Monday, 6 May 2024
จังหวัดชายแดนภาคใต้

ผู้ป่วยติดโควิด-19 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีใจ!! หลังได้รับ "COVID HOME CARE" ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต้องกักตัวที่บ้าน ให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัย

วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564  นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบกล่องโควิดโฮมแคร์ จำนวน 100 ชุด ข้าวสาร ไข่อาหารแห้ง ขนมเด็ก และเสื้อ PPE ยาฟ้าทลายโจร โดยมี พันเอก รณชัย เวียงวงษ์ ผบ.นพค.42 สำนักพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาให้เกียรติร่วมพิธี พร้อมด้วย นายอับดุลฮาดี เจ๊ะยอ ข่าวสด จ.ยะลา นายนิแอ สามะอาลี นักประชาสัมพันธ์ สำนักงานประประชาสัมพันธ์ จ.ยะลา ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ ให้ชาวบ้านที่ติดโควิดรักษาตัวที่บ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.กาบัง อ.ยะหา อ.เมือง จ.ยะลา อ.เมือง อ.โคกโพธิ์ อ.มายอ จ.ปัตตานี อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

โดย นายแพทย์ฆนัท ครุฑกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ผู้รับผิดชอบโครงการ Covid Home Care กล่าวว่าได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส และพื้นที่ในจังหวัดสงขลายังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเตียงสนามไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยโควิด ทำให้ผู้ป่วยต้องกักตัวเองและดูแลรักษาตัวที่บ้านในเบื้องต้นมีความต้องการเพิ่มขึ้น ดังนั้น สมาคมสมาพันธ์ฯและเครือข่ายเราดูแลกัน หรือ we care network ได้ร่วมกับสมาคมนักสื่อพิมพ์ภาคใต้และศูนย์พัฒนาอาชีพกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดที่ต้องกักตัวที่บ้านให้สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระแก่บุคลากรทางการแพทย์อีกทางหนึ่ง

นายกสมาคมสมาพันธ์ฯกล่าวโดยเบื้องต้นจะมอบกล่อง COVID HOME CARE จำนวน 100 กล่องเพื่อให้พันธมิตรทั้ง 2 องค์กรนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อที่ต้องการรักษาตัวเองที่บ้าน  นอกจากนี้ทางสมาคมสมาพันธ์ฯยังได้ร่วมกับสถานีวิทยุ ม.อ ปัตตานีเพื่อนำกล่อง COVID HOME CARE มอบให้กับผู้ป่วยโควิดที่ต้องการรักษาตัวเองที่บ้าน ซึ่งได้มอบไปแล้ว 100 กล่อง ทางวิทยุ ม.อ ปัตตานี ได้นำมอบให้ผู้ป่วยไปหมดแล้ว ทางโครงการฯก็จะมอบกล่องเพิ่มอีก 100 กล่องเพราะมีผู้ป่วยต้องการรักษาตัวเองที่บ้านเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทางโครงการเปิดช่องทางติดต่อผ่าน Line : @covidhomecare ให้ผู้ป่วยโควิดเข้ามาลงทะเบียน และจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปเพื่อให้คำปรึกษาในแนวทางการรักษาตัวเองที่บ้านได้ 

“เราคาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยลดความแออัดที่โรงพยาบาล ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลได้อย่างทั่วถึง“ นายแพทย์ฆนัทฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายมะสากี อาบูถัดสา อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฮิลาลอะห์มัร กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่ได้กล่องโควิด COVID HOME CARE เพื่อมอบให้กับชาวบ้านที่ติดโควิดแล้วรักษาตัวที่บ้าน ตอนนี้ เตียงเต็มชาวบ้านต้องการ COVID HOME CARE แบบนี้จำนวนมาก ทำให้เราทุกคนที่ได้รับวันนี้รู้สึกดีใจ อย่างบอกไม่ถูก

 

นราธิวาส - ศอ.บต.นำร่องโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลครัวเรือนที่มีฐานะยากจนเพื่อช่วยเหลือ

นายธารธรรม คำแป้น นิติกร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย นายอับดุลเลาะ สือรี กำนัน ต.รือเสาะ นายอัสรี หะยีสือนิ ผู้ใหญ่บ้าน ม.10  ต.รือเสาะ และบัณฑิตอาสา ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปยังบ้านของนางเจ๊ะมะ สะอิ อยู่บ้านเลขที่ 292/3 ม.10 บ้านบาซาบาตอ ต.รือเสาะ อ.รือสา จ.นราธิวาส เพื่อสำรวจข้อมูลครัวเรือนที่มีฐานะยากจน ตามโครงการ นำร่องโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของ ศอ.บต.ที่บูรณาการขจัดความยากจนพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ประชุมคณะกรรมการศูนย์บูรณาการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชายแดนภาคใต้วางแผนการดำเนินงานนำร่องให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ศอ.บต. เป็นข้าราชการนำร่องประกบครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งมีจำนวนนำร่อง 379 ครัวเรือน ใน 43 อำเภอ จากจำนวนสำรวจทั้งสิ้น 37,395 ครัวเรือน โดยพิจารณาจากเกณฑ์ความยากจนทับซ้อน 5 มิติ คือ มิติความจนด้านสุขภาพ รายได้ การศึกษา ความเป็นอยู่ และความจนด้านมิติการเข้าถึงบริการภาครัฐ หวังขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่าการแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จชต. โดย ศอ.บต. ในฐานะหน่วยนำการพัฒนา จะเป็นหน่วยขับเคลื่อน เสริม และเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยจะมี การนำร่องโครงการ ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ศอ.บต. ลงพื้นที่ประกบครัวเรือนเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายงานเรียบร้อยแล้ว และเตรียมลงพื้นที่ตามแผนที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ประกบ ช่วยเหลือประชาชนในโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจนในครั้งนี้ เป็นการนำร่องเพื่อค้นหารูปแบบที่ดีที่สุด ในการช่วยเหลือประชาชนให้พ้นเกณฑ์ ความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าให้เห็นเป็นรูปธรรมในไตรมาสที่จะถึงนี้

 

‘กอ.รมน.ภาค 4 สน.’ ร่วมกับ ‘กรมป่าไม้’ ประชุมแนวทางป้องกัน "การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้" ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกำหนดมาตรการทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 10.00 น. ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี “นายสุรชัย อจลบุญ” อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นประธานการประชุมแนวทางการป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยมี พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ และเข้าร่วมประชุม พร้อมด้วยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้, พลตรีอนุสรณ์ โออุไร เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, คณะผู้บังคับบัญชา และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

สำหรับการประชุมแนวทางการป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ เพื่อให้ส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมร่วมกันเสนอแนวคิด แนวทางการปฏิบัติ และการแก้ไขปัญหาที่ตรวจพบจากการปฏิบัติงานของทุกหน่วยที่ผ่านมา ทั้งปัญหาการลักลอบการตัดไม้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และการบุกรุกที่ดินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานกองอำนวยการรักษาความมุั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าในการช่วยกันทำให้ทรัพยากรธรรมชาติ และป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสมบูรณ์ และคงอยู่ตลอดไป

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า "จากข้อห่วงใยของรัฐบาลในการบุกรุกการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการลักลอบการตัดไม้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จึงได้ลงพื้นที่มาในวันนี้ สำหรับวันนี้ได้หารือพร้อมกำหนดมาตรการร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 ในการดำเนินการการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าโดยใช้ช่องว่างของกฎหมายในรูปแบบต่าง ๆ มีมาตรการเร่งด่วน ในการดำเนินการการเข้าตรวจสอบว่าไม้นั้นมาจากที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยชอบทางกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และตรวจสอบปลายทาง ทั้งโรงเลื่อยไม้ โรงแปรรูปไม้ ไม่ให้มีการนำมาแปรรูป หรือไม้ท่อนที่ผิดกฎหมายเข้ามายังโรงงาน"

ด้าน พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า "ในห้วงที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหน่วยทหารในพื้นที่ในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการติดตามดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตลอดจนการปฏิบัติงานเชิงรุกในการฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรป่าไม้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาส พบว่ายังคงมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด กองทัพภาคที่ 4 โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งให้การสนับสนุน ทางกรมป่าไม้ในเรื่องการดูแลทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ ในขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมการปฏิบัติการเชิงรุกจะดำเนินการร่วมกัน

 

เลขาธิการ ศอ.บต. พบปะ สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมแถลงนโยบายแผนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

ในห้วงที่ผ่านมาและที่จะดำเนินต่อไปในปี 66 เน้นยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนมีความกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันในวิถีพหุวัฒนธรรมที่ โรงแรมริเวอร์ ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมเสวนาสร้างการรับรู้การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้แก่สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยมี นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ตลอดจนสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม

ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้พบปะเพื่อขอบคุณสื่อมวลชนในการทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสื่อสารการทำงานของ ศอ.บต. ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนสำคัญมากต่อการทำให้บ้านเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุขเพราะพี่น้องสื่อมวลชนถือว่าเป็นกลไกหลักที่สร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องราวที่สำคัญของบ้านเมืองให้กับพี่น้องประชาชนที่จะทำให้เกิดทัศนคติที่ดี พร้อมกันนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้แถลงนโยบายแผนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงที่ผ่านมาและที่จะดำเนินต่อไปในปีงบประมาณ 2566 ที่เน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนมีความกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันในวิถีพหุวัฒนธรรม อาทิ ในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพชีวิตซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนตามฐานข้อมูล TPMAP ทั้ง 5 มิติ ประกอบด้วย มิติด้านสุขภาพ การศึกษา รายได้ ความเป็นอยู่ และการเข้าถึงสวัสดิการแห่งรัฐ และยังรวมไปถึงกลุ่มเปราะบาง ซึ่ง ศอ.บต. กำลังเดินหน้าในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการแก้ไขปัญหาความยากจน ศอ.บต. ได้ขับเคลื่อนโครงการ 1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน ซึ่งเป็นการจัดเจ้าหน้าที่ข้าราชการประกบครัวเรือนยากจนโดยประสานกับชุดข้าราชการตำบลทุกภาคส่วนโดยข้าราชการจะทำหน้าที่เฝ้า ประกบ ติดตาม รายงาน เพื่อแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาได้มีการนำร่องแล้ว 400 ครัวเรือน ปี 66 จะขยับขึ้นอีก 1,200 ครัวเรือน โดยเลขาธิการ ศอ.บต. เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาภาคใต้ต้องตอบโจทย์และต้องยั่งยืน 

นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร มีการส่งเสริมการผลิตจากพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เช่น มะพร้าว ข้าว กาแฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการปลูกกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์พื้นถิ่น ซึ่งเป็นพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ได้มีพระประสงค์ให้มีการอนุรักษ์พันธุ์กาแฟพื้นถิ่น และพัฒนากระบวนการผลิตให้เป็นกาแฟที่เป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมอาชีพปศุสัตว์ ภาคการท่องเที่ยว ส่งเสริมศักยภาพของวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก โดยเน้นการสร้างอัตลักษณ์เฉพาะของแหล่งท่องเที่ยว

ผอ.ศปพร. พบปะ เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ พี่น้องสมาชิกองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) สืบสาน รักษา ต่อยอด แนวทางศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

(31 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง(กลุ่มเสื้อเขียว) หมู่ที่ 10 บ้านคีรี ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ลงพื้นที่พบปะ เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ แก่สมาชิกองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) ของจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งรับทราบปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงาน รวมถึงแนวทางการปฏิบัติ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการดำเนินงานตามแนวทางศาสตร์พระราชา ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรเครือข่ายในการขับเคลื่อนกิจกรรมด้านต่าง ๆ โดยมี พันเอกกำธร ศรีเกตุ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 /รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ,นาย อิสมาแอ แต รองประธาน องค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ 

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ตามที่ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ได้มอบหมายให้ คณะทํางานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ คณะที่ 3 ดําเนินการจัดกิจกรรมการขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างประชาชนในพื้นที่กับภาครัฐ และติดตามความก้าวหน้าในการดําเนินงาน ของศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ด้วยการบูรณาการดําเนินงาน ร่วมกับส่วนราชการ ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายทหาร พลเรือน รวมทั้งองค์กร ภาคประชาชนเพื่อสันติ และเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) พร้อมทั้งได้กําหนดเป้าหมายในการลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียน ติดตามความก้าวหน้า ของการดําเนินการ รับฟังปัญหาข้อเสนอแนะ และความต้องการของสมาชิก 

‘สมช.-ศอ.บต.-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง’ ประชุมเตรียมดูแลคนไทย-นศ.ไทยในซูดาน หลังเหตุปะทะยังรุนแรง วางแผนเตรียมอพยพ-ช่วยเหลือด้านเทียบโอนหน่วยกิต

(22 เม.ย.66) นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยนายสมชาย เกียรติ์ภราดร ผู้อำนวยการกองบริหารยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมบูรณาการและประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงาน ในการเตรียมความพร้อมการดูแลคนไทยและนักศึกษาไทยมุสลิมที่ศึกษาในสาธารณรัฐซูดาน ณ ห้องประชุมเจริญจิตต์ ณ สงขลา ศอ.บต. โดยมีพลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมฯ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมผ่านระบบ (Video Conference System) 

โดยในที่ประชุมกระทรวงต่างประเทศ ได้รายงาน สถานการณ์ที่ประเทศซูดานว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่นอน เนื่องจากการปะทะกันยังกระจัดกระจายและยังมีความเสี่ยงทั้งการอยู่ภายในที่พักอาศัยและการออกมาภายนอก อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้เสนอ Option เส้นทางการอพยพสู่พื้นที่ปลอดภัย ณ สนามบินประเทศเพื่อนบ้านซูดานเช่น ไคโร ซาอุ และ ฐานทัพสหรัฐที่ Djibouti โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ จะหารือเรื่องการอำนวยความสะดวกต่างๆ กับประเทศที่เกี่ยวข้อง ร่วมทั้งพันธมิตรประเทศที่มีความพร้อมในการอพยพด้วย นอกจากนี้ทางกองทัพได้เตรียมความพร้อมของอากาศยานโดยการจัดเตรียมเครื่องบินไว้แล้วและรอการพิจารณาเส้นทางที่แน่ชัดจากทางภาครัฐ ซึ่งจะร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ ในการสนับสนุนการอพยพคนไทย การรับรองดูแลคนไทยเมื่อกลับถึงประเทศไทย โดยเฉพาะนักเรียนไทยมุสลิมในพื้นที่ จชต. ซึ่งทาง ศอ.บต. จะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหารถโดยสารรวมถึงการดูแลนักเรียนไทยให้สามารถเทียบโอนหน่วยกิตการศึกษามายังสถานศึกษาในไทย การสื่อสารประชาสัมพันธ์ ทั้งในส่วนของเยาวชนที่อยู่ในพื้นที่ซูดาน ผู้ปกครอง และสังคมไทยโดยรวม

