Saturday, 18 May 2024
กองสลาก

เตือน เอาสลากดิจิทัลมาขายต่อ ถูกจับดำเนินคดี

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีการนำสลากดิจิทัล มาจำหน่ายต่อเกินราคาบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า สำนักงานสลากฯ ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะซื้อสิทธิสลากดิจิทัลจากผู้อื่น ให้เพิ่มความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการซื้อต่ออย่างเด็ดขาด เพราะในระบบการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง จะบันทึกชื่อผู้ซื้อไว้อย่างชัดเจน และให้สิทธิการเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อที่เป็นเจ้าของบัญชีแอปเป๋าตังเท่านั้น 

ดังนั้นเมื่อถูกรางวัล เงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนสิทธิเปลี่ยนมือการขึ้นรางวัลไปให้บุคคลอื่นได้  หรือกรณีหากจะมารับสลากฯ ที่สำนักงานฯ ก็จะต้องใช้ชื่อผู้ซื้อยืนยันตัวตนในการมารับสลากฯ ดังนั้น ถ้าใครหลงเชื่อ ซื้อสลากดิจิทัลที่มีการนำมาประกาศขายต่อ หากถูกรางวัลอาจเกิดปัญหาตามได้ ซึ่งเรื่องนี้ สำนักงานสลากฯ ได้มีประกาศชัดเจน และออกมาแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลโดยตรงผ่านแอพเป๋าตังเท่านั้น ซึ่งระบบมีความปลอดภัย และสามารถขึ้นเงินรางวัลได้อย่างแน่นอน

'สลากดิจิทัล' งวด 16 ส.ค. เปิดขายแล้ว งวดนี้ เพิ่มจำนวนเป็น 9.1 ล้านใบ

สลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 ส.ค. เปิดจำหน่ายแล้ว พร้อมเพิ่มจำนวนอีก 2 ล้านใบ เป็น 9.1 ล้านใบ หลังมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

(2 ก.ค. 2565) นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ประชาชนสามารถซื้อสลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 ส.ค.65 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน หรือจนกว่าสลากดิจิทัล 9,092,500 ใบ จากตัวแทนจำหน่าย 18,185 ราย จะหมดลง โดยจำหน่ายใบละ 80 บาท

“บอร์ดสลากฯจะทยอยเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลให้เป็นกลไกกำหนดราคาสลากใบละ 80 บาท เพื่อแก้ปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคา ถ้าเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลไปจนถึง 20 ล้านใบ หรือจำหน่ายได้ 7-10 วัน จะทำผู้บริโภคซื้อสลาก 80 ได้จริง และสลากเกินราคาจะค่อย ๆ ปรับราคาลง”

สำหรับในอนาคต คณะกรรมการสลากฯ ได้พิจารณาในทุกมิติ ทั้งฝั่งคนซื้อและคนขาย จึงทยอยเพิ่มสลากงวดละ 1-2 ล้านใบ เพื่อให้ผู้ค้าสลากระบบเดิมมีเวลาปรับตัวและสามารถวางแผนการจำหน่ายสลากได้อย่างถูกต้อง ช่วงที่ผ่านมา มีประชาชนกว่า 1 ล้านคน เข้าถึงซื้อสลากในราคา 80 บาท อีกทั้งยังมีความสะดวก ความปลอดภัย เพราะสลากที่ซื้อทุกใบจะมีการบันทึกข้อมูลไว้ในแอปฯ สามารถขึ้นรางวัลได้ทันที ไม่ยุ่งยาก

ทั้งนี้สถิติการขายสลากดิจิทัลแล้ว 4 งวดที่ผ่านมา

‘กองสลาก’ ปิดจ็อบฟังความเห็นออกหวย 3 ตัว เล็ง เปิดขายต้นปี 66 เคาะราคาใบละ 50 บาท

‘กองสลาก’ ปิดจ็อบฟังความเห็นออกหวย 3 ตัว แจงพร้อมขายต้นปี 2566 เคาะใบละ 50 บาท ยันมีแจ็คพ็อต-อั้นแทง ส่วนสลากดิจิทัลยังตรึงยอดขาย 10 ล้านใบต่ออีก 2-3 งวด หลังขายอืด

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ตามโครงการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม เกี่ยวกับการกำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อจัดทำผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ หรือ สลากตัวเลข 3 หลัก (N3) และ สลาก 6 ตัว (L6) ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย หลังเปิดรับฟังไปแล้ว 5 ครั้งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ บรรยากาศในช่วงเริ่มต้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อประชุมกันไปได้สักระยะ ผู้ค้าที่มาแลกเปลี่ยนมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในหลายเรื่อง ทั้งประเด็นการให้สิทธิ์ขายสลากดิจิทัลแบบใบขายก่อนสลากแบบใบ, การตัดสิทธิ์การซื้อ-จอง, การจัดสรรโควตา, การให้สลากผู้ค้ารายละ 5 เล่มน้อยเกินไป และบางกลุ่มก็สนับสนุนการขายสลากแบบดิจิทัล เป็นต้น ส่งผลให้มีผู้ขายบางส่วนไม่พอใจ ถกเถียง โต้ตอบในห้องประชุมกันอย่างมาก กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าสิบนายต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อยจนสุดท้ายก็สามารถดำเนินขั้นตอนต่อไปได้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ตัวเลข 3 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ต้องเข้าใจว่ามีผู้เกี่ยวข้องสูงมาก คนซื้อต้องได้ราคาที่ 80 บาท ส่วนคนขายต้องการสลากจำนวนมาก ต้องการกำไรสูงสุด แล้วก็กลัวว่าหากออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ตัว จะมาทำลายอาชีพ บางกลุ่มก็กลัวการมอมเมาสังคม สวนทางกับอีกกลุ่มที่มองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะมาช่วยดึงเงินจากหวยใต้ดินเข้ามาได้ ดังนั้นจึงต้องรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจุดประสงค์หลักของการออกสลากตัวเลข 3 หลักไม่ได้เข้าไปแข่งกับหวยใต้ดิน แต่เป็นผลพลอยได้ที่จะดึงเงินเข้ามา จึงตั้งราคาสลาก 3 หลักไว้ที่ 50 บาท เพื่อใกล้เคียงกับหวยใต้ดิน และผลตอบแทนแตกต่างจากสลาก 6 หลักแบบเดิมที่สูงกว่า แต่ก็ไม่ขายราคาถูกจนเข้าถึงง่ายแบบใบละ 10-20 บาท จนเป็นการมอมเมา

นอกจากนี้ จากการรับฟังความเห็นทั่วประเทศ ภาพรวมยังไม่มีการต่อต้านสลากตัวเลข 3 หลัก เพียงแค่กังวลเรื่องคนขายหลุดออกจากระบบ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชนต้องได้ซื้อสลากในราคา 80 บาท แล้วผลิตภัณฑ์ใหม่คนขายเองก็ไม่ต้องลงเงินก่อนเพื่อนำไปขาย ทั้งยังได้ส่วนแบ่งทันทีในทุกวัน จึงเชื่อว่าน่าจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีมาก

“สลากแบบเลข 3 หลักจะมีการตั้งอัตราการจ่ายจูงใจ ในกรณีเลขที่มีคนซื้อมาก ๆ เงินรางวัลก็ไม่ได้ต่ำจนเกินไป อาจพิจารณาอั้นจำนวนผู้ซื้อด้วยอัตราจูงใจ เช่น ในกรณีขายสลากใบละ 50 บาท ก็ไม่ควรได้เงินรางวัล ต่ำกว่า 50 บาท รวมทั้งยังมีแจ๊คพ็อต 1% ขณะที่ข้อกังวลว่า จะเลือกผู้ค้าอย่างไร มี 2 แนวทางที่จะต้องไปตกผลึกก่อน คือ ให้สิทธิ์รายใหม่เลย หรือ ให้ทั้งคนเก่าและคนใหม่” นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า จากเปิดรับฟังความเห็นทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว สำนักงานสลากฯ จะนำข้อมูลสรุป เสนอคณะกรรมการผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วเสนอคณะกรรมการสลากในเดือน ก.ย. 2565 จากนั้นนำเสนอให้ รมว.การคลังพิจารณา เมื่อเห็นชอบจึงนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากทุกอย่างได้รับการเห็นชอบตามแผนคาดว่าจะได้เห็นสลากผลิตภัณฑ์ใหม่ในต้นปี 2566

'กองสลากฯ' ยัน ผลการออกรางวัลโปร่งใส ชี้!! ทุกหมายเลขมีโอกาสออกได้หมด

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวภายหลังการออกรางวัลงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ว่า สลากดิจิทัลงวดที่ผ่านมา มีรางวัลที่ 1 จำนวน 14 ใบ รวมเป็นเงิน 84 ล้านบาท โดยผู้ถูกรางวัลที่ 1 รายเดียว 10 ใบ ได้รับเงินรางวัล 60 ล้านบาท ส่วนอีก 4 ใบ เป็นของผู้โชคดี 2 ราย ถูกรางวัลรายละ 2 ใบ คนละ 12 ล้านบาท 

สำหรับสลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 มีจำนวน 14,929,000 ใบ โดยสลากทั้งหมด เป็นของตัวแทนจำหน่าย 29,858 ราย จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 เวลา 06.00 - 23.00 น. ทุกวัน จนกว่าสลากจะหมด

สำหรับการอำนวยความสะดวก ในการรับเงินให้เป็นไปด้วยความสะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก ด้วยการโอนเงินรางวัล ผ่าน G-Wallet ในแอปฯ เป๋าตัง ได้ภายใน 2 ชั่วโมง ซึ่งผู้ถูกรางวัลสามารถโอนต่อไปยังบัญชีของธนาคารอะไรก็ได้ จะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมกราคม 2566 อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ทางสำนักงานสลากฯ ยังได้แจงถึงการออกรางวัลของสำนักงานฯ งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ว่า เป็นไปด้วยความโปร่งใส และถูกต้องตามขั้นตอนทุกประการ 

‘ณัฐชา’ ซัด!! กองสลากฯ ออกกฎขายสลากเอื้อนายทุน หลังประกาศผู้รับโควตาที่อายุ 70 ปี+ ต้องมีใบรับรองสุขภาพ

‘ณัฐชา’ ซัดเดือด กองสลากฯ ประกาศกฏผู้สูงอายุ 70 ปี+ ต้องตรวจสุขภาพไม่มีโรคส่วนตัวถึงขายได้ ชี้หยุดประเคนผลประโยชน์ให้ทุนใหญ่

(14 พ.ย. 65) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย ว่าพวกเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากหลังจากที่มีประกาศจะให้คนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปที่มีโควตาขายสลากต้องมีใบรับรองสุขภาพว่าสุขภาพดี

ณัฐชาระบุว่า ในความเป็นจริงผู้ที่มีอายุ 70ปี ขึ้นไปจะไม่มีโรคประจำตัวเลยคงยาก แค่ที่พบเห็นทุกคนที่ไม่ว่าจะเดินหรือนั่งขายสลากพวกเขาแข็งแรงในระดับที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ประกาศที่ออกมาตนมองว่าเป็นการบีบและตอกย้ำว่าประเทศไทยต้องมีรัฐสวัสดิการ ไม่เช่นนั้นผู้สูงอายุ พวกเขาจะถูกคัดออกจากระบบและกดดันให้ไม่สามารถมีพื้นที่ในการทำมาหากินอะไรได้เลย เบี้ยคนชราวันละ 20 บาทไม่สามารถรองรับชีวิตใครได้ 

“ผมว่าประเทศไทยต้องเลิกดูถูกผู้สูงอายุได้แล้ว พวกเขาต้องได้รับการดูแลให้มีศักดิ์ศรีในสังคม” ณัฐชา กล่าว

‘กองสลาก’ ยังไม่เปิดขายเลขสลาก 3 หลัก เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อข้อมูลแชร์จากโซเชียล

