Monday, 20 May 2024
ตำรวจภูธรภาค7

ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลระดมจับกุมความผิดอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนที่ผิดกฎหมาย และผลการจับกุมคดียาเสพรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 แสนเม็ด ไอซ์ 40 กก.และของกลางจำนวนมาก

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 7  อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยรองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลถลงผลระดมจับกุมความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน การจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย (On Ground) และจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ผ่านระบบออนไลน์และโซเซียลมีเดียโดยผิดกฎหมาย (Online) ระหว่างวันที่ 1 - 5 ก.พ.66 ที่ผ่านมา โดยแยกความผิด 

1.) ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน จำนวน 582 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 578 คน 
2.) ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ( On Ground ) จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 2 คน อาวุธปืนมีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 นัด 
3.) ความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายอาวุธปืน วัตถุระเบิด เครื่องกระสุนปืน ( Online) จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 4 คน และผลการจับกุมคดียาเสพรายสำคัญในพื้นที่ภาค 7 ผู้ต้องหาจำนวน 7 คน ช.4 ญ.3 พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 264 มัด รวมประมาณ 528,000 เม็ด ไอซ์ จำนวน 40 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 40 กิโลกรัม รถยนต์จำนวน 7 คัน อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก และอื่นๆ อีกหลายรายการ)

สำหรับผลการจับกุมคดียาเสพติด ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม มีกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด(ยาบ้า) จากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ทางด้าน อ.สังขละบุรี และสืบสวนทราบว่า หนึ่งในขบวนการกลุ่มเครือข่ายนายโก๊ะ มีนายวิเชียรหรือตั้มฯ และ น.ส.หฤทัยชลหรืออ้อย ฯ เป็นผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ส่วนวันเวลาก่อนการจับกุมประมาณ 1 เดือน ทราบว่า นายโก๊ะ สั่งการให้ น.ส.หฤทัยชลฯ กับพวก ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน 6กท-4926 กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำยาเสพติดซุกซ่อนภายในรถยนต์ โดยมีการทำช่องลับซุกซ่อนยาเสพติด ซึ่งทำการจับกุมเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา ณ ถนนแสงชูโต ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง อู่ทำสีรถยนต์ ซอยตลาดเทศบาลเมืองสามพราน อ.สามพราน และต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 44/128 หมู่ที่ 8 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม

ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดอาคารที่ทำการ ภ.7 แห่งใหม่ พร้อมอำลาราชการ ตรวจเยี่ยม ให้โอวาท มอบหลวงพ่อโสธรรุ่น “ตร.108 ปี” ให้ตำรวจภูธรภาค 7 ชมเชยการคลี่คลายคดีสำคัญห้วงที่ผ่านมา ฝากเร่งรัดจับกุมคดีคนร้ายยิงสารวัตรทางหลวง พร้อมย้ำในหน้าที่ เป็นตำรวจมืออาชีพ

วันนี้ (7 ก.ย. 66) ณ ตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยม อำลาหน่วย พร้อมเป็นประธานเปิดอาคารที่ทำการ ภ.7 แห่งใหม่  โดยมี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 , รอง ผบช. , ผบก.ในสังกัด ภ.7 ข้าราชการตำรวจ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม 

ผบ.ตร.เดินทางมาถึงที่ทำการ ภ.7 แห่งใหม่ จุดธูปบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ผบช.ภ.7 กล่าวรายงานที่มาของอาคารที่ทำการแห่งใหม่ จากนั้น ผบ.ตร.กดปุ่มเปิดผ้าแพร ป้ายอาคารที่ทำการแห่งใหม่ ต่อด้วยพิธีการทางสงฆ์ เป็นอันเสร็จพิธี  ผบ.ตร.พร้อมแขกผู้เกียรติ เข้าเยี่ยมอาคารที่ทำการแห่งใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้การทำงานของตำรวจ ภ.7 มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เดินทางไปยังห้องประชุม มอบนโยบายให้ตำรวจ ภ.7 ผบ.ตร. ได้กล่าวขอบคุณและชมเชยการปฏิบัติงานของตำรวจ ภ.7 ในห้วงที่ผ่านมา มีการจับกุมคดีสำคัญได้ต่อเนื่อง ได้ร่วมกันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี มีประสิทธิภาพ ขอฝากคดีที่เกิดขึ้นล่าสุด คนร้ายอุกอาจเหิมเกริมยิงสารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิต โดยให้ประสานการปฏิบัติกับ บช.ก.เร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ สังคมรับไม่ได้ พร้อมปูพรมเปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างอิทธิพลในพื้นที่ คดีอาวุธปืน ยาเสพติด ความผิดอื่นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เรียกความศรัทธาของประชาชน 

ผบ.ตร.ยังฝากข้อคิดการทำงานให้ตำรวจก่อนเกษียณอายุราชการ ใจความว่า หน้าที่สำคัญของตำรวจคือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พิทักษ์สันติราษฎร์ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ สิ่งสำคัญที่สุดที่ตำรวจพึงมีคือทัศนคติการทำงานเชิงบวก ที่จะมุ่งมั่นปฏิบัติงานโดยมีประชาชนเป็นที่ตั้ง มีความเสียสละ สามัคคี อุทิศให้ส่วนรวม เมื่อเรามีทัศนคติที่ดีแล้ว จะเป็นแรงผลักในการทำงาน ไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่คิดว่างานในหน้าที่คือภาระ ไม่บ่น ไม่ย่อท้อ แต่จะเห็นว่าอาชีพตำรวจเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ช่วยเหลือประชาชน เปรียบเสมือนการทำบุญ ทำความดีในทุกวัน เพราะตำรวจมีหน้าที่ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรม ให้บริการช่วยเหลือประชาชน

ตำรวจต้องมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก โดยศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ หมั่นทบทวนยุทธวิธี วางแผนการทำงาน ทบทวน ประเมินการปฏิบัติ  แสวงหาความร่วมมือ สื่อสารทำความเข้าใจ กับพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ

มุ่งแก้ไขปัญยาเสพติดทุกมิติ โดยเฉพาะการสร้างชุมชนยั่งยืน ทำชุมชนเข้มแข็ง ให้หัวหน้าสถานีลงพื้นที่ จะเห็นปัญหา นำมาบูรณาการทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อร่วมแก้ปัญหา มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือสำคัญในงานอาชญากรรม เช่น กล้องวงจรปิด ต้องแสวงหาความร่วมมือกับภาคประชาชนในพื้นที่ ส่วนคดีออนไลน์ ฝากเรื่องการแจ้งความออนไลน์ มุ่งปราบปรามจับกุมบัญชีม้าซิมม้า เมื่อจับกุมให้มีการสืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์กลุ่มขบวนการที่ทำผิด โดยหลังจากที่มีการออก พรก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มาเป็นเครื่องใช้เครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ คดีก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ขอให้ตำรวจคงความเข้มในการดำเนินการ ทั้งมิติการปราบปราม การป้องกัน สร้างครูไซเบอร์ แสวงหาความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาคดีออนไลน์ให้ลงลงต่อเนื่อง 

หลังมอบนโยบาย ผบ.ตร.ได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร รุ่น “ตร.108 ปี” ที่ ตร.จัดสร้างขึ้น ให้ ภ.7 ด้วย พร้อมมอบเหรียญอาร์ม พระพุทธโสธร ให้ข้าราชการตำรวจ ภ.7ทุกนาย เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากที่มอบให้ตำรวจ ภ.6 เมื่อวาน และจะได้ส่งมอบให้ตำรวจทั่วประเทศต่อไปอีกส่วนหนึ่งด้วย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top