Friday, 3 May 2024
ฉีดวัคซีน

“โฆษกรัฐบาล” เผย ยอดฉีดวัคซีนสะสม 70 ล้านโดส ลั่น พร้อมรับนทท.ต่างชาติ “บิ๊กตู่” ย้ำ ปชช.เข้มมาตรการป้องติดเชื้อ มีส่วนพลิกโฉมประเทศ 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมพร้อมรับเปิดประเทศ ตามนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ว่า ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดส เข็มที่ 1 สะสม 39,836,306 โดส คิดเป็น 55.28 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 2 สะสม 28,293,679 โดส คิดเป็น 39.26 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรไทยทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 56.59 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายประมาณ 50 ล้านคน หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั่วประเทศ เข็มที่ 3 สะสม 2,072,629 โดส และเข็มที่ 4 สะสม 1,631 โดส รวม 70,204,245 โดส 

ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป นักเรียนชั้น ป.6,ม.1นักศึกษา ปวช. 1-3,ปวส. 1-2 ฉีดสะสมแล้วจำนวน 2,032,794 คน คิดเป็น 53.78 เปอร์เซ็นต์ (จากจำนวนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,779,871 คน) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 ในรูปแบบในที่ตั้ง 

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนตามแผน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงต่อเนื่อง  และเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม  โดยเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิต ที่ต่ำกว่า 100 ราย มากว่าครึ่งเดือนแล้ว โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 9,742 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 10,182 รายยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย. 2564 จำนวน 1,812,268 ราย และยอดหายป่วยสะสม 1,693,203 ราย  ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนลดลงต่ำกว่าหมื่นราย ติดต่อกันหลายวันแล้ว ส่วนยอดผู้ป่วยหายกลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตลดลง สะท้อนความบริหารสถานการณ์โควิด -19 ของรัฐบาลและความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี

นายกฯ พอใจ เป้าหมาย 100 ล้านโดส หลังฉีดได้เร็วกว่าแผนเดิมถึง 1 เดือน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไทย เดินหน้าได้อย่างรวดเร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้เดิม 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าไทยจะบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ 100 ล้านโดส ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมถึง 1 เดือน ซึ่งกรมควบคุมโรค ยังเร่งกระจายวัคซีนในสต็อกทั่วประเทศ โดยได้จัดส่งไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ถึง 11 ล้านโดส เพื่อเร่งให้ทุกพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย 

โดยหลายพื้นที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรังกว่าร้อยละ 80 แล้ว เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน ‘หมอพร้อม’ รายงานการฉีดวัคซีนสะสม ณ วันที่ 11 พ.ย. เวลา 12.18 น. จำนวน 83,217,981 ล้านโดส แบ่งเป็น

“นายกฯ”ชวน ปชช.ฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ตั้งเป้าฉีด100ล้านโดสในเดือนพ.ย.นี้ ย้ำ”อสม.-ท้องถิ่น” ช่วยกลุ่มเปราะบางเข้าถึงระบบฉีดวัคซีน

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เชิญชวนประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในเกิดขึ้นโดยเร็ว สร้างความแข็งแกร่งในระบบสาธารณสุขรองรับการระบาด ลดความรุนแรงและเสียชีวิตในประชากรกลุ่มเสี่ยง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และเปิดประเทศตามแผนที่กำหนด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ข้อมูลการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564 - 11 พ.ย.2564 ฉีดวัคซีนสะสม  83,320,621 โดส เข็มที่ 1 สะสม 44.8 ล้านราย หรือร้อยละ 62.2 เข็มที่ 2 สะสม 35.8 ล้านราย หรือร้อยละ49.7 เข็มที่ 3 สะสม 2.7 ล้านราย หรือร้อยละ 3.8  มี 9 จังหวัดที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ร้อยละ 70 คือเชียงใหม่ กรุงเทพ สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต ปทุมธานี สมุทรสาคร สงขลา ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าจะฉีดวัคซีนได้ครบจำนวน 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรร้อยละ 70 ภายในเดือนพ.ย.นี้ โดยรัฐบาลกำหนดเป้าหมายที่จะฉีดเข็มที่ 1 ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือน พ.ย. 2564 ร้อยละ 80 ภายในเดือน ธ.ค. 2564 เข็มที่ 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือน ธ.ค. 2564 ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยจัดหาวัคซีนแล้ว จำนวน 128.6 ล้านโดส มากกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้

