Tuesday, 22 April 2025
นันทนา_นันทวโรภาส

'ทนายเคน' เอือม!! ใครได้อันดับดีกว่า 'นันทนา-อังคณา' เลวหมด ต้องเลือก 'พวกเจ๊' เท่านั้นหรือไม่ จึงจะเรียกว่า 'อิสระ'

(24 ก.ค. 67) นายณรงค์ ประดับสุข หรือ ทนายเคน อดีตผู้สมัคร สส.จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณี น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงความไม่พอใจผลการเลือกประธานวุฒิสภา ว่า

ในวันที่มีการเลือกตั้ง สว. ระดับประเทศ รอบสุดท้าย ซึ่งพอประกาศผลคะแนนออกมา ‘เจ๊’ ได้อันดับที่ ๘ ของกลุ่ม ก็ออกมาแสดงความเห็นออกสื่อด้วยการด้อยค่า ว่าที่ สว.ท่านอื่น (ขณะนั้น) ว่า " ..จะร้องให้ กกต.ตรวจสอบคนที่ได้คะแนนอันดับที่ ๑-๗ ของทุกกลุ่มว่ามีการ 'ฮั้ว' คะแนนกัน.." เสมือนประมาณว่า คนอื่นที่ได้อันดับดีกว่าตนนั้น ‘เลวหมด’ ฉันดีเลิศประเสริฐศรีคนเดียว...!!!

ด้อยค่าคนอื่น แล้วใครจะเลือกให้เจ๊เป็นประธานวุฒิสภา ละครับ 555+
#สรุปแล้ว_พันธุ์ใหม่_คือพันธุ์อะไร ..???

และได้โพสต์ตอบโต้ นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ที่ให้สัมภาษณ์ว่า “วันนี้ทำให้เห็นชัดเลยว่า วุฒิสภาไม่มีความเป็นอิสระจริงๆ” 

ต้องเลือก ‘พวกเจ๊’ เท่านั้น จึงจะเป็น ‘อิสระ’...??
#ตรรกะเดียวกับ_สส_บางพรรคเปี๊ยบเลย

โจทย์หนัก 'บิ๊กจ้อน' ประนอมอำนาจบ้านใหญ่-หยุดเกมรื้อ รธน. ในจังหวะ 'สว.พันธุ์ใหม่' ตีปี๊บมาแต่ไกล แต่สุดท้ายไม่ว้าว

ตามโผ...ตามคาด...ตามนัด...ผลการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 

- ประธานวุฒิสภา นายมงคล สุระสัจจะ (159 คะแนน)
- รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ (150 คะแนน)
- รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 นายบุญส่ง น้อยโสภณ (167คะแนน)

คอลัมน์นี้ ขอบันทึกผลการลงคะแนนอย่างเป็นทางการเฉพาะตำแหน่งประธานไว้ ณ โอกาสนี้

- นายมงคล สุระสัจจะ 159 คะแนน
- ดร.นันทนา นันทวโรภาส 19 คะแนน
- นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ 13 คะแนน
(งดออกเสียง 4 บัตรเสีย 5)

ดูจากคะแนนที่ลงมติก็ต้องยืนยันตามที่ 'เล็ก เลียบด่วน' นำเสนอมาโดยลำดับว่า สว.สีน้ำเงินนั้น...ของแทร่...140 บวกลบ ท่านมงคลประเดิมที่ 159 เสียง (จาก 200) พล.อ.เกรียงไกร 150 เสียง และบุญส่ง 167 

ต้องบอกว่าเหตุที่คะแนนของ บุญส่ง มากกว่าใครเพื่อน ก็เพราะคู่แข่งไม่แข็งแรง และกลุ่มอิสระที่แต่เดิมนายบุญส่งไปเกาะเกี่ยวอยู่ด้วยเทเสียงให้มากเป็นพิเศษ...

และก็ต้องแสดงความเสียใจกับ สว.สีส้ม ที่แปลงโฉมมาในนามกลุ่ม 'สว.พันธุ์ใหม่' นำโดย ดร.นันทนา นันทวโรภาส ที่เอาเข้าจริงเหลือเพียง 15-19 เสียง  จากที่เคยตีปี๊บว่ามี 30 เสียง...แต่เอาเหอะ จะเหลือกี่เสียงก็ไม่สำคัญเท่ากับบทบาทที่จะกระทำนับจากนี้ไป ซึ่งเชื่อว่าหาก ดร.นันทนา ไม่ 'ส้มจี๊ด' จนเกินเหตุ บทบาทของเธอ ก็คงน่าติดตามเหมือนกัน...

ส่วนท่านประธานมงคลนั้น...ฟังจากวิสัยทัศน์ภายใต้คำยืนยันจะปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แล้ว ก็ต้องบอกว่า 'บิ๊กจ้อน' หรือ 'สหายจ้อน' ที่สื่อมวลชนเริ่มเรียกขานกัน เป็นคนที่นุ่มและลุ่มลึกทางความคิด...เพราะก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าช่วงหนึ่งของชีวิตหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ท่านมงคลเคยหลบภัยเผด็จการไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) บนเทือกเขาบรรทัด ประมาณ 6-7 เดือน...

