Friday, 3 May 2024
ตำรวจไทย

‘วปอ.2555 & ตำรวจไทย’ ห่วงใยประชาชน! จัดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน จ.สระบุรี และ จ.สิงห์บุรี ลุยน้ำมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในพื้นที่หลายจังหวัด สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนคนไทยต่างได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ร่วมลงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วย ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแล เฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรม การกระทำความผิด กลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงคอยให้การสนับสนุนในภารกิจต่าง ๆ จากภาครัฐเมื่อมีการร้องขอด้วย

ในวันนี้ (17 ต.ค.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพจังหวัดละ 1,000 ชุด 2 จังหวัด รวมเป็น 2,000 ชุด พร้อมมอบเงินสดส่วนหนึ่งช่วยเหลือบ้านที่ถูกน้ำแม่น้ำป่าสักเซาะจนตลิ่งพังและดึงบ้านพังไปทั้งหลังในเขตจังหวัดสระบุรี ณ วัดสารภี ต.บางโขมด  อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี  ณ สำนักงานเทศบาลตำบลทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี  โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย

นอกจากนี้ ในส่วนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย บ้านหัวเกาะ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น ทางพล.ต.ท.สมพงษ์ และตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้ลงพื้นที่โดยสารเรือ นำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนถึงหน้าบ้านด้วย  

คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องประสบกับอุทกภัย อีกทั้ง ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกด้วย จึงนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย จังหวัดสระบุรี และ จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบ และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับประชาชน ให้สามารถต่อสู้กับวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน  

‘ตำรวจ’ เร่งประสาน ‘ดาราไต้หวัน’ ขอข้อมูลเพิ่ม หลังอ้างถูกตำรวจ ‘ค้นตัว - รีดไถ’ ขณะเที่ยวในไทย

(26 ม.ค. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย กรณีดารานักแสดงชาวไต้หวัน 安于晴 (อันหยูชิง) หรือ Charlene An อ้างว่า ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า 20,000 ถึงยอมปล่อยตัว ว่า เบื้องต้นทราบตัวนักแสดงสาวคนดังกล่าว และมีข้อมูลว่าเดินทางเข้าประเทศไทยในวันที่ 29 ธันวาคม 2565 เดินทางออกในวันที่ 5 มกราคม 2566 จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการเช็กอินห้องพักโรงแรมย่านทองหล่อ ขณะโดยสารด้วยรถตู้เอนกประสงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานให้คนขับเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และได้ประสานที่พักตรวจสอบว่านักแสดงสาวเข้าพักที่โรงแรมจริงหรือไม่ 

รวมทั้งประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร และสน. ทองหล่อ ซึ่งมีการตั้งด่านทั้งความมั่นคงและตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีการตั้งด่านในช่วงเวลาที่นักแสดงสาวดังกล่าวอยู่ในประเทศไทยในพื้นที่ใดบ้าง โดยเน้นไปจุดที่มีคนต่างชาติพักอาศัย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ ทองหล่อ ห้วยขวาง ลุมพินี 

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการติดต่อไปยังนักแสดงคนดังกล่าวแล้วโดยช่องทางผ่าน Instagram และ Facebook เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ และประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับเช่นกัน 

ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในทุกมิติ เบื้องต้นพบว่าเป็นการเช็กอินหลังเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริงสามารถดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ได้เลย โดยไม่ต้องรอผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ

โฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดตั้งแต่ช่วงปีใหม่ แต่เพิ่งมีประเด็นในช่วงนี้ติดต่อกันเป็นการทำงานทำลายภาพลักษณ์ตำรวจหรือไม่นั้น จะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลที่มีการโพสต์ลงในโซเชียลจะไม่บอกว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ เพราะบางครั้งเมื่อเขากลับไปแล้วก็มีการเช็กอินอีกรอบว่าอยู่ที่นี่ที่นั่น จะต้องตรวจสอบและหากพบว่าใครผิดก็ต้องดำเนินการอาญาและวินัย ส่วนเป็นการดิสเครดิตตำรวจหรือไม่ขอให้เป็นดุลยพินิจของประชาชนและสื่อมวลชนเอง ตำรวจบอกได้อย่างเดียวว่าไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นวันไหนก็จะต้องตรวจสอบ

