Tuesday, 22 April 2025
ซิงซิง

ดาราจีน พาเหรดแฉขบวนการค้ามนุษย์จับตัวเรียกค่าไถ่ ชี้ กรณี ‘ซิงซิง’ ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้ามีเหยื่อแล้ว 3 คน

(7 ม.ค. 68) หลังจากมีการเผยแพร่ข่าวของ “ซิงซิง” นักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-พม่า ซึ่งมีพฤติการณ์คล้ายกับขบวนการค้ามนุษย์ ก็มีนักแสดงหลายคนออกมาเปิดเผยว่าตนเองก็ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน!

โดยนักแสดงที่ชื่อ "เติ้งโหย่ว"ได้โพสต์ว่า เขาก็ถูกชักชวนจากบุคคลที่ใช้ชื่อวีแชตว่า "GMMGrammy~十六" ติดต่อให้มาทำงานที่ไทยเช่นเดียวกันกับซิงซิง แต่เขารู้สึกแปลกๆ และได้เตือนนักแสดงคนอื่นๆ ให้ระวังคนคนนี้เอาไว้ด้วย

ด้านนักแสดงที่ชื่อ "ฟ่านหู่" ก็ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนแก๊งหลอกลวงระดับมืออาชีพ หลอกมาไทยพร้อมกับนักแสดงอีกหลายคน ทว่าโชคดีที่เขาพบพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ และทำการส่งข้อความไปหาผู้กำกับชาวไทยที่ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง ก่อนที่จะได้รู้ความจริงว่าตนเองกำลังโดนหลอก และวางแผนหลบหนีมาได้สำเร็จ

ขณะที่นักแสดงอีกคน ที่ชื่อ "สี่ว์ต้าจิ่ว" ได้โพสต์ว่า เขาถูกหลอกเหมือนกัน และได้นั่งเครื่องบินมาที่ไทยด้วย แต่เขาเอาตัวรอดมาได้และเดินทางกลับจีนแล้ว โดยซิงซิงน่าจะอยู่ในล็อตที่ 3 ส่วนเขาเป็นล็อตที่ 2 หรือกล่าวคือ ขณะนี้มีคนอย่างน้อย 3 กลุ่มที่ถูกหลอกลวง โดยมีเหยื่อมากกว่า 1 ราย

รายงานระบุว่า นี่เป็นวิธีการตกเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีการแทรกซึมเข้าไปตามกลุ่มเพื่อน หรือกลุ่มหางานในวีแชต ชักจูงและหว่านล้อมให้ผู้คนหลงเชื่อ พร้อมกับเสนอค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูง เพื่อดึงดูดความสนใจ ซึ่งคล้ายกับกรณีของ "สี่ว์ป๋อชุน" ในปี 2023 ที่เขาเห็นประกาศรับสมัครนักแสดงในกลุ่มพาร์ทไทม์ โดยบอกว่าเป็นโปรเจกต์ฟอร์มยักษ์ ต้องเก็บเป็นความลับ

หลังจากพูดคุยและตกลงกันเรียบร้อย สี่ว์ป๋อชุนก็เดินทางไปยังแคว้นปกครองตนเองสิบสองปันนา กลุ่มชาติพันธุ์ไท มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) จากนั้นก็ถูกพาตัวไปยังพม่า และถูกกักตัวไว้ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่จากครอบครัว ถึง 620,000 หยวน (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) และถึงแม้จะได้เงินไปแล้วแต่เขาก็ต้องรออีก 100 กว่าวันถึงจะถูกปล่อยตัวกลับจีน

GMM ยันไม่เกี่ยวข้องกรณี 'ซิงซิง' หลังถูกแอบอ้างพัวพันดาราจีนหายตัว

(7 ม.ค. 68) จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหลอกลวง ซิงซิง นักแสดงจีน แจงกระบวนการคัดเลือกศิลปินโปร่งใส ขอ ปชช.อย่าเชื่อข่าวปลอม