โควิดหวนคืนยุโรปเต็มตัว แม้ฉีดวัคซีนได้มาก วีกเดียวติดพุ่ง 2 ล้าน ตายเฉียด 3 หมื่น 

องค์การอนามัยโลก แถลงที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ยุโรปกำลังเผชิญผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยมีการยืนยันผู้ติดโควิดรายใหม่เกือบ 2 ล้านคนในทวีปยุโรป ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 7 พฤศจิกายน ถือเป็นตัวเลขสูงสุด ตั้งแต่โควิดเริ่มระบาด

นอกจากนั้น ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกเกือบ 27,000 คน ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกในช่วง 1 ถึง 7 พฤศจิกายน

ทีโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการอนามัยโลก บอกว่า ขณะนี้ บางประเทศในยุโรป กลับมาใช้มาตรการจำกัดอย่างเข้มงวดอีกครั้ง เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด และลดแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขในประเทศ

เยอรมนี ขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน คุมเข้มโควิด หลังยอดผู้ป่วยพุ่ง หวั่น!! สธ.รับมือไม่อยู่

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนีเริ่มเลวร้ายลงต่อเนื่อง ทำให้หลายรัฐออกมากระตุ้นพรรคการเมือง ที่กำลังเจรจาจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ต่อเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก ขณะที่ผู้ป่วยโควิดเริ่มล้นโรงพยาบาลอีกครั้ง เตียงในห้องผู้ป่วยหนักใกล้เต็มความจุ

รัฐมนตรีสาธารณสุข 3 รัฐ จากทั้งหมด 16 รัฐของเยอรมนี คือ รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค, รัฐเฮสเซน, รัฐบรันเดินบวร์ค เรียกร้องให้พรรคการเมืองที่กำลังเปิดการเจรจาตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ขยายอำนาจรัฐในการบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น การใช้มาตรการจำกัดพื้นที่ หรือการปิดโรงเรียน ขณะอัตราการติดเชื้อในประเทศระยะ 7 วัน ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง

โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 277.4 ซึ่งเป็นข้อมูลจากสถาบัน โรแบร์ท ค็อค หรือ RKI หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเยอรมนี ที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (13 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา และเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500 ในหลายภูมิภาคของประเทศ

มาร์บูร์เกอร์ บันด์ ประธานสมาคมแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี กล่าวกับสื่อเยอรมนีว่า ห้องฉุกเฉิน หรือไอซียู ที่ผู้ป่วยมากขึ้นจนไม่สามารถรับมือได้ไหว อาจต้องย้ายผู้ป่วยระหว่างภูมิภาค เพื่อไปหาเตียงว่าง ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

ด้านรัฐบาลกลางและบรรดาผู้นำ 16 รัฐของเยอรมนี เตรียมหารือกันเกี่ยวกับการใช้มาตรการใหม่ในการควบคุมการระบาดของไวรัสในสัปดาห์หน้านี้ แต่ 3 พรรคการเมืองที่กำลังเจรจาต่อรองจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ตกลงที่จะขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ไวรัสเริ่มต้นระบาด ที่ตามแผน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้

รัฐมนตรีสาธารณสุขของ 3 รัฐ แย้งว่า รัฐต้องเปิดทางเลือกเพื่อดำเนินการตามนโยบาย ซึ่งบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น เช่น การห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว, การจำกัดพื้นที่ หรือปิดโรงเรียน หากสถานการณ์เลวร้ายลง