‘นทท.จีน’ ปลื้ม!! ‘ตร.บางรัก’ ติดตามค้นหาไอโฟน ใช้เวลาเพียง 5 ชม. ส่งคืนถึงมืออย่างปลอดภัย

(25 ก.พ. 66) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สน.บางรัก พ.ต.ท.เกียรติภูมิ ทินาโชติ รอง ผกก.สส.สน.บางรัก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน (Iphone 14 pro max สีม่วง) ที่สามารถติดตามกลับคืนมาได้จากกล้องวงจรปิดโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งมอบคืนให้ MISS SHIYI DENG นักท่องเที่ยวสัญชาติจีน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางมาร้องทุกข์ต่อ พงส.สน.บางรัก ได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างทั่วไป ไม่ทราบทะเบียน และไม่รู้จักคนขับ ในระหว่างทางคนขับ ใส่เสื้อมีฮู้ด ผู้แจ้งซึ่งนั่งซ้อนท้าย ได้เอาโทรศัพท์ IPhone 14 Pro Max สีม่วง ใส่เคสใส ใส่ไว้ในฮู้ดคนขับ และเมื่อมาถึงบริเวณหน้าโรงแรมมณเฑียรสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม. ผู้แจ้งได้ลืมโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไว้ และพยายามเรียกแล้วแต่ไม่ทัน และไม่สามารถติดต่อคนขับได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อให้ตำรวจบางรัก ช่วยติดตามโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว

ภายหลังรับทราบ พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เกียรติภูมิ ทินาโชติ รอง ผกก.สส.สน.บางรัก จัดทีมนำโดย พ.ต.ต.สมถวิล ไสลจักร์ สว.สส. ร.ต.อ.วรพัฒน์ เจริญมาก รอง สว.สส.สน.บางรัก ร.ต.ต.สุระสิทธิ์ คำล้นธนิสร์กุล ร.ต.ต.จิรัฏฐ์ วงษ์วิวงษ์ รอง สว.(สส.) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุและใกล้เคียง พบชื่อผู้ครอบครองทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จึงเดินทางไปพบกับชายคนดังกล่าว

โดยเจ้าตัวยอมรับว่า โทรศัพท์เครื่องดังกล่าวอยู่ที่ตนจริง แต่ทราบเมื่อหลังจากได้กลับมาถึงบ้านพักซึ่งอยู่ในฮู้ดของเสื้อคลุม แต่ไม่รู้จะนำส่งคืนที่ใด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ตามมาพบที่บ้าน ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำส่งคืนให้กับเจ้าของต่อไป

พ.ต.ท.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ภายหลังรับทราบข้อมูลจากเจ้าทุกข์ จึงนำเรียน พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก ท่านรีบสั่งการให้ดำเนินการ ตามแผนป้องกันเหตุ การบริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ที่มีต่อกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เคยละเลย มองข้าม รีบดำเนินการภายในระยะเวลาอันสั้น จนนำทรัพย์สินดังกล่าวส่งคนเจ้าของโดยเร็วภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมง

'รอง โฆษก ตร.' เตือนระวังโจรภัยหน้าแล้ง แนะวิธีป้องกันเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตรถูกโจรกรรม

