Sunday, 8 June 2025
ถ้ำ

‘นักวิทย์อิตาลี’ ค้นพบ ‘หลุมถ้ำยักษ์’ บนดวงจันทร์ คาด!! อาจเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคตได้

(18 ก.ค.67) นักวิทยาศาสตร์ยืนยันการค้นพบถ้ำแห่งหนึ่งบนดวงจันทร์ อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ ‘นีล อาร์มสตรอง’ และ ‘บัซ อัลดริน’ สองนักบินอวกาศสหรัฐฯ ลงจอดบนดวงจันทร์เมื่อ 55 ปีก่อน และคาดว่าน่าจะยังมีถ้ำลักษณะนี้อยู่อีกหลายร้อยแห่ง ซึ่งอาจใช้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับนักบินอวกาศได้

โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์อิตาลีรายงานเมื่อวันจันทร์ (15 ก.ค.) ว่า พบหลักฐานการมีอยู่ของถ้ำขนาดใหญ่ในบริเวณจุดที่เรียกว่า ‘ทะเลแห่งความสงบเงียบ’ (Sea of Tranquility) ซึ่งอยู่ห่างจากจุดลงจอดของยานอะพอลโล 11 ไปราว 400 กิโลเมตร

หลุมถ้ำดังกล่าวเกิดขึ้นจากการพังถล่มของท่อลาวา (lava tube) เช่นเดียวกับถ้ำลักษณะเดียวกันอีกกว่า 200 จุดที่พบในบริเวณนั้น

ทีมนักวิจัยได้วิเคราะห์ผลการตรวจวัดด้วยเรดาร์โดยยาน Lunar Reconnaissance Orbiter ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) จากนั้นก็นำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับท่อลาวาที่มีอยู่บนโลก โดยผลการศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Astronomy

ข้อมูลจากเรดาร์เปิดเผยให้เห็นเฉพาะพื้นที่ส่วนหน้าของถ้ำใต้ดินซึ่งมีความกว้างอย่างน้อย 130 ฟุต (40 เมตร) และยาวหลายสิบเมตร หรืออาจจะมากกว่านั้น

“ถ้ำบนดวงจันทร์ยังคงเป็นปริศนามานานกว่า 50 ปี ดังนั้น การที่เราสามารถพิสูจน์ว่ามันมีอยู่จริงได้จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก” ลีโอนาร์โด คาร์เรอร์ และโลเรนโซ บรุซโซเน จากมหาวิทยาลัยเทรนโต ระบุในบทสัมภาษณ์ผ่านอีเมล

นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า หลุมถ้ำส่วนใหญ่ดูเหมือนจะตั้งอยู่บนที่ราบลาวาโบราณบนดวงจันทร์ และอาจจะมีอยู่บ้างบนขั้วใต้ของดวงจันทร์ ซึ่งเป็นจุดที่นาซาเตรียมส่งนักบินอวกาศไปสำรวจในช่วงปลายทศวรรษนี้ ขณะที่หลุมในเงามืดที่เชื่อกันว่าอาจมีน้ำแข็งสะสมอยู่ก็อาจเป็นแหล่งน้ำดื่มและใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงสำหรับจรวดได้

ผลการศึกษายังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หลุมถ้ำลักษณะนี้อาจมีอีกหลายร้อยแห่งบนดวงจันทร์ รวมถึงท่อลาวาอีกหลายพันจุด ซึ่งบางแห่งอาจใช้เป็นสถานที่พักพิงตามธรรมชาติสำหรับนักบินอวกาศเพื่อช่วยป้องกันพวกเขาจากรังสีคอสมิกและรังสีสุริยะ รวมไปถึงการตกของอุกกาบาตขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม การสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับมนุษย์บนดวงจันทร์อาจต้องใช้เวลานานและเป็นเรื่องท้าทายพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะต้องเสริมความแข็งแกร่งของผนังถ้ำเพื่อป้องกันการพังถล่ม

หินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่พบในถ้ำเหล่านี้ยังอาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจวิวัฒนาการของดวงจันทร์ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในแง่ของกิจกรรมภูเขาไฟ

อดีต รมต.อว. วิเคราะห์!! ระบบการศึกษาไทย ยังคงยึดติดกับความเชื่อแบบเดิมๆ ไม่สามารถตอบสนอง!! ความเปลี่ยนแปลงของโลก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(26 เม.ย. 68) ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้โพสต์ข้อความ โดยมีใจความว่า ...

สถาบันอุดมศึกษาไทยกับกับดักถ้ำเพลโต

การชี้นำการเปลี่ยนแปลงสู่โลกอนาคต

• สถาบันอุดมศึกษาไทยตกอยู่ใน 'กับดัก 3 ประการ' ได้แก่ กับดักเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Traps) กับดักในขีดความสามารถ (Capability Traps) และกับดักในตัวสมมุติฐาน (Assumption Traps) ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนา

• การหลุดพ้นจากกับดักเหล่านี้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างจริงจัง  เช่น การปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน การบูรณาการเทคโนโลยี AI และดิจิทัลเข้ากับการเรียนการสอน และการสร้างความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม

• นอกจากนี้ สถาบันอุดมศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิดและโลกทัศน์ โดยเน้นความสำคัญของการสร้างผลกระทบเชิงประจักษ์ (Significance x Profundity) ความเกี่ยวข้องกับสังคม (Relevance x Rigor) และการสร้างความร่วมมือระดับโลก (Competition x Collaboration)

• การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เชิงปฏิบัตินิยม (Strategic Pragmatism) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างอุดมคติและความเป็นจริง จะเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาสถาบันอุดมศึกษาไทยก้าวพ้นจากกับดักและชี้นำการเปลี่ยนแปลงประเทศสู่ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top