“อนุทิน” เผย “นายกฯ” สั่งดึงราคาน้ำมันให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร พร้อมเร่ง ปิดจ็อบฉีดเข็ม 1 เชื่อ สิ้นเดือนพ.ย.นี้ ตัวเลขเฉียด 100 ล้านโดส วอน ทิ้งวัคซีนจองรพ.เอกชน มารับของรัฐบาลก่อน  

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรื่องการแก้ปัญหาพลังงาน ว่า ขอให้ฟัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ชี้แจง 

เมื่อถามว่าโยงถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มรถบรรทุกด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พยายามตอบสนองข้อเรียกร้องของสมาพันธ์ต่างๆ เราฟังเสียงทุกเสียง ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีสั่งการอะไรพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องการสั่งการเชิงนโยบาย ให้รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงพลังงาน ดำเนินการ เมื่อถามว่านายกฯกังวลเรื่องกลุ่มรถบรรทุกที่ออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้กังวลตรงนั้น แต่กังวลความเดือดร้อนของผู้ประกอบการมากกว่า ก็พยายามหาวิธีแก้ไข

เมื่อถามว่า ได้มีมาตรการออกมาแล้วด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มี จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งปลัดกระทรวงพลังงานระบุว่าอาจจะหลังต้นเดือนธ.ค. แต่นายกฯกำชับให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เมื่อถามอีกว่าราคาน้ำมันดีเซลจะต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ ต้องเป็นอย่างนั้น ส่วนจะต่ำกว่าเท่าไหร่ก็พยายามให้เยอะที่สุด นี่คือสิ่งที่รัฐบาลรับฟัง 

'รองโฆษกรัฐบาล' เผย 'นายกฯ'  ขอบคุณคนไทย ฉีดวัคซีนใกล้เป้า 100 ล้านโดส ทุกฝ่ายร่วมกันจัดฉีดประชากรเข้าถึงยาก

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยแนวทางการเร่งรัดฉีดวัคซีนโควิด – 19 ของประเทศไทย ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยให้ทุกจังหวัดรวมทั้ง กรุงเทพมหานคร จัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทั้งสัญชาติไทย และไม่ใช่สัญชาติไทย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนให้เข้ารับวัคซีนโดยเร็ว

เน้นการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงได้ยาก เช่น แรงงานประมง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร แรงงานตามแนวชายแดนโดยมอบหมายให้สสจ. กทม. ประสานหน่วยงานผู้รับผิดชอบและภาคีเครือข่าย อีกทั้งจัดให้มีการบริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ หรือจัดรณรงค์เร่งการฉีดวัคซีน รวมทั้งการฉีดวัคซืนเข็มกระตุ้นเพื่อให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มด้วย 

สำหรับตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลจากหมอพร้อม วันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ยอดสะสม 98.5 ล้านเข็ม แบ่งเป็น เข็ม 1 สะสม 50.2 ล้านเข็ม เข็ม 2 สะสม 43.8 ล้านเข็ม และเข็ม 3 สะสม 4.5 ล้านเข็ม

"นายกฯขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือกันฉีดวัคซีนด้วยความสมัครใจ นอกจากจะป้องกันตนเองและยังมีส่วนกับรัฐบาลในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งนายกฯมั่นใจว่า ไทยจะบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดให้ได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ และขอให้ผู้ที่ถึงเวลากำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อทุกคนจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน" น.ส.รัชดา กล่าว

ผู้นำฝรั่งเศส ขู่จำกัดสิทธิคนไม่ฉีดวัคซีน หลังยอดติดโควิดพุ่ง 3.3 แสนคนใน 1 วัน

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในฝรั่งเศสพุ่งทุบสถิติกว่า 332,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อวันพุธ (5 ม.ค.) ขณะที่ประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง ถูกฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์ยับ หลังหลุดปากพูดว่าจะทำให้คนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนต้อง “ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก”

