Sunday, 19 May 2024
ทรงผมนักเรียน

รร.มัธยมวัดธาตุทองให้นร.ไว้ผมยาวได้ตามเหมาะสม พร้อมตอบกลับจี๊ด หลังเจอชาวเน็ตถามเหมาะสมใคร?

ชื่นชม! รร.มัธยมวัดธาตุทองให้นักเรียนไว้ผมยาวได้ตามใจ ตามความเหมาะสม เจอถาม “ความเหมาะสมของใคร” ทางรร.ตอบกลับจี๊ด ได้ใจไปเต็ม ๆ

สำหรับประเด็นทรงผมนักเรียนถือเป็นที่ถกเถียงของสังคมมาอย่างยาวนาน บางโรงเรียนอนุญาตให้ไว้ผมยาวได้ ในขณะที่บางโรงเรียนยังคงบังคับเรื่องทรงผม หากไว้ผมยาวเกินกำหนด คุณครูอาจลงโทษด้วยการตัดผมโดยที่นักเรียนไม่ยินยอม ดังที่เป็นดราม่าอยู่หลายครั้ง อย่างไรก็ตาม เร็ว ๆ นี้ โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทองได้เป็นที่ชื่นชมของสังคม หลังออกกฎทรงผมนักเรียนที่แสดงถึงความเข้าใจนักเรียนเป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เพจโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง ได้เผยกฎระเบียบเรื่องทรงผมของนักเรียน โดยระบุว่า นักเรียนหญิงสามารถไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ ถ้ายาวควรยาวตามความเหมาะสม รวบให้เรียบร้อยและติดโบว์โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง

'ตรีนุช' ออกประกาศ ยกเลิกระเบียบทรงผมนักเรียน ให้ทุกฝ่ายของสถานศึกษาพิจารณาตามความเหมาะสม

( 24 ม.ค. 66) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีเสียงเรียกร้องให้มีการแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 มาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการลงโทษเรื่องทรงผมได้ส่งผลถึงร่างกายและจิตใจของนักเรียน ศธ.จึงได้มีหนังสือหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียน ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 8) ได้ให้ความเห็นว่า รมว.ศธ.ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดอาจอาศัยอำนาจตามมาตรา 12 ประกอบกับมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 กำหนดเป็นนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำไปปฏิบัติได้

ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ตนจึงได้ลงนามในระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบ ศธ.ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 และเสนอสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วออกเป็นหนังสือสั่งการหรือหนังสือเวียน กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนหรือนักศึกษาไว้อย่างกว้าง ๆ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดที่เป็นผู้กำกับดูแลสถานศึกษา กำหนดให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไปกำหนดเป็นระเบียบ หรือข้อบังคับของสถานศึกษาแต่ละแห่งเอง

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ศธ.ได้ยกร่างแนวนโยบายเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษา ไว้ดังนี้

1.) การไว้ทรงผมของนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัด ศธ. และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ. จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ โดยสถานศึกษาอาจกำหนดลักษณะทรงผมได้ตามพันธกิจ บริบท และความเหมาะสมของแต่ละสถานศึกษา

2.) สถานศึกษาในสังกัด ศธ.และสถานศึกษาในกำกับดูแลของ ศธ.อาจดำเนินการกำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับไว้ทรงผมของนักเรียนได้ โดยการวางระเบียบหรือข้อบังคับของสถานศึกษา และควรระบุบทอาศัยอำนาจของกฎหมายเฉพาะมาตรา 39 (1) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546

จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามหลักการมีส่วนร่วม เช่น นักเรียน คณะกรรมการสภานักเรียน คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง หรือ ผู้แทนผู้ปกครอง ชุมชนท้องถิ่น บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นใดที่หัวหน้าสถานศึกษาเห็นสมควร เป็นต้น

'พิธา' ชี้ ครูกล้อนผมเด็ก สะท้อนใช้อำนาจเกินขอบเขต ลั่น!! หากก้าวไกลเป็น รบ. พร้อมดันกฎห้าม รร. ละเมิดสิทธิฯ

(7 ก.พ. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความลงโซเชียลมีเดีย แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่มีครูโรงเรียนแห่งหนึ่งกล้อนผมนักเรียนในโรงเรียน ว่าเป็นเรื่องที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน แสดงให้เห็นว่าการลงนามยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยทรงผม ไม่ได้ช่วยทำให้นักเรียนมีเสรีภาพมากขึ้นจริงในทางปฏิบัติ เสนอแนะให้กระทรวงศึกษาธิการปกป้องสิทธิเสรีภาพนักเรียน เพื่อสร้างพลเมืองที่ตอบโจทย์โลกอนาคต