(25 ก.พ. 66) เวลา 13.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.ท. ธ เทพ ไชยชาญบุตร รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัย เกษตรกรใช้ความระมัดระวังป้องกันเครื่องมือและอุปกรณ์เกษตรถูกโจรกรรม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่จะถูกโจรกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรเป็นที่เดือดร้อน โดย พ.ต.ท. ธ เทพฯ  กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติอาชญากรรมทุกปีที่ผ่านมา เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่มีสภาวะแห้งแล้ง เกษตรกรมีความจำเป็นต้องนำเครื่องมือการเกษตร เช่น เครื่องสูบน้ำ หรือรถไถขนาดเล็กพ่วงเครื่องสูบน้ำไปใช้สูบน้ำเข้าแปลงเกษตร และมักถูกโจรกรรมเป็นที่เสียหายเดือดร้อน

รองโฆษกฯ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความห่วงใยในปัญหาโจรกรรมเครื่องมือเกษตรของพี่น้องเกษตรกร  จึงได้สั่งการให้ตำรวจในกองบัญชาการต่างๆ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการออกตรวจตรา สืบสวนหาข่าวในเชิงระวังป้องกันการโจรกรรมอุปกรณ์การเกษตรต่างๆ เช่น เครื่องสูบน้ำ รถไถนาขนาดเล็ก เครื่องปั่นไฟ เครื่องฉีดพ่นยา ท่อน้ำ และเครื่องมือเกษตรอื่นๆ รวมถึงรถจักรยานยนต์ ตลอดจนกวดขันร้านรับซื้อของเก่ามิให้รับของโจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เกษตรกรรมที่ห่างไกล หากพบเห็นให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องเกษตรกรได้ใช้ความระมัดระวังและนำกลับบ้านเรือนในยามวิกาล  ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องนำอุปกรณ์การเกษตรดังกล่าวไปไว้ในแปลงที่เปลี่ยวหรือในเวลากลางคืน ควรจัดเวรยามเฝ้า หรือตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า  ประชาชนควรมีหมายเลขโทรศัพท์ของสถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือเบอร์แจ้งความฉุกเฉิน หากต้องการความช่วยเหลือหรือเหตุด่วนเหตุร้าย สามารถแจ้งมายัง Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

‘ตร.’ เปิดปฏิบัติการ ‘อินทรชิตแผลงศร’ รวบกลุ่มบิ๊กค้ายา พร้อมทรัพย์สินกว่าร้อยล้าน

(28 ก.พ. 66) ตำรวจเปิดปฏิบัติการ ‘อินทรชิตแผลงศร’ ขยายผลปิดล้อมจับกุม 3 เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 20 จุด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ป.ป.ส. และ นายนิโคลัส เจ.วิลส์ หัวหน้าสำนักงาน DEA กรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุม 3 เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เมื่อปี 2565 ได้แก่

เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 จับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 7,000,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด พร้อมยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลออกหมายจับและจับกุมกลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 3 ราย ยึดทรัพย์สินอีก 35 ล้านบาท

เบื้องต้นสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย 4 คน คือ กลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 2 ราย เข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จุด และออกหมายจับกลุ่มรับยาเสพติด ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง 2 ราย เข้าทำการตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคกลาง 2 จุด

เครือข่ายรถบรรทุกโลจิสติกส์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 พนักงานของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ 1 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จ.ลำปาง หลังนำยาเสพติดซุกซ่อนปะปนไปกับพัสดุอื่น ๆ ก่อนจะลำเลียงไปส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนใน และขยายผลจับกุมผู้รับยาเสพติดปลายทางได้ทันที 1 ราย ในปฏิบัติการครั้งนี้ขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย 3 ราย คือ ผู้สั่งการ 1 ราย และผู้ที่นำยาเสพติดมาส่งให้ผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 2 ราย เข้าทำการตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 7 จุด จังหวัดลำปาง ต่อเนื่อง จังหวัดอยุธยา

เตือนภัยสายบุญ!!  ‘ตร.’ หวั่น มิจฉาชีพใช้วันมาฆบูชา ลวงติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน เตือน ปชช. ระวังถูกหลอกทำบุญ ‘เวียนเทียนออนไลน์’ 