ผู้ติดเชื้อรายวันในฝรั่งเศสพุ่งทะลุหลัก 300,000 คนเป็นครั้งแรก หลังจากที่เพิ่งทำสถิติสูงสุด 271,686 คนไปหมาดๆ เมื่อวันอังคาร (4 ม.ค.) ขณะที่ยอดผู้ป่วยแอดมิดเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 2,483 คน และมีอยู่ 396 คนที่อาการหนักจนต้องใช้เตียงไอซียู

โอลิวิเยร์ เวราน รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งเศส ได้แจ้งต่อรัฐสภาว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ “เท่าที่จำได้” อยู่ที่ราวๆ 335,000 คน แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง หน่วยงานสาธารณสุขฝรั่งเศสได้ออกมาให้ตัวเลขยืนยันที่ 332,252 คน

รัฐบาลฝรั่งเศสมีแผนที่จะปรับใช้มาตรการใหม่ โดยจะมอบ “บัตรผ่านวัคซีน” (vaccine pass) ให้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเท่านั้น จากปัจจุบันที่อนุญาตให้ประชาชนแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน ผลตรวจที่เป็นลบ หรือหลักฐานที่ยืนยันว่าเพิ่งหายป่วยจากโควิด-19 ก่อนเข้าใช้บริการในร้านอาหาร คาเฟ่ และพื้นที่สาธารณะอื่นๆ

เวราน เผยด้วยว่า เมื่อวันพุธ (5 ม.ค.) มีชาวฝรั่งเศสเดินทางไปรับ “วัคซีนเข็มแรก” มากถึง 66,000 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว และเขาเชื่อว่าหากสามารถคงตัวเลขนี้ไว้ได้ “อีก 70-75 วัน” ประชากรฝรั่งเศสก็จะไม่ป่วยหนักจากโควิด-19

“นายกฯ” ห่วง “ผู้สูงวัย-ป่วยติดเตียง" เสี่ยงป่วยโควิด-19 แนะ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อป้องกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมเป็นห่วงครอบครัวที่มีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ขอให้เพิ่มความระวังสูงสุด แยกส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ลดการติดเชื้อในครอบครัว หากมีบุคคลที่มีความเสี่ยง สูงอายุ ติดเตียง อาจป่วยและเสียชีวิตได้  และแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นหญิงไทย อายุ 86 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงและอัลไซเมอร์ ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รายแรกของจ.สงขลา ยืนยันว่าวัคซีนทุกสูตรพบมีประสิทธิผลป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากแต่ละสายพันธุ์สูง แต่เนื่องจากประสิทธิผลของวัคซีนในส่วนการป้องกันการติดเชื้อมีสูง จะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป  

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันที่ 17 ม.ค.รวม 6,929 ราย จำแนกเป็น
ผู้ป่วยจากในประเทศ 6,720 ราย มาจากต่างประเทศ 209 ราย ผู้ป่วยสะสม 107,979 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 5,255 ราย
หายป่วยสะสม 58,772 ราย 
ผู้ป่วยกำลังรักษา 82,210 ราย
เสียชีวิต 13 ราย

พิจิตร - ผู้ว่าฯพิจิตร จัดพบสื่อแถลงข่าววันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิดแค่ 2 ราย ยืนยัน! พร้อมหาวัคซีนเข็ม 3 ฉีดครูและประชาชน

