Monday, 13 May 2024
ชาดาไทยเศรษฐ์

‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ ชี้!! อย่าหลงระเริงกับ 14 ล้านเสียง หากเป็นนายกฯ ต้องดูแลคนกว่า 60 ล้านคน

(13 ก.ค.66) ที่รัฐสภาฯ การประชุมร่วมกัน พิจารณาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นอภิปรายโหวต โดยในบางช่วงบางตอนระบุว่า…

“คนไทยไม่ได้มีแค่ 14 ล้าน คนไทยไม่ได้มี 25 ล้าน ท่านต้องเป็นนายกฯ ของคน 60 กว่าล้านคน เป็นนายกฯ ของประเทศไทย ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง ท่านอย่าหลงระเริงคำว่า 14 ล้านเสียง มันไม่ถึง 20% มันไม่ใช่เรื่องชี้ขาดของประเทศนี้”

‘ชาดา’ สำนึกบุญคุณแผ่นดินไทย บรรพบุรุษหนีสงครามมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร

เมื่อวานนี้ (14 ก.ค. 66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า "บรรพบุรุษผมมาจากพม่า หนีสงครามมา คนจีนยังดี มีเสื่อผืน หมอนใบ แต่บรรพบุรุษผม มีเเต่โสร่ง เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จนทุกวันนี้ มีกินมีใช้ อยู่ดีกินดีกว่าเจ้าของประเทศ แล้วจะไม่ให้ผมสำนึกบุญคุณเเผ่นดินไทย และพระมหากษัตริย์ไทยได้อย่างไร ถ้าผมไม่สำนึกบุญคุณ ผมก็ไม่ใช่คนแล้ว"

‘อนุทิน’ เชื่อมือ ‘ชาดา’ ปราบผู้มีอิทธิพลได้ พร้อมเผย บัญชีมาเฟียมีความคืบหน้าแล้ว

(11 ก.ย. 66) ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมาเฟีย ว่า ตนมอบหมาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยไปแล้ว ซึ่งความคืบหน้าการดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.นี้ ตนก็จะมีอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายจบ เราก็จะเริ่มทำงานได้เต็มตัว

เมื่อถามว่า จะมั่นใจว่านายชาดาจะจัดการบริหารเรื่องนี้ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องมั่นใจเพราะทุกคนมีระยะทดลองงาน

เมื่อถามว่า ตั้งกรอบระยะเวลาการทำงานไว้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า งานและปัญหาประชาชนมีอยู่ตลอดเวลา เราจะไปตั้งกรอบเวลามันไม่เกิดประโยชน์ เราต้องแก้ปัญหาไปทุกวันๆ

เมื่อถามกรณี ความคืบหน้าการสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คืบหน้าไปเรื่อยๆ และตอนนี้ได้มอบหมายนายชาดาไปแล้ว

เมื่อถามว่า การอภิปรายในสภาฯ เป็นอย่างไรบ้าง หากเทียบกับบรรยากาศการอภิปรายในอดีตที่ผ่านมา นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ พูดถึงเนื้อหาได้ดี

เมื่อถามว่า คิดว่าจะนำเงินงบประมาณมาจากไหนเพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เราก็จะหาเงินก้อนนั้นมาให้ได้

'ชาดา' เดินหน้าปราบผู้มีอิทธิพล เร่งทำบัญชีแยกสีแดงเหลือง  วอน!! ให้เวลา 'เจ้าหน้าที่' ทำงาน ขอทุกคนใจเย็นๆ

(18 ก.ย. 66) ที่ รร.รามาการ์เดนส์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทั่วประเทศว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการโดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทยเป็นประธาน ตนเป็นรองประธาน และมีปลัดกระทรวงเป็นคณะกรรมการ โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศก่อน และตรวจสอบดูว่ายังมีอิทธิพลอยู่หรือไม่ และมาตรวจสอบว่าในพื้นที่มีผู้มีอิทธิพลรายใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นสีแดงและสีเหลืองเพื่อทำข้อมูลใหม่ โดยจะเน้นย้ำถึงความเป็นธรรมกับผู้ที่ไม่ได้มีอิทธิพล ทั้งนี้ คดีของกำนันนก ทำให้ต้องตรวจสอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและนักการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศก่อน

