Sunday, 20 April 2025
กิตติรัตน์

"แรมโบ้" อัด "กิตติรัตน์" ทำไมลืมง่ายน้ำท่วมหนักปี 54 แก้ไขปัญหาไม่ได้ ยังจะอวยยิ่งลักษณ์อีก อย่าว่าแต่ปัญหาสำคัญของประเทศ ต่อให้แก้ปัญหาเล็กน้อยก็ไม่สามารถทำได้  มุ่งทำอย่างเดียวคือช่วยพี่ชายกลับบ้าน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์รูปภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความว่า ผมมั่นใจว่า ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ยังเป็นนายกฯย่อมไม่เกิดน้ำท่วมทั้งรุนแรง ยาวนานในหลายพื้นที่แบบนี้ เพราะ "ระบบบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ" ได้ถูกดำเนินการไว้แล้ว" โดยระบุว่านายกิตติรัตน์คงความจำเสื่อมไปแล้วจนจำไม่ได้ว่าน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 นั้นเกิดขึ้นในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และนายกิตติรัตน์ เป็นรัฐมนตรี ซึ่งน้ำท่วมในขณะนั้นมีความรุนแรงมากกว่าน้ำท่วมในขณะนี้ และนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ไม่สามารถที่จะบริหารจัดการได้

นายเสกสกลยังมองว่าอย่าว่าแต่แก้ไขปัญหาน้ำท่วมของประเทศ  ปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นกับประชาชนนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ มีแต่จะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น ปล่อยให้รัฐบาลนายกฯประยุทธ์เข้ามาแก้ไขปัญหาให้  ดังนั้นก่อนที่นายกิตติรัตน์จะโพสต์ข้อความใดๆนั้นขอให้พิจารณาให้ดีก่อนว่าจะย้อนเข้าหาตัวเองหรือไม่  

พร้อมกับมองว่าแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีมูลค่าสูง 3.5 แสนล้าน ก็ถูกทักท้วงเรื่องของความไม่พร้อมของโครงการ มีปัญหาด้านความโปร่งใสหลายด้าน รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เกิดปัญหาขัดแย้งในหลายจังหวัด

‘ทนายเชาว์’ แนะฟ้องศาลเอาผิด คกก. คัดเลือกฯ เหตุเลือก ‘กิตติรัตน์’ นั่ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ ทั้งที่มีลักษณะต้องห้าม

(12 พ.ย.67) ‘ทนายเชาว์’ ชี้ ‘กิตติรัตน์’ ขาดคุณสมบัตินั่ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ แนะฟ้องศาลฯ เอาผิด คกก.คัดเลือก ฐานจงใจเลือกคนมีลักษณะต้องห้าม เหตุพ้นตำแหน่งทางการเมืองไม่ถึง 1 ปี เชื่อส่งผลทำคนติดคุกได้ ชี้ตำแหน่ง 'ที่ปรึกษาของนายกฯ' แม้ไม่ใช่ ขรก.การเมือง แต่ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า 'กิตติรัตน์' ขาดคุณสมบัตินั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ผมไม่เข้าใจว่าเหตุใดคณะกรรมการคัดเลือก 7 คน จึงมีมติเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ และเตือนไว้เลยว่า ใครก็ตามที่ลงคะแนนให้นายกิตติรัตน์ นั่งเก้าอี้ตัวนี้ ท่านเตรียมสู้คดีในชั้นศาล ที่อาจต้องจบที่เรือนจำได้เลย

ที่พูดแบบนี้ก็เพราะ ระเบียบว่าด้วยการประชุมของคณะกรรมการคัดเลือก การเสนอชื่อ การพิจารณาและการคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 กำหนดไว้ชัดเจนในหมวดที่ 2 การเสนอชื่อ การพิจารณาและการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ไว้ในข้อ 16 (4) ว่า ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี

โดยเจตนารมณ์ของระเบียบฯ ที่กำหนดไว้เช่นนี้

ต้องการให้ บุคคลที่จะได้รับคัดเลือกเป็น ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย มีความเป็นกลาง ไม่มีส่วนได้เสีย หรือ เกี่ยวข้อง กับการเมือง 

แต่นายกิตติรัตน์ เคยเป็นประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี  ตามคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรีที่ 214 / 2566 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี  โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2535 มีทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

โดยให้ส่วนราชการสนับสนุนงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอและให้สำนักเลขาธิการนายกดนตรีอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบของราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขานายกรัฐมนตรี

เห็นได้ชัดว่าตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีของนายกิตติรัตน์ แม้โดยนิตินัยจะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง โดยเลี่ยงใช้คำว่าที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แต่โดยพฤตินัย ตามคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรีที่ 214 / 2566 ระบุให้ นายกิตติรัตน์ ทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย และให้ส่วนราชการสนับสนุนงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอและให้สำนักเลขาธิการนายกฯ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบของราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขานายกรัฐมนตรี

ตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ของนายกิตติรัตน์ จึงอยู่ในความหมายของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามความใน ข้อ 16 (4) ของระเบียบว่าด้วยการประชุมของคณะกรรมการคัดเลือกฯ เพราะนายกิตติรัตน์ ยังพ้นตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกฯ ไม่ถึงหนึ่งปี โดยพ้นตำแหน่งไปในวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน หลุดตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 เท่ากับเพิ่งพ้นหน้าที่มาเพียงแค่ไม่ถึงสามเดือน

ถ้าเราปล่อยให้นายกิตติรัตน์ ได้เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ด้วยข้ออ้างว่าตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง จึงไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย ต่อไประเบียบฯ เรื่องห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาเป็นประธานหรือกรรมการแบงก์ชาติ เว้นพ้นตำแหน่งแล้ว 1 ปี จะกลายเป็นหมันใช้บังคับในทางปฏิบัติไม่ได้ เพราะการเมืองใช้วิธีศรีธนญชัยเล่นแร่แปรธาตุทางกฎหมาย

ผมยืนยันว่าในทางกฎหมายแม้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกฯ จะไม่ใช่ข้าราชการการเมือง แต่หน้าที่ที่ทำตามคำสั่งนายกฯ ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างแน่นอน กรณีนี้ผมเสนอให้มีการฟ้องศาลฯ เอาผิดคณะกรรมการคัดเลือก จงใจเลือกคนที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไปให้สุดจะได้รู้ว่าต้องไปหยุดที่คุกหรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top