(10 ก.ค. 67) เพจ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว’ โพสต์ข้อความจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ไปรักษาโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่ประเทศอังกฤษ ได้ฝากถึงแฟนคลับ ความว่า…
“ด้วยความคิดถึงขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ ในชีวิตเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน จึงทำให้คิดได้ มีอีกหลายเส้นทาง ที่ชีวิตไม่เคยไปสัมผัส ฝรั่งเรียก ‘Bucket list’ สิ่งที่ทำ ก่อนชีวิตสูญสลาย…
“สิ่งหนึ่งคือ ไม่มัวติดอยู่กับอดีต เพราะนับจากนี้ไป อีกไม่นาน เราก็จะตายไปกันหมด ไม่ช้า ก็เร็ว สิ่งที่เราหามาทั้งชีวิตก็จะไปตกในมือคนอื่น ๆ จะไม่มีใครจำเราได้อีกต่อไป แม้แต่คนในครอบครัว จะมีใคร ไปจำพ่อของทวดได้บ้าง ?...
“เราควรคิดถึงสิ่งที่เรามีความสุขในวันนี้ เลิก คิด แค้น เคือง พยาบาท ใครต่อใคร เพราะทุกสิ่งมันผ่านไปหมดแล้ว ยิ้ม พอใจ กับที่เรามีอยู่วันนี้ที่ทุก ๆ เช้า เราตื่นมาได้ ด้วยร่างกายที่ไม่เจ็บปวด แม้จิตใจจะยังสู้ แต่ร่างกายไม่ไหว ก็ต้องปล่อยไป มีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำก่อนตาย หาความสุข ในสิ่งที่ เราอยากทำ”
ส่วนข้อความถึง ‘สันธนะ’ หลังศาลอาญา มีคำพิพากษาในคดีหมิ่นประมาท โรงแรมของชูวิทย์ ระบุว่า “ข้าพเจ้า ขอขมากรรมต่อท่าน ที่ได้ล่วงเกินประการใดก็ตาม ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี นับแต่อดีตชาติเป็นต้นไป มาจวบจนปัจจุบันชาติ…
“ขอให้อโหสิกรรม ต่างคนต่างเดิน ไป ตามทางตัวเองด้วยเทอญ อย่าได้พบเจอกันอีก ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน”
อย่างไรก็ตาม ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ. 2892/2565 ที่บริษัท ต้นตระกูล จำกัด โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นโจทก์ฟ้องนายสันธนะ ประยูรรัตน์ เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
กรณีเหตุการณ์ ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ย.2565 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จและสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ในทำนองว่า ชั้นล็อบบี้ภายในโรงแรม เดอะเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงประมาณ 100 คน เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติดในห้องน้ำชายและเปิดบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้จำเลยยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนงสร้างความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่โจทก์
ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 328 ให้คุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน เห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 100,000 บาทและลงโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อกับสื่อเป็นเวลารวม 5 วัน ติดต่อกัน
นายสันธนะ ระบุว่า ข้อหาอื่นที่ฟ้องคดีมา ศาลยกฟ้องทั้งหมด แต่ในข้อหาหมิ่นประมาท ศาลเห็นว่ามีความผิดจึงพิพากษาจำคุก 1 ปี รอลงอาญา 2 ปี ปรับอีก 100,000 บาท ซึ่งได้จ่ายค่าปรับไปแล้ว ส่วนกรณีที่โจทก์เรียกค่าเสียหายมา 100 ล้านบาทนั้น ศาลระบุว่า โจทก์ไม่ได้นำสืบว่าเสียหายอย่างไร จึงให้จ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์ 100,000 บาท แต่ตนเองยังไม่จ่ายเพราะเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป