Wednesday, 23 April 2025
คัดแยกขยะ

‘กทม.’ เปิดประชาพิจารณ์ ร่างข้อบัญญัติฯ ค่าขยะใหม่ ต.ค.นี้ หมู่บ้าน-ชุมชนจ่าย 60 บ. หากแยกขยะแล้ว จ่าย 20 บ. เท่าเดิม

(2 ต.ค. 66) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยของกรุงเทพมหานครอัตราใหม่ ว่า หลังจากสภากรุงเทพมหานครได้เห็นชอบขยายเวลาจัดเก็บออกไปอีก 1 ปี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประกาศประชาพิจารณ์ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. ... ในเว็บไซต์กรุงเทพมหานคร ในเดือนตุลาคม 2566 เป็นเวลา 30 วัน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาดูรายละเอียดของร่างข้อบัญญัติฯ แสดงข้อคิดเห็น จะมีความคิดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็วิพากษ์วิจารณ์ได้ เนื่องจากข้อบัญญัติฯ นี้เป็นร่างกฎหมายที่กระทบกับประชาชนทั่วไป ถ้าประชาพิจารณ์ประชาชนเห็นด้วยไม่มีปัญหาอะไร ผู้บริหารกรุงเทพมหานครจะนำเข้าสภากรุงเทพมหานครพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ นี้ เมื่อสภาเห็นชอบแล้วจึงจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยกรุงเทพมหานครจะออกข้อบังคับระเบียบรองรับ น่าจะใช้บังคับได้ในปี 2567 

“ร่างข้อบัญญัติฯ ฉบับใหม่นี้โดยหลักการค่าขยะจะลดลง จากข้อบัญญัติฯ เดิมที่ออกมาปี 2562 ที่อัตราขึ้นไปเยอะ (80 บาท) ซึ่งได้มีการขยายเวลาออกไปมาหลายปี ร่างใหม่นี้ราคาจะต่ำลงทั้งการเก็บขนและการกำจัด ขณะเดียวกันกรณีประชาชนได้ลงทะเบียนเพื่อแยกขยะ ก็จะเสียค่าขยะต่ำลงไปอีก ทั้งนี้ หากประชาพิจารณ์ผ่านประชาชนเห็นด้วย ไม่มีปัญหาอะไร ก็น่าจะนำเข้าสภากทม.พิจารณาได้เดือนพฤศจิกายน เมื่อสภาฯ เห็นชอบ ก็จะประกาศใช้ข้อบัญญัติฉบับใหม่ ยกเลิกของปี’62 ไป” นายจักกพันธ์ุกล่าว

สำหรับร่างข้อบัญญัติฯ ใหม่มีอัตราค่าธรรมเนียมในส่วน ค่าเก็บและขนมูลฝอยทั่วไป แยกเป็น 

1. ค่าเก็บและขนมูลฝอยทั่วไป เป็นรายเดือน กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งไม่เกิน 20 ลิตรเดือนละ 30 บาท, กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งไม่เกิน 20 ลิตร และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรุงเทพมหานครกําหนด เดือนละ 10 บาท, กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ให้คิดเป็นหน่วยทุก ๆ 20 ลิตรในอัตราต่อหน่วย หน่วยละ 60 บาทและกรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร ให้คิดเป็นหน่วยทุก ๆ 1 ลบ.ม. ในอัตราต่อหน่วย หน่วยละ 3,250 บาท 

2. ค่าเก็บและขนมูลฝอยทั่วไป เป็นครั้งคราว กรณีที่มีปริมาณไม่เกิน 500 ลิตร ครั้งละ 125 บาท, กรณีที่มีปริมาณเกิน 500 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลบ.ม. ครั้งละ 180 บาท และกรณีที่มีปริมาณเกิน 1 ลบ.ม. ให้คิดเป็นหน่วย ทุก ๆ 1 ลบ.ม. อัตราหน่วยละ 245 บาท

