‘ชาวสงขลา’ โอด!! ‘เศรษฐกิจแย่’ กระตุ้น ‘โจรลักแทงปาล์ม’ ระบาดหนัก ‘ผู้ว่าฯ สงขลา’ ไม่นิ่ง!! เรียกถกด่วน หาแนวทางดูแลทุกข์-สุขชาวบ้าน
จากกรณีนักข่าวได้รับการร้องเรียนประเด็นโจรระบาดหนักในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ จ.สงขลา ลอบลักแทงปาล์ม ลักแม้กระทั่งกล้วย สายไฟ อันเป็นผลมาจากเศรษฐกิจย่ำแย่ ยาเสพติดระบาดหนัก คนไม่มีงานทำ ขาดรายได้
ล่าสุด (11 ก.ค. 67) ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเรียกประชุมด่วน ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสทิงพระ เวลา 11.00 น. ทั้งผู้บังคับการจังหวัด ผู้กำกับทุกอำเภอ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกอำเภอ ทุกพื้นที่ บนคาบสมุทรสทิงพระ เพื่อสั่งการแก้ปัญหาเรื่อง ‘โจรลักขโมย’ สร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน อย่างเร่งด่วน
กล่าวสำหรับโจรลักขโมยแทงผลปาล์ม และลักขโมยผลผลิตผลทางการเกษตร ไม่ได้มีเฉพาะคาบสมุทรสทิงพระ แต่เกิดขึ้นเป็นการทั่วไป อย่างนครศรีฯ อ.หัวไทร เชียรใหญ่ ปากพนัง ชะอวด ก็มีโจรชุกชุมจริง ๆ เผลอไม่ได้ โดยจะขโมยแทงสวนปาล์มในเวลากลางคืน โจรจะตระเวนหมายตาไว้ตั้งแต่ช่วงกลางวัน
ในจ.ตรัง จ.สตูล ก็ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นบ่อยครั้งถึงโจรขโมยแทงผลปาล์มไปขาย ยิ่งในช่วงปาล์มราคาดี โจรยิ่งชุมนัก
‘เทพไท เสนพงศ์’ อดีต สส.นครศรีฯ พรรคประชาธิปัตย์ เคยเสนอทางแก้ไว้น่าสนใจ จึงขอนำกลับมาเสนออีกครั้ง เผื่อเจ้าหน้าที่จะฉุกคิดขึ้นมาได้
“การแก้ปัญหา ‘การขโมยผลปาล์มน้ำมัน’ ของเกษตรกร ต้องเริ่มต้นที่ลานเทรับซื้อปาล์มสดจากเกษตรกร จะต้องมีความเข้มงวดในการรับซื้อ ‘ปาล์มน้ำมัน’ จากผู้ขายรายย่อยที่นำผลปาล์มน้ำมันจำนวนน้อยมาขาย เช่น ใส่รถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง ใส่รถเข็น ใส่เข่งจำนวนไม่กี่ทะลาย วิธีการแก้ไข ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนปาล์ม มี ‘บัตรประจำตัวเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน’ มีคิวอาร์โค้ด ชิปบันทึกข้อมูลในบัตร สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทั้งหมด ถ้าผู้ขายปาล์มรายใดไม่มีบัตรเกษตรกร ชาวสวนปาล์ม ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพวกขโมยปาล์มมาขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องประสานงานกับลานเทปาล์ม ที่รับซื้อปาล์มสดจากเกษตรกรอย่างใกล้ชิด”
ส่วนตัว #นายหัวไทร เห็นด้วยว่า ลานเทรับซื้อผลปาล์มควรจะเข้มงวด เคร่งครัดกับผู้ขายรายย่อย แต่บางครั้งเจ้าของลานเทกลับรู้เห็นเป็นใจ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า คนที่เอาผลปาล์มมาขาย ไม่ได้มีสวนปาล์ม แต่ยังรับซื้อ ซึ่งถ้าสืบกันในเชิงลึก อาจจะเข้าข่าย ‘รับซื้อของโจร’
จึงควรหาทางควบคุมลานเท ไม่ให้รีบซื้อผลปาล์มที่ไม่มีที่มาที่ไป เอาง่าย ๆ ว่า ไม่ควรรับซื้อของโจร ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวด เอาจริงเอาจัง ก็จะมีความผิดทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย
มีเจ้าของสวนรายหนึ่งในอำเภอปากพนังโทรมาแต่เช้า “ทอกขี้นั่งเลยพี่เห้อ” เมื่อเช้าเข้าสวนปาล์มไปเจอโดนโจรแทงปาล์มหมดสวน
“ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แจ้งตำรวจก็แล้ว แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็แล้ว ไม่ได้ผล จึงต้องแจ้งพี่ให้ช่วยกระทุ้งหน่อย”
ผมเองก็ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง ทำได้ก็แค่แจ้งข่าว บอกข่าวกันไป เผื่อเข้าหูเข้าตาเจ้าหน้าที่บ้าง จะได้เข้าไปจัดการปัญหา
ซึ่งปัญหาใหญ่เกิดจาก ‘เศรษฐกิจที่ย่ำแย่’ คนไม่มีงานทำไม่มีรายได้ ไม่มีอาชีพ และปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่ลุกลามไปทุกชุมชน ซึ่งกลุ่มเยาวชนที่ติดยาเสพติดก็ไม่มีอาชีพ จึงออกขโมย เพื่อหารายได้มาซื้อยา
สงขลาตื่นแล้ว แต่จังหวัดอื่น ๆ ไม่รู้ว่า คนดูแลทุกข์สุขของชาวบ้าน ตื่นกันแล้วหรือยัง