จากกรณีหญิงรายหนึ่งระบุใน weibo ของจีน ว่าแฟนหนุ่มของเธอคือ ซิงซิง หรือ หวังซิง นักแสดงจีน หายตัวไปที่ชายแดนไทย-เมียนมา เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากเดินทางมาเพื่อถ่ายทำงานในประเทศไทย โดยมีการกล่าวอ้างถึงค่ายศิลปินยักษ์ใหญ่

ทางด้านบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GMM Grammy ออกแถลงการณ์ผ่าน Weibo ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีนักแสดงชาวจีนหายตัวที่แม่สอด

" บริษัทขอย้ำว่ากระบวนการคัดเลือกศิลปินและนักแสดงของเรามีความโปร่งใส และปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เราจะไม่ติดต่อบุคคลใดๆ ผ่านช่องทาง ส่วนตัว และจะไม่ขอให้ผู้สมัครรายใดจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ

บริษัทขอแนะนำให้ประชาชนไม่เชื่อในข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และตรวจสอบข้อมูลผ่านช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการของบริษัทเท่านั้น"

นทท. จีน แห่ยกเลิกทริปตรุษจีน เสียหายกว่า 5 พันลบ. หลังเกิดกระแส 'ไทยไม่ปลอดภัย' หวั่นเกิดผลกระทบระยะยาว

(10 ม.ค.68) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ข่าวการหายตัวไปของ 'ซิงซิง' นักแสดงหนุ่มชาวจีน บริเวณชายแดนไทย-พม่า กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์จีน หลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงภัยจากขบวนการค้ามนุษย์

แม้ว่าหวังซิง นักแสดงชาวจีนที่ถูกช่วยเหลือจากการลักพาตัวในไทย จะกล่าวว่า “ไทยยังคงปลอดภัย” แต่เหตุการณ์นี้กลับสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวไทย

สื่อจีนหลายแห่งรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากได้ยกเลิกแผนการเดินทางมายังไทย โดยมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความไม่มั่นใจในมาตรการป้องกันของไทย ส่งผลให้ยอดจองโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งรายงานว่ายอดการยกเลิกแพ็กเกจท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 30% ภายในสัปดาห์เดียว รวมถึงสายการบินที่ให้บริการเส้นทางระหว่างไทยและจีนอาจต้องปรับลดเที่ยวบินลง

จากการประเมินเบื้องต้นของสื่อจีน เหตุการณ์นี้อาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีนมากถึง 5,000 ล้านบาท และยังอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนในระยะยาว ซึ่งเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้หลักให้การท่องเที่ยวไทย

ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของไทยไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์นี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับผลกระทบจากสื่อและภาพยนตร์จีน เช่น No More Bets และ Lost in the Stars ซึ่งเล่าถึงการลักพาตัวและกลโกงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพยนตร์เหล่านี้ทำให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้านถูกมองในแง่ลบในสายตาชาวจีน และกรณีหวังซิงยิ่งตอกย้ำความกังวลที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องสมมติ

จีนเริ่มแคนเซิลทัวร์มาไทยช่วงตรุษจีน หวั่นถูกจีนเทาลักพาตัวเหมือนกรณีซิงซิง

(10 ม.ค.68) เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อฮ่องกงรายงานว่า นักท่องเที่ยวจีนหลายคนที่วางแผนจะเดินทางไปประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ได้แสดงความกังวลผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมตั้งคำถามตรงไปตรงมาหลังเกิดเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนักแสดงจีน 'หวังซิง' (Wang Xing) ซึ่งหายตัวไปหลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทยจนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่หลายฝ่ายจับตาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

หวังซิง ก่อนหน้านี้เขาเป็นนักแสดงที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก จนกระทั่งเหตุการณ์หายตัวไปของเขากลายเป็นข่าวดัง ชื่อของเขาได้ปรากฏในการค้นหาอันดับต้น ๆ บนสื่อโซเชียลมีเดียของจีน