“ผู้มีอิทธิพลที่พฤติกรรมไม่ดีมีหลายรูปแบบ บางคนไม่ได้มีตำแหน่งแต่มีอิทธิพล แต่บางคนมีอิทธิพลมากถึงขั้นแต่งตั้งนักการเมืองได้ ก็จะต้องตรวจสอบไปตามขั้นตอน ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ” นายชาดา กล่าว

เมื่อถามว่าการตรวจสอบผู้มีอิทธิพลในจ.อุทัยธานี เป็นอย่างไร? นายชาดา กล่าวว่า จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีการแบ่งพื้นที่เป็นสีแดงและสีเหลืองเรียบร้อย โดยสีแดงนั้นมีน้อยมาก เมื่อถามต่อว่า ในพื้นที่จ.นครปฐมจะเป็นจุดต่อไปที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตรวจพร้อมกันทั่วประเทศทั้งหมด ส่วนจะมีการเปิดรายชื่อผู้มีอิทธิพลหรือไม่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เหมือนสมัยก่อน เพราะมีกฎหมายป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล หากมีรายชื่อหลุดไปอาจจะถูกฟ้องร้องได้

เมื่อถามถึงการตั้งกรอบระยะเวลาการทำบัญชีสีแดงและสีเหลือง? นายชาดา กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จ.อุทัยธานีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และในหลายจังหวัดก็จบแล้ว การทำงานไม่ได้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยอย่างเดียว แต่มีกระทรวงอื่นมาร่วมทำงานด้วยเบื้องต้นสามารถรวบรวมข้อมูลได้ 20-30% แล้ว ซึ่งตนเองจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขออย่าไปบีบเจ้าหน้าที่ให้เร่งทำงาน

เมื่อถามว่ากังวลไหมว่าผู้มีอิทธิพลจะเข้ามาแทรกแซง? นายชาดา ย้อนถามกลับว่า “ใครจะมาใหญ่กว่าผม” พร้อมหัวเราะแล้วบอกว่า “ผมตัวใหญ่” 

'มท.1' เชื่อมือ 'ชาดา' มอบดาบหัวเรือใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ 'ขจัดมาเฟีย-กำชับเข้มกฎหมาย' ดูแลปชช.อย่าให้ถูกรังแก

(25 ก.ย. 66) ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เขตดุสิต กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ตรวจเยี่ยม และเป็นประธานมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ร่วมมอบนโยบาย พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเข้าร่วม มีการมอบนโยบายไปยังในพื้นที่ ได้แก่ ท้องถิ่นจังหวัดทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 7,849 แห่ง ร่วมรับฟัง

โดย นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่ง โดยเน้นย้ำถึงนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย 10 ด้าน และการปฏิบัติหน้าที่ของทีมกระทรวงมหาดไทย คือ ทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที โดยเฉพาะนโยบายจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล ที่ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลขึ้นมา มีตนเป็นประธาน และนายชาดา รมช.มหาดไทย เป็นรองประธาน แต่เรื่องนี้นายชาดา จะถือเป็นผู้นำในฝ่ายปฏิบัติการ หรือ COO (Chief Operation Ofiicer) ถือว่าใช้คนถูกกับงาน มีความเข้าใจ สามารถขอความร่วมมือให้สิ่งเหล่านี้ลดลงไปจากสังคมไทยได้ มั่นใจว่านายชาดา และผู้ร่วมมือทุกคน จะทำให้เรื่องนี้เบาบางลงไป ไม่ให้เป็นที่ตื่นตระหนก หรือทำความเครียด ความรุนแรงต่อประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า ดังนั้น กรมส่งเสริมฯ มีหน้าที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ในพื้นที่ คอยติดตามตรวจสอบดูแลอย่าให้มีการข่มเหงรังแกประชาชน โดยเฉพาะการประมูลงานตามท้องถิ่น การเรียกทรัพย์สินหรือเรียกประโยชน์ต่างๆ เราได้เห็นมาแล้ว กรณีนายกอบต.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ตนก็ตกใจว่าทำไมถึงกล้าขนาดนี้ ระดับนายกอบต.รับเองเลย พอตำรวจมารีบเอาเงินวางกับพื้นแล้วบอกตัวเองไม่ได้ถือเงิน แต่ไม่รู้ว่าวงจรปิดเต็มไปหมด

