้วมาอยู่ทางธรรม ก็ได้คำตอบว่าคนเรามีความชอบที่ไม่เหมือนกัน อย่างเราอาจจะชื่นชอบศิลปินเกาหลี เพราะผมนั่งสนทนากับหลวงพี่เลยครับ ว่าทำไมหลวงพี่มาเป็นพระ สำหรับเราไอดอลคือวงเกาหลี แต่สำหรับหลวงพี่ไอดอลคือพระพุทธเจ้าครับ ท่านชอบตั้งแต่เด็กๆ ท่านศึกษานู่นนี่ ท่านบอกว่าตอนที่ท่านไปอินเดียครั้งแรก ได้ไปยืนอยู่ที่ประสูตรพระพุทธเจ้าครั้งแรก ท่านปลื้มปลิ่มน้ำตาไหล เราก็เลยคิดได้ว่าคนเรามีความชอบ มีความมุ่งมั่นแต่ละทางไม่เหมือนกัน

ผมโชคดีที่ได้เจอพระพี่เลี้ยงที่ดีมากๆ ท่านให้ความรู้เราหลายอย่าง ทำให้ผมรู้สึกที่ผมบอกว่าดีกว่าที่คิด อย่างตอนแรกสิ่งที่ผมคิดว่าผมบวชทดแทนบุญคุณให้คุณพ่อคุณแม่ ผมก็ทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็น นั่งปฏิบัติธรรม สงบนิ่ง ครบ21 วันผมก็สึก

แต่ปรากฎว่าพอผมได้มาเป็นพระจริงๆ ผมได้มาเรียนรู้หลายอย่าง ได้มาทำในสิ่งที่ผมไม่เคยใกล้เลย ผมได้เห็นประโยชน์ของการสวดมนต์ จากที่ตอนแรกคิดว่าคนเราทำไมต้องสวดมนต์ สวดมนต์ทำไม(หัวเราะ) ผมไม่ได้ลบหลู่นะแต่มันเกิดคำถามว่าทำไมคนเราถึงชอบสวดมนต์

แต่พอมาเป็นพระถึงรู้ว่าสวดมนต์มันดีอย่างนี้นี่เอง ทำให้เราจิตใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับบทสวด ทำให้จิตใจโล่ง พอสวดเสร็จทำให้เราจิตใจสบายด้วย ยิ่งเราทำงานตรงนี้ งานเราเป็นงานที่ค่อนข้างมีสิ่งเร้าต่างๆ มากมาย เราก็ได้ไปอยู่ในอีกทางหนึ่งที่สุดโต่งคือเงียบสงบไปเลย ก็ดี”

หลังจากสึกมาที่เปลี่ยนเลยคืออะไร?

บอย :  “ที่ผมรู้สึกเลยคือผมใกล้วัดมากขึ้นแน่นอน ตั้งแต่ที่ผมสึกมา ทุกๆ วันพระผมก็ไปที่วัด เมื่อเช้าผมก็ไป คือพระพี่เลี้ยงของผมทุกๆ วันท่านปกติจะบิณฑบาตรอยู่ตรงประตูน้ำ แต่ทุกวันพระท่านจะต้องเดินไปบิณฑบาตรอีกที่หนึ่งแถวๆเพลินจิต ซึ่งตอนที่ผมเป็นพระผมเคยตามหลวงพี่ไป โหไกล ผมก็เลยตั้งใจว่าหลังจากนี้ทุกๆ วันพระ ถ้าไม่ใช่ผมหรือหน่องหรือคนที่บ้าน เพราะตอนหน่องบวชก็เป็นหลวงพี่รูปนี้ที่ดูแลเหมือนกัน ก็จะมาขับรถให้หลวงพี่ไปที่เพลินจิต ไปบิณฑบาตรตรงนู้น ท่านจะได้ไม่ต้องเดินไกล เหนื่อยมาก”

มีความรู้สึกว่าอยากอยู่ต่อไหม ตอนที่จะสึก?

บอย : “คือผมพูดด้วยความสัจจริง ผมอาจจะยังไม่มีความคิดถึงขั้นว่าอยากจะต่ออีกสักหน่อย เพราะว่าตอนนั้นผมรู้แค่ว่าผมมีภารกิจที่จะต้องทำต่อ คือมันมีเวลาที่ผมล็อกมาพอดีแล้ว สึกเสร็จต้องทำเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าผมรู้สึกดีกับการบวชครั้งนี้มากๆ ก็คือวันที่ใกล้สึก 2-3 วันผมรู้สึกใจหาย ว่าเดี๋ยวอีก 3 วันเราจะไม่ได้อยู่ในสถานภาพแบบนี้แล้วแต่โดยรวมก็ดีครับ เพราะฉะนั้นแล้วใครที่กำลังลังเลหรือหาเวลาที่จะบวชอยู่ ผมแนะนำเลยครับ บวชเลย ดีครับ”

บวชใกล้ๆ กับเจมส์ บังเอิญหรือตั้งใจ?

