Monday, 21 April 2025
นักมวยไทย

'บัวขาว' โพสต์ยืนยัน!! ตนคือคนไทยเชื้อสายกูย ไม่ใช่ 'เขมร' ตามที่ชาวกัมพูชากล่าวอ้าง

จากกรณีที่ กัมพูชา เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในระหว่างวันที่ 4-17 พฤษภาคม จะจัดแข่งขันมวยที่ชื่อว่า ‘กุน ขแมร์’ กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของประเทศ และคือรากฐานของ มวยไทย 

ขณะที่ทางชาวกัมพูชาบางคนได้มีการอ้างว่า บัวขาว นั้นมีเชื้อสายเขมร พร้อมกับมีการมาป่วนในเพจของตัวเองนั้น ล่าสุดแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ)’ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยนักมวยวัย 40 ปีที่เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ ได้อธิบายมีเนื้อหาคือ

“คืนนี้ว่าด้วยเรื่องวิชาประวัติศาสตร์

ชาติพันธุ์ บัวขาว คือ คนไทย เชื้อสายกูย ไม่ไช่เขมร ตามที่เข้าใจ ชาวส่วย (Suai) บางทีก็เรียก กูย (Kuy, Kui), โกย/กวย (Kuoy) 

ชาวกูยนิยมเลี้ยงช้างซึ่งสืบทอดจากบรรพบุรุษ ชาวกูยจะออกไปจับช้างป่าด้วยการคล้องช้าง ด้วยเชือกปะกำ ซึ่งทำจากหนังควาย ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณ เมื่อได้ช้างมาก็จะฝึกเอาไว้ใช้งาน พงศาวดารเมืองละแวกก็มีบันทึกไว้ว่าในพุทธศตวรรษที่ 20 กษัตริย์ขอมแห่งเมืองพระนคร ได้ขอให้แจ้งกุยแห่ง ตะบองขะมุน (ชุมชนกุยทางด้านใต้ของนครจำปาสัก) ส่งกำลังไปช่วยปราบกบฏที่เมืองพระนคร ชาวกุยได้ร่วมขับไล่ ศัตรูจนบ้านเมืองขอมเข้าสู่ภาวะปกติสุข หลักฐานนี้แสดงว่า ขณะที่ชนชาติไทยหรือสยามกำลังทำสงครามขับเคี่ยวกับขอมเพื่อสถาปนานครรัฐสุโขทัยขึ้นมานั้นชาวกุยได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน ณ บริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่างอย่างเป็นปึกแผ่นแล้ว

การตั้งหลักแหล่งโดยส่วนมากจะพบ ตามลุ่มแม่น้ำโขงทุก ๆ สายน้ำที่แตกสายน้ำออกไป เช่น อุบล ท่าตูม โพธิ์ศรีสุวรรณ เมืองจันทร์ ห้วยทับทัน สำโรงทาบ และตามสายน้ำไปเรื่อย จนจึง จังหวัดนครราชสีมา ตามเส้นของสายน้ำเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ลุ่มแม่น้ำโขงบริเวณแนวเขาพนมดงรัก ปลายพุทธศตวรรษที่ 19 ชาวกุยในแคว้นอัสสัมถูกรุกรานโดยชนเผ่าอนารยะ จนบางส่วนต้องละทิ้งถิ่นฐานอพยพข้ามลงมาตามลำน้ำโขง เคยเป็นอาณาจักรหนึ่ง ถิ่นฐานเดิมอยู่ทางตอนเหนือของเมืองกัมปงธม ประเทศกัมพูชา

ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 เคยส่งทูตมาค้าขายกับอยุธยาเคยช่วยกษัตริย์เขมรปราบกบฏ ต่อมาเขมรได้ใช้อำนาจทางการทหารปราบชาวกูยและผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งกับเขมร ด้วยความชอบความอิสระและชอบการผจญภัย ได้อพยพขึ้นเหนือ เข้าสู่เมืองอัตตะบือแสนแป แคว้นจำปาศักดิ์ และสารวัน ทางตอนใต้ของลาว แต่ก็ถูกเจ้าเมืองศรีสัตนาคนหุต (เมืองเวียงจันทน์) ปราบปรามและขับไล่ จึงพากันอพยพตามแม่น้ำโขงมาตั้งรกรากอยู่แถบอิสานทางด้านแก่งสะพือ อำเภอโขงเจียม ได้แยกย้ายตั้งรกรากปลูกบ้านเรือนอยู่แถบนี้