(5 มี.ค. 66) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพใช้โอกาส ‘วันมาฆบูชา’ หลอกลวงออนไลน์

สถิติคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนร้องเรียนผ่านแจ้งความออนไลน์ เว็บไซต์ thaipoliceonline.com ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 21,760 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 1,771 ล้านบาท โดย 5 ลำดับสูงสุด ได้แก่

1.) หลอกลวงซื้อขายสินค้า
2.) หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม
3.) หลอกลวงทางโทรศัพท์เป็นขบวนการ (Call Center)
4.) หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน
5.) หลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มโจรออนไลน์มักจะอาศัยจังหวะวันสำคัญทางศาสนา และเทศกาลต่าง ๆ ฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชน ในช่วงวันมาฆบูชานี้ จึงขอแจ้งเตือนถึงรูปแบบอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่โจรออนไลน์อาจใช้ในการหลอกลวงประชาชน ดังนี้

1.) เช่าวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลังออนไลน์ หลอกให้โอนเงินก่อน แต่ไม่จัดส่งสินค้า ส่งสินค้าปลอม ไม่ตรงปก
2.) เวียนเทียนออนไลน์ หลอกติดตั้งแอปพลิเคชั่น รีโมท เพื่อทำการดูดเงิน
3.) ทำบุญออนไลน์ หลอกให้โอนเงินทำบุญ ด้วยการให้หมายเลขบัญชีปลอม 
4.) ใบอนุโมทนาบัตรออนไลน์ ลดหย่อนภาษี หลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว 
5.) สะเดาะเคราะห์ แก้กรรม ดูดวงออนไลน์ หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด รูปถ่าย

จี๊ดด...ทุกคำ!! เพจ ‘สภ.สงขลา’ สุดแนว!! ยอดฟอลพุ่ง 3 แสน หลังโพสต์แคปชันเด็ด ‘โดนใจ-เข้าถึง’ ปชช.

เพจตำรวจภูธรเมืองสงขลา ฮอตหนัก มีผู้ติดตามแล้ว 3.3 แสนคน โดยข้อความที่โพสต์นั้น แม้จะเป็นการแจ้งเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ก็แฝงด้วยการใช้คำที่ขำขัน รวมถึงใช้ภาษาถิ่นใต้ ทำให้การเตือนเรื่องการบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องที่สร้างรอยยิ้มด้วย

(6 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ‘ตำรวจภูธรเมืองสงขลา’ กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีผู้ติดตามแล้ว 3.3 แสนคน หลังแอดมินเพจ ซึ่งเป็นตำรวจ มีการโพสต์ข้อความที่เป็นการตักเตือนให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย และแจ้งรายงานการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการแจ้งกิจกรรมต่าง ๆ นั้น มีข้อความที่เป็นคำกลอนบ้าง แฝงไปด้วยความขำขัน รอยยิ้มบ้าง ทำให้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างเร็ว
 

‘โรม’ ป้อง ‘พ.ต.ท.มานะพงษ์’ มือปราบแก๊งค้ายาทุน มิน ลัต วอน ขรก.น้ำดี ร่วมช่วยกันเอาสิ่งปฏิกูลออกจากระบบราชการ

(16 มี.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นแก่ผู้สื่อข่าว กรณีเอกสาร แถลงการณ์จากสมาคมตำรวจ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสมาคมพนักงานสอบสวน ปรากฏลายเซ็นประธานสมาคมทั้ง 3 สมาคม ลงนาม พล.ต.อ.วินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ, พล.ต.อ. ศักดา เตชะเกรียงไกร นายกสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และนายไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน ออกจดหมายแถลงให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติชอบ และยืนหยัดตามหลักการของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

นายรังสิมันต์กล่าวว่า เอกสารฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นเอกสารที่ยืนยันว่า พ.ต.ท. มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ ในฐานะสารวัตรที่ทำคดีทุน มิน ลัต และ ส.ว.อุปกิต เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการกระทำที่พิสูจน์ว่าตำรวจรายนี้ เป็นตำรวจน้ำดี ตั้งใจทำคดี 

