ศาลอุทธรณ์ยืน "ยกฟ้อง" คดีครอบครัวชัยภูมิป่าแส ฟ้อง กองทัพบก ด้านทนายติดใจหลายประเด็น เตรียมขอรับรองฎีกาสู้ศาลสุดท้าย
ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยยืนตามศาลชั้นต้นคือ ยกฟ้อง คดี "ครอบชัยภูมิ ป่าแสฟ้องกองทัพบก" จากกรณีที่ครอบครัวของนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมชาติพันธุ์ลาหู่ เรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ทำหน้าที่ทหารประจำด่านตรวจรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่วิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560
โดยมีทนายรัษฎา มนูรัษฎา และ นางสาวจันทร์จิรา จันทร์แผ้ว ทนายความภาคีนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชนเป็นผู้ดูแลคดีครอบครัวนายชัยภูมิ ในฐานะทนายความโจทก์ และวันนี้มีนางอังคณา นีละไพจิตร นักสิทธิมนุษยชน เข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ด้วย โดยศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และพิจารณายกฟ้อง ยืนตามศาลชั้นต้น
นายรัษฎา กล่าวภายหลังศาลอุทธรณ์ยกฟ้องว่า ทางทนายความเคารพคำตัดสินของศาลแต่ก็มีประเด็นที่ติดใจและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นกล้องวงจรปิดพี่ศาลไม่ให้ความสำคัญ แต่ให้น้ำหนักพยานบุคคล และศาลเห็นว่า กระสุนจากอาวุธสงครามของทหาร ที่ยิงเข้าต้นแขนและทะลุซี่โครงนายชัยภูมิ เป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตนั้นเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้เป็นการวิสามัญฆาตกรรม รวมถึงกรณีการพิสูจน์ DNA ของนายชัยภูมิ บนวัตถุระเบิด ซึ่งยังมีข้อกังขาอยู่
ทนายรัชฎา เปิดเผยว่า ทางทนายความจะปรึกษาทางครอบครัวนายชัยภูมิและเห็นว่าต้องต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยจะยื่นศาลแพ่งต่อไป ซึ่งลักษณะของคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างยกฟ้องนั้น มีกระบวนการที่จะต้องให้ผู้พิพากษาที่นั่งบัลลังก์หรือตัดสินในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์หรือทั้ง 2 ศาลที่ยกฟ้องคดีไปนั้น "รับรองว่าคดีนี้มีปัญหาสำคัญอันควรเข้าสู่การพิจารณาของศาลสูงหรือศาลฎีกา" ตามกระบวนการ ซึ่งฝ่ายโจทก์ จะดำเนินการหลังจากนี้
