Saturday, 7 June 2025
ชั้น14

‘เพื่อไทย’ ดับร้อน!! โยก ‘รองตุ๋ย’ คุมยุติธรรม ขยับ ‘รองสมศักดิ์’ แบ่งเบางาน ‘รองอ้วน’

ปริศนาส่งท้ายปีกระต่ายสลายขั้วที่ยังฟันธงกันไม่สะเด็ดน้ำก็คือ กรณีท่านนายกฯ สูงยาวถุงเท้าแดงของ ‘เล็ก เลียบด่วน’ หรือ เศรษฐา ทวีสิน ลงนามคำสั่งวันที่ 25 ธ.ค. 66 โยกย้ายสลับงานรองนายกฯ 3 คน ให้รองตุ๋ย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไปกำกับดูแลงานกระทรวงยุติธรรม แทนสมศักดิ์ เทพสุทิน ส่วน รองสมศักดิ์นั้น ได้รับมอบหมายให้ไปกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข แทนภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ เจ้าของฉายา ‘รองกอง’ งานอะไร ๆ ต่อมิอะไรก็โยนมาให้ท่านลองกอง เอ๊ย! รองกอง

นี่ล่าสุดนายกฯ โยนตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 มาให้อีก...ก็ขอเตือนท่านรองกองว่าอย่าล้อเล่นกับกฎหมายงบประมาณน่ะครับ...โปรดพกยาหอมยาดมไปเยอะ ๆ นะครับ

กลับมาที่เรื่องกระทรวงยุติธรรม ทำไมต้องเด้งสมศักดิ์แล้วหันไปใช้บริการพีระพันธุ์...ส่วนใหญ่ฟันธงกันว่าเป็นเพราะสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์แบบอัดยับข้าราชการกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ว่าล้มเหลวในการทำงาน การชี้แจงเรื่องระเบียบราชทัณฑ์...คุกนอกเรือนจำ เลยโดนโยก…

มีคำถามว่า..อ้าว! คำสั่งนายกฯ ลงวันที่ 25 ธ.ค.นะ แต่ท่านสมศักดิ์พูดวันที่ 26 ธ.ค.น่ะ...ฝ่ายที่เชื่อว่าถูกโยกเพราะเรื่องนี้ก็อธิบายว่า เรื่องวันที่ลงนามคำสั่งนั้นจะลงวันที่เท่าไหร่ก็ได้..แต่เอาเป็นว่าเรื่องนี้นายกฯ ไปกระซิบบอกรองตุ๋ย พีระพันธุ์ให้รับทราบตอนเลิกประชุมครม.วันที่ 26 ธ.ค.แล้ว

การสับขาหลอกลงวันที่ 25 ธ.ค.จึงนับว่าเนียน…

อย่างไรก็ตาม ‘เล็ก เลียบด่วน’ ไม่เชื่อว่าเหตุผลโยกสมศักดิ์ออกจากการดูแลกระทรวงยุติธรรม จะเป็นเพราะสมศักดิ์เริ่ม ‘โอเวอร์ แอ็กชัน’ เท่านั้น แต่ยังมีเหตุผลสำคัญอื่น ๆ ดังนี้

1.การโยกสมศักดิ์ไปดูกระทรวง สธ. แทนภูมิธรรม เป็นการลดโหลดงานรองอ้วนได้อย่างลงตัว อีกทั้งระยะหลัง ๆ พบว่าสมศักดิ์กับ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร ที่ไปมีบทบาทเรื่องสุขภาพแห่งชาติ ประสานการทำงานกันได้ดี

2.การโยกสมศักดิ์ออก และเอาพีระพันธุ์เสียบแทน เป็นการลดความเป็น ‘ตำบลกระสุนตก’ ของพรรคเพื่อไทยได้ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมาสมศักดิ์ถูกมองว่าทำเรื่องกฎหมาย กฎกระทรวง เพื่อรองรับวีไอพีชั้น 14

2.1 พีระพันธุ์เป็นนักกฎหมาย เป็นอดีตรมว.ยุติธรรมมาก่อน ภาพลักษณ์ดูตรงไปตรงมา น่าเชื่อถือ จากนี้ไป ‘เผือกร้อน’ ก็จะตกอยู่กับมืออาชีพ

2.2 พีระพันธุ์รู้จักและสามารถพูดคุยกับกลุ่มต่าง ๆ ที่กำลังขับเคลื่อนกรณีนักโทษเทวดาให้เป็นนักโทษธรรมดา..น่าจะหาจุดรอมชอม ลงตัวกันได้โดยไม่เสียหลักการของทุกฝ่าย

2.3 พีระพันธุ์รู้ดีถึงบริบทของบ้านเมืองยุคสลายขั้ว พีระพันธุ์เป็นเพื่อนกับ ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รู้อุณหภูมิบ้านเมือง ทิศทางลม...เขาคงไม่สุดโต่งถึงขั้นจะทำภารกิจลับแบบ ‘ทักษิณโมเดล’ ในกรณียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่อาจจะมีภารกิจลึกในเชิงกฎหมายที่เขาอาจให้คำแนะนำได้..!!

3. การมอบหมายงานกระทรวงยุติธรรม พร้อมกับตำแหน่งประธานบอร์ดอีก 4 บอร์ด เช่น ประธานกรรมการปราบปรามยาเสพติด ฯลฯ อาจมีเป้าประสงค์แอบแฝงเพื่อลดความร้อนแรงการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงราคาพลังงานที่เขากำลังทำ อันนี้อาจมีส่วนบ้าง แต่ฟันธงว่าพีระพันธุ์ไม่ยอม…

สรุปสุดท้ายประสา ‘เล็ก เลียบด่วน’ ก็ต้องบอกว่างานนี้พรรคเพื่อไทยขอใช้บริการ’ รองตุ๋ย’ นัยว่า..ดีลลับพิเศษเรื่องการสลายขั้ว การปรองดองสมานฉันท์ ยังไม่จบ ต้องเดินหน้าต่อไป

มองแบบโลกสวยนิดก็ต้องบอกว่ารองตุ๋ยอาจทำให้กระบวนการยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ กลับมาเป็นผู้เป็นคนมากกว่าเดิม!! 

สวัสดี

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

‘ทักษิณ’ เกาะติดอภิปราย!! หากฝ่ายค้านยื่น ลั่น!! ไม่กังวล พร้อมโต้เอง หากถูกพาดพิง

(9 ก.พ. 68) ที่บ้านราชวิถี ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหากมีการพาดพิงมาถึง จะฟ้องร้องหรือไม่ ว่า ตนเข้าไปในสภาไม่ได้ แต่อาจไปอยู่หลังสภาคอยตอบให้ ถ้าใครสงสัยอะไรมาถามได้ ท่าจะดีเหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่า หากถูกอภิปรายพาดพิงจริงจะตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้อย่างเป็นทางการหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรค หากพาดพิงจริงก็ตอบได้ ให้มาถามก็แล้วกัน ส่วนจะตอบในรูปแบบใด ไม่มีอะไรต้องกังวล

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเกาะติดการอภิปรายโดยตั้งเป็นวอร์รูมหรือไม่ นายทักษิณหัวเราะและกล่าวว่า ไม่มีปัญหา สบายๆ ไม่มีอะไรต้องกังวล เมื่อถามว่า จะต้องติวให้นายกรัฐมนตรีที่ยังไม่เคยผ่านเวทีอภิปรายหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้นายกฯผ่านมาเยอะแล้ว โดนมาเยอะแล้ว สบายๆ และเป็นหน้าที่ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องคอยตอบคำถาม ส่วนฝ่ายค้านมีหน้าที่ตั้งคำถาม เรามีหน้าที่ตอบ ไม่มีอะไร เพราะเป็นกติกาประชาธิปไตย

เมื่อถามย้ำว่า ในฐานะคุณพ่อไม่มีความกังวลแทนนายกฯใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ไม่กังวล มั่นใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการนำเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจมาอภิปราย และอาจนำไปสู่การเมืองนอกสภา นายทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไรให้กังวล

เมื่อถามกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้ยื่นเอกสารลับชั้น 14 ให้กับผู้นำฝ่ายค้าน นายทักษิณกล่าวว่า “ผมเป็นตำรวจเก่า รู้จักแต่ พล.ต.อ.ที่เป็นเป็นผู้ชาย พล.ต.อ.ผู้หญิงผมไม่รู้จัก” ผู้สื่อข่าวจึงถามขึ้นว่า พล.ต.อ.หญิงหมายความว่าอย่างไร นายทักษิณกล่าวว่า พล.ต.อ.หญิงไม่มี เลยไม่จัก รู้จักแต่ พล.ต.อ.ชาย”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่ระบุว่า พล.ต.อ.หญิงหมายถึงใคร นายทักษิณกล่าวย้ำว่า ไม่รู้ ในประเทศไทยมีแต่ พล.ต.อ.ชาย เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ารู้จักแต่ พล.ต.อ.ชาย ไม่รู้จัก พล.ต.อ.หญิง เป็นการเปรียบเปรยใช่หรือไม่ นายทักษิณหัวเราะ และกล่าวว่า พล.ต.อ.หญิงยังไม่มี และประเทศไทยยังไม่เคยมี ใครอยากเป็นคนแรกก็เป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายถึงคนที่ยื่นเอกสารให้กับผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่รู้นะ ผมเป็นลูกผู้ชาย” เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับผู้ที่ยื่นเอกสารให้ผู้นำฝ่ายค้านเป็นอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้เคยร่วมรัฐบาล นายทักษิณกล่าวว่า เคยมีสัมพันธ์ที่ดี ขอตอบแค่นี้ เมื่อถามย้ำว่า ความสัมพันธ์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร นายทักษิณกล่าวคำเดิมว่า เคยมี เคยมีแปลว่าอะไร เมื่อถามว่า แปลว่าจากนี้จะไม่ดีกันแล้ว นายทักษิณกล่าวว่า เอาเป็นว่าเคยมี

เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายค้านย้ำข้อมูลการอภิปราย ทั้งเรื่องฝุ่น กาสิโน การตัดไฟเมียนมา จะทำให้รัฐบาลสะเทือนได้ นายทักษิณกล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ตอบ เรื่องฝุ่นมีมานาน ไม่ใช่จะหายชั่วข้ามคืน เรามีมาตรการออกมาเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้อย่างอารมณ์ดี โดยพูดไปยิ้มไป

‘อดีตสว.วันชัย’ จวกสังคม ขาดเมตตา ชิงชัง!! ‘ทักษิณ’ ชี้!! การรักษาผู้ต้องขัง ไม่จำเป็นต้องป่วยวิกฤต

(10 พ.ค. 68) นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อเรื่อง ‘ต้องวิกฤตหรือไม่ จึงไปชั้น 14’ ระบุว่า …

สังคมแห่งความชิงชังทำให้คนในสังคมป่วย สังคมที่ไร้ความเมตตาก็เป็นสังคมที่วิกฤต เรื่องของคุณทักษิณชั้น 14 ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมั่วซั่ว จับแพะชนแกะ จากกรณีที่แพทยสภาลงโทษแพทย์เรื่องผิดจริยธรรม แล้วเอามาโยงกับเรื่องการป่วยของคุณทักษิณและอำนาจราชทัณฑ์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลย มันเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น พอแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์เท่านั้น ก็เอามาตีโพยตีพายกันใหญ่ว่า คุณทักษิณไม่ได้ป่วยจริง จะต้องกลับไปติดคุก จะต้องหนี จะต้องยุบสภา สารพัดที่จะกล่าวหากันร้อยแปด

ทั้งที่ข้อกฎหมายเรื่องอำนาจราชทัณฑ์ ไม่มีข้อใดเลยที่กำหนดว่า จะต้องเป็นผู้ป่วยวิกฤตเท่านั้นจึงจะเอาไปรักษาตัวข้างนอกได้ มีแต่กำหนดไว้ว่า กรณีที่จะต้องบำบัดรักษาเฉพาะด้านเฉพาะทางเท่านั้น เขาไม่ต้องการให้มีผู้ต้องขังรายใด ป่วยถึงขั้นวิกฤต หากเริ่มป่วยก็ให้รักษาในเรือนจำ แต่หากต้องการรักษาเฉพาะทางเฉพาะด้านที่ในเรือนจำรักษาไม่ได้ ก็ให้ไปรักษาที่อื่น ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะต้องป่วยวิกฤตหรือไม่ อย่างกรณีของคุณทักษิณ ไม่ต้องดูหรอกว่าป่วยถึงขั้นวิกฤต ดูแต่เพียงว่าต้องการรักษาตัวเฉพาะด้านเฉพาะทางที่เรือนจำรักษาไม่ได้ก็เพียงพอแล้ว

แพทยสภาก็ว่าเรื่องของแพทย์ไป ราชทัณฑ์เขาก็ว่าเรื่องของราชทัณฑ์ไป ไม่เกี่ยวกัน ส่วนพวกสังคมแห่งความชิงชัง ก็ใส่สีตีไข่ โยงกันไปโยงกันมา โดยไม่ได้ดูจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เอาอารมณ์และความรู้สึกเป็นที่ตั้ง