รองโฆษกรัฐบาล ย้ำสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังไม่เปิดจำหน่ายเลขสลาก 3 หลัก ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ

(6 เม.ย.66) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “สำนักงานสลากฯ เปิดจำหน่ายเลขสลาก 3 หลัก ให้รางวัลตั้งแต่บาทละ 100 - 1,000 บาท” ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ขณะนี้สำนักงานสลากยังไม่ได้มีการเริ่มดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสลากแบบ N3 (3 หลัก) โดยสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 6 หลัก (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 3 หลัก (N3) ยังอยู่ในขั้นตอนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยหลังจากนี้ จะต้องไปจัดทำประกาศ กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ เพื่อนำมาเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณสลากที่เหมาะสม ช่วงเวลาในการจำหน่าย ช่องทาง และวิธีการจำหน่าย เป็นเรื่องที่สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาต่อไป

‘ชพก.’ ออกนโยบายใหม่ ‘เศรษฐีเงินล้าน 231 คน ทุกงวด’ ลั่น!! พร้อมรื้อระบบกองสลาก เพิ่มโอกาสถูกรางวัล คืนกำไรให้ ปชช.

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้อัดคลิปลงติ๊กต็อก ให้คอหวยได้เฮ ถึงแนวคิดการเพิ่มเศรษฐีเงินล้าน 231 คนต่องวด โดยระบุว่า…

หน่วยงานของรัฐฯ ที่สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนมากที่สุดคือ ‘กองสลาก’ ขณะเดียวกันก็เป็นหน่วยงานที่ประชาชน 22 ล้านคน พร้อมที่จะฝากความหวังไว้เช่นเดียวกัน ในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมา รายได้ของกองสลากเพิ่มขึ้นมหาศาล จากที่ 8 ปีก่อนหน้านี้ กองสลากขายลอตเตอรี่เพียงปีละ 37 ล้านใบ แต่วันนี้ขาย 100 ล้านใบ ทำให้รายได้ของกองสลากเพิ่มขึ้นจากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นเกือบ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในขณะที่การแบ่งสัดส่วนรางวัล ยังอยู่เท่าเดิม ถึงเวลาที่กองสลากจะแบ่งปันรายได้กลับคืนให้กับประชาชนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า รางวัลที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายลอตเตอรี่ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังมากขึ้น ทำให้รัฐฯ ประหยัดการจ่ายค่าการตลาดให้กับพ่อค้าคนกลาง วิธีการของพรรคชาติพัฒนากล้า คือ ในทุกงวดเราจะจัดรางวัลให้ทุกจังหวัด ๆ ละ 3 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาทให้กับผู้ซื้อลอตเตอรี่ ซึ่งผู้ซื้อลอตเตอรี่ที่จะได้รางวัลคือ ผู้ที่เบอร์ 6 ตัว ใกล้กับรางวัลที่ 1 มากที่สุดในจังหวัดนั้น ๆ และการที่เราจะรู้ว่าลอตเตอรี่ของเราเข้าข่ายอยู่ในจังหวัดไหน ก็ต้องซื้อผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพราะในแอปฯ จะมีข้อมูลอัตโนมัติจากข้อมูลบัตรประชาชนที่เราลงทะเบียนไว้

“การซื้อลอตเตอรี่ผ่านแอปฯ เป๋าตังข้อดีคือ ซื้อในราคา 80 บาท ดังนั้น เมื่อรู้แล้วว่าคุณเป็นจังหวัดไหน เมื่อจับรางวัลแต่ละงวด เราสามารถตรวจเช็กอัตโนมัติเลย ว่าเบอร์ของคุณเป็นเบอร์ในจังหวัดของคุณที่ใกล้รางวัลที่ 1 มากที่สุดหรือไม่ เพียงเท่านั้นก็จะทำให้คุณเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ทันที เราจะทำอย่างนี้ทุกงวด ๆ ละ 231 คน เดือนนึง 462 คน ทั้งปี 5,544 คน เพียงเพราะเรามีการจัดแบ่งรายได้ของกองสลาก คืนเป็นรางวัลเพิ่มเติมให้กับพี่น้องประชาชน ในสัดส่วนที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น” นายกรณ์ กล่าว

