UN ออกโรงประณาม - เรียกร้องรัฐบาลสืบสวน กรณีทหารพม่าฆ่า - เผาชาวบ้านในรัฐกะยา 35 ราย
เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติรายหนึ่งระบุเมื่อวันอาทิตย์ (26 ธ.ค.) ว่า เขาสยดสยองต่อรายงานข่าวที่น่าเชื่อถือ กรณีมีพลเรือนอย่างน้อย 35 รายถูกสังหารและเผาร่างจนไหม้เกรียมในพม่า และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการสืบสวน
เจ้าหน้าที่ 2 คนของกลุ่มไม่แสวงหากำไร เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) ยังคงสูญหาย หลังรถยนต์ของพวกเขาเป็นหนึ่งในหลายๆ คันที่ถูกโจมตีและจุดไฟเผาในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นที่รัฐกะยา
องค์กรเฝ้าระวังกลุ่มหนึ่งและสื่อมวลชนท้องถิ่นกล่าวโทษเหตุโจมตีดังกล่าวไปที่คณะรัฐประหาร
มาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขาธิการใหญ่ด้านกิจการมนุษยธรรมของสหประชาชาติ ระบุในถ้อยแถลงว่า "ผมขอประณามเหตุการณ์ร้ายแรงนี้และทุกการโจมตีที่มีต่อพลเรือนทั่วประเทศ" พร้อมเรียกร้อง "ขอให้มีการสืบสวนอย่างละเอียดและโปร่งใส"
พม่าตกอยู่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงมาตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในเดือนกุมภาพันธ์ และจนถึงตอนนี้มีประชาชนเสียชีวิตจากการถูกปราบปรามโดยกองกำลังด้านความมั่นคงไปแล้วมากกว่า 1,300 ราย
กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People's Defence Forces) ผุดขึ้นทั่วประเทศเพื่อต่อสู้กับคณะรัฐประหาร ดึงทหารเข้าสู่ทางตันแห่งการปะทะและตอบโต้นองเลือด
เมื่อวันเสาร์ (25 ธ.ค.) ภาพถ่ายที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าเป็นภาพของรถบรรทุกถูกเผา 2 คันและรถยนต์อีกคันบนทางหลวงสายหนึ่งในเมืองพรูโซ ในรัฐกะยา และพบเห็นศพดำเป็นตอตะโกหลายศพอยู่ภายใน
สมาชิกของกองกำลังพิทักษ์ประชาชนในท้องถิ่น เปิดเผยว่านักรบของพวกเขาพบยานพาหนะเหล่านี้ในตอนเช้าวันเสาร์ (25 ธ.ค.) หลังได้ยินข่าวว่าทหารได้เรียกตรวจยานพาหนะหลายคันในพรูโซ หลังเกิดการปะทะกับนักรบของกลุ่มในบริเวณใกล้เคียงในวันศุกร์ (24 ธ.ค.)
"ตอนที่เราไปตรวจสอบพื้นที่ในตอนเช้าวันนี้ เราพบร่างผู้เสียชีวิตในสภาพไหม้เกรียมอยู่ในรถบรรทุก 2 คัน เราพบศพผู้เสียชีวิต 27 ศพ" สมาชิกรายนี้บอกกับเอเอฟพีในตอนเช้าวันเสาร์ (25 ธ.ค.) โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม
