Wednesday, 23 April 2025
ก้าวไกล31

‘โรม’ โต้!! วาทกรรม ‘เลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์’ ไม่มีจริง วอนประชาชนใช้สิทธิ์อย่างมีความหวัง - ไร้ความกลัว

เมื่อวานนี้ (23 เม.ย.66) นายรังสิมันต์ โรม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์คลิปวิดีโอลงแอปพลิเคชัน Tiktok ส่วนตัว ชี้แจงกรณีข่าวลือที่ส่งต่อกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ให้เลือกอย่างมียุทธศาสตร์ จนเกิดวาทกรรมต่างๆ เช่น เลือกก้าวไกลได้ประยุทธ์

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีคนสอบถามเข้ามาจำนวนมากว่าการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ควรจะเลือกแบบมียุทธศาสตร์หรือไม่ เพราะกลัวว่าหากฝั่งประชาธิปไตยแพ้ สุดท้ายฝั่งตรงข้ามที่เป็นขั้วอำนาจเดิม จะกลับมามีอำนาจอีก ก่อนอื่นตนต้องบอกก่อนว่า การเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ที่ใช้กัน เอาเข้าจริงแล้วเป็นการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่ 

ในครั้งหนึ่งของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีคำพูดว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่” สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สังคมอยู่ภายใต้ความกลัว และท้ายที่สุดการเลือกตั้งครั้งนั้น โดยส่วนตัวคิดว่าไม่สามารถสะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการเลือกตั้งที่ดีคือ “การเลือกตั้งอย่างมีความหวัง” ที่มีความฝันอยากให้เป็นไปได้

หากเราย้อนกลับไปตอนปี 2562 การเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายพรรคอนาคตใหม่จะชนะได้กี่เขตเลือกตั้ง ซึ่งสุดท้ายพรรคที่ไม่มีประสบการณ์อย่างอนาคตใหม่ ก็สามารถชนะเลือกตั้งได้กว่า 30 เขต สิ่งที่ตนอยากจะเสนอกับทุกคนคือมันไม่มีการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ มีแต่การเลือกตั้งที่อยากจะเห็นว่าใครเป็นตัวแทน อยากได้รัฐบาลแบบไหน ซึ่งการเลือกตั้งที่ดีควรจะเป็นแบบนี้

สุดท้าย หากอยากนำเสนอกันเรื่องการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ ตนอยากจะบอกว่า ยุทธศาสตร์ที่หวังจะเห็นคือ ประเทศไทยต่อไปข้างหน้าควรจะเป็นอย่างไร อนาคตควรจะเป็นแบบไหน เพราะหากสุดท้ายยังเป็นแบบเดิม คนไทยจะได้อะไร ดังนั้น 14 พฤษภาคม ขอให้กาก้าวไกลทั้งสองใบ อย่าให้ใครมาสร้างความกลัว

‘อดีตทูตนริศโรจน์’ ถาม ‘พิธา’ ปมนั่งเครื่องบินกลับไทย ชี้!! หากเป็นลูกหลานชาวบ้านธรรมดา คงลำบากกว่านี้

อดีตทูตนริศโรจน์ถามตรงๆ หัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ได้นั่งเครื่องบินกลับไทยตอนปฏิวัติ 2549 เพราะมีนามสกุลเดียวกับมือขวาทักษิณใช่หรือไม่ บอกสุดโชคดีที่ไม่ใช่ลูกชาวบ้านธรรมดาจริงๆ

(26 เม.ย.66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า…คุณพิธาครับ ผมมีคำถามที่อยากทราบ ขอถามกันตรงๆ เลยนะครับว่า

การที่คุณได้นั่งเครื่องบินร่วมกับ ขรก.อีก 20-30 คน จาก นิวยอร์กกลับ กทม. โดยเครื่องพิเศษนี้ลงที่สนามบิน บก.ทอ. ในกองทัพอากาศ เพราะเป็นเครื่องเที่ยวบินพิเศษที่รัฐบาลตอนนั้นเช่าเหมาลำจาก TG (เครื่อง A340-500) พาคุณทักษิณไปนิวยอร์ก แต่พอคุณทักษิณถูกปฏิวัติปี 49 เครื่องบินเลยต้องบินตีกลับ กทม.พร้อม ขรก.ที่เหลือซึ่งต้องเดินทางกลับไทยพร้อมเครื่องตามที่คุณเล่าในรายการคุณสรยุทธ และคุณแหม่ม สุริวิภา นั้น เป็นเพราะคุณอาของคุณ ที่ชื่อ ผดุง (นามสกุลเดียวกับคุณ) ที่ทำงานเป็นมือขวาคนสนิทของคุณทักษิณ ฝากให้คุณได้นั่งมากับเครื่องลำนั้นใช่มั้ยครับ ?

‘เสธ.นิด’ จับโป๊ะ!! ‘พิธา’ แต่งเรื่องไม่มีเงินทำศพพ่อ ชี้!! สร้างกระแสดรามา เรียกคะแนนให้คนสงสาร

(26 เม.ย.66) พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ‘Vachara Riddhagni’ ระบุว่า…

ข้อพิจารณาเพิ่มเติมการให้สัมภาษณ์ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักการเมือง ในคำให้สัมภาษณ์กับนายสรยุทธ 2 เรื่องที่เขากุขึ้นมา

1. ถูกควบคุมตัวที่กองทัพอากาศ ดอนเมือง จนมางานศพไม่ทัน แท้จริงแล้ว เขาถูกกักตัวที่ กองทัพอากาศเพราะวันนั้น คมช. ยึดอำนาจแล้ว และตัวเขาเองก็ให้สัมภาษณ์ครั้งแรก 2552 ว่า “ถูกกักตัวเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้นเพราะว่าเหตุการณ์กำลังตึงเครียด (ระวังกองทัพอากาศอาจจะฟ้องหมิ่นประมาทให้ร้ายกองทัพอากาศได้นะ)”

แต่มาให้สัมภาษณ์ปีนี้ว่า “ถูกกักตัวจนมางานศพพ่อไม่ทัน” งานสวดศพคุณพงษ์ศักดิ์นั้น คืนแรกผมก็ไปและได้เจอนายพิธาด้วย

คุณพ่อเขาเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกันที่ อตก. และ พูดคุยกันบ่อย พี่ชายหรือลุงนายพิธารู้ดีเพราะเป็นเพื่อนรุ่นที่สนิทกันพอควร

แม้ก่อนเสียชีวิตนั้นผมแนะนำว่าคุณพงษ์ศักดิ์ว่า ควรจะไปโรงพยาบาลศิริราช เพราะเกิดอาการไอต่อเนื่องไม่ทราบสาเหตุ

ผมแนะนำเพราะคิดว่าต้องมีการวินิจฉัยอย่างละเอียดด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยและมีนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ประจำห้องแลป ยังคุยกันอยู่ก่อนตายครับ

‘พี่คนดี’ ร่ายกลอนซัด ‘พิธา - ก้าวไกล’ ‘มืออย่าง ปากอย่าง ใจอย่าง’ ปม ม.112

(27 เม.ย.66) เพจเฟซบุ๊ก P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์บทกลอนชื่อ ‘มืออย่าง ปากอย่าง ใจอย่าง’ มีเนื้อหาดังนี้

มือแปะ ยกเลิกแน่ ปากบอกแค่ ขอแก้ไข
ปากบอก เทิดทูนไว้ แต่ในใจ นั้นใช่หรือ
สิ่งที่ ในใจอยาก อาจผิดจาก ปากและมือ
เห็นแวว ความไม่ซื่อ ใครเชื่อถือ ให้แปลกใจ

ความเป็น กบฏรัฐ ย้อนประวัติ เห็นชัดแจ้ง
หลายสิ่ง ที่แสดง โคตรหยาบแรง อย่าแกล้งไก๋
พูดอย่าง ทำอีกอย่าง บอกไม่ล้าง แต่อย่างใด
มีใคร ว่าก้าวไถล ไม่โกหก จงยกมือ

'พิธา' กร้าว!! ขับเคลื่อน 300 นโยบายก้าวไกล '100 วันแรก - 1 ปีแรก - สมัยแรก' เห็นผล!!

'พิธา' เสนอโรดแมปรัฐบาลก้าวไกล เตรียมรื้องบ 250,000 ล้านทำสวัสดิการประชาชน พร้อมเสนอกฎหมาย 45 ฉบับ ทันทีที่เปิดสภา

(27 เม.ย.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนงานรัฐบาลก้าวไกลในการขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 300 นโยบายของพรรคก้าวไกล โดยพิธากล่าวว่าพรรคก้าวไกลได้วางกรอบเวลาในการขับเคลื่อนนโยบายหลักที่สามารถผลักดันได้ใน 100 วันแรก 1 ปีแรก และสมัยแรก ภายใต้กรอบ ‘การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต’

สำหรับแผนงาน 100 วันแรกในการสร้าง ‘การเมืองดี’ พิธาประกาศว่าพรรคก้าวไกลสามารถใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ทันที ด้วยการเสนอทำประชามติภายใน 100 วันแรก ให้มี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหมด นอกจากนี้ พิธายังเตรียมเสนอให้ ครม. นำกฎหมายสมรสเท่าเทียมขึ้นมาพิจารณาต่อ ทบทวนการดำเนินคดีการเมืองและเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองทั้งหมดในฐานะกฎหมายของ ครม. รวมทั้งออกและยกเลิกกฎ ประกาศกระทรวงต่างๆ เพื่อปฏิวัติระบบราชการให้โปร่งใส และปลดล็อกกฎของมหาดไทยที่ฉุดรั้งความอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ส่วน ‘ปากท้องดี’ พิธาประกาศว่าใน 100 วันแรก พรรคก้าวไกลจะกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องทันทีด้วยการทำนโยบายหวยใบเสร็จ เพิ่มกำลังซื้อครั้งใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อยให้คึกคักได้ตลอดปี นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลมีแผนจะดึงดูดการค้าและการลงทุนโดยการใช้กองทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness Fund) ซึ่งมีเหลืออยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาท สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สร้างเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เปลี่ยนสูตรการจัดสรรก๊าซธรรมชาติทันที เพื่อลดค่าไฟ 70 สตางค์ภายใน 1 ปี และขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันที 450 บาท พร้อมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือ SME รัฐช่วย SME จ่ายประกันสังคม 6 เดือน ค่าแรงหักภาษีได้ 2 เท่า 2 ปี

อีกส่วนของนโยบายเศรษฐกิจที่ทำได้เลยใน 100 วันแรก คือการปลดล็อกกฎกระทรวงและนโยบายของรัฐบาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทำ ‘สุราก้าวหน้า’ ด้วยการปลดล็อกกฎกระทรวงการคลัง ออกมติ ครม. ที่ปลดล็อกการออกโฉนดที่ดินให้นิคมสหกรณ์และนิคมสร้างตนเอง 6.5 ล้านไร่ ทันที และ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ (Net Metering) เพื่อให้ ‘หลังคาสร้างรายได้’ ให้คนไทยทั้งประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าได้เองบนหลังคาบ้าน

สุดท้าย ‘มีอนาคต’ สิ่งที่ทำได้ใน 100 วันแรก คือ ‘ปฏิวัติการศึกษา’ กฎโรงเรียนต้องไม่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ครูละเมิดสิทธิพักใบประกอบทันที และเลิกให้ครูนอนเวร ‘คืนศักดิ์ศรีประเทศไทยในเวทีโลก’ ด้วยการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน และสร้างอำนาจต่อรองในการรักษาความสัมพันธ์ที่สมดุลกับประเทศนอกกลุ่ม และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยทางการเมืองด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ‘คืนสุขภาพดี ทั้งกาย-ใจ’ เซ็นงบเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค (PP) ปลดล็อกงบประมาณในการป้องกันเชื้อ HIV ที่รัฐมนตรีสาธารณสุขในรัฐบาลประยุทธ์ไม่ยอมเซ็น เพิ่มตรวจสุขภาพจิตในการตรวจสุขภาพประจำปีได้ เริ่มการบริจาคอวัยวะเชิงรุก และปราบฝุ่น PM2.5 กำหนดมาตรฐานห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผาทันที

ส่วนแผนงาน 1 ปีแรก พรรคก้าวไกลเตรียมทำ 2 ส่วน คือการยื่นเสนอกฎหมายและรื้องบประมาณ 2567 พิธากล่าวว่าพรรคก้าวไกลมีกฎหมายอยู่ในมือแล้ว 45 ฉบับที่พร้อมเสนอทันทีที่สภาฯ เปิด เป็นกฎหมายการเมือง 11 ฉบับ สิทธิเสรีภาพประชาชน 8 ฉบับ ปฏิรูประบบราชการ 6 ฉบับ ปฏิรูปที่ดิน 8 ฉบับ บริการสาธารณะ 8 ฉบับ แรงงาน 2 ฉบับ เศรษฐกิจ 4 ฉบับ และสิ่งแวดล้อม 2 ฉบับ

