Sunday, 20 April 2025
ข้าวโพด

ครม.เตรียมเคาะโครงการประกันรายได้ “ข้าว มัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์”

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่ประชุมเตรียมพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งจะครอบคลุมพืชสำคัญทั้ง 3 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงมาตรการคู่ขนานเพื่อจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาพืชแต่ละชนิดเอาไว้ แยกเป็น โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 มีกรอบวงเงินที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) วงเงิน 89,402 ล้านบาท กำหนดเป้าหมายเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.689 ล้านครัวเรือน 

ทั้งนี้ได้กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน  

ส่วนการประกันรายได้ประกันรายได้มันสำปะหลัง ปีการผลิต 2564/65 มีวงเงิน 6,811 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับประกันรายได้ มันสำปะหลังที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่ไม่เกิน 100 ตันต่อครัวเรือน และไม่ซ้ำแปลง คาดว่า จะช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า 520,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ และมาตรการคู่ขนาน 4 โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง และโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง

ข้าวโพดเฟื่องฟู! พาณิชย์  ประกาศราคาอ้างอิงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 9.45 บาทต่อกิโล "จุรินทร์" ยกระดับราคา-เกษตรกร เฮ ! 

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุขที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ดำเนินนโยบายประกันรายได้เกษตรกรและยกระดับราคาสินค้านั้นล่าสุดวันนี้ ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกษตรกรได้รับราคาที่สูงขึ้นรายได้ที่ประกันไว้ สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5% กิโลกรัมละ 9.45 บาท

ตามที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 

คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 12/2564 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 เห็นชอบกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 (งวดที่ 1) ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5% กิโลกรัมละ 9.45 บาท

ราคาข้าวโพดพุ่ง รัฐโล่งไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่างประกันรายได้

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกรในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มีการประกาศเรื่อง การกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 มติไม่ต้องจ่ายเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 4 ของโครงการประกันรายได้ปีที่ 3 เพราะราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขณะนี้สูงทะลุราคาประกันรายได้

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 และระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.-19 ก.พ.2565 เมื่อคำนวณส่วนต่างข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5% สำหรับงวดที่ 4 อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 9.72 บาท สูงกว่าราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ กก.ละ 8.50 บาท หรือสูงกว่าราคาประกันรายได้ 1.22 บาท ทำให้ไม่ต้องจ่ายชดเชยเป็นงวดที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการคำนวณปริมาณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ได้ใช้วิธีการเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี คือปี 2562/63 , 2563/64 และ 2564/65 ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 700 กก. ต่อไร่ คูณด้วยจำนวนไร่ตามที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top