บอย : “บังเอิญครับ แต่ตอนที่ผมเป็นพระและไปร่วมงานอุปสมบทเจมส์ อันนั้นผมตั้งใจ คือพอคุยกับเจมส์ว่าเดี๋ยวผมจะบวช เจมส์ก็บอกว่าจะบวชเหมือนกัน ก็บอกว่าดีเลย งั้นเดี๋ยววันที่มึงเป็นพระ กูจะไปทั้งที่เป็นพระนี่แหละ (ยิ้ม) ไปขลิบผมให้ เป็นสิริมงคล (ยิ้ม) คุยกันตั้งแต่ก่อนบวชครับ”

พอบวชแล้ว คนถามเยอะจะเบียดเลยหรือเปล่า?

บอย : “ไม่ได้บวชเพื่อเบียดครับ บวชเพราะอยากบวชเฉยๆ ความจริงก็มีคนถามเยอะแหละ บวชแล้วเบียดเลยหรือเปล่าเนี่ย ก็คือบวชเฉยๆ ครับ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน (ยิ้ม) คือถ้าเรื่องนั้น (แต่งงาน) ผมว่ามันต้องเป็นความพร้อมของทุกๆฝ่าย ลองถามน้องดูครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าพูดถึงตัวผม ถ้าเรื่องหน้าที่การงาน ครอบครัว วัย มันก็เกินมานานแล้วแหละที่เหลือผมว่ามันเป็นเรื่องของการสั่งสมเวลาเกี่ยวกับการคบกัน การเรียนรู้กัน และความพร้อมทั้งหมดของทุกๆ ฝ่ายครับ”

ไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ๆ?

บอย : “ก็ไม่สามารถบอกได้ (ยิ้ม) ซึ่งถ้าน้องพร้อม แล้วเราพร้อมเลยไหม อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องคุยกัน คือก็อย่างที่บอกว่าเรื่องอายุ เรื่องอะไรต่างๆ เอาง่ายๆ ถ้าผมไม่ได้มาทำงานเป็นดารา ผมคงแต่งงานมีลูกไปนานแล้ว ตั้งแต่เรียนจบเลย เพราะโดยส่วนตัวผมมีความคิดอยากมีครอบครัวมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย อยากมีลูก และส่วนใหญ่เพื่อนๆ ที่ทำงานเภสัชฯ เขาก็แต่งงาน ทยอยแต่ง มีลูกกันไปหมดแล้ว แต่เพื่อนๆ รอบตัวอย่างคนในวงการ เกรท วรินทร หนักกว่าผมอีก ยังไม่เปิดตัว หมายถึงยังไม่มีไง ก็เลยยังไม่เปิดตัว (ยิ้ม)”

อ้าวเขามีแฟนแล้วเหรอ?

บอย : “คือเขายังไม่มีให้เปิดตัว ผมใช้คำว่าผมไม่รู้ดีกว่า ไม่รู้ว่าเขามีหรือไม่มี แต่ที่รู้ๆ คือผมไม่เห็นเขาเปิดตัวครับ(ยิ้ม) เพราะฉะนั้นผมก็ขอความกรุณาพี่ๆ ทุกคนอย่าไปบอกคุณเกรทว่าผมบอกว่าเขามี แต่เขาไม่เปิดตัว อ้าว! ไลฟ์สดเหรอ คุณเกรท ผมบอกพี่ๆ ทุกคนว่าผมไม่รู้ว่าคุณมีหรือไม่มี คุณก็เลยไม่ได้เปิดตัว คือหลังๆ ก็ไม่ค่อยคุยกันเรื่องนี้ ผมว่ามันคงกลัวผมโป๊ะแหละ คงกลัวผมหลุดมั้ง เปล่าหรอก ไม่ๆ ที่ผมรู้คือตอนนี้ไม่มี เอาที่ผมรู้แล้วกัน คือก็คุยกันว่าเป็นยังไงบ้าง แต่เขาก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีครับ”

วันเกิดที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?