โดยพิธา กล่าวว่าตน รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ที่วันนี้ได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ถูกนำเสนอโดยกลุ่มนักเรียนเลว ที่มีครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้กรรไกรเดินกล้อนผมนักเรียนกว่าร้อยคนจนแหว่งและเสียทรง ในระหว่างเข้าแถวตอนเช้า หลังจากนั้นก็บังคับให้นักเรียนทุกคนแก้ทรงผมกลายเป็นทรงนักเรียนขาว 3 ด้านทั้งหมด

แม้กฎเรื่องทรงผมโรงเรียนจะไม่ได้บังคับให้นักเรียนต้องตัดผมเกรียนก็ตาม นี่แสดงให้เห็นว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ. 2563 เปลี่ยนเป็นการกำหนดแนวปฏิบัติกว้าง ๆ ให้สถานศึกษาแต่ละแห่งนำหลักเกณฑ์ไปกำหนดเป็นระเบียบเอง ไม่ได้เป็นการปลดปล่อยเสรีภาพเหนือร่างกายของนักเรียน แต่กลับทำให้กฎเกณฑ์เรื่องทรงผมนักเรียนถูกกำหนดอย่าง 'ไร้ขอบเขต' กว่าเดิม

“ผมคิดว่าการสอนและสร้างความสำนึกเรื่องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพของมนุษย์ในโรงเรียน เป็นเรื่องเดียวกันกับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพราะในโลกยุคปัจจุบันเราไม่สามารถเอาวิธีคิดแบบการผลิตพลทหารของโลกยุค 100 ปีก่อน มาใช้ในการสร้างสรรค์การเรียนรู้ สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรต้องทำจริง ๆ คือการประกาศระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ที่ห้ามบุคลากรทางการศึกษาทั้งครูและผู้บริหารโรงเรียน ไม่ให้ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามนโยบายของพรรคก้าวไกล” พิธากล่าว

‘มัธยมวัดธาตุทอง’ ประกาศ ไว้ทรงผมนักเรียนตามเพศวิถี ขอแค่ดูเหมาะสม เรียบร้อย ‘ไม่ย้อมสีผม-ไว้หนวดเครา’

โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทองออกระเบียบทรงผมนักเรียน หลัง รมต.ตรีนุชปลดล็อกก่อนหน้านี้ นักเรียนชาย หญิง และเพศวิถี ไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ แต่ให้เหมาะสมและเรียบร้อย ห้ามย้อมสีผม และห้ามไว้หนวดไว้เครา ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์การเมืองชมเปาะ ใจกว้างรับความหลากหลายของนักเรียน

วันนี้ (21 ก.พ.66) รายงานข่าวแจ้งว่า งานกิจการนักเรียน งานโสตทัศนศึกษา กลุ่มบริหารทั่วไป โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ได้ออกระเบียบทรงผมนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง พ.ศ. 2566 ระบุว่า

ข้อ 1 นักเรียนต้องปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม โดยสามารถไว้ทรงผมตามเพศวิถี ดังนี้

(1) นักเรียนชาย และเพศวิถีชาย จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาว ด้านข้าง ด้านหลัง ด้านหน้า และกลางศีรษะ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมและมีความเรียบร้อย

(2) นักเรียนหญิง และเพศวิถีหญิง จะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสม และรวบผม ติดโบโรงเรียนมัธยมวัดธาตุทองให้เรียบร้อย

ข้อ 2 นักเรียนต้องห้ามปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม ดังนี้

(1) ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม
(2) ไว้หนวดหรือไว้เครา
(3) การกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปทรงสัญลักษณ์หรือเป็นลวดลาย

ประกาศดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ต รวมทั้งอินฟลูเอนเซอร์การเมือง เช่น เฟซบุ๊ก ‘Jessada Denduangboripant’ ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คอมเมนต์ว่า “สุดยอดครับ ขอชื่นชมโรงเรียน ที่เปิดใจกว้างรับความหลากหลายของนักเรียนนะครับ เชื่อสิ ผลการเรียนที่ดีหรือไม่ดี มันไม่เกี่ยวกับทรงผมนักเรียนหรอก มันเกี่ยวกับความตั้งใจเรียนของเด็ก และความตั้งใจสอนของครูครับ”

ขณะที่เฟซบุ๊ก Kath Khangpiboon ของ อ.เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คอมเมนต์ว่า “ยินดีกับนักเรียนทุกคนค่ะ การได้มาเรียนที่นี่ก็เป็นความสำเร็จแล้วค่ะ”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top