Monday, 19 May 2025
ตระกูลอภัยวงศ์

ผู้อาวุโสสูงสุด 'ตระกูลอภัยวงศ์' ชี้ชัด!! 'พิธา-ก้าวไกล' ไม่ใช่ญาติ-คนในตระกูล

(7 ก.พ. 67) จากกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกขุดคุ้ยที่เคยโพสต์รูปตึกจวนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในจังหวัดพระตะบอง กัมพูชา ว่า เป็นบ้านของคุณยาย เคยอยู่อาศัยเมื่อร้อยปีก่อน ทำคนสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘ตระกูลอภัยวงศ์’ หรือไม่อย่างไร จนกระทั่งนายพิธา ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไปจากอินสตาแกรมเรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เกาะติดเรื่องดังกล่าว โดยเผยแพร่ภาพที่ระบุว่าเป็นแชทของ นายคฑา อภัยวงศ์ หรือคุณต๊ะ ปัจจุบันอายุ 88 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของนายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความผ่านกลุ่มไลน์ประจำตระกูลที่มีสมาชิก 97 คน โดย ผศ.ดร.อานนท์ โพสต์ข้อความระบุว่า…

ผู้อาวุโสสูงสุดในตระกูลอภัยวงศ์ แหก ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ไม่ใช่ญาติ

เข้าใจว่า คุณคฑา อภัยวงศ์ บุตรชายของคุณควง อภัยวงศ์ อายุ 88 ปี น่าจะเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดในตระกูลอภัยวงศ์ในเวลานี้นะครับ

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เป็นบิดาของนายควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และนายควง อภัยวงศ์ เป็นบิดาของคุณคฑา อภัยวงศ์

ไลน์ของคุณคฑา อภัยวงศ์ที่ส่งถึงลูกหลานในห้องไลน์ของตระกูลอภัยวงศ์ กรณีของนาย Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อ้างว่าคุณยายเคยอาศัยในจวนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่เมืองพระตะบอง มีดังนี้ครับ

“…เรื่องคุณพิธา ถ้ามีใครถาม ตอบได้เลยว่า

1. ไม่ใช่บุคคลในตระกูลอภัยวงศ์
2. การแอบอ้างว่าเคยอยู่ในตึกในภาพ เป็นการโอ้อวดสร้างภาพฐานะ ตามปกตินิสัยเขมร เพราะแม้แต่เคยอยู่ในบริเวณจวนเจ้าเมืองก็ยังไม่มี
3. ตึกที่พระตะบอง เป็นที่ทำการของฝรั่งเศส มากว่า 120 ปี คุณยายเกิดแล้วหรือยัง…”

ผมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะได้ข้อยุติแล้วในระดับหนึ่งนะครับ ถ้าผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลอภัยวงศ์ท่านออกมาสั่งลูกหลานเองเช่นนี้ครับ

โปรดช่วยกันแชร์ต่อไปให้ถึงมวลชนคอนด้อมส้มสามกีบด้วยนะครับ

อีกทั้ง ผศ.ดร.อานนท์ ยังเผยแพร่โพสต์ของ ‘ตรีดาว อภัยวงศ์’ ที่ระบุว่า...

เรื่องคุณพิธา กับคำกล่าวที่ว่า #บ้านเก่าคุณยาย “My grandmother used to live in this house almost 1 century ago” และถ่ายภาพตึกที่เป็นของ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ต้นตระกูล ‘อภัยวงศ์’ ทำเอา 2 วันนี้ ตรีดาวและญาติๆ ชุลมุนกันมากว่าจะตอบคำถามที่มีคนมาถามว่า “เป็นญาติกันหรอ อย่างไร สายไหน”

เลยขออธิบายแบบนี้นะคะ

1. คุณยายคุณพิธา ชื่ออะไร นามสกุลเดิมอะไร ถ้าทราบก็พอจะเชื่อมโยงได้ เนื่องจากตอนนี้หากัน (ยัง) ไม่เจอ ไม่มีใครรู้จักคุณพิธา
2. คุณยายเคยอาศัยที่บ้านหลังนี้เมื่อไหร่ ด้วยสถานะอะไร
3. เนื่องจากตึกนี้ถูกรัฐบาลกัมพูชา ในปกครองของฝรั่งเศสยึดไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนไทยต้องยอมเสียมณฑลบูรพา อันได้แก่ พระตะบอง เสียมราช ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศสในสงคราม รศ 112 (พ.ศ. 2436)
4. เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) อพยพครอบครัวกลับมาอาศัยที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2450 โดยยังไม่มีโอกาสได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น ท่านยอมกลับมาเพราะไม่ต้องการเป็นข้ารับใช้ฝรั่งเศส คนในตระกูลอภัยวงศ์ ได้รับการสั่งสอน อบรม ให้จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์มาทุกชั่วอายุคน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณและวางพระราชหฤทัยส่งให้บรรพบุรุษของตระกูลไปปกครองเมืองพระตะบองจนถึงสมัยที่ไทยต้องเสียดินแดนส่วนนี้ไป