ก็เหมือนๆ กับ สหายใหญ่...ภูมิธรรม เวชยชัย, สหายจรัส นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ฯลฯ...นั่นแหละ  

ดังนั้นในมิติประสบการณ์ การตกผลึกทางความคิดที่จะให้วุฒิสภาเป็นสภาที่ประนอมอำนาจแก้วิกฤตประเทศตามที่แสดงวิสัยทัศน์เป็นประเด็นที่น่าติดตามยิ่ง...

อย่างไรก็ตามว่ากันตรงๆ สิ่งที่ประธานมงคลจะต้องเผชิญในชีวิตจริงเฉพาะหน้าก็คือ การประนอมอำนาจกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ที่มีธงทางอำนาจผ่านวุฒิสภาอย่างชัดเจน...ด้านหนึ่งเพื่อหยุดเกมรื้อรัฐธรรมนูญที่เลยเถิดของบางกลุ่ม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ธงอำนาจเรื่องการเลือกบุคคลในองค์กรอิสระ...อะไรคือ วาระของชาติ อะไรคือ วาระของบ้านใหญ่ เป็นเรื่องที่สหายจ้อนจะต้องยึดความถูกต้อง-ผลประโยชน์ของชาติให้ได้...

เฉพาะหน้า...วัดกันที่กระบวนท่าการจัดสรรเก้าอี้ประธานกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา 20 กว่าคณะ...ข่าวล่ามาเรือระบุว่า สว.สีน้ำเงิน จะกินรวบ แต่ไม่กวาดเรียบ...แปลไทยเป็นไทยว่า กมธ.ที่ตรงกับกระทรวงที่พรรคสีน้ำเงินดูแล และกมธ.เกรดเอ อย่าง กมธ.ปปช., กมธ.คมนาคม, กมธ.สื่อสาร ฯลฯ...สว.สีน้ำเงินขอจอง...

โชคดีครับท่านประธานจ้อน!!

'สว.พันธุ์ใหม่' ยัน!! ไม่ได้บูลลี่ 'สว.ขายหมู' นั่ง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ แค่แนะ!! ควรได้คนตรงความรู้-ความสามารถ และควรไปอยู่ในกมธ.อื่น

(24 ก.ย.67) ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.พันธุ์ใหม่ กล่าวถึงที่มีชื่ออยู่ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ว่า ชื่ออยู่ในกมธ.นั้น มีผู้สมัคร 18 คนพอดีจึงไม่การโหวตออก แต่สำหรับกมธ.พัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา มีผู้สมัครเกินจึงมีการโหวตออก

เมื่อถามว่าในกมธ.การอุดมศึกษาฯ จะเสนอตัวเองเป็นประธานหรือไม่? น.ส.นันทนา กล่าวว่า "คงเสนอตามสิทธิ์ เพราะเราถือว่ามีความรู้ความสามารถตรง และมีประสบการณ์ตรงในเรื่องการศึกษา โดยส่วนตัวคิดว่าเรื่องการศึกษากำลังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ถ้าไม่มีการปฏิรูปการศึกษาประเทศไทยจะไม่สามารถแข่งขันกับประชาคมโลกได้ ฉะนั้น เรื่องปฏิรูปการศึกษาจึงเป็นพันธกิจสำคัญที่คิดว่าจะผลักดันให้ได้ในช่วงดำรงตำแหน่ง"

เมื่อถามถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 23 ก.ย.67 น.ส.นันทนา มีการระบุว่า ได้คนขายหมูได้เป็น กมธ.พัฒนาการเมืองฯ คนมองว่าเป็นการบูลลี่และด้อยค่า? น.ส.นันทนา กล่าวว่า "เมื่อวานที่ให้สัมภาษณ์ไปจะอธิบายชัดเจนว่า กมธ.ต่าง ๆ ที่บรรจุอยู่ อย่างแรกควรจะเลือกสรรตามคุณลักษณะกลุ่มวิชาชีพที่แต่ละคนเข้ามา ซึ่งสว.แตกต่างจากฝั่งสส.เพราะมาจากกลุ่มอาชีพ 20 กลุ่ม ฉะนั้นควรพิจารณาตามกลุ่มอาชีพที่เข้ามา นอกจากนี้เมื่อวานมีการระบุว่ากลุ่มพัฒนาการเมือง คนที่ควรจะเข้ามาอยู่ในกมธ.ชุดนี้ ควรจะมีประสบการณ์ในเรื่องการทำงานด้านการเมือง สิทธิมนุษยชน และการสื่อสารทางการเมือง ซึ่งคนที่มีคุณลักษณะที่แตกต่างเราไม่ได้ด้อยค่า แต่เขาควรไปอยู่ในกมธ.อื่น ที่สอดคล้องกับวิชาชีพ จึงไม่อยากให้ตีความไปว่า การที่บอกว่าทำไมกมธ.พัฒนาการเมืองฯ ที่ตนมีประสบการณ์ถูกโดนโหวตออก แต่คนที่ไม่มีประสบการณ์ตรงคือเข้ามาสายอาชีพอื่น กลับได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เป็นการบูลลี่ ถ้าฟังทั้งหมดจะทราบว่าสิ่งที่อธิบายคือกมธ.ทุกคนควรจะได้รับการบรรจุเข้าไปในสายอาชีพที่ตัวเองเป็นสว.ในกลุ่มนั้น"