ส่วนค่ากําจัดมูลฝอยทั่วไป แยกเป็น 

1. ค่ากําจัดมูลฝอยทั่วไป เป็นรายเดือน กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งไม่เกิน 20 ลิตร เดือนละ 30 บาท, กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งไม่เกิน 20 ลิตร และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรุงเทพมหานครกําหนด เดือนละ 10 บาท, กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลบ.ม. ให้คิดเป็นหน่วยทุก ๆ 20 ลิตร ในอัตราต่อหน่วย หน่วยละ 60 บาท และ กรณีที่มีปริมาณวันหนึ่งเกิน 1 ลบ.ม. ให้คิดเป็นหน่วยทุก ๆ 1 ลบ.ม. ในอัตราต่อหน่วย หน่วยละ 4,750 บาท 

2. ค่ากําจัดมูลฝอยทั่วไป เป็นครั้งคราว กรณีที่มีปริมาณไม่เกิน 500 ลิตร หน่วยละ 130 บาท, กรณีที่มีปริมาณเกิน 500 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลบ.ม. หน่วยละ 190 บาท และ กรณีที่มีปริมาณเกิน 1 ลบ.ม. ให้คิดเป็นหน่วย ทุกๆ 1 ลบ.ม. หน่วยละ 250 บาท 

รองผู้ว่าฯ จักกพันธ์ุกล่าวสรุปว่า บ้านเรือนทั่วไป หรือ หมู่บ้านจัดสรร/ชุมชนต่าง ๆ จะคิดค่าธรรมเนียมใน 2 รูปแบบ คือ คิดค่าเก็บขน 30 บาท และค่ากำจัด 30 บาท รวม 60 บาท แต่หากบ้านเรือนมีการคัดแยกขยะ หมู่บ้าน/ชุมชน มีที่พักรวมและคัดแยกขยะตามเงื่อนไข จะคิดเท่าเดิมคือ 20 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับอัตราที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติฯปี’62 ที่คิดค่าเก็บขน 40 และค่ากำจัด 40 รวม 80 บาท ก็จะลดลงแต่หากประชาชนร่วมกันคัดแยกขยะบ้านไหนหมู่บ้านชุมชนไหนทำตามเงื่อนไข กรุงเทพมหานครก็เก็บอัตราเดิม 20 บาท โดยจะต้องมีการลงทะเบียนถูกต้องกับสำนักงานเขตทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดร่างข้อบัญญัติฯ ใหม่ได้ในเดือนตุลาคม 2566

ขอนแก่น-เทศบาลนครขอนแก่นปลื้มหลังคัดแยกขยะหอพักพบขยะลด

เทศบาลนครขอนแก่นปลื้ม หลังร่วมโครงการคัดแยกขยะหอพักอพาร์ทเมนต์ร่วมกับชมรมหอพักฯและโครงการสปาร์คยูปลุกเปลี่ยนเมือง พบปริมาณขยะในหอพักลดฯ ประกาศพร้อมลดการจัดเก็บค่าขยะหากหอพักแยกขยะจนเหลือน้อยลง 

ชมรมหอพักอพาร์ทเมนต์ จ.ขอนแก่น ร่วมกับโครงการสปาร์คยู ปลุกเปลี่ยนเมือง และเทศบาลนครขอนแก่นได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสรุปการดำเนินการจัดการคัดแยกขยะในหอพักภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นำร่อง 12 หอพัก เพื่อแยกขยะออกเป็น 4 ประเภทคือ ขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะอันตราย โดยดำเนินการเพื่อเก็บข้อมูลเป็นเวลา 2  เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยมี ผศ.ดร.นิภา มิลินทวิสมัย ประธานโครงการจัดการคัดแยกขยะหอพักฯ เป็นผู้นำเสนอ 

โดยผลการดำเนินการพบว่า  หลังดำเนินโครงการปริมาณขยะทั่วไปลดลงประมาณ 8.4% และสามารถจัดอันดับปริมาณขององค์ประกอบขยะทั่วไปมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ ก่อนประชาสัมพันธ์พบขยะอื่นๆ 38% มากกว่าขยะรีไซเคิลไม่ได้ 22% และมากกว่าเศษอาหารที่มีอยู่ 19.2% กระดาษทั่วไป 5% ขยะรีไซเคิลได้มีแค่ 5%

