Wednesday, 23 April 2025
ทรัพยากรธรรมชาติ

ปทุมธานี “24 พ.ค.วันป่าชุมชนแห่งชาติ” กรมป่าไม้ เผยความความสำเร็จ ตั้งป่าชุมชนแล้ว 11,985 แห่ง รวม 6.57 ล้านไร่

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 66  เวลา 10.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีเปิด งาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานเครือข่ายป่าชุมชน 68 จังหวัด เข้าร่วม

โดยมี นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ณ ห้องไดมอลด์ฮอลล์ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมป่าไม้ ได้กำหนดจัดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดยมีกิจกรรมที่สำคัญประกอบด้วย วันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 13.00 – 17.00 น. เป็นการจัดกิจกรรมการเดินรณรงค์กระตุ้นจิตสำนึก สร้างการรับรู้ “24 พฤษภาคม วันป่าชุมชนแห่งชาติ” บริเวณลานรอบศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี และวันที่ 24 พฤษภาคม เป็นพิธีเปิดงาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ พระราชปณิธาน ด้านการสืบสาน รักษา ต่อยอด, นิทรรศการจากหน่วยงานภาคีสนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน, นิทรรศการสร้างความรู้ความเข้าใจด้านป่าชุมชน ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562, นิทรรศการผลผลิต ผลิตภัณฑ์จากป่าชุมชน ,คลินิกรับคำปรึกษา แนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ป่าชุมชน พ.ศ. 2562

พร้อมทั้งมีการมอบโล่สำหรับผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน, การมอบถ้วยรางวัลเครือข่ายป่าชุมชนต้นแบบ ประจำปี พ.ศ. 2566, การมอบโล่ให้แก่ภาคีเครือข่าย หน่วยงาน องค์กร ที่สนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน ประจำปี พ.ศ. 2566 และการมอบเกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการเนื่องในงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2566รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 24 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนได้ร่วมกับรัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูจัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างสมดุลและยั่งยืนในรูปแบบของป่าชุมชน

เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดการป่าชุมชนและได้ประโยชน์จากป่าชุมชน อันจะส่งผลให้ชุมชนดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศให้มีความสมบูรณ์และยั่งยืน ซึ่งจากการดำเนินการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมป่าไม้ ได้ดำเนินการบริหารจัดการป่าอย่างมีส่วนร่วมตามแนวทางป่าชุมชน มาตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน มีป่าชุมชนที่ได้รับการส่งเสริมให้จัดตั้งตามพ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ. 2562 รวมแล้วเป็นจำนวนถึง 11,985 แห่ง รวมเนื้อที่ประมาณ 6.57 ล้านไร่

ซึ่งเป้าหมายการดำเนินการต่อไปนั้น ภายในปี พ.ศ.2570 จะต้องจัดตั้งป่าชุมชนให้ได้จำนวน 15,000 แห่ง และชุมชนที่มีส่วนร่วม 18,000 หมู่บ้าน รวมเนื้อที่หมด 10 ล้านไร่ การจัดงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ให้กับประชาชนทั่วไป หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของป่าชุมชนและทรัพยากรป่าไม้ของชาติ

รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการและใช้ประโยชน์ป่าชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน พร้อมกันนี้ ยังช่วยส่งเสริมให้สมาชิกเครือข่ายป่าชุมชนและประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการป่าชุมชนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาป่าชุมชนเพื่อสร้างรายได้ อันเป็นการสร้างแรงจูงในการเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการป่าชุมชน ซึ่งสอดคล้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562

ค้นพบลิเทียมแหล่งใหม่ ทะยานสู่เบอร์ 2 มหาอำนาจลิเทียมโลก

(8 ม.ค. 68) จีนสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการสำรวจแร่ลิเทียม ส่งผลให้ปริมาณสำรองลิเทียมเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 16.5% ของปริมาณสำรองโลก พร้อมขยับอันดับจากที่ 6 ขึ้นสู่อันดับ 2 ของโลก

กรมสำรวจธรณีวิทยาจีนเผยว่า หนึ่งในความสำเร็จสำคัญคือการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมชนิดสปอดูมีนขนาดใหญ่ที่ทอดยาวถึง 2,800 กิโลเมตรในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ นอกจากนี้ การสำรวจทะเลสาบเกลือบนที่ราบสูงชิงไห่-ซีจ้าง ยังทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นฐานสำรองลิเทียมจากทะเลสาบเกลือใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

ลิเทียมมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน การสื่อสารเคลื่อนที่ และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ โดยจีนยังสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการสกัดลิเทียมจากเลพิโดไลต์ แร่ที่มีปริมาณลิเทียมสูงแต่สกัดได้ยาก

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความก้าวหน้าเหล่านี้จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้า และสร้างความสมดุลในตลาดลิเทียมโลกได้ในอนาคต

‘ทรัมป์’ บีบ!! ‘ยูเครน’ มอบทรัพยากรครึ่งประเทศ แลกเงินช่วย โดยไม่มี!! ‘หลักประกันด้านความมั่นคง’ ตอบแทน

เมื่อวานนี้ (22 ก.พ. 68) ‘ยูเครน’ กำลังพิจารณาข้อเสนอใหม่จาก ‘รัฐบาลทรัมป์’ ซึ่งกำหนดให้ต้องแบ่งรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงแร่ ก๊าซ และน้ำมัน ให้กับสหรัฐฯ โดยไม่มีหลักประกันด้านความมั่นคงใดๆ ตอบแทน

เอกสารร่างข้อตกลงฉบับล่าสุดลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ยูเครนต้องแบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งจากทรัพยากรธรรมชาติให้สหรัฐฯ รวมถึงรายได้จากท่าเรือและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดียวกับร่างข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่ยูเครนเคยปฏิเสธเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพราะเห็นว่าเป็นภาระเกินไป

อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงใหม่นี้ยังคง ไม่มีหลักประกันด้านความมั่นคงจากสหรัฐฯ ตามที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เรียกร้อง ก่อนหน้านี้ยูเครนเสนอให้สหรัฐฯ เป็นพันธมิตรด้านทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อแลกกับการสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติม แต่ข้อตกลงเดิมไม่มีข้อผูกพันด้านความมั่นคง ทำให้เซเลนสกีปฏิเสธการลงนาม

ข้อตกลงฉบับล่าสุดยังระบุว่า รายได้จากทรัพยากรของยูเครนจะถูกส่งเข้าสู่กองทุนที่สหรัฐฯ ถือสิทธิทางการเงิน 100% โดยยูเครนต้องจ่ายเข้ากองทุนจนกว่าจะถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ทรัมป์เรียกร้องเป็น “ค่าตอบแทน” สำหรับความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครน

ตัวเลข 500,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ารายได้จากทรัพยากรของยูเครนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่เพียง 1,100 ล้านดอลลาร์ และมากกว่าสี่เท่าของมูลค่าความช่วยเหลือสหรัฐฯ ที่ให้ยูเครนจนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ตัวเลขนี้ไม่เคยถูกระบุในร่างข้อตกลง แต่ทรัมป์เคยพูดไว้ต่อสาธารณะว่าเป็นจำนวนที่เขาต้องการ

ยูเครนเจอแรงกดดันหนักจากทรัมป์

เจ้าหน้าที่ในเคียฟกำลังศึกษาข้อตกลงและยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือไม่ รัสลัน สเตฟานชุก ประธานรัฐสภายูเครนเผยว่า ยูเครนต้องการหลักประกันด้านความมั่นคง หากจะต้องยอมให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรของตน

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเซเลนสกีกับทรัมป์ตกต่ำลงอย่างหนัก ทรัมป์เรียกเซเลนสกีว่า “เผด็จการที่ไร้การเลือกตั้ง” ขณะที่เซเลนสกีโต้กลับว่า ทรัมป์ติดอยู่ใน “ใยข้อมูลเท็จ” หลังจากทรัมป์กล่าวหาอย่างผิดๆ ว่ายูเครนเป็นฝ่ายเริ่มสงครามกับรัสเซีย

เอกสารระบุว่า หากยูเครนได้รับความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ หลังลงนามข้อตกลง ยูเครนจะต้องจ่ายคืนเป็นมูลค่าถึง 2 เท่าของเงินที่ได้รับ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวระบุว่า ข้อตกลงนี้ถือเป็น “หลักประกันความมั่นคง” ของยูเครน เนื่องจากการมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในยูเครนจะช่วยป้องกันประเทศจากรัสเซีย

ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “เซเลนสกีจะต้องลงนามในข้อตกลงนี้ และคุณจะเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้”

ขณะที่ทรัมป์กล่าวในทำเนียบขาวว่า “เราจะต้องได้ข้อตกลง หรือจะเกิดปัญหาใหญ่กับพวกเขา”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top