Friday, 25 April 2025
นวัตกรรมไทย

พพ. ปลื้ม 2 นวัตกรรมไทย ตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน

Transformer Low Carbon & Submersible Transformer Low Carbon Plate Form บริหารจัดการพลังงานสะอาด Solar & Energy Storage  มุ่งสู่ Net Zero, Near Zero, Peak Demand และ Demand Response ปลอดภัย อัคคีภัย ทัศนียภาพ และอนุรักษ์พลังงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ERDI) - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะผู้บริหารกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน นำโดย นางมัณลิกา สมพรานนท์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน, นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการกองกำกับและอนุรักษ์พลังงาน และนายอาวุธ  เครือเขื่อนเพชร พร้อมทีมงาน เยี่ยมชม Transformer Low Carbon & Submersible Transformer Low Carbon และสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมบรรยายหัวข้อ “ เรื่อง Transformer Low Carbon & Submersible Transformer Low Carbon Plate Form บริหารจัดการพลังงานสะอาด Solar & Energy Storage มุ่งสู่ Net Zero, Near Zero, Peak Demand และ Demand Response

นางมัณลิกา สมพรานนท์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน กล่าวถึง Transformer Low Carbon & Submersible Transformer Low Carbon ถือเป็นนวัตกรรมของ คนไทยตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพราะปัจจุบันเรื่องพลังงานถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทุกภาคส่วน รัฐบาลจึงได้กำหนดนโยบายให้คนไทยมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด ลดการนำเข้าพลังงาน หม้อแปลงดังกล่าวจึงเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการที่จะพลิกโฉมประเทศ สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า เน้นการเติบโตที่สมดุล ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สร้างพลวัตใหม่ให้แก่เศรษฐกิจ ยังช่วยลดการใช้พลังงาน ลดค่าไฟฟ้า ลดคาร์บอน ลดเรือนกระจก และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สังคม ประชาชนและผู้ประกอบการ ด้านความมั่นคงระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด 

ผศ.ดร.พฤกษ์ อักกะรังสี ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและผู้แทนพิเศษ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าว ได้รับเกียรติบรรยายเรื่อง Transformer Low Carbon & Submersible Transformer Low Carbon Plate Form บริหารจัดการพลังงานสะอาด Solar & Energy Storage มุ่งสู่ Net Zero, Near Zero, Peak Demand และ Demand Response ด้วยสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับบริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด ได้ร่วมวิจัยและได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้ดำเนินงานวิจัยหม้อแปลง Low Carbon และระบบบริหารจัดการพลังงานทดแทน Solar กับ Energy Storage ด้วยโปรแกรม Sustainable Green Energy Management System ภายใต้โครงการ “Low Carbon Transformer ระบบจัดการหม้อแปลงไฟฟ้า เพื่อรองรับพลังงานสะอาดอย่างมั่นคง Net Zero, Demand Response และ Saving Energy” ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่าหม้อแปลงที่ใช้ในการดำเนินโครงการที่กล่าวในข้างต้น ตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน ในภาคอุตสาหกรรม Smart Factory, Smart Building ในด้าน Net Zero, Near Zero, Peak Demand, Demand Response การประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน โดยสามารถลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และมีระยะเวลาคืนทุนภายในเวลา  2 – 5  ปี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สังคม ประชาชนและผู้ประกอบการ ด้านความมั่นคงระบบไฟฟ้าพลังงานสะอาด

นายประจักษ์ กิตติรัตนวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าว ขอขอบพระคุณ ทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)  โดยหม้อแปลงดังกล่าว ตอบโจทย์การประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน ของภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการอาคารสถานที่ ที่สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 9% และลดคาร์บอนมากกว่า 100 ล้านตันคาร์บอน คืนทุนภายใน 2-5 ปี เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาด้านการประหยัดพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนสร้างความมั่นคงและความยืดหยุ่นด้านพลังงาน เพื่อผลัดดันการเปลี่ยนผ่านไป สู่พลังงานสะอาด ความยั่งยืนนี้จะส่งเสริมการเติบโตสีเขียวในภูมิภาค ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลต้องประกาศนโยบายการลดคาร์บอน โดยประกาศเป้าหมายความเป็นกลางของแผนลดก๊าซคาร์บอนในปี 2575 จะเห็นภาพการใช้พลังงานทั้งด้านอุตสาหกรรมและภาคประชาชน ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับการ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น ดังนั้น หม้อแปลงที่กล่าวข้างต้นจึงตอบโจทย์ทุกหน่วยงาน ภาครัฐ, เอกชน และภาคอุตสาหกรรม ด้านการประหยัดพลังงานและลดคาร์บอน

อธิบดี พพ. พร้อมคณะ เยี่ยมชม เจริญชัย “นวัตกรรมไทย Platform AI Net Zero เพิ่มพลังงาน Solar ถึง 20% และ ลดค่าไฟฟ้า 5-20% ” (รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ อันดับ1 NiA)

เมื่อวันที่ (31 ม.ค.68) นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, นายนันทนิษฎ์ วงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, นางมัณลิกา สมพรานนท์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์,นายนิรุติ สังข์แป้น ผู้อำนวยการกองพัฒนาพลังงานทดแทน และนายสมชาติ ตั้งลิขสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พร้อมคณะกองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์, กลุ่มเทคโนโลยีด้านความร้อน กองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์, กลุ่มติดตามและประเมินผล กองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์และกลุ่มเทคโนโลยีด้านไฟฟ้า กองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ เยี่ยมชม Platform AI บริหารจัดการ Solar กับ Energy Storage ด้วยหม้อแปลง IoT (Low Carbon) ประโยชน์สูงสุดและเสถียรภาพ พร้อมทำ Net Zero, Near Zero, Peak Demand, Demand Response และประหยัดค่าไฟฟ้า ณ บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด 

โดยมี นายประจักษ์ กิตติรัตนวิวัฒน์ กรรมการบริหาร (นวัตกรรม) บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด, ดร.ณัฐวุฒิ จารุวสุพันธุ์  หัวหน้ากลุ่มงาน smart energy & innovation และ นักวิจัยสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศุภกิตติ์ โชติโก หัวหน้าภาคประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และผศ.ดร.อนวัช แสงสว่าง อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยาย การบริหารจัดการพลังงานสะอาดหม้อแปลง Low Carbon + Solar + Energy Storage + EV พร้อมแก้ปัญหา Net Zero, Near Zero, Peak Demand และ Demand Respon จากนั้นนำคณะเยี่ยมชมระบบบริหารจัดการพลังงานสะอาด หม้อแปลง Low carbon และ Submersible Transformer Low Carbon

นายประจักษ์  กิตติรัตนวิวัฒน์ กรรมการบริหาร (นวัตกรรม) บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด กล่าวว่า Platform บริหารจัดการพลังงานสะอาดสูงสุด (Platform AI บริหารจัดการ Solar กับ Energy Storage ด้วยหม้อแปลง IoT (Low Carbon) ประโยชน์สูงสุดและเสถียรภาพ พร้อมทำ Net Zero, Near Zero, Peak Demand, Demand Response และประหยัดค่าไฟฟ้า ได้รับทุนการสนับสนุนโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA และ Platform ดังกล่าว ตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานในกลุ่มเป้าหมาย ภาคอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล, มหาวิทยาลัย, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และบ้านเรือน เพื่อรองรับพลังงานสะอาดอย่างมั่นคงและเสถียรภาพ อีกทั้งยังลดความสูญเสียพลังงานและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานและราคาพลังงานในตลาด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top