แต่หลังจากประชาสัมพันธ์และจัดโครงการคัดแยกขยะพบว่ามีขยะรีไซเคิลไม่ได้จำนวน 45% ขยะรีไซเคิลได้เพิ่มขึ้นเป็น 18% มีเศษอาหารเพียง  17% กระดาษ 5% และทิชชู่ 4% แสดงให้เห็นว่าขยะทั่วไปของหอพักมีขยะพลาสติกมากที่สุดถึง 60% รองลงมาเป็นเศษอาหาร กระดาษ ซึ่งเกิดจากการซื้ออาหารมาบริโภคเป็นส่วนใหญ่รวมถึงการสั่งพัสดุและสินค้าออนไลน์ 

ส่วนความหนาแน่นของขยะมูลฝอยมีค่าค่อนข้างต่ำก่อนและหลังการประชาสัมพันธ์พบว่ายังมีขยะประเภทพลาสติกมากที่สุดในขณะที่สัดส่วนองค์ประกอบของขยะ 4 ประเภท พบว่ามีปริมาณขยะน้อยลงตามลำดับหลังจากมีการประชาสัมพันธ์ซึ่งปริมาณขยะที่พบ พบว่ามีขยะทั่วไปประมาณ 70-80% ขยะรีไซเคิล 11-21% ขยะอินทรีย์ 7-8% ขยะพิษมีแค่ 1% ซึ่งหากเทียบกับบ้านเรือนทั่วไปจะพบว่าขยะหอพักมีปริมาณขยะอินทรีย์น้อยกว่าขยะทั่วไป ในขณะที่บ้านเรือนที่พักอาศัยจะมีขยะอินทรีย์จำนวนมากกว่าขยะอื่นๆ

ส่วนผลการวิเคราะห์แบบสอบถามความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมและทัศนคติต่อการคัดแยกขยะของหอพัก พบว่าพฤติกรรมต่อการลดขยะและคัดแยกส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางถึงระดับมากส่วนทัศนคติต่อการคัดแยกขยะผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดอยู่ในระดับเห็นด้วย

ในขณะที่ นายทัศนัย ประจวบมอญ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งดูแลการจัดการขยะ บอกว่า จากการร่วมมือกันของโครงการสปาร์คยู กับชมรมหอพักอพาร์ทเมนต์ในการคัดแยกขยะพบว่าเป็นโครงการที่ดีและเป็นครั้งแรกของเทศบาลนครขอนแก่นที่ได้รณรงค์เรื่องคัดแยกขยะกับกลุ่มหอพักอพาร์ทเมนต์ เนื่องจากก่อนหน้านี้เน้นทำในชุมชน ครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ และผลที่เกิดขึ้นเป็นที่น่าพอใจ และนับจากนี้หากหอพักไหนมีการคัดแยกขยะได้ดีและมีปริมาณขยะลดลง ทางเทศบาลยินดีที่จะเข้าไปประเมินปริมาณขยะและปรับลดค่าจัดการขยะของหอพักให้เพื่อเป็นการจูงใจให้หอพักอพาร์ทเมนต์หันมาจัดการขยะด้วยการคัดแยกก่อนทิ้ง 

โดยทุกวันนี้เทศบาลนครขอนแก่น ต้องใช้เงินปีละกว่า 100 ล้านบาทในการจัดการขยะ แต่สามารถจัดเก็บค่าจัดการขยะได้เพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น หากทุกครัวเรือน ทุกพื้นที่ช่วยกันคัดแยกขยะออกจากระบบก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะลดลง เพราะขยะที่มีประโยชน์คือขยะรีไซเคิลเอาไปจำหน่ายได้ และขยะอินทรีย์เอาไปทำปุ๋ยและเทศบาลมีโรงงานทำปุ๋ยที่สามารถเอาปุ๋ยไปใช้ประโยชน์ต่อได้ 

และในการประชุมวันนี้ ได้มี อาจารย์นิศราวรรณ ไพบูลย์พรพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเครือข่ายและกิจกรรมพิเศษ สำนักงานส่งเสริมอัจริยภาพ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ได้เข้าร่วมรับฟังและพร้อมเป็นเครือข่ายคัดแยกขยะและจัดการขยะในมหาวิทยาลัยเพื่อร่วมทำให้ขอนแก่นเป็นเมืองน่าอยู่และไร้มลพิษด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top