"ตรงนี้เป็นปลายเหตุ แต่ต้นเหตุคือทำอย่างไรไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ต้องของคุณปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้ดำเนินการฉับไว เร่งด่วน ต้องทำให้เห็นว่าเราไม่ประณีประนอมกับผู้ที่ฉ้อราษฎร์บังหลวง รังแกประชาชน เพราะพวกนี้จะได้ใจ คนไม่ดี คนทำผิด คนไม่เคารพกฎหมาย คนที่ใช้อิทธิพลนอกกฎหมาย ต้องไม่มีวันชนะคนถือกฎหมาย เราต้องมั่นใจก่อนในอำนาจที่เราถือกฎหมายไปบังคับให้คนไม่ทำผิด เราแพ้ไม่ได้ ดังนั้น คนที่อยู่นอกกฎหมายจะชนะคนถือกฎหมายไม่ได้" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ตนเข้ามา 2 - 3 สัปดาห์ ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมาต้อนรับตน ตนไปไหนแบบสบายๆ เงียบๆ เพราะถ้าตนต้องการให้ดูแลตนจะแจ้ง ตนไม่มีไปแอบตรวจแล้วกลับมาหาเรื่อง ขอให้มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดกับทีมของตน และทีม รมช.มหาดไทย ขอให้สบายใจได้

‘ธนกร’ แนะ ‘มท.-ตร.’ ร่วมกันกวาดล้างมาเฟีย-อาวุธเถื่อน-ยาเสพติด ถอดบทเรียนกราดยิงห้างดัง ป้องกันเหตุเกิดซ้ำ-พฤติกรรมเลียนแบบ

‘ธนกร’ เรียกร้อง มหาดไทย แท็กทีม ตร.เปิดปฏิบัติการปูพรมค้นพื้นที่เป้าหมายผู้มีอิทธิพล  กวาดล้างอาวุธเถื่อน-ยาเสพติดทุกพื้นที่ หวั่น เกิดเหตุซ้ำกราดยิงในห้างดังกลางกรุง เชื่อ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน มั่นใจ ‘บิ๊กต่อ’ เอาจริง ทำสำเร็จแน่

(5 ต.ค. 66) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุรุนแรงในห้างดังที่ผ่านมา ว่า ขอเรียกร้องไปยังกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายปกครอง ให้เร่งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เปิดปฏิบัติการปูพรมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายผู้มีอิทธิพลแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกัน ปราบปรามและกวาดล้าง ทั้งอาวุธเถื่อน ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด

พร้อมกันนี้ เห็นควรให้มีการตั้งด่านความมั่นคงเพื่อตรวจค้นการครอบครองอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในเบื้องต้น และสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตบนความปลอดภัยให้กับประชาชน

เมื่อถามว่า การขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบอยู่ จะช่วยลดการก่อเหตุได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพล ถือเป็นสารตั้งต้นของการปฏิบัติการ หากนำรายชื่อผู้มีอิทธิพลที่ไม่ได้มาขึ้นทะเบียน ทั้งในระบบหรือนอกระบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต่างก็ทราบดีอยู่แล้ว ว่ามีกลุ่มเป้าหมายบุคคลใดบ้าง เชื่อว่าหากเอาจริงเอาจัง จะสามารถกวาดล้างผู้มีอิทธิพล หรือ ‘มาเฟีย’ ทั่วประเทศได้อย่างแน่นอน

“ผมเชื่อมั่น เชื่อมือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ที่เป็นคนทำงานเอาจริงเอาจัง ผลงานด้านปราบปรามนั้นชัดเจน หากร่วมมือกับนายชาดา ทั้งมหาดไทยและตำรวจเปิดปฏิบัติการปูพรมกวาดล้างผู้มีอิทธิพล สามารถทำได้สำเร็จแน่นอน ทั้งนี้ ขอฝากประเด็นเรื่องควบคุมการสั่งซื้ออาวุธปืนทางออนไลน์ด้วย จะช่วยสร้างความมั่นใจ อุ่นใจ ในความปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วประเทศ ผมขอให้กำลังใจและเอาใจช่วย ผบ.ตร.และนายชาดา เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำรอย กรณีเยาวชน อายุ 14 ปี ใช้อาวุธปืนดัดแปลงกราดยิงในห้างดังที่ผ่านมาอีก” นายธนกร กล่าว