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะเดินทางมาประชุมตรวจเยี่ยมและมอบของบำรุงขวัญให้ข้าราชการตำรวจและพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต. สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.กฤษฏา แก้วจินดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.7 บก.ทล. เดินทางมาประชุมตรวจเยี่ยมและมอบของบำรุงขวัญให้ข้าราชการตำรวจและพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความห่วงใยในสถานการณ์และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาศาสนสถานวัดราษฎร์บูรณาราม หรือ วัดช้างให้ ริมทางรถไฟสายหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาศาสนสถาน ทำความสะอาด เก็บกวาดขยะ ตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณโดยรอบวัด เพื่อให้มีความสะอาด สวยงาม ตรวจเยี่ยมกำลังพลในสังกัดสถานีตำรวจทางด่วน 5 กองกำกับการ 7 และสภ.ปะลุกาสาเมาะ พร้อมทั้งประชุมรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้นำศาสนาชาวมุสลิม และมอบเงินให้กับ วัด ชุมชน มัสยิด และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การตรวจราชการเป็นนโยบายที่ทาง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เน้นย้ำบำรุงขวัญผู้ใต้บังคับบัญชาโดยเฉพาะข้าราชการตำรวจที่ปฎิบัติอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทำงานในพื้นที่ตลอด 24 ชม. และอยู่ในความขาดแคลนจริงๆ ทั้งในส่วนของกำลังพลอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ยังอยู่ตรงที่มีการบูรณาการหลายหน่วยงานที่ทำงานร่วมกันทั้ง ฝ่ายปกครองตำรวจทหาร ทหารพราน อาสาสมัคร ที่ทำงานเข็มแข็ง ในวันนี้ไม่ได้มาตรวจเยี่ยมการทำงานของตำรวจเท่านั้น เราให้ขวัญกำลังใจกับทุกหน่วยที่ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งในวันนี้มีผู้นำศาสนามาร่วมด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทำโครงการจิตอาสาในเรื่องของความเป็นอยู่ทั้ง 3 จังหวัด อีกทั้งยังได้กิจกรรมโครงการปันสุขผ่านทีมงานจิตอาสา 904ในการทำบ้านให้กับคนที่ไร้บ้าน โดยในห้วง 2 -3 ปีที่ผ่านมาได้มอบความสุขผ่านการสร้างบ้านไปแล้วกว่า 28 หลัง 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า เราอาจไม่ได้เห็นความสงบสุขในเร็ววัน แต่เรากำลังสร้างความสุขให้พี่น้องสามจังหวัดชายแดนใต้ เราอยากได้อะไรกับเขา พี่ก็จะ พยายามให้พวกเขาก่อน ทั้งความรักความจริงใจทุกอย่าง จากที่เราเห็นว่าวันนี้มีผู้นำศาสนากว่า 21 มัสยิดมาร่วมงานเป็นนิมิตหมายที่ดีในส่วนหนึ่ง เฟืองจักรสำคัญกำลังหมุน ความรักความเข้าใจการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตนก็พยายามเน้นย้ำการทำโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่ง คือการสืบสาน รักษา ต่อยอด และการปิดทองหลังพระ สักวันหนึ่งก็จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามขอบคุณพี่น้องชาวไทยมุสลิมสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น และได้เน้นย้ำผู้ปฎิบัติให้ดำเนินการทำซีเอสอาร์ในเรื่องของการทำจิตอาสาเข้ามาในพื้นที่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า กำชับการปฏิบัติหน้าที่และตรวจสอบอาวุธปืนอย่างเคร่งครัดและมอบนโยบายเกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามโดยกำชับให้ปฏิบัติงานโดยยึดหลักตามยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่ เน้นย้ำให้ผู้ที่ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าในแต่ละชุด ต้องตรวจสอบเพื่อพร้อมทั้งเรื่องสุขภาพของตำรวจ พาหนะและอาวุธประจำกายก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ย้ำให้ผู้กำกับหัวหน้าส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด เพื่อความสามัคคีในหน่วย

นราธิวาส-ติดตามการขับเคลื่อนงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 มุ่งดูแลชายแดนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่ห้องรับรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้การต้อนรับ พลโท ณัฐพงษ์  เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร พร้อมคณะฯ ในโอกาสเดินทางมาปฏิบัติภารกิจติดตามการทำงาน พร้อมรับทราบและหารือถึงปัญหาการขับเคลื่อนงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตลอดจนคณะผู้บังคับบัญชาจากส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

พลโท ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กล่าวว่า “วันนี้เดินทางมาเนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ ซึ่งตั้งใจจะมารับฟังว่าอยากให้กรมชายแดนทำอะไรบ้าง และรับฟังคำแนะนำว่าทำอย่างไรให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชายแดนอย่างแท้จริง อย่างแรกที่จะทำในปีนี้ คือนโยบายชายแดนทางด้านมาเลเซีย วางแผนการดำเนินว่าจะทำในด้านเรื่องอะไรบ้าง โดยจะบูรณาการกับกระทรวงต่างๆ ในการทำงาน อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือ ดาต้าเซ็นเตอร์เรื่องชายแดนทั้งหมด ที่จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ เพื่อให้สามารถค้นคว้าหาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น“