แม้การหายตัวไปของเขา ทางด้านเจ้าหน้าที่ไทยได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วท่ามกลางการจับตามองจากสาธารณะ โดยสามารถช่วยเหลือหวังซิงออกมาจากกลุ่มขบวนการสแกมเมอร์ ในเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทยกับเมียนมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาถูกมองว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์และถูกพบในสภาพอิดโรย พร้อมถูกโกนหัวตามภาพที่ถูกเผยแพร่

เหตุการณ์นี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กำลังจะเดินทางมาประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังใกล้เข้ามาเป็นอย่างมาก

บนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu หรือ 'Little Red Book' หรือที่รู้จักกันในฐานะ Instagram ของจีน มีการค้นหาคำว่า 'How do I cancel my Thailand trip?' พบโพสต์มากกว่า 380,000 โพสต์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ชาวนา หลี่ (Shawna Li) หญิงสาวจากมณฑลเจ้อเจียงในจีน กล่าวว่าตนเองและเพื่อนหญิงสามคนวางแผนจะเดินทางไปประเทศไทยในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 4 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แต่เมื่อทราบข่าวเกี่ยวกับหวังซิง พวกเธอจึงตกลงใจที่จะยกเลิกการเดินทาง

"เราเปลี่ยนใจเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อเราทั้งสี่เป็นผู้หญิงที่เดินทางไปด้วยกัน" เธอกล่าว "ฉันไม่เคยไปประเทศไทยมาก่อน เคยได้ยินว่ามีราคาถูกและสนุก ฉันเคยคิดว่าอาจจะไม่ปลอดภัยบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดนี้"

ผู้จัดการของตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของจีนอย่าง Ctrip สาขาในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า ประสบการณ์ของหวังซิงส่งผลให้จำนวนการจองเที่ยวบินไปประเทศไทยลดลง

ผู้จัดการ Ctrip เผยว่าจนถึงขณะนี้ มีทัวร์ไปประเทศไทยเพียงทริปเดียวที่กำหนดจะออกเดินทางก่อนสิ้นเดือนนี้ โดยมีผู้ร่วมทริปเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น "ในระยะสั้น เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการเดินทาง" ผู้จัดการกล่าว

สื่อฮ่องกงยังตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการอย่างรวดเร็วของตำรวจไทยต่อกรณีหวังซิง มีขึ้นหลังการเรียกร้องของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ให้ปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้และจำกัดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับภาคการท่องเที่ยวของไทย หลังจากที่ข่าวเกี่ยวกับการหายตัวของหวังซิงเผยแพร่ไปทั่ว

หลังจากที่หวังซิงได้รับการช่วยเหลือในวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไทยได้ถามเขาต่อหน้าสื่อเพื่อให้แสดงความพร้อมที่จะกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง

หวังซิงซึ่งสวมหมวกสีดำปิดบังใบหน้า ยืนยันด้วยคำพูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนว่า "ประเทศไทยยังคงปลอดภัย และผมจะกลับมาอีก"

มีรายงานว่า จำนวนการเยือนของนักท่องเที่ยวชาวจีนในประเทศไทยอาจลดลงระหว่าง 10 ถึง 20% ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ตามการประเมินของสมาคมตัวแทนการท่องเที่ยวไทย (ATTA)

โดยในปี 2024 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยถึง 6.73 ล้านคน ซึ่งจีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตามข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ทั้งนี้ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีจำนวนชาวจีนจำนวนไม่น้อยที่ถูกล่อลวงไปเข้าร่วมขบวนการสแกมเมอร์ที่ดำเนินการในภาคเหนือของเมียนมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางการจีนเคยเผยข้อมูลเมืองปี 2023 ประเมินว่ามีชาวจีนราว 100,000 คน ที่ถูกหลอกลวงให้ไปทำงานเป็นสแกมเมอร์บริเวณชายแดนไทยเมียนมา