สังคมแห่งความชิงชังนี้โคตรจะแปลกประหลาด ทีข้าราชการผู้ใหญ่ที่เกษียณมาแล้วเยอะแยะมากมาย ยังเห็นมีคนมียศมีตำแหน่งรับใช้กันอยู่เต็มบ้านจนแก่จนตายก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร แต่แค่คุณทักษิณ อดีตนายกฯ อายุ 75 ปี ป่วยมารักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 จะเอากันเป็นกันตายถึงขั้นวิกฤต

'อ.ไชยันต์' ยกธรรมะ!! นิยามความเมตตา สรุปใช้ไม่ได้กับ 'ทักษิณ' ชี้!! เมตตาเท่าเทียมกัน แต่ไม่ใช่ปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน

(12 พ.ค. 68)  ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความเมตตา กับคุณทักษิณ” โดยระบุว่า …

ช่วงนี้ มีคนมากกว่าหนึ่งคนออกมาขอให้สังคมมีความเมตตาต่อคุณทักษิณ ผมเลยไปหาความรู้เกี่ยวกับความเมตตา เพราะก่อนจะเมตตา น่าจะต้องมีปัญญากำกับ เลยได้ความมาดังนี้ครับ “เมตตาเท่าเทียมกัน แต่ไม่ใช่ปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน”

“ท่านเคยเปรียบเทียบเหมือนคนเลี้ยงม้า ท่านไปสอนคนเลี้ยงม้า บอกม้าบางตัวนิสัยมันดี ว่าง่ายสอนง่าย เขาก็ให้มันกินอาหารพอดีๆ พามันออกกำลังกาย พามันฝึก บางตัวมันดื้อเขาก็ทรมานมันต่างๆ นานาเพื่อปราบพยศมัน บางตัวสอนไม่ได้ฝึกไม่ได้ พระพุทธเจ้าถามว่า ถ้าเจอม้าเกเรฝึกไม่ได้จะทำอย่างไร เขาบอกเขาก็ฆ่าทิ้ง

พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่าท่านก็ทำแบบเดียวกัน ตัวไหนดีท่านก็อบรมอย่างเรียบร้อย ไม่ดุเดือดอะไร พวกที่หยาบหน่อยก็สั่งสอนแบบดุเดือดหน่อย พวกสั่งสอนไม่ได้ท่านฆ่าทิ้ง ฆ่าทิ้งคือไม่สอน

ถ้าจิตใจเรากระด้างจนครูบาอาจารย์ไม่สอน รู้เลยเราเป็นม้าระดับถูกฆ่าทิ้ง ฉะนั้นถ้าครูบาอาจารย์ยังดุด่าว่ากล่าวอยู่ แสดงว่ายังเป็นม้าชนิดฝึกได้อยู่

ความเมตตา ไม่ใช่ว่าเมตตาแล้วปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน อย่าเข้าใจผิดว่าถ้ามีความเมตตาแล้ว เราปฏิบัติกับคนดีคนชั่วเสมอกัน คนหยาบคนละเอียดเสมอกันอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่ๆ

ถึงเราเมตตาเท่าเทียมกันกับคนทุกคน แต่การปฏิบัติ ปฏิบัติให้สมควรแก่คนๆ นั้นที่เขาจะได้ประโยชน์สูงสุด เราอยู่ในบริษัท ลูกน้องเราเยอะ เราเมตตาทุกคน เรารู้ว่าแต่ละคนมีความทุกข์ทั้งนั้น เราเมตตาทุกคน คนไหนมีฝีมือนิสัยดีก็โปรโมต ให้เขาเติบโตไป ให้โอกาสเขาทำงาน

คนซึ่งแย่ลงมาคุณสมบัติบกพร่องตรงนั้นตรงนี้ ก็สั่งสอน สั่งสอนแล้ว ให้โอกาสปรับตัว ให้โอกาสทำงาน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ให้ออก ให้ออกก็คือเหมือนเราฆ่าทิ้ง ถามว่าฆ่าทิ้งด้วยความโหดร้ายทารุณไหม ไม่ใช่ เมตตามาก่อนแล้ว สุดท้ายก็ลงที่อุเบกขา