อีกส่วนคืองบประมาณ พรรคก้าวไกลเตรียมรื้องบประมาณ 2567 ใหม่ ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นในระบบราชการและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะทำให้ได้งบประมาณใหม่ 250,000 ล้านบาท งบประมาณส่วนนี้ พรรคก้าวไกลจะนำไปจัดสรรเป็นโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนพิสูจน์สิทธิ์และปลดหนี้เกษตรกร ทำ boxset ของขวัญแรกเกิดเด็กทุกคนทันที คนละ 3,000 บาท เงินเลี้ยงดูเด็กเล็ก 1,200 บาท/เดือน รวมทั้งเริ่มการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงวัยและคนพิการปีแรกขยับจาก 600 บาท เป็น 1,200 บาท และจะขยับขึ้นต่อเนื่องเป็นขั้นบันไดให้ถึงคนละ 3,000 บาท/เดือน ภายในปีที่ 4 นอกจากนี้จะจัดสรรงบประมาณไปในอีกหลายภาคส่วนเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงขนส่งสาธารณะ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สนับสนุนค่าเดินทาง-ค่าตรวจในการตรวจสุขภาพประจำปี และเศรษฐกิจสร้างสรรค์

'พิธา' เปิดใจ!! แจงดรามา 'ทหารคุมตัวจนไปงานศพพ่อไม่ทัน'  ด้านคุณแม่พิธา ส่งข้อความ "ไม่รู้จักเพื่อนของพ่อคนดังกล่าว"

เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลัง ลงจากเวทีดีเบต ของสถานีโทรทัศน์ PPTV ถึงกรณี ดราม่าการกลับมางานศพพ่อของตนเองไม่ทันหลังจากรัฐประหาร 2549 ว่า ตนมางานศพพ่อไม่ทันจริงๆ โดยงานศพ เริ่มตั้งแต่วันที่ 18-24 กันยายน 2549 ตนมาทันในวันที่ 22-24 กันยายน 2549 หลังจากนั้นก็เก็บศพไว้ 100 วันก่อนทำการฌาปนกิจ การพูดในรายการของหนูแหม่ม สุริวิภา และรายการของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอางานศพของพ่อใครมาพูดให้เป็นเรื่องแบบนี้

นายพิธา ยังได้ชี้แจงหลักฐานให้ผู้สื่อข่าวดูมา มีทุกอย่างครบ ว่ากลับมาประเทศไทยอย่างไร เป็นรูปภาพกำหนดการงานศพ ตั๋วเครื่องบิน 

เมื่อถามว่าตอนสมัยกลับจากสหรัฐอเมริกา มีคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นข้าราชการการเมืองแล้วหรือเป็นนักเรียนทุนกันแน่ นายพิธา ชี้แจงว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เพิ่งลาออกจากทีมงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พอดี และจะเดินทางไปศึกษาต่อ ดังนั้นจึงเป็นช่วงคาบเกี่ยวกัน

“นี่เป็นการทำงานตอนที่เป็นทีมงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ … และหยุด ลาออก แล้วก็บินไปเรียนหนังสือต่อถึงวันที่ 6 คุณพ่อเสีย 19 กันยายน อย่างที่บอก เพราะฉะนั้นเป็นช่วงคาบเกี่ยว ผมก็ต้องบอกว่าเพิ่งทำงานเสร็จ และจะไปปฐมนิเทศเริ่มการเรียนหนังสือ แต่อย่างไรก็ตามนามสกุลของเรายังมีบันทึกอยู่ เวลาลงพื้นที่มีคอมพิวเตอร์ มีแลปทอป ถ้าดูจากข่าวว่าสิงคโปร์บินถึงประเทศไทยวันที่ 21 กี่โมง ตอนนั้นประมาณบ่ายโมง ผมยังจำได้ว่าสัมภาษณ์กับท่านสุริวิภา ตอบไปว่าอยู่ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ถ้าจำไม่ผิด” นายพิธากล่าว

