Monday, 7 April 2025
นายกไพเจน

ชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.สงขลา ‘นิพนธ์-นายกฯชาย’ จับมือหนุน ‘สุพิศ’ ปล่อย ‘ไพเจน’ หลังพิงเชือกแลกหมัดสู้

(29 ต.ค. 67) ‘ไพเจน มากสุวรรณ์’ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวยืนยันว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระแน่นอน ยังคงเดินหน้าทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนจนวันสุดท้ายอย่างขยันขันแข็ง

“นายกฯไพเจนจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯอบจ. สงขลาอีก 1 สมัยแน่นอน” แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกฯไพเจน กล่าว

ที่ต้องมาตอกย้ำกันอีกครั้ง เนื่องจากว่ามีการปล่อยข่าวว่า นายกฯไพเจนถอดใจแล้ว จะไม่ลงเลือกตั้งในสมัยที่สอง ซึ่งเป็นการปล่อยข่าวด้วยเจตนาร้ายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากข่าวนี้ ซึ่งต้องหมายถึงฝ่ายการเมืองในสงขลาที่กำลังฟาดฟันกันอยู่

ปล่อยข่าวหนักถึงขนาดว่า ถ้านายกฯไพเจนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯอบจ.สงขลา จะเปิดทางให้ไปลงสมัคร สส.เขต 7 สงขลา (นาทวี จะนะ เทพา สะบ้าย้อย)ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ที่ ‘ศิริโชค โสภา’ เคยเป็น สส.อยู่ แต่ปี 2562 พ่ายแพ้ให้กับ ‘ณัฐชนนท ศรีก่อเกื้อ’ จากพรรคภูมิใจไทย และมาแพ้ซ้ำในการเลือกตั้งปี 2566 และเมื่อเกิดวิกฤตทางการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ ศิริโชคก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เท่ากับว่า เขต 7 สงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ว่างอยู่ จึงมีความพยายามปล่อยข่าวว่า นายกฯไพเจนจะไม่ลงสมัครรักษาแชมป์แล้ว โดยจะโยกไปลงสมัคร สส.เขต 7 แทน

ถามว่า มีการพูดคุยกันจริงไหม มีการพูดคุยกันจริง ผ่านทาง ‘นายกฯชาย - เดชอิศม์ ขาวทอง’ เลขาธิการพรรคประชาธิปัต์ แต่นายกฯไพเจนไม่ได้ตอบรับต่อข้อเสนอนี้ เพราะในสถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับความจริงว่า ประชาธิปัตย์ขาลงอย่างสุดๆ หากไปลงสมัคร สส.เขต 7 จึงมีโอกาสสูงมากที่จะพ่ายแพ้ให้กับ ‘เดอะหนุ่ย-ณัฐชนนท’ ที่ฐานเสียงค่อนข้างหนาแน่น ผลงานในพื้นที่ก็ชัดเจน และเสี่ยงยิ่งกว่าลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกฯอบจ.อีก

ไม่ผิดหรอกที่นายกฯไพเจนจะตัดสินใจลงรักษาแชมป์อีกสมัย 4 ปี ผลงานมีชัดเจน เพียงแต่ด้อยด้านการประชาสัมพันธ์ ทีมงานประชาสัมพันธ์ที่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์เป็นตัวยืน กับสถานการณ์สู้รบ ไม่เพียงพอ

รบกับใคร นายกฯไพเจนกำลังรบกับ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ ที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก ลาออกจากอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กับความอู้ฟู้ ใจถึง มาลงชิงนายกฯอบจ.สงขลา อย่าลืมว่า สุพิศไม่ใช่แค่อดีตข้าราชการระดับอธิบดี เขายังมี ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ อดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ที่แตกหน่อแทงกอ ไปหนุนช่วย ‘สุพิศ’ แถมยังมี ‘นายกฯชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง’ อีกคนเข้าไปเสริมทัพ