‘ชาดา’ เตือน!! อย่ากลั่นแกล้งแจ้งข้อมูลผู้มีอิทธิพลบิดเบือน พร้อมขอเวลา 2-3 เดือน เก็บข้อมูลทุกด้าน ก่อนเริ่มตัดรากถอนโคน

(7 ต.ค.66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล หลังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดทำรายชื่อกว่า 700 รายว่า ได้นำรายชื่อมาทำใหม่ ดูพฤติกรรม สิ่งที่กระทำความผิด และบริวาร รวมถึงข้อมูลที่ประชาชนร้องเรียนมา  ตามเบอร์ 088-8878888 เพราะในอดีต เคยผ่านการบริหาร จัดการเรื่องนี้มาแล้ว แต่มีเพียงการส่งรายชื่อมาเท่านั้น จึงไม่มีประโยชน์อะไร ทั้งนี้ขอให้การส่งข้อมูลมาเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง อย่ากลั่นแกล้งกัน สำหรับรายชื่อที่กระทรวงต่างๆ และบุคคลทั่วไป ส่งมาให้ก็จะผ่านการกลั่นกรองอีกครั้ง

เมื่อถามถึงการจัดระเบียบตามกลุ่มสี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า สีแดงคือคนที่กระทำความผิดอยู่ในปัจจุบัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องติดตามดำเนินการอยู่แล้ว อาจยังจับกุมไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน แต่ครั้งนี้จะลงไปทั้งระบบ แบบบูรณาการ อย่างเข้มข้น ทั้งอาณาจักรไม่ใช่เพียงตัวอย่างเดียว แต่จะมีหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงเข้าไป มีเรื่องการตรวจสอบภาษี เรื่องเกี่ยวกับการฮั้วประมูล ประมูล จะเข้าไปตรวจสอบดำเนินการตัดรากถอนโคน จึงขอฝากว่าคนที่คิดไม่ดีคิดไม่ถูกต้องรังแกประชาชนอยู่ ขอให้เลิก มิเช่นนั้นจะเจอกับการตรวจสอบทั้งระบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการรวบรวมข้อมูลนั้น ยอมรับว่าใช้เวลาพอสมควร ขณะนี้ยังคงรอหน่วยงานอื่นๆ ส่งข้อมูลมาเพื่อจะรวบรวม คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือนจึงจะเริ่มปฏิบัติการเข้มข้นไปเรื่อยๆ

‘ชาดา’ สนับสนุนเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 เชื่อ!! จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่แท้จริง

(12 ต.ค.66) ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการควบคุมอาวุธปืนเถื่อนว่า หากพบการครอบครองอาวุธปืนเถื่อนต้องจับกุมอยู่แล้ว โดยอาจจะออกกฎเพิ่มเติมหลังจากนี้ ตนยังไม่สามารถตอบรายละเอียดเรื่องนี้ได้ เพราะอยู่ระหว่างการดูระเบียบตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 ยอมรับว่าเป็นกฎหมายที่เก่ามาก ควรมีการปรับปรุงแก้ไข แต่ต้องไปว่ากันในระบบของรัฐสภา ทางกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการให้กฎหมายมีความครอบคลุมและทันสมัยมากยิ่งขึ้น

นายชาดา กล่าวว่า การควบคุมอาวุธปืนในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง เพราะจะมีมาตรการคุมเข้มยิ่งขึ้น เช่น การซื้อขายกระสุนปืนจะต้องมีใบ ป.3 ด้วย และมีข้อกำหนดว่าจะสามารถถือครองได้กี่นัด อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการแก้กฎหมายร่วมด้วย