นายพิธา สรุปว่า ภายหลังจากออกจากกักตัวที่กองทัพอากาศ ก็ถึงบ้านประมาณสองทุ่ม ตนจำได้ว่ามาถึงแม่ของตนที่กำลังกลับจากงานศพ โดยแม่เพิ่งบอกว่าไปงานศพพ่อมา แสดงให้เห็นว่าตอนกลับมาก็ไปไม่ทัน ตนย้ำว่าไม่มีใครที่อยากเอาชีวิตพ่อตัวเองมาทำให้เป็นดราม่า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันถึงการรัฐประหารว่าทำให้เกิดอะไรขึ้นกับประชาธิปไตยบ้าง

นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้เป็นนักการเมือง หากประชาชนอยากตรวจสอบก็สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งก็เห็นอยู่แล้วว่ามีภาพชัดเจน ตนคิดว่าประชาชนจะเข้าใจ และการอธิบายก็คงทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้น 

นายพิธา ย้ำอีกว่า แม่ของตนได้เห็นโพสต์ของสื่อฉบับหนึ่ง ที่ระบุว่าเพื่อนของพ่อตนโพสต์เฟซบุ๊กบอกว่าตนโกหก เพื่อเรียกกระแสดราม่า โดยแม่เพิ่งส่งข้อความมาว่าไม่รู้จักเพื่อนของพ่อคนดังกล่าว

นายพิธา กล่าวพร้อมโชว์รูปวันที่พ่อแม่ไปส่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า รูปดังกล่าวเป็นวันที่พ่อของตนไปส่งเรียนต่อ ช่วงวันที่ 6-7 กันยายน 2549 และรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ตนไม่ได้มีโอกาสบอกลาพ่อ ซึ่งการสัมภาษณ์บางครั้งอาจถูกตัดออกไป นอกจากนี้ตนคิดว่ายังมีความเข้าใจผิดเรื่องไทม์โซนของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ซึ่งตอนที่แม่โทรมาบอกตน แม่ก็โกหกบอกว่าพ่อยังไม่เสีย เพื่อต้องการไม่ให้ตนแตกสลาย อย่างน้อยบินกลับมาเมืองไทยและอยู่กับครอบครัว 

“คุณต้องเข้าใจว่าคนที่เสียพ่อ โดยที่ไม่ได้ลากันมันไม่มีเวลามานั่งไล่จับรายละเอียดอย่างนู้นอย่างนี้ ถ้าคุณอยากรู้ผมก็มีหลักฐานที่จะมาเปรียบเทียบให้ชัดๆ ไปก็ได้ ว่าสิ่งที่พูดมาไม่เป็นความจริง และอย่าทำให้การเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลตอนนี้เสียสมาธิ ขอเรียกร้องให้คนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลอย่าเสียสมาธิกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้” นายพิธากล่าว

ทั้งนี้ นายพิธา ยังได้โพสต์โชว์ 3 ภาพดราม่า 

โดยรูปที่ 1 แสดงให้เห็นว่างานศพของคุณพ่อตนนั้นเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 - 24 กันยา ต่อคำถามว่า สรุปแล้วมาทันหรือไม่ทันกันแน่ คำตอบ คือ มาทันครึ่ง (วันที่ 22-24) “และ” ไม่ทันครึ่ง (วันที่ 18 - 20) ทั้งการสัมภาษณ์ของคุณสุริวิภากับของคุณสรยุทธ์จึงไม่มีอะไรขัดแย้งกัน

รูปที่ 2 อ้างอิงถึง ข่าวจาก Channel News Asia รายงานว่า วันที่ 21 กันยายน 2549 เครื่องบินรัฐบาลไทยที่กลับสู่ประเทศไทยหลังการรัฐประหาร โดยลงจอดที่สนามบินกองทัพอากาศ ในช่วงประมาณ 12.40 น. ซึ่งเป็นเครื่องบินลำที่ตนโดยสารมาจาก นิวยอร์กและลอนดอน จากรายงายข่าวจะพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวและตรวจสอบบนเครื่องบินอย่างละเอียด ตนถูกกักตัวอยู่ 5-6 ชั่วโมง กว่ารถบัสจะออกมา กว่าจะมีรถของตนมารับ ก็ถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ จำได้ว่าถึงบ้านก่อนคุณแม่และน้องที่ใส่ชุดดำกลับมา แล้วเราก็กอดกันเป็นครั้งแรกหลังสูญเสียคุณพ่อ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top