สัตว์โลกแต่ละตัวๆ มันมีอัธยาศัยใจคอแตกต่างกัน บางตัวยังหยาบเกินไป ก็ต้องปฏิบัติกับเขาอย่างหนึ่ง

นอกจากนี้ ศ.ดร.ไชยันต์ ได้เขียนในคอมเมนต์ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยว่า 

ท่านได้รับความเมตตา อภัยลดโทษเหลือจำคุก 1 ปีมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้น เชื่อว่าคนไทยเราก็เตรียมใจให้อภัยและมีเมตตาให้ท่าน หากท่านสำนึกน้อมรับการจำคุก ที่จริงคนระดับท่านถูกจำคุกจริงๆ ไม่ต้องถึงปี ดีไม่ดี คนไทยขี้สงสารใจอ่อน ท่านจะออกมาใส่กำไลอีเอ็มกลับไปอยู่บ้านเลี้ยงหลาน ก็คงไม่มีใครว่า รังแต่จะมีความเมตตาเห็นใจท่าน แต่ท่านไม่เข้าใจความเมตตาของคนไทยที่พร้อมจะให้ท่าน ท่านกลับคิดถึงแต่ตัวท่านเอง และยังมีทิฐิอยู่มาก

'เจิมศักดิ์' เตือน!! 'สมศักดิ์' ระวัง!! ไม่มีที่ยืนในสังคม ชี้!! ควรดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา แม้ทักษิณไม่พอใจ

(18 พ.ค. 68) รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความว่า ข่าวว่ารัฐมนตรีสมศักดิ์ตั้งแพทย์จำนวน 10 คนกลั่นกรองและให้ความเห็นว่าคุณสมศักดิ์ควรจะใช้สิทธิ์วีโต้แพทยสภาหรือไม่ กรณีทักษิณไม่ป่วยหนักวิกฤตจริง จนต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ตำรวจ ชั้น 14 นานถึง 181 วัน

หากผมเป็นแพทย์ 10 คนที่รัฐมนตรีสมศักดิ์ตั้งให้ช่วยกลั่นกรองให้ความเห็นเรื่องนี้

พวกผมจะบอกรัฐมนตรีสมศักดิ์ ว่า

อย่าเสียเวลาใช้งานพวกผมเลยเพราะหากพวกผมมีความเห็นแย้งกับมติของแพทย์สภาอันประกอบไปด้วย แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือ ก็จะไม่มีใครเชื่อถือความเห็นของพวกผม  หากจะอ้างว่าได้ข้อมูลใหม่จากรัฐมนตรีก็ฟังไม่ขึ้น เพราะทำไมจึงไม่ให้ข้อมูลกับแพทยสภาตั้งแต่เมื่อครั้งมีการพิจารณา ตัวรัฐมนตรีสมศักดิ์ ก็จะนำความเห็นไปอ้าง เพื่อวีโต้ช่วยนักโทษทักษิณได้ยาก เพราะขาดน้ำหนัก ขาดความน่าเชื่อถือ คนจะเชื่อแพทย์สภามากกว่าความเห็นของพวกผม 10 คน ทำให้ถูกสังคมเย้ยหยัน ทั้งตัวรัฐมนตรีและพวกผมไปเปล่าๆ

หากพวกผมมีความเห็นผมพ้องกับแพทยสภา รัฐมนตรีสมศักดิ์ก็จะยิ่งลำบากใจเพราะถ้าลงนามเห็นชอบตามข้อเสนอโดยไม่วีโต้  คุณทักษิณก็อาจจะ โกรธและด่าคุณสมศักดิ์ อยู่ดี แต่หากคุณสมศักดิ์จะใช้สิทธิ์วีโต้แพทยสภาก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้นเพราะ สังคมโดยเฉพาะศาล ก็จะยิ่งเชื่อถือมติแพทยสภา เพราะพวกผมก็เห็นพ้องต้องกับมติแพทย์สภา

แพทย์สภายิ่งต้องยืนยันตามมติเดิมด้วยคะแนนสองในสาม รัฐมนตรีสมศักดิ์ยิ่งไม่มีที่ยืนในสังคม ยกเลิกการแต่งตั้งให้พวกผมกลั่นกรองให้ความเห็น แล้วดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา แม้จะถูกนักโทษทักษิณไม่พอใจแต่ก็คุ้มค่าตัดสินใจครั้งนี้เหมือนแทงพนัน แม้ ท่านจะคุ้นเคย แต่หากไม่ซื่อตรง ก็หมดตัวได้ในคราวนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top