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายชาดา กล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อ คาดว่าต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะจะรวบรวมรายชื่อจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมร่วมด้วย ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าจะสามารถส่งรายชื่อได้สิ้นเดือน ต.ค.นี้ 

เมื่อสอบถามว่ามีความกังวลจังหวัดใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า จ.นครปฐมเพราะมีการยิงกันบ่อย แต่ก็มีอีกหลายจังหวัด

เมื่อถามว่าเป็นอย่างไรบ้างที่นายชาดาได้ให้เบอร์ส่วนตัว เพื่อให้ประชาชนติดต่อแจ้งเรื่องได้ นายชาดา กล่าวว่า วันนึงโทรมาเป็น 100 สาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของบุคคลในพื้นที่ มีทั้งเรื่องสำคัญและไม่สำคัญ เรื่องใดที่สามารถดำเนินการได้เลยก็จะดำเนินการให้ ซึ่งทางอธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) ก็จะส่งเรื่องให้กับผู้ว่าฯ และตำรวจดำเนินการจับกุมต่อไป เช่น บ่อนการพนัน สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันที เพราะเป็นความผิดเฉพาะหน้า ไม่ต้องรอรวบรวมรายชื่อ

เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการอนุญาตเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. นายชาดา กล่าวว่า ตนเห็นด้วย และควรทำมานานแล้ว โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ไม่ใช่เรื่องอาชญากรรมแต่เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว หลายๆ ประเทศก็เปิดกัน มองว่าเป็นคนละเรื่องกับความมั่นคง แต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนมาตรการความปลอดภัยหลังจากนี้นั้น เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมดูแลตลอดเวลาอยู่แล้ว

‘อนุทิน-ชาดา’ หารือ ‘สมาคมสมาชิกรัฐสภาไทยฯ’ ร่วมมือสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ-ประชาชน

เมื่อไม่นานมานี้ ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนันตชัย คุณานันทกุล นายกสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทยและคณะกรรมการ ได้เข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนการบริหารราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค การวางผังเมือง การพัฒนาชุมชน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือของอดีตสมาชิกรัฐสภาจังหวัดต่างๆ

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีภารกิจสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ปกป้องสถาบันหลักของชาติให้เป็นที่เคารพบูชาเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย มุ่งบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน พร้อมประสาน ความร่วมมือทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับการให้บริการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่นายชาดา กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายดูแลเรื่องการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลทั้งประเทศ พร้อมประสานบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง "แม้จะยาก แต่ก็ทำอย่างเต็มที่" เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน

ซึ่งกระทรวงมหาดไทยพร้อมรับคำแนะนำและประสานความร่วมมือกับทางสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทย ที่เป็นผู้มีประสบการณ์ ทั้งอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอดีตสมาชิกวุฒิสภา เพื่อช่วยกันรับฟังปัญหาของประชาชนนำมาสู่การแก้ไข

ขณะเดียวกันสมาคมสมาชิกรัฐสภาไทย นำโดย นายอนันตชัย และคณะกรรมการสมาคม ประกอบด้วย นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ นายสามารถ รัตนประทีปพร น.ส.เสาวลักษณ์ สุริยาทิพย์ รศ.สุชาติ นวกวงษ์ นายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ นพ.ประสิทธิ์  พิทูรกิจจา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง นายนิเวศ พันธุ์เจริญวรกุล นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล จุรีลักษณ์ รัตนประทีปพร และนายปรพล อดิเรกสาร ได้ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่งของรัฐมนตรีด้วย

'โรม' แซะ!! 'ชาดา' อย่าให้เขาหาว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลังปลุกผี ด้าน 'ชาดา' ไม่ทน ซัดกลับอย่าโยงมั่ว พร้อมแฉขบวนการล้มเจ้า