แต่ถามว่า ทั้ง ‘นิพนธ์-นายกฯชาย’ จะช่วยให้ ‘สุพิศ’ ชนะการเลือกตั้งแบบง่ายๆ ก็คงไม่ใช่ ‘นายกฯชาย’ เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมกันนำพาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาลของแพทองธาร ชินวัตร ที่สังคมทั่วไปรับรู้กันอยู่ว่ามี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ชักใยอยู่เบื้องหลัง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่คนใต้รับไม่ได้ในหลายเรื่อง ทั้งเล่นพรรคเล่นพวก ทุจริตคอร์รัปชัน แถมยังไม่พัฒนาพื้นที่ที่ไม่เลือกพรรคเขา

พรรคประชาธิปัตย์ที่ตกต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งตกต่ำหนักเข้าไปอีก เมื่อถึงหน้าเลือกตั้งนายกฯชายจะรับมือไหวไหมกับกระแสไม่เอาประชาธิปัตย์ และจะช่วยดันหลัง ‘สุพิศ’ ไหวหรือเปล่า เอาเป็นว่านายกฯชายกำลังวางแผนบางอย่าง เพื่อเอาตัวให้รอดในการเลือกตั้งครั้งหน้า และต้องมี อบจ.เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน เข้าถึงหันหัวเรือเข้าจอดเทียบท่า กับท่าเรือที่อู้ฟู้กว่า

สำหรับนิพนธ์ เมื่อหันหัวเข้าหาสุพิศ ก็ต้องเตรียมตัวตั้งรับดีๆกับการถูกลากไปสู่มุมมืด นิพนธ์ควรสงวนท่าที สิงห์ก็ต้องเป็นสิงห์ จริงๆนิพนธ์ควรจะยืนอยู่นิ่งๆ หรืออยู่ข้างไพเจน เพราะสนับสนุนช่วยเหลือกันมาตั้งแต่สมัยแรก ที่สำคัญ ‘นิพนธ์-ไพเจน’ คือเลือด ‘น้ำเงิน-ขาว’ จากมหาวชิราวุธด้วยกัน ‘เลือดควรจะข้นกว่าน้ำ’ น้ำที่มาจากโรงเรียนแจ้งวิทยา แต่ด้วยเหตุผลใดไม่อาจทราบได้ที่ทำให้นิพนธ์ หันหัวไปช่วยสุพิศ

ที่ต้องจับตากับท่าทีที่นิ่งๆของ ‘ถาวร เสนเนียม’ อดีตรัฐมนตรีช่วยคมนาคม ว่าท้ายที่สุดแล้ว ยังจะนิ่งต่อไป หรือหันไปช่วยใคร ‘ถาวร’ คงจะกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย ถ้าจะไปช่วยสุพิศ เพราะมีนิพนธ์ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกันมาตลอดจองหัวคิวไว้ก่อนแล้ว แม้ ‘ถาวร’ กับนายกฯชายจะไม่ได้มีปัญหาอะไรกันก็ตาม

ศึกชิงเก้าอี้นายกฯอบจ.สงขลา ครั้งใหม่นี้ ถือว่าเป็นศึกคนกันเอง เพราะ ‘สุพิศ-ไพเจน’ ต่างก็โตมาจากสายกรมชลประทานด้วยกัน แม้ระหว่างทางจะมีปัญหากันบ้างก็เหมือนลิ้นกับฟัน

แต่ศึกชิงนายกฯอบจ.สงขลา ให้จับตา ‘ศึกชิงเลือดน้ำเงินขาวด้วย

ลุ้น ‘นิพนธ์-นายกฯชาย’ จะเลือก ‘เก่า หรือ ใหม่’ ยืนอยู่ฝั่งไหนในศึกชิง ‘นายกฯอบจ.สงขลา’

(5 พ.ย. 67) น่าสนใจเมื่อ ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ประกาศเจตนารมณ์ ‘ทดแทนแผ่นดินเกิด เดินตามรอย ‘ป๋า-พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์’ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานองคมนตรี รัฐบุรุษอาวุโสผู้ล่วงลับ

สุพิศ ยังโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความ ‘ พร้อม’ ชีวิตนี้เพื่อสงขลา หรือแม้แต่ ‘ผู้ประสานสิบทิศ สุพิศ พิทักษ์ธรรม ชีวิตนี้พร้อมเพื่อสงขลา