ทั้งนี้ ในเอกสารดังกล่าวปรากฏ 6 ประเด็น ประเด็นแรกยืนยันว่า การร้องขอให้ศาลออกหมายจับเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ประเด็นที่สอง ปัญหาการออกหมายลอยที่มีข้อกล่าวอ้างกันอยู่ ไม่มีทางเกิดขึ้น ประเด็นที่สาม คือการออกหมายจับ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสนอให้ผู้บังคับบัญชา ระดับผู้กำกับ ก่อนการพิจารณาขอหมายจับแต่อย่างใด ประเด็นที่สี่ ลำดับกระบวนการซึ่งยืนยันว่ามีการขอหมายจับก่อนและแจ้งต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นสิ่งที่ทำได้ ส่วนประเด็นที่ห้าในเรื่องของคำสั่ง ปร. 419/2556 เป็นงานคำสั่งภายในที่ใช้ภายใน สตง. ใช้กับพนักงานสอบสวนเท่านั้นไม่ได้ใช้กับหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และประเด็นสุดท้าย ในอดีตมีการเพิกถอนหมายจับอดีตอธิบดี DSI แต่ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าเป็นอำนาจเฉพาะของผู้พิพากษา เมื่อสั่งคำร้องโดยชอบแล้วมิเพิกถอนได้ และสอดคล้องกับกรณีศาลพิจารณาออกหมายจับ ส.ว.คนดังกล่าวแล้ว การสั่งเลิกถอนในภายหลังจะต้องมีเหตุตามกฏหมายบังคับ หรือระเบียบเป็นหลักในการพิจารณาหาได้อ้างเพียงเหตุหลงผิดไม่

‘ผู้ช่วย ผบ.ตร.’ ตั้ง ‘จอนนี่ มือปราบอินดี้’ เป็นอินฟลูเอนเซอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

‘จอนนี่ มือปราบอินดี้’ เผย ผู้ช่วยผู้บัญชาตั้งให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับ “ไม่ต้องลาออกนะ ทำต่อไป”

วันนี้ (19 มี.ค. 66) เฟซบุ๊ก ‘ตะลึงกรุง จอนนี่มือปราบ’ ของ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ ‘จอนนี่ มือปราบอินดี้’ ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง โพสต์ข้อความระบุว่า…

“วันนี้ ผมได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากท่านผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโท ไกรบุญ ทรวดทรง ให้ผมเป็น ‘อินฟลูเอนเซอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ คือหยังน้อบาดนิ ??

ตำรวจภูธรภาค 5 จัดงาน 'มวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย' ประจำปี 2566

ตำรวจภูธรภาค 5 กำหนดจัดงานตามโครงการ 'มวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย' ประจำปี 2566 ในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. ณ ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธาน ร่วมกับ พล.ต.ต.นักรบ หลิ่มวิรัตน์ ผบก.ศฝร.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว บัญชาเมฆ)  ได้ดำเนินการตาม 'โครงการมวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย' ของตำรวจภูธรภาค 5 ประจำปี 2566

โดยโครงการนี้ได้ใช้กำลังนักเรียนนายสิบตำรวจจำนวน 700 นาย เป็นผู้ฝึกซ้อมผ่านการถ่ายทอดจากครูมวยจากค่ายมวยบัญชาเมฆ โดยการควบคุมของ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว บัญชาเมฆ) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าเสือ 'พระบิดาแห่งมวยไทย' อันเป็นศิลปะการป้องกันตัวและการต่อสู้ประจำชาติที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และเป็น soft power ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล  เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของ 'แม่ไม้มวยไทย' อันเป็นมรดกทางภูมิปัญญา สืบสานมวยไทย เป็นมรดกไทย มรดกโลก ให้แพร่หลาย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top