(14 ก.พ. 67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายญัตติด่วนเพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการถวายความปลอดภัยของขบวนเสด็จฯ ตอนหนึ่ง โดยได้นำภาพประกอบขึ้นสไลด์เป็นภาพแกนนำกลุ่มอาชีวะราชภักดีถ่ายร่วมกับ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และมีข้อความระบุพร้อมเซ็นเซอร์ข้อความบางส่วนในภาพว่า "พรุ่งนี้เจอปะทะไม่เจรจา ถ้า...ไม่พร้อม ทำดีไม่ได้ อย่าเนรคุณ เจอกันพรุ่งนี้ทะลุวัง ผู้ใหญ่ที่รู้จักของดนะครับ" และอภิปรายว่า วันนี้เราเห็นสัญญาณที่ชัดเจนในการสร้างความหวาดกลัว กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) มีการโพสต์ข้อความในโซเชียล ระบุว่า จะเชือดไก่ให้ลิงดูเก็บคุณตะวัน (น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ แกนนำกลุ่มทะลุวัง) เป็นคนแรก ขู่ฆ่าน้องหยก (ธนลภย์ ผลัญชัย สมาชิกกลุ่มทะลุวัง) ที่อายุ 15 ปี หรือกลุ่มอาชีวะราชภักดีที่ขู่ว่าจะจัดการนายสายน้ำ นี่คือกลุ่มคนที่จะนำความรุนแรง ความหวาดกลัวเข้ามาสู่สังคม ผ่านบุคคลสำคัญคือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่มีการพูดถึงการเนรคุณแผ่นดินการปลุกปั่นแบบนี้ เป็นการปลุกปั่นให้สถานการณ์มันร้ายแรงกว่าความเป็นจริงมาก การปลุกปั่นแบบนี้จะทำให้คนทั้งสังคมไม่รู้สึกปลอดภัยแล้วท่านจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยในเมื่อสุดท้ายผีที่ท่านสร้างขึ้นมาก็มาจากพวกท่านเอง

"ผู้นำของประเทศต้องห้ามปราม ไม่ให้คนฆ่าฟันกัน ตนพยายามดึงสติ หากความรุนแรงมันเกิดขึ้น สุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรงซึ่งวันนี้รู้สึกว่าใช้ความรุนแรงโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร คนเขาจะหาว่ารัฐบาล คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มคนเหล่านี้อย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย" นายรังสิมันต์ กล่าว

ทำให้นายชาดา ลุกขึ้นตอบโต้นายรังสิมันต์ ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ว่า ส่อเจตนาที่ไม่ดีไม่ดีอย่างมาก สร้างความแตกแยกและคุณกำลังจะนำตนไปสู่สิ่งที่ไม่ถูกต้องและสร้างความเข้าใจผิดกับพี่น้องประชาชน ตนไม่ได้คิดจะอภิปรายแต่สิ่งที่ผู้แต่งเสียหาย เป็นการชี้จูงทางความคิดที่ท่านให้เด็กทำอยู่นั่น คือ ความรู้สึกของคนอกตัญญู มันไม่ใช่ความรู้สึกของคนที่ดี การกระทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่ลักษณะการอภิปรายเชิงสร้างสรรค์ ปากพูดบอกว่า ต้องการความสงบ ให้มองตั้งอยู่ตรงกลางแต่พฤติกรรมไม่ใช่ ตนอยู่ฟังตลอดเวลา เป็นการกระทำที่เสียหาย ประธานที่ประชุมอนุญาตได้อย่างไร มีบุคคลแบบนี้ เสนอแบบนี้ อนุญาตได้อย่างไร ถ้าตนจะเสนอแบบนี้จะมีปัญหาหรือไม่

"ผมไม่อยากพูดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับญัตติ ประธานอนุญาตได้อย่างไร ประธานต้องมาขอโทษผมว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นกลาง การที่ท่านเอารูปบุคคลใดออกมาแล้วมีผม ผมไม่ฟ้องญัตตินี้เป็นเรื่องของขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่ท่านกำลังเอาเรื่องนอกประเด็นเอาเรื่องผลของกระทำมาผมจะพูดให้ฟังเด็กกระทำผิดกฎหมายกี่ครั้งแล้ว ถ้าเป็นการแสดงออกด้วยหัวใจของคนไทยไม่มีปัญหาแต่มันมีขบวนการในประเทศนี้ที่จะล้มล้างบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าพูดแบบนี้ ทำกับผมแบบนี้ เดี๋ยวผมจะพูดให้หมด ผมไม่อยากจะพูด เพราะวันนี้หัวใจรักชาติของผมมันเต็มเปี่ยม แต่สิ่งที่ท่านทำมันไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ แต่ปากบอกสร้างสรรค์ ปากบอกพัฒนา แต่สิ่งทำเมื่อกี๊นี้ ผมขออนุญาตบอกว่าเลวทรามมาก ในความรู้สึกผม" นายชาดา กล่าว