พ.ศ. 1974 (ปีกุน) ที่จากหลักฐานกฎหมายอยุธยาฉบับพ.ศ. 1974 ได้กล่าวถึงกษัตริย์ของเขมรที่นครธม ได้ทรงขอให้เจ้ากวยแห่งตะบองขะมุม ที่มีเมืองสำคัญอยู่ตอนใต้ของเมืองนครจำปาศักดิ์ ส่งทหารไปช่วยพระองค์ปราบขบถ สำเร็จแล้วประมุขของทั้งสองฝ่ายได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และออกกฎหมายให้คนสยามห้ามยกลูกสาวให้ชาวฝรั่ง อังกฤษ วิลันดา กับปิตัน กุลา มลายู แขก กวย และแกว ซึ่งเป็นคนต่างชาติต่างศาสนา (ที่มา:เอกสารของโครงการแผนที่วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โครงการความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยภาษาและพัฒนาเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล)

พ.ศ. 2000 พงศาวดารเมืองละแวก กล่าวถึง กษัตริย์เขมร พระเจ้าธรรมราช ซึ่งครองอยู่พระนครหลวงได้ส่งทูตไปขอกองทัพจากกษัตริย์กวยแห่งตะบองขะมุม ที่มีเมืองสำคัญทางตอนใต้ของเมือง จำปาศักดิ์ ส่งทหารไปช่วยปราบกบฏ เมื่อกองทัพของพระเจ้าธรรมราชและเจ้ากวยแห่งตะบองขะมุมได้ปราบกบฏสำเร็จ ประมุขทั้งสองฝ่ายก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ (ที่มา ไทย : ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม 2533:35-36)

‘รถถัง จิตรเมืองนนท์’ นักมวยคนแรกที่จัดงาน Meet & Greet ให้แฟนคลับได้ใกล้ชิดแบบเป็นกันเอง ที่สนามมวยลุมพินีฯ 10 มิ.ย. นี้

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 66 นายทินกร ศรีสวัสดิ์ หรือ ‘รถถัง จิตรเมืองนนท์’ นักมวยไทย อายุ 25 ปี ซึ่งถือเป็นชาวไทยระดับแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท และนักมวยไทยที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงสไตล์การต่อสู้แบบบุกตะลุย ที่มักเป็นฝ่ายเดินหน้าไม่มีถอยหลัง ซึ่งเปรียบเสมือนรูปแบบการเคลื่อนที่ของรถถัง

อีกทั้งยังเป็นนักมวยไทยที่สามารถสร้างกระแสตอบรับ ในการดึงดูดแฟนมวยเพิ่มขึ้นเรื่อยมา นอกจากนี้ เขายังเป็นที่ต้องการสำหรับโปรโมเตอร์มวยไทยหลายราย ในการให้มาแข่งขันรายการที่ตนจัด

ล่าสุด รถถัง จิตรเมืองนนท์ ซุปตาร์มวยไทย ได้ประกาศจัด Meet & Greet แบบใกล้ชิดและเป็นกันเอง ให้เฉพาะแฟนๆ ที่มีบัตรเข้าชมการแข่งขัน ONE Fight Night 11 เท่านั้น พร้อมด้วยของที่ระลึกจำนวนจำกัด มาก่อนได้ก่อน ซึ่งจะจัดในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย.นี้ เวลาประมาณ 06.30 น. ณ สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา กรุงเทพฯ

‘ชาวญี่ปุ่น’ ทึ่ง!! ศักยภาพ ‘บัวขาว’ ในวัย 42 แม้พ่ายแพ้ แต่ก็ยังเป็นระดับท็อปของโลก

(8 ก.ค. 67) รายงานข่าวระบุว่า หลังจากยอดนักชกขวัญใจชาวไทย เจ้าของฉายา ‘ดำดอตคอม’ หรือ ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ ที่ตัดสินใจเข้าร่วมศึก K-1 World MAX 2024 ในวัย 42 ปี และพ่ายแพ้ไป แต่ก็ยังกลายเป็นไฟต์ที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

โดยถึงแม้ผลการแข่งขัน นักมวยชาวไทย จะเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไป แต่สิ่งที่แฟนกำปั้นแดนปลาดิบไม่อยากเชื่อสายตาก็คือสภาพร่างกายของยอดมวยไทยที่แม้จะอายุ 42 ปีแล้ว แต่ยังคงยืนสู้กับนักมวยระดับท็อปของโลกได้แบบไม่เป็นรอง งานนี้ทำเอาบรรดาแฟนคลับของเจ้าตัวออกมาแสดงความคิดเห็นกันผ่านเว็บไซต์ Yahoo News เป็นจำนวนมาก อาทิ…

“มันน่าทึ่งมากที่ บัวขาว รักษาร่างกายในวัย 42 ปี ได้ขนาดนี้ เขาต้องมีวินัย และไม่พลาดการฝึกซ้อมทุกวัน”