‘กองสลาก’ เปิดขาย ‘สลาก L6’ งวดแรก ผ่านแอปฯ เป๋าตัง หนุนคนไทยซื้อเข้าถึงสลากฯ ในราคาที่เป็นธรรม

(17 ก.ย. 66) พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินโครงการสลากดิจิทัล โดยทำการเปิดขายครั้งแรกในงวดวันที่ 16 มิ.ย. 65 ที่จำนวน 5 ล้านใบ ได้รับความสนใจจากประชาชนผู้ซื้อสลากฯ รวมทั้งตัวแทนรายย่อยผู้ค้าสลากเป็นจำนวนมาก มาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ มีปริมาณสลากดิจิทัลทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านใบ และยังคงสามารถจำหน่ายได้หมดทุกงวด สะท้อนให้เห็นถึงความชัดเจนของแนวทางการแก้ปัญหาสลากเกินราคาฯ ที่ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า “สลาก 80 บาทมีอยู่จริง” และภายในปี 2566 สำนักงานสลากฯ ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนผู้ซื้อสามารถเข้าถึงสลากฯ ราคา 80 บาท

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปว่า สำหรับสลากงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่จะเริ่มขายในวันที่ 17 กันยายน 2566 นี้ เป็นงวดแรกที่จะจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6 : L6) ทั้งสลากใบ และสลากดิจิทัล รวม 101 ล้านฉบับ แบ่งเป็น สลากใบ 80 ล้านฉบับ และสลากดิจิทัล 21 ล้านฉบับ ทั้งนี้ สลากใบจะมีลักษณะเหมือนกับสลากที่ขายอยู่ในปัจจุบันทุกประการ คือ มีการพิมพ์บนกระดาษป้องกันการปลอมแปลง มีลายน้ำ และเส้นไหมสอดแทรกอยู่ในเนื้อกระดาษ มีการพิมพ์สัญลักษณ์ป้องกันการปลอมแปลงต่าง ๆ รวมถึงพิมพ์ข้อความ L6 แบบใบ ลงบนสลากด้วย ในขณะที่ สลากดิจิทัล ไม่ได้มีการพิมพ์ขึ้นมาเป็นใบ แต่เป็นข้อมูลที่อยู่ในระบบดิจิทัล มีการพิมพ์ข้อความ L6 แบบดิจิทัล บนสลาก และทำการซื้อขายผ่านแอปเป๋าตัง

ส่วนการขึ้นเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6 : L6) แบบใบ สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสินทุกสาขา โดยนำสลากใบที่ถูกรางวัลพร้อมด้วยบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6 : L6) แบบดิจิทัล ระบบจะตรวจสอบการถูกรางวัลให้อัตโนมัติ โดยผู้ซื้อสามารถเลือกรับเงินรางวัลโดยการโอนเข้า บัญชีธนาคารกรุงไทย หรือเข้า G-Wallet ของผู้ซื้อได้ภายในไม่เกิน 2 ชั่วโมง

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนผู้ซื้อ สามารถเข้าถึงสลากฯ ราคา 80 บาท ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เป็น 30 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2 ล้านใบต่องวด ตามภาวะตลาดในแต่ละงวด และไม่กระทบสลากแบบใบในระบบที่มีอยู่ 80 ล้านใบ โดยจะทยอยเชิญรายย่อยที่ลงทะเบียนเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลมาทำสัญญา

รวมทั้งยังมีการเปิดให้ตัวแทนประเภทบุคคลรายย่อยทั่วไป คนพิการ สมาคม องค์กร มูลนิธิ และผู้มีสิทธิ์ทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล แจ้งความประสงค์โดยสมัครใจเข้าร่วมเป็น ตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล (Lottery 6 หรือ L6) ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.2566 – 28 ต.ค.2566 ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th อีกด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top