นายชาดา กล่าวต่อว่า ใครเป็นคนปล่อยภาพนี้ออกมา ตนขอถามประธาน อภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า มันมี ตนพร้อมไปพูดกับทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไร ตนไม่รู้ ตนไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง มันต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดูดีแต่ปฏิบัติไม่ดี เดี๋ยวตนจะลุกโต้ทุกคนที่พูด อย่ามาขัดแย้งและทำในสิ่งไม่ถูกต้องกับตน อย่ามาเล่นใต้ดินกับตน และเรียกร้องไม่ให้คนอื่นเล่นใต้ดิน ดังนั้นประธานต้องบอกว่าใครอนุญาตให้นำรูปขึ้นสไลด์ ประธานในที่ประชุม หรือประธานรัฐสภา หรือเจ้าหน้าที่มีวิจารณญาณ มีสมองหรือไม่เราชอบพอกัน ความคิดเห็นย่อมแตกต่าง ตนเข้าใจเมื่อวันที่ท่านไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ตนไม่เคยสร้างความขัดแย้งกับพรรคการเมือง หรือนักการเมือง คิดต่างไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำมือถือสากปากถือศีล

ทำให้ นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ซึ่งมารับช่วงทำหน้าที่ประธานที่ประชุมต่อจาก นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ชี้แจงว่า ตนไม่ได้ดูจริงๆ ว่ามีการพาดพิง และมีการนำเสนอไปแบบนั้น แต่ตนจะหาคำตอบให้ว่าอนุญาตได้อย่างไร ก็ขอให้นายรังสิมันต์ อย่าตอบโต้ เพราะเขาคือผู้เสียหายต้องให้ชี้แจง

ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายชาดามีสิทธิ์ชี้แจง แต่ขอให้ใจเย็นๆ นิดหนึ่ง เพราะถ้าฟังการอภิปรายตนขึ้นรูป เราไม่ได้ปรักปรำว่านายชาดาไปอยู่เบื้องหลัง แต่สิ่งที่ต้องบันทึกไว้ แน่นอนว่านายชาดาไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่ผู้ที่เขานำไปกระทำความรุนแรงต่างๆ ล่ะ โดยนายรังสิมันต์ได้ขอให้ประธานที่ประชุมนำภาพดังกล่าวขึ้นสไลด์อีกครั้ง พร้อมระบุว่า ประโยคที่อยู่ในภาพไม่ใช่คำพูดของนายชาดา แต่เป็นประโยคของผู้ที่กระทำความรุนแรง ซึ่งเขาอาจคิดด้วยซ้ำว่าเขาได้รับแบ็คอัพ ทั้งที่ความเป็นจริงอาจไม่มีคนอยู่เบื้องหลังก็ได้ ดังนั้น เรานักการเมืองทั้งหลายถูกโยงกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ จึงอยากให้มีสติ

ทำให้ นายชาดา ลุกขึ้นกล่าวโต้อีกครั้งว่า การกระทำมันบ่งบอกถึงเจตนาชัดเจน แต่คนที่พิจารณากฎหมายก็มีอยู่ คาดตา ปิดหน้าก็ได้ แต่อย่ามาบอกว่านักการเมืองถูกโยง เจตนาท่านบอกว่าตนอยู่เบื้องหลัง ถ้าตนอยู่เบื้องหลังสนุกกว่านี้เยอะ อย่าให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในสภาฯ อีก ตนถือว่านายรังสิมันต์ไม่ใช้สติในการพิจารณาการกระทำ ถ้ารับไม่ได้ก็ไปอยู่ประเทศอื่น คนไทยทุกคนยอมรับได้ จะรอซักเท่าไหร่ มีแผ่นดินอยู่ มีแผ่นดินคุ้มกะลาหัว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top