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “ขอขอบคุณท่านเจ้ากรมชายแดนที่แวะมาเยี่ยม และให้ข้อมูลการทำงานต่าง ๆ ในส่วนเรื่องของแนวชายแดนกองทัพภาคที่ 4 จะมีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ 2 ประเทศ คือ จังหวัดชุมพรและระนอง ที่ติดกับประเทศเมียนมา และจังหวัดสตูล สงขลา ยะลา และนราธิวาส ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนในการควบคุมตามแนวชายแดน ในอดีตกองกำลังเทพสตรีจะดูแลทั้งหมด แต่ปีนี้มีการปรับหน่วยที่ต้องดูแลแนวชายแดนเพิ่มขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระการทำงานของกองกำลังเทพสตรี และเพื่อลดการทำงานซ้ำซ้อน โดยกองกำลังเทพสตรีก็จะรับผิดชอบตามแนวชายแดนฝั่งที่ติดต่อกับประเทศเมียนมาเหมือนเดิม  ตั้งแต่มาจนถึงจังหวัดสตูลและอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ส่วนตั้งแต่จังหวัดยะลาไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส เปลี่ยนให้เป็นกองบังคับการควบคุมสุริโยทัยดูแล โดยให้กองพลทหารราบที่ 15 จัดกำลังดูแลป้องกันชายแดน สำหรับปัญหาตามแนวชายแดนของกองทัพภาคที่ 4 ทั้งเรื่องการรุกล้ำอธิปไตย การต่อสู้ตามแนวชายแดน ฝั่งประเทศเมียนมา และประเทศมาเลเซียนั้นแทบจะไม่มีเลย และในด้านการพบปะพัฒนาสัมพันธ์ ก็มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีการหยุดไปในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 บ้าง แต่ปัจจุบันได้กลับมาพัฒนาความสัมพันธ์กันตามปกติ และเป็นไปด้วยดี นอกจากนี้ เรายังมีการลาดตระเวนร่วมกันทั้งทางบกและทางน้ำด้วย“

จากนั้น เวลา 13.00 น. เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ได้เดินทางต่อไปยังด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส และกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ก่อนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 ในเวลาต่อมา โดยสะพานแห่งนี้ใช้เชื่อมต่อระหว่าง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส กับ รันเตาปันจัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นโครงการภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือ IMT – GT เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำอีก 1 สะพาน คู่ขนานกับสะพานเดิม เนื่องจากสะพานข้ามแม่น้ำ โก-ลก แห่งที่ 1 มีความคับแคบไม่สะดวกต่อการตอบสนองการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศที่ในแต่ละวันมีเป็นจำนวนมาก หากดำเนินการก่อสร้างเสร็จก็จะยกระดับการสัญจรผ่านแดนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในการขนส่งการค้าชายแดน และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 หารือการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์สื่อมวลชน และผู้ประกอบการท่องเที่ยวสามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทยมาเลเซียอินโดนีเซีย IMTGT

ที่ห้องรับรองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย พร้อมคณะ เข้าพบ พลโท ศานติ ศกุนตนาค  แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลตรี กรกฏ ภู่โชติ  รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะ เพื่อร่วมปรึกษาหารือและยื่นหนังสือเรื่องการจัดโครงการ "#สานสัมพันธ์สื่อมวลชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวคาบสมุทรมลายูครั้งที่1”กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2566 นี้ 

เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว พร้อมหารือเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น การดูแลความปลอดภัย ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการและสื่อมวลชนในโครงการนี้ 

สำหรับ โครงการดังกล่าว สมาคมหนังสือภาคใต้แห่งประเทศไทย ได้นำเครือข่ายผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว สื่อมวลชนจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย มาชมแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นและใหม่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการสัมมนาหัวข้อ”#ความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจIMTGT” ที่จังหวัดสงขลา เพื่อประชาสัมพันธ์แลกเปลี่ยนข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะเขตพัฒนาเศรษฐกิจ IMTGT เชื่อมสัมพันธ์และกระชับมิตรระหว่างสื่อมาเลเชีย อินโดนีเชีย และสื่อไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย 

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่แล้ว ยังมีความตั้งใจอยากจะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสื่อมวลชน จากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียกว่า 40 คน ได้มาพบปะรับฟังนโยบายการดูแลรักษาความปลอดภัยจาก พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้การสนับสนุนทุกๆ กิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

และที่สำคัญยังได้สร้างการรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไปยังสื่อมวลชน และกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศให้เข้าใจถึงบริบทของสถานการณ์ และสร้างความเชื่อมั่น ที่จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ต่อยอดไปสู่การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไปในอนาคต

#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า #กอรมนภาค4ส่วนหน้า #สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประทศไทย #ไชยยงค์มณีรุ่งสกุล #จังหวัดชายแดนภาคใต้ #สานสัมพันธ์สื่อมวลชนไทยมาเลเซียอินโดนีเซีย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top