นายกฯ ญี่ปุ่น เตรียมบินเยือน ‘เวียดนาม-ฟิลิปปินส์’ 27 เมษายนนี้ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง กับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(17 เม.ย. 68) ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีกำหนดเดินทางเยือน เวียดนามและฟิลิปปินส์ เป็นระยะเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนนี้ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับชาติสมาชิกอาเซียน ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความเข้มข้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นในจังหวะสำคัญที่ จีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังเพิ่มบทบาทและเสนอมาตรการเป็นมิตรต่อประเทศในภูมิภาค ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อสหรัฐฯ เริ่มสั่นคลอนจากมาตรการภาษีที่เข้มข้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในเวียดนาม นายอิชิบะมีกำหนดพบกับ โท ลัม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพื่อหารือเรื่องการบรรจุเวียดนามเข้าสู่กรอบความช่วยเหลือด้านความมั่นคงอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่น (Official Security Assistance หรือ OSA) ซึ่งครอบคลุมการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันประเทศให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่ประเทศที่มีแนวคิดสอดคล้องกัน
ญี่ปุ่นคาดหวังว่าจะสามารถร่าง บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงกับเวียดนามให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมปีหน้า อีกทั้งยังมีกำหนดเยี่ยมชม มหาวิทยาลัยเวียดนาม-ญี่ปุ่น ในกรุงฮานอย ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระดับชาติเพื่อส่งเสริมการศึกษาระหว่างสองประเทศ
ขณะเดียวกัน ในฟิลิปปินส์ อิชิบะจะหารือกับ ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับ ข้อตกลงด้านความมั่นคงทั่วไปของข้อมูลทางทหาร (GSOMIA) ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการแบ่งปันข่าวกรองทางทหารระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ คาดว่าทั้งสองประเทศจะตกลงที่จะเริ่มเจรจาเกี่ยวกับ ข้อตกลงในการซื้อกิจการและการให้บริการข้ามกัน (Acquisition and Cross-Servicing Agreement หรือ ACSA) เพื่อให้สามารถจัดหากระสุนและเชื้อเพลิงให้กันและกันในกรณีที่จำเป็น
ระหว่างการเยือนฟิลิปปินส์ อิชิบะยังจะตรวจสอบ ระบบเรดาร์เฝ้าระวังชายฝั่ง และอุปกรณ์ความมั่นคงอื่น ๆ ที่ญี่ปุ่นได้จัดหาให้ภายใต้กรอบ OSA โดยมีเป้าหมายเพื่อเน้นย้ำความสัมพันธ์กึ่งพันธมิตรระหว่างทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ เขายังแสดงความตั้งใจที่จะพบกับกลุ่มผู้ไร้รัฐที่เป็นลูกหลานของชาวญี่ปุ่นซึ่งอพยพมายังฟิลิปปินส์หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อแสดงการสนับสนุนของโตเกียวในการพิจารณาให้สัญชาติญี่ปุ่นแก่บุคคลเหล่านี้
อิชิบะซึ่งมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องความสัมพันธ์กับ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เคยเดินทางเยือนมาเลเซียและอินโดนีเซียแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อวางรากฐานความร่วมมือระยะยาวในภูมิภาค
นักวิเคราะห์มองว่าการเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นสะท้อนถึงยุทธศาสตร์ “เสริมอิทธิพลผ่านความร่วมมือ” เพื่อตอบโต้การขยายบทบาทของจีนในภูมิภาค พร้อมส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของโตเกียวในการเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้สำหรับประเทศในอาเซียน