ประโยคเหล่านี้เป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ ในการใช้ชีวิตหลังจากนี้ไป คือการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่ปัจจุบันมี ‘ไพเจน มากสุวรรณ์’ นั่งบริหารอยู่ และจะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 นี้ และจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568สุพิศยังกล่าวอ้างถึงผู้หลักผู้ใหญ่สองคนว่าให้การสนับสนุน คือ นิพนธ์ บุญญามณี อดีตนายกฯอบจ.สงขลา อดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และนายกฯชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง อดีตนายกฯอบจ.สงขลา รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข ก็ไม่แน่ใจว่า สองคนที่สุพิศกล่าวอ้างถึง ได้มีการคุยกันในรายละเอียดแล้วมากน้อยแค่ไหน เพราะยังมีรายละเอียดของการสนับสนุนอีกมาก และที่น่าจะเป็นประเด็น คือการจัดทีมคนลงสมัคร ส.อบจ.ในอนาคตด้วย ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งนิพนธ์ และนายกฯชาย จะต้องส่งคนของตัวเองไปสมัครเป็น ส.อบจ.ด้วย สุพิศเองก็ต้องมีคนของตัวเองลงสมัครด้วย บวกรวมกับส.อบจ.เก่า น่าจะเกิดปัญหาความซ้ำซ้อนกันในพื้นที่

การได้ถ่ายรูปร่วมกันในวันชิงชนะเลิศฟุตบอลคิงคัพ อาจจะไม่ใช่สัญญาณ 100% ว่าให้การสนับสนุน เพียงแต่สถานการณ์บังคับ ต้องได้ยินจากปากของทั้งสองท่าน หรือได้เห็นพฤติกรรมของการช่วยเหลือ จึงจะเชื่อได้ว่า สนับสนุนจริง การได้พบปะกินข้าวกันในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่บ้านเขารูปช้าง ถือเป็นเรื่องปกติที่นิพนธ์เปิดรับผู้สนับสนุนทุกอาทิตย์อยู่แล้ว

ยังเชื่อไม่ได้ 100% ว่า นิพนธ์ นายกฯชาย จะให้การสนับสนุนสุพิศ จนกว่าจะได้เห็นอะไรที่ชัดกว่านี้ สำหรับนิพนธ์ ผมเชื่อว่า ‘เลือดข้นกว่าน้ำ’ ด้วยเลือด ‘น้ำเงินขาว’ จากรั้วมหาวชิราวุธเช่นเดียวกับ ‘ไพเจน’ ใจของนิพนธ์จึงน่าจะอยู่กับไพเจนมากกว่า ส่วนเรื่องความหมองใจกันน่าจะเป็นเรื่องเล็กที่เคลียร์ใจกันได้ คุยกันได้ ผิดก็ขอโทษกันไป ปัญหาชาติบ้านเมืองสำคัญกว่า 

ส่วนนายกฯชายเดิมใจอยู่กับไพเจนอยู่แล้ว เขานัดเจอกันบ่อย แต่ด้วยแรงดูดที่หนักหน่วงทำให้ใจของนายกฯชายไขว้เขวไปบ้าง แต่ถึงวันหนึ่งเมื่อทุกอย่างตกผลึก เชื่อว่า ยังมีเวลาให้เปลี่ยนใจได้ อนาคตกับที่ยืนสำคัญกว่า

กล่าวสำหรับสุพิศการกล่าวว่าจะเดินตามรอยป๋า ไม่ได้เป็นผลดีต่อเขามากนัก เพราะป๋า มีภาพลักษณ์ที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรมที่สูงส่ง นอกจาก ‘เกิดมาต้องทดแทนบุญคุณแผ่นดิน’ แล้ว ป๋า ยังเป็นคนที่ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ไม่มีข้อกล่าวหา ร้องเรียนตลอด 8 ปี ของการเป็นนายกรัฐมนตรี

อีกแค่เดือนกว่าๆ นายกฯไพเจนจะหมดวาระแล้ว และอีกไม่กี่วันก็จะได้รู้ข้อเท็จจริงว่า นิพนธ์-นายกฯชาย ช่วยใครกันแน่ หรืออาจจะวางเฉยในสถานการณ์ได้เสียก็เป็นได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top