'รัฐบาล' โชว์ผลงานแก้ปัญหา 'น้ำท่วม-น้ำแล้ง' มุ่งบริหารจัดการน้ำทั้งประเทศอย่างเป็นระบบ
(1 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและน้ำแล้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี
โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริการจัดการน้ำร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ มากกว่า 48 ส่วนราชการ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเรื่องทรัพยากรน้ำในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ และมุ่งเน้นขับเคลื่อนแผนงานโครงการขนาดใหญ่ ที่สามารถแก้ไขปัญหาในวงกว้างได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบันได้มีการขับเคลื่อนโครงการไปแล้ว จำนวน 44 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักรวม 1,414 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) มีพื้นที่รับประโยชน์ 1.48 ล้านไร่ ครัวเรือนรับประโยชน์ 319,765 ครัวเรือน
เป็นโครงการที่ได้รับงบประมาณในการดำเนินการแล้ว จำนวน 24 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น โครงการบรรเทาอุทกภัยนครศรีธรรมราช โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร โดยกรมชลประทาน ช่วยป้องกันพื้นที่น้ำท่วมได้ 61,000 ไร่ แม้ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่สามารถช่วยป้องกันบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพรได้บางส่วนแล้ว
การดำเนินงานโครงการด้านทรัพยากรน้ำที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติโครงการสำคัญที่ได้รับการขับเคลื่อนแล้ว ในช่วงปี 2559-2565 จำนวน 241 โครงการ เมื่อโครงการแล้วเสร็จสามารถเพิ่มน้ำต้นทุนได้ 1,371 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 1,400,000 ไร่ พื้นที่ป้องกันน้ำท่วม 1,250,541 ไร่ ครัวเรือนรับประโยชน์ 505,828 ครัวเรือน ตัวอย่างเช่น ประตูระบายน้ำ ศรีสองรัก จ.เลย (62), อ่างเก็บน้ำลำสะพุง (พรด.) จ.ชัยภูมิ (62), ประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำ จ.สกลนคร (62), ปรับปรุง คลองยม-น่าน จ.สุโขทัย (64), คลองระบายน้ำหลาก บางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา (62), ฟื้นฟูพัฒนา คลองเปรมประชากร (คลองผดุง-คลองรังสิต) (63), อุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองเปรมประชากร จ.กรุงเทพมหานคร (63) และบรรเทาอุทกภัยอำเภอบางสะพาน (พรด.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (64) เป็นต้น
การดำเนินการของรัฐบาลได้เน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่วิกฤต (Area-Base) ทั่วทั้งประเทศ โดยพิจารณาในทุกมิติ เช่น ด้านศักยภาพการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก โดยมีผลการศึกษารองรับ ไม่มีปัญหาทางสังคมรุนแรง รวมถึงพิจารณาด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