5. ช่วงสงครามอินโดจีน (ระหว่างปี 2484-2489) ไทยได้ดินแดนส่วนนี้ คืนมานายควง อภัยวงศ์ บุตรชายของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย นำธงชาติไทยกลับไปชักขึ้นเหนือดินแดนแห่งนี้ด้วยตัวเอง จากนั่นรัฐบาลไทยส่งนายเชียด อภัยวงศ์ หลานของเจ้าพระยาฯ ไปเป็นผู้แทน ซึ่งระหว่างนั้น นายเชียด และครอบครัว ได้กลับไปใช้บ้านหลังนั้นเป็นที่ทำการอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นก็ทรุดโทรมมาก (ภายหลังได้รับการบูรณะจากรัฐบาลกัมพูชา และเปิดใช้สำหรับต้อนรับแขกเมืองเท่านั้น)
6. สมัยสงครามอินโดจีน เรามีผู้แทนราษฎร จังหวัดพระตะบอง ชื่อนายชวลิต อภัยวงศ์ และนายประยูร อภัยวงศ์ เป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดพิบูลสงคราม (เสียมราชในปัจจุบัน) ทั้งสองจังหวัด อยู่ในประเทศไทย
7. ถ้าคุณยายคุณพิธา อาศัยในบ้านหลังนี้ช่วง 100 ปีที่แล้ว น่าจะรู้จักกับญาติๆ อภัยวงศ์ ที่ไปเป็นผู้แทน และทำงานให้บ้านเมืองในเวลานั้น
8. แม้คนในตระกูลจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น ก็ไม่ใช่ในฐานะเจ้าของ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า คุณยายของคุณพิธา จะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้
9. หากคุณยายของคุณพิธา เคยอยู่ที่นี่ และเรียกว่าเป็นบ้านของคุณยาย เราก็มีเหตุให้สงสัยว่า คุณยายเป็นใครกัน หรือพวกเราจะไม่รู้เอง คงต้องรอให้คุณพิธามาอธิบายเชื่อมโยงให้คนในตระกูลฟังซะแล้ว

(หากมีอะไรคลาดเคลื่อนไปก็คงเป็นความเขลาหรือไม่รู้ของอีชั้นเองค่ะ)

'ทายาทอภัยวงศ์' เผย 'แม่พิธา' โทรมาเคลียร์ สรุปลูกชายอาจเข้าใจผิดเรื่อง 'บ้านคุณยาย'

(9 ก.พ.67) จากกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ชี้แจงกรณีที่เคยโพสต์ภาพบ้าน เจ้าพระยาอภัยบูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) เมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา พร้อมข้อความว่า เป็นบ้านของคุณยายที่เคยอาศัยอยู่เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กลับมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450

ล่าสุด อาจารย์ตรีดาว อภัยวงศ์ ทายาทตระกูลอภัยวงศ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Threedow Aphaiwongs ระบุว่า 

ขออนุญาตเรียนแจ้งข้อมูล กรณีที่เกี่ยวข้องกับ ‘บ้านเจ้าพระยาอภัยภูเบศร’ ที่พระตะบอง และโพสต์ของคุณพิธาที่เกี่ยวข้องกับ สกุล อภัยวงศ์ นะคะ

สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นประเด็นและข้อสงสัยว่าคุณยายของ คุณพิธา เป็นใคร เหตุใดจึงเคยอาศัยอยู่ในบ้านของ เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ทั้งๆ ที่บ้านหลังนั้น ตกเป็นของรัฐบาลกัมพูชาไปตั้งแต่ ปี 2450 แล้ว วันนี้ขออนุญาตสื่อสารข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ประเด็นส่วนตัวไม่กระทบกับคนส่วนมาก ดังนี้ นะคะ

คุณแม่ของคุณพิธา ท่านได้โทรศัพท์มาปรับความเข้าใจและพูดคุยกับผู้ใหญ่ในสกุล อภัยวงศ์ แล้วเมื่อวานนี้

ทางครอบครัวอภัยวงศ์เข้าใจได้ว่า การที่คุณพิธาฟังคำบอกของญาติที่เล่าต่อกันมา อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ คุณอนุศรี ซึ่งเป็นคุณยายของคุณพิธาเองก็เคยเป็นสะใภ้ของสกุล อภัยวงศ์ ในช่วงหนึ่ง

เราขอเรียนว่าเราเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของคุณพิธา ที่ไปเยือนพระตะบองและจะระลึกถึงคุณยายและสถานที่ ที่เคยได้ทราบมาในสมัยยังเด็ก ซึ่งสถานที่นั้นมีส่วนเชื่อมโยงกับสกุล อภัยวงศ์ ทางสายตระกูลเราขอขอบคุณที่ระลึกถึงเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นสายเลือดเดียวกัน แต่เราก็เป็นคนร่วมชาติเดียว#กัน

ขอบคุณค่ะ

ทั้งนี้ มีนรายงานจากท็อปนิวส์ ระบุว่า ยายของนายพิธามีชื่อว่า ‘อนุศรี อนุรัฐนฤผดุง’ เคยสมรสกับ นายเกษม อภัยวงศ์ จริง ซึ่งนายเกษมเป็นบุตรชายคนโตของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) กับหม่อมละม้าย 1 ในภรรยา 24 คนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน แต่ภายหลัง อนุศรี และนายเกษม ได้หย่าร้างกันไป ต่างฝ่ายต่างไปมีครอบครัวใหม่

ทั้งนี้ นายเกษม ย้ายกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เมื่อครั้งตามเจ้าพระยาอภัยภูเบศรกลับมาที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2450 และใช้ชีวิตในเมืองไทย เสียชีวิตเมื่ออายุ 63 ปี หรือ เมื่อ 49 ปีที่แล้ว และพบว่าอนุศรี อนุรัฐนฤผดุง ได้สมรสใหม่และมีบุตรสาว ซึ่งเป็นมารดาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top