บอย : “วันเกิดที่ผ่านมาก็ปกติเหมือนทุกปี สำหรับผมแล้ววันเกิดก็ไม่ได้มีอะไรมาก ผมต้องการแค่ครอบครัว หรือพอมีแฟนก็คือเฟย์ ก็วันนึงกินข้าวกับที่บ้าน อีกวันนึงก็กินข้าวกับแฟนแค่นั้นครับ เฟย์ก็ให้เสื้อแจ็คเก็ตครับ น่ารักเชียว(ยิ้ม) เขาก็ไปสรรหามาเอง เขาบอกว่าซื้อให้ผมยากมาก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เหมือนกับเขาไม่รู้ว่าผมอยากได้อะไร แต่พอได้มาก็ชอบ ถูกใจ (ยิ้ม) แต่ยังไม่ได้ใส่เลย แต่ลองแล้วพอดี (ยิ้ม) ยังไม่มีโอกาสได้ใส่ครับ ดีครับ ก็เป็นวันเกิดที่แฮปปี้ครับ”

ตอนนี้งานเยอะขนาดไหน สึกออกมา?

บอย : “พอสึกมาก็ยุ่งๆ อยู่นะครับ แต่ละครยังไม่มี เพราะคงรอเรื่องให้ผมยาวด้วย แต่สตูดิโอผมก็ใกล้เปิดแล้ว คือที่ผมเคยเปิดเป็นสตูดิโอคุณแม่ เป็นบ้านสำหรับถ่ายทำละคร และตอนนี้เปิดอีกสตูฯ อีกแห่งหนึ่งใกล้ๆ กัน เป็นสตูฯสำหรับคนที่จะมาใช้ถ่ายภาพนิ่ง อยู่ใกล้ๆ กันครับ เร็วๆ นี้จะเปิดใช้บริการแล้วครับ (ยิ้ม)”

‘บอย-เฟย์’ ปล่อยภาพหวาน โปรโมตเครื่องประดับ แฟนๆ คอมเมนต์แซว “นึกว่าประกาศขอแต่งงาน”

ทำเอาแฟนๆ ฮือฮากันทั้งไอจี หลังพระเอกหนุ่ม ‘บอย ปกรณ์’ โพสต์เซ็ตภาพถ่ายแบบคู่แฟนสาว ‘เฟย์ พรปวีณ์’ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว และหากสังเกตดี ๆ เป็นแฟชั่นเซ็ตคู่รักของแบรนด์เครื่องประดับ tiffanyandco ร่วมกับนิตยสาร voguethailand โดยพระเอกหนุ่มใช้เพียงอีโมจิน่ารัก ๆ เป็นแคปชันประกอบภาพหวานเท่านั้น

งานนี้เกือบทำเพื่อนพ้องในวงการ และแฟน ๆ ร่วมเฮแสดงความยินดีด้วยซะแล้ว เพราะเซ็ตภาพดังกล่าวคล้ายถ่ายพรีเวดดิ้ง เหมือนให้แหวนขอแต่งงานกันแล้ว แต่พอดูภาพชัด ๆ อ่านแคปชันอย่างถี่ถ้วน เป็นเพียงแฟชันโปรโมตสินค้าไม่ใช่ข่าวดีอย่างที่หลายคนคิด ต่างพากันคอมเมนต์สนั่น

เช่น คิดว่าาาาาา พรีเวดดดด ตกใจเลออ, นิ้วถูกป่าว, แว้บแรกก็กรี๊ดในใจไปแล้ว, มองเป็นภาพพรีเวดดิ้งซะแล้วเรา, โอ้โหเทออออ หวานเจี๊ยบบบ แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย, พรีเวดดิ้งงง, เกือบแสดงความยินดีเก้อแย้ววววว, เห็นอิโมจิแหวนเกือบกรี๊ดละไงเฮีย, คิดว่าประกาศแต่งแล้ว จะกรี๊ดแล้วนะคะ ฯลฯ

ด้าน ‘เฟย์ พรปวีณ์’ ได้โพสต์เซ็ตรูปหวานผ่านอินสตาแกรมของตัวเองเช่นกัน ทั้งยังแอบเห็นเจ้าตัวเข้ามาคอมเมนต์อ้อนใต้โพสต์ของฝ่ายชายด้วยว่า "อยากได้กำไลจังเลยยยย" สำหรับกองเชียร์คงต้องรอลุ้นกันต่อไป ว่าคู่นี้เขาจะพร้อมประกาศข่าวดีจริง ๆ เมื่อไหร่นะ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top