Monday, 28 April 2025
ต่อต้านการทุจริต

'คณะผู้แทนรัฐสภาไทย' เข้าร่วมประชุม สมัชชาสหภาพรัฐสภาเสวนาของ รัฐสภา เกี่ยวกับอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตปีที่ 20 ณ กรุงโดฮารัฐกาตาร์ (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์)

วันนี้ (11 มี.ค. 66)เวลา14:00-16:30 น. ณ กรุงโดฮารัฐกาตาร์ ตัวแทนสภารัฐบาลไทยประเทศไทย ได้เข้าร่วมประชุมเสวนาเกี่ยวกับอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตปี2556 โอกาสนี้ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง รอง.กมธ.ปปช.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานหัวหน้าคณะรัฐสภาไทย ได้กล่าวถ้อยแถลงในนาม คณะผู้แทนรัฐสภาไทย ต่อที่ประชุมสมัชชา มีสาระสาคัญว่า 

ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกัน และต่อต้านการทุจริตและให้ความร่วมมือ องค์การระหว่างประเทศ และระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและพัฒนาโดยเป็นไปตามหลักการพื้นฐานของระบบกฎหมาย ความร่วมมือดังกล่าว อาจรวมถึงการมีส่วนร่วมในแผนการดำเนินงานและโครงการระหว่างประเทศ ในโอกาสนี้เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของประเทศไทย ในการปฏิบัติตามอนุสัญญา UNCAC นับตั้งแต่ประเทศไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญา UNCAC เมื่อปี พ.ศ. 2554 ได้มีความคืบ หน้าในความพยายามต่อต้านการทุจริตที่สอดคล้องกับอนุสัญญา UNCAC โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางกรอบทางกฎหมาย ของประเทศซึ่งประเทศไทยได้ตรากฎหมายเพื่อต่อต้านการทุจริต ได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551และ พระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้าง การบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตดั่งกล่าว

6 กันยายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ ปลุกจิตสำนึกคนไทยต่อต้านการทุจริต

วันที่ 6 กันยายน ของทุกปี กำหนดเป็นวันต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจากการริเริ่มของ ดุสิต นนทะนาคร อดีตประธานหอการค้าไทย ที่ได้สร้างความตื่นตัวของคนไทยในเรื่องนี้ จนกลายเป็นวาระแห่งชาติ

ในปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยมีอันดับการคอร์รัปชันแย่ลงจาก 78 เป็น 80 จาก 183 ประเทศทั่วโลกทั้งยังมีคะแนนดัชนีความเชื่อมั่นเพียง 3.4 จาก 10 คะแนนเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทยนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ‘ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน’ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อต้านคอร์รัปชันเพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนของสังคมเกิดความตื่นตัว และลุกขึ้นมาร่วมใจกันต่อต้านคอร์รัปชันอย่างเป็นรูปธรรม 

โดยในปีแรกงานจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี ภายใต้หัวข้อ ‘จุดเปลี่ยนประเทศไทย’ และได้กำหนดให้วันที่ 6 กันยายนของทุกปีเป็น ‘วันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ’ เพื่อเป็นการรำลึกถึง คุณดุสิต นนทะนาครพลังสำคัญผู้ก่อตั้งภาคีฯ ผู้นำการต่อต้านการคอร์รัปชันเข้าสู่แผนปฏิรูปประเทศไทยภายใต้แผนปรองดองของหอการค้าไทย ที่ได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

มูลนิธิต้านโกง” ชู “ดร.เอก์” บุคคลดีเด่นด้านต่อต้านการทุจริต “วิชา”ตอกย้ำ“กรีนคอร์รัปชั่น”มหันตภัยร้ายทำลายโลก ห่วงระบบยุติธรรมถูกทำลาย เปิดช่องกินบ้านกินเมือง

ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันป้องกันราชอาณาจักร (สปท.) ถนนวิภาวดีฯ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.67  มูลนิธิต่อต้านการทุจริต ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในวันครบรอบ 9 ปี การจัดตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต และมอบรางวัลองค์กรและบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต ประจำปี 2567 (Anti–Corruption Awards 2024) โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต เป็นประธานในพิธี

โดย ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา กล่าวแสดงความยินดีกับองค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลฯ ว่า หน่วยงานองค์กร และบุคคลที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาต้องทำงานด้วยความอดทน ยากลำบาก โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทน รางวัลที่ได้รับจึงเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความโปร่งใสให้กับบ้านเมืองปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

สถานการณ์คอร์รัปชั่นที่น่าหวาดกลัวและเป็นภัยคุกคามต่อชาวโลก ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศหนึ่งประเทศใดนั้น คือการทุจริตได้ทำลายสิ่งแวดล้อม (กรีนคอร์รัปชั่น) ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดในโลก การตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้โลกวิปริตไปหมด ทั้งยุโรป อเมริกา มีแนวโน้มภัยพิบัติที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตการดำรงชีวิตของมนุษย์ เกิดโรคอุบัติใหม่ ซึ่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว  ฉะนั้นต้องเร่งปลูกฝังให้เยาวชนทุกคนตระหนักรู้รักษาผลประโยชน์ของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา ยังแสดงความห่วงใยต่อการทำลายระบบยุติธรรม ว่า การทุจริตนั้นบั่นทอนความเจริญของเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถไปช่วยเหลือคนยากจนที่ด้อยโอกาสได้  โครงการช่วยเหลือสังคม  ช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ถูกนักการเมืองทุจริตแกร่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์ไปอย่างน่าเศร้าสลดใจ ทั้งนี้องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International)  ได้เรียกร้องให้ไทยยุติทำลายระบบยุติธรรม และเห็นว่าการทำลายระบบยุติธรรมเป็นพวกตะกละตะกลาม (greedily) เป็นพวกกินบ้านกินเมือง

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องต่อสู้กับกระบวนการทุจริตที่เผชิญกับการถูกฟ้องปิดปาก (SLAPP)  ดังนั้นจึงต้องเร่งผลักดันให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องปิดปากสื่อมวลชน ตลอดจนภาคประชาชนโดยเร็ววัน

“มูลนิธิต่อต้านการทจริตได้ขับเคลื่อนกิจกรรมต่อต้านทุจริตและปลูกฝังหลักธรรมาภิบาลมาเป็นเวลา 9 ปีเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ขอเรียกร้องให้องค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลอย่าท้อถอย เราต้องร่วมกันยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไป เร่งเพาะบ่มปลูกฝังเด็กเยาวชนให้เห็นถึงภัยอันตรายการคอร์รัปชั่น ให้เขาเหล่านั้นเป็นอนาคตของบ้านเมืองที่เข้มแข็งสืบไป” ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา กล่าวทิ้งท้าย ด้าน ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) และประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจที่มูลนิธิต่อต้านการทุจริตได้มอบรางวัลอันทรงคุณค่า “บุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต” เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่สื่อที่ดี พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการสร้างความสุจริตให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยจะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการก็จะไม่ย่อท้อต่อสู้กับขบวนการมิชอบอย่างไม่หยุดยั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) และประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ ได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริตแล้ว ยังมีบุคคลสำคัญได้รับรางวัลอีก 2 ท่าน ได้แก่ ดร.มานะ นิมิตรมงคลม เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และนายสุทธิรักษ์ ยังยิ้ม หัวหน้ากองประจำการรถไฟฯ สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วนรางวัลองค์กรดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริตมี 3 องค์กร ได้แก่ ภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ ,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ(สสส.)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top