น.ส.นันทนา กล่าวย้ำว่า "ถ้าผิดฝาผิดตัวตั้งแต่ต้น โอกาสที่จะผลักดันวาระจนประสบความสำเร็จก็จะเป็นไปได้น้อยหรือแทบไม่มีเลย เราจึงเรียกร้องว่า การเอาสว. เข้ากมธ.แบบตรงคุณสมบัติจะเป็นสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด"

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องขอโทษสังคมที่พูดแรงไปหรือไม่? น.ส.นันทนา กล่าวว่า "ถ้าฟังการสัมภาษณ์ทั้งหมดจะเข้าใจบริบท ตนยกตัวอย่างเพื่อที่จะบอกว่า การจัดสรรแบบนี้ไม่เป็นธรรม ตนไม่ได้มีเจตนาบูลลี่ รวมถึงด้อยค่าใด ๆ นี่คือตัวอย่างของบุคลากรที่เข้ามาไม่ตรงความรู้ความสามารถ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.นันทนา ให้สัมภาษณ์อยู่ ปรากฏว่า นางแดง กองมา สว.ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นแม่ค้าขายหมู ที่ได้เป็นกรรมาธิการ เดินผ่านมาพอดี โดยเข้าไปลงชื่อเข้าประชุมหน้า กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ ซึ่งสื่อมวลชนได้เข้าไปทักทายและขอสัมภาษณ์ แต่นางแดงไม่ตอบกลับ ได้แต่ออกอาการยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนเข้าห้องประชุมไปทันที

‘สว.นันทนา’ โพสต์เฟซ!! วอนสังคมให้มีสติ หลังโซเชียลขุดภาพคู่ ‘ทนายตั้ม’ มาดิสเครดิต

เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 67) นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า 

ขอให้สังคมมีสติ และใช้วิจารณญาณ ต่อการขุดโพสต์ facebook เก่า มาดิสเครดิตกัน

ประการที่ 1 โพสต์เรื่องทนายตั้มรับโล่รางวัลนี้ เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีครึ่งมาแล้ว ตั้งแต่ 12 มีนาคม 2561 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะที่ดิฉันดำรงตำแหน่ง คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง ไม่ได้ เป็นสว.

ประการที่ 2 การให้รางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของวิทยาลัยสื่อสารการเมือง เป็นการให้รางวัลทุกปี ปีละ 5-6 คน เป็นรางวัลที่มอบให้กับศิษย์เก่าที่มีผลงานดีเด่นในรอบปีนั้นๆ เช่นมีผลงานทางสังคม มีผลงานด้านวิชาชีพ เช่นได้รับรางวัลจากต่างปท. ช่วยเหลือส่วนรวมในด้านต่าง ๆ ฯลฯ

ซึ่งในปี2561 ทนายตั้ม ได้มีผลงานในเรื่องของการทำคดีหวย ช่วยให้เจ้าของหวยตัวจริงได้รับความเป็นธรรม ทางคณะกรรมการชมรมสื่อสารการเมืองเห็นว่า เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคม ก็มอบรางวัลให้พร้อมกับศิษย์เก่าอื่น ๆ อีก 5 คน

รางวัลของเรา คงไม่อาจจะรับประกันคุณภาพของผู้รับรางวัลว่า เขาจะรักษาคุณงามความดีไว้ตลอดไปตราบชีวิตจะหาไม่ แต่เราก็หวังว่า รางวัลจะช่วยเป็นเครื่องเตือนสติ ให้เค้ารักษาความดีงามนั้น แต่ถ้าเค้ารักษาไว้ไม่ได้ เราก็เสียใจ ผิดหวัง

อีกประการหนึ่ง ในขณะนี้ ดิฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริกแล้ว

จึงขอให้บรรดา ผู้ที่พยายามจะแชร์โพสต์นี้ ได้ใช้สติ ขณะเดียวกันประชาชนผู้รับสาร ก็ต้องมีวิจารณญาณ แยกแยะข้อมูล ว่าเรื่องการขุดโพสต์นี้ เป็นข่าวที่ควรค่าแก่การรับรู้ หรือเป็นเพียงข้อมูลที่ต้องการดิสเครดิตกัน

ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ดิฉันย่อมตั้งมั่นอยู่ในการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ย่อมไม่สนับสนุนคนที่ฉ้อฉล หลอกลวง และไม่เคารพกฎหมายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อปี 2561 ระบุว่า ‘ทนายตั้มเป็นผู้ที่นำเอา องค์ความรู้ด้านสื่อสารการเมือง ไปต่อยอด ความรู้ด้านกฎหมาย และได้นำเอาความรู้เหล่านั้น ไปใช้ต่อสู้เพื่อผู้บริสุทธิ์ โดยมิได้หวังผลตอบแทน นับเป็นบุคคลตัวอย่าง ที่สังคมไทยต้องการ’


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top