วันที่ 19 มกราคม 2565 นายไพบูลย์  ณะบุตรจอม  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้จัดกิจกรรมพบสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวที่ห้องประชุมโรงแรมมีพรสวรรค์ ซึ่งจัดขึ้นโดย นางสาวอัชณัฐ  ปราถนารักษ์  ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร รวมถึงมีผู้สื่อข่าว-นักจัดรายการวิทยุ-เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์รวมแล้วกว่า 50 คน  ที่เข้าร่วมรับฟังผู้ว่าฯพิจิตร , ดร.ปัญญา หาแก้ว  ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร , ดร.มานิตย์  นาคเมือง  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 , นายจันทบูรณ์  เขตการ  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ที่ร่วมกันแถลงข่าวในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องสำคัญคือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด โดยผู้ว่าฯพิจิตร แจ้งว่า วันนี้พิจิตรพบผู้ป่วยรายใหม่เพียงแค่ 2 ราย และต่อจากนี้ก็จะเร่งเชิญชวนให้ชาวพิจิตรฉีดวัคซีนเข็ม 2 และ เข็ม 3  ให้ได้ครบ 100% โดยมีแผนให้ อสม. และหมออนามัยเดินเคาะประตูบ้านไปฉีดวัคซีนให้ถึงบ้าน นอกจากนี้ก็จะจัดหาวัคซีนให้บุคลากรครูของจังหวัดพิจิตรใน 12 อำเภอ ประมาณ 2 หมื่นคนเศษ ให้ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 รวมทั้งนักเรียนที่อายุเกิน 12 ปี  ด้วยเช่นกัน ส่วนเด็กนักเรียนที่อายุ 5 ปีขึ้นไป เร็วๆนี้ก็จะมีวัคซีนฉีดให้อีกด้วย

โดย  ดร.มานิตย์  นาคเมือง  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต1 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 131 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ On Site จำนวน 129 แห่ง หรือ 97 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3

นายจันทบูรณ์  เขตการ  ผอ.สนง.ประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 แถลงว่ามีโรงเรียนในความดูแล 122 แห่ง ขณะนี้เปิดทำการเรียนการสอนแบบ  On Site จำนวน 101 แห่ง หรือ 82 % ส่วนครูฉีดวัคซีนเข็ม 1 ครบ 100% แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยขอรับการฉีดวัคซีนเข็ม 2 และเข็ม 3 ด้วยเช่นกัน

ดร.ปัญญา หาแก้ว ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร แถลงว่าระดับมัธยมมีโรงเรียน 30 แห่ง ครู 1,300 คนเศษ เด็กนักเรียนรวม 17,662 คน  ครูฉีดวัคซีนแล้ว 99 % ส่วน 1% ที่ขาดไปคือมีปัญหาด้านสุขภาพจึงไม่ขอรับการฉีดวัคซีนแต่ขอใช้วิธีดูแลตนเองด้วยมาตรการเข้มข้น ส่วนเด็กนักเรียนระดับมัธยมฉีดวัคซีนแล้ว 96% แต่จาก 12 อำเภอยังมีไม่ขอฉีดวัคซีนประมาณ 600 คน เนื่องจาก ผู้ปกครองไม่ยินยอมด้วยเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ แต่ก็มาโรงเรียนต้องถูกตรวจ ATK อย่างสม่ำเสมอ

รวมถึงการจัดการเรียนการสอนห้องหนึ่งก็ให้นั่งเรียนได้ไม่เกิน 25 คน โดยสรุปผู้บริหารสถานศึกษาทั้ง 3 ท่านแถลงว่าเด็กส่วนใหญ่อยากมาโรงเรียน ส่วนเด็กเล็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ไม่น่าห่วงเพราะเด็กเล็กไม่ได้เที่ยวไกลและอยู่ในสายตาของพ่อแม่- ครู –ผู้ปกครอง ที่น่าห่วงคือเด็กระดับมัธยมและอาชีวะเพราะเป็นวัยรุ่นรัศมีการท่องเที่ยวและการพบเพื่อนมากกว่าเด็กเล็ก แต่ก็ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อีกทั้งสถิติของผู้ติดเชื้อโควิดในพิจิตรส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านหรือผู้ที่เดินทางมาจากเมืองใหญ่แล้วเอาเชื้อโควิดมาแพร่กระจายให้กับคนในครอบครัวเสียมากกว่า ส่วนการแพร่ระบาดภายในโรงเรียนมีสถิติพบน้อยมากจึงไม่น่าห่วง

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top