“ไฟต์นี้บ่งบอกชัดเจนว่า บัวขาว ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนก่อน สภาพร่างกายของเขาอาจจะแข็งแกร่ง แต่ปฏิกิริยา และความเร็วของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด”

“ฉันคิดว่า บัวขาว ยังคงแข็งแกร่งและโดดเด่น แม้ลีลาการต่อสู้ของเขาจะแตกต่างจากสมัยหนุ่ม ๆ”

“แค่เขากลับมาร่วมรายการ K-1 ในวัย 42 ปี ก็น่าทึ่งมากแล้ว ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ”

“บัวขาว อาจจะแพ้ในไฟต์นี้ แต่หาก นักมวยญี่ปุ่น เจอกับเขาก็อาจจะยังสู้ไม่ได้”

“เขาเป็นระดับตำนานไปแล้ว แต่มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะสู้บนสังเวียนเมื่อคุณอายุเกิน 40 ปี”

“ฉันคิดว่า บัวขาว ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เขาทำให้ทั่วโลกเห็นมามากมายว่าสามารถสู้กับคู่แข่งตัวท็อปบนเวทีโลกได้”

“คุณสุดยอดแม้จะแพ้ก็ตาม ฉันติดตามคุณมานาน แม้ตอนนี้จะอายุ 42 ปี แต่คุณไม่เปลี่ยนไปเลย ยังยิ้มแย้มเหมือนเคย”

“บอกได้คำเดียวว่า บัวขาว สุดยอดมาก! เขาเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ”

“มันเกิดคำถามขึ้นในใจ เหตุการณ์มันผ่านมากี่ปีแล้วตั้งแต่เขาแข่งกับ มาซาโตะ ร่างกายของเขาสุดยอดมาก อย่างไรก็ตาม นักกีฬาทุกคนบนโลกไม่สามารถเอาชนะอายุของตัวเองได้”

“แม้ว่าเขาจะไม่ปราดเปรียวเหมือนตอนยังหนุ่ม แต่ก็น่าทึ่งมากที่เขาสู้กับคู่แข่งที่อายุน้อยกว่าได้อย่างไม่เป็นรองบนสังเวียน และฉันคิดว่าไฟต์นี้น่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับแฟน ๆ ที่ได้ดู”

“ฉันรู้จัก บัวขาว ครั้งแรกตอนที่สู้กับ มาซาโตะ เมื่อปี 2004 แม้ไฟต์นั้น มาซาโตะ จะแพ้ แต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีนักมวยรายไหนสามารถเอาชนะนักมวยไทยคนนี้ได้ มาถึงวันนี้ฉันดีใจมาก ๆ ที่เขายังสุขสบายดี และฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องวิเศษมาก ที่เขากลับมาญี่ปุ่น”

“ในรายการ K-1 World MAX 2024 มีแต่นักกีฬาที่แข็งแกร่งทั้งนั้น แค่เขากลับมาลงแข่งขันในวัยเกิน 40 ปี ก็ถือเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก ๆ แล้ว”

“ก่อนอื่นเลยเขาอายุ 42 ปี มันเหลือเชื่อมาก ๆ กับสิ่งที่เขาทำเมื่อต้องเจอกับบรรดาคู่ต่อสู้ที่อายุน้อยกว่าเขามาก แม้แต่ คิมูระ กับ อันโป ก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้”

“บัวขาว อายุ 42 ปี แค่นี้แฟน ๆ ก็น่าจะพอใจแล้วที่เห็นเขายังคงอยู่ในวงการต่อสู้ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ หากคุณยังสู้ต่อแฟน ๆ ก็พร้อมจะเชียร์คุณ”

“เขาล้มลงเมื่ออายุ 42 ปี แต่ก็ยังกลับขึ้นมายืนสู้กับนักสู้ระดับแถวหน้าของวงการในปัจจุบันได้โดยไม่แพ้น็อก ถือเป็นเรื่องน่าชื่นชม”

“มันไม่สำคัญหรอกว่า จะแพ้ หรือชนะ? แต่ ตาแก่บัวขาว ยังคงเท่เสมอ”

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนในวัย 42 ปี แต่สิ่งที่ทำให้เขาดูเป็นรองก็คือการเจอกับ นักชกต่างชาติ ที่มีร่างกายแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งต้องมาแบกอายุด้วยอีก”

“บัวขาว นายน่าทึ่งจริง ๆ มันทำให้ฉันมีความกล้ามากขึ้นหลังจากได้เห็นนายลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ!”

“แค่เทียบกันเรื่องอายุ เขาก็เป็นฝ่ายชนะแล้ว ในวัย 42 ปี แต่เขายังกล้าที่จะขึ้นเวทีเผชิญหน้ากับเหล่านักสู้ยุคปัจจุบัน น่าชื่นชมจริง ๆ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top