จีนให้คำมั่นลุยปราบแก๊งมิจฉาชีพข้ามชาติ หลังพบเหยื่อชาวจีนถูกขังในเมียนมา

กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (15 ม.ค.68) ระบุว่า จีนจะยกระดับความพยายามในการช่วยเหลือพลเมืองจีนที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งหลอกลวงพวกเขาไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงเมียนมา ตามรายงานจากสำนักข่าว CCTV ซึ่งเปิดเผยว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศได้หลอกลวงชาวจีนด้วยข้อเสนอการทำงานที่มีรายได้สูง พร้อมที่พัก อาหาร และค่าโดยสารเครื่องบิน ก่อนที่ผู้ถูกหลอกจะถูกกักขังในศูนย์หลอกลวงทางโทรคมนาคมในเมืองต่าง ๆ เช่น เมียวดี ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายแดนเมียนมากับไทย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แถลงการณ์นี้ออกมาในช่วงที่เกิดกรณีการหายตัวไปของนักแสดงจีนในจังหวัดตากของไทย ซึ่งตำรวจไทยคาดว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์

จีนกล่าวว่าจะเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในประเทศอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่ถูกกักขัง และจะดำเนินการอย่างจริงจังในการกวาดล้างศูนย์หลอกลวงด้านโทรคมนาคมและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการในต่างประเทศ

รายงานยังเผยถึงการร่วมมือกับทางการเมียนมาในปี 2566 เพื่อล้มล้างกลุ่มมาเฟียเชื้อสายจีน 'กลุ่มสี่ตระกูลโกก้าง' ที่มีการดำเนินการในบริเวณชายแดนเมียนมากับมณฑลยูนนานของจีน

นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว ไทยได้ให้ความช่วยเหลือในการส่งตัวชาวจีนกว่า 900 คน ที่ถูกกักขังในศูนย์หลอกลวงที่เมืองเมียวดีกลับประเทศ ขณะที่เมียนมาในปี 2566 ได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับการหลอกลวงทางโทรคมนาคมมากกว่า 31,000 คนกลับจีน

ตามข้อมูลจากสื่อของรัฐบาลจีน ช่วงนั้นพบว่ามีศูนย์หลอกลวงทางโทรคมนาคมในเมียนมามากกว่า 1,000 แห่ง และมีผู้คนกว่า 100,000 คนที่ถูกหลอกลวงในแต่ละวัน

นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนได้พบปะกับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้มีการร่วมมือกันในด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน รวมถึงการพนันออนไลน์และการหลอกลวงทางโทรคมนาคม

รวบผู้ต้องสงสัยคดีหลอก 'ซิงซิง' ลั่นปราบเด็ดขาดค้ามนุษย์สแกมเมอร์

(27 ม.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนสามารถจับกุมและนำตัวผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมร้ายแรงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความอันเป็นที่สนใจของสาธารณชนกลับประเทศสำเร็จ โดยคดีความดังกล่าวเป็นกรณีนักแสดงชายชาวจีนถูกหลอกลวงและกักขังที่ชายแดนไทย-เมียนมาอย่างผิดกฎหมาย

เมื่อวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนระบุว่าผู้ต้องสงสัยแซ่เหยียนถูกนำตัวกลับถึงจีนเมื่อวันเสาร์ (25 ม.ค.) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างคณะทำงานเฉพาะกิจของกระทรวงฯ และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รวมถึงความช่วยเหลือจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย

ทั้งนี้ หลายคดีความเกี่ยวกับกรณีพลเมืองจีนถูกหลอกลวงและกักขังที่ชายแดนไทย-เมียนมาอย่างผิดกฎหมาย ที่ซึ่งเหยื่อถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมขบวนการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นวงกว้าง

หวังซิง นักแสดงชายชาวจีน เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 3 ม.ค. แต่ขาดการติดต่อบริเวณใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ติดตามความเคลื่อนไหวและช่วยเหลือเขาสำเร็จ ซึ่งหวังถูกระบุว่าตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เสริมว่าตำรวจจะเพิ่มความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ ดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาด และประสานงานช่วยเหลือเพื่อปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพลเมืองจีนอย่างประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top