Thursday, 2 May 2024
กลุ่มสามมิตร

‘อนุชา’ โต้ข่าว ‘สามมิตร’ ซบเพื่อไทย ยันไม่จริง โยนถามคนปล่อยข่าวหวังผลอะไร

เมื่อ วันที่ 29 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มสามมิตร เตรียมออกจากพรรคพปชร. กลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ว่า ไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่าใครให้ข่าว ให้ไปถามคนที่ให้ข่าว ตนมองว่าคนที่ปล่อยข่าวน่าจะหวังผลอะไรบางอย่าง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ออกมาในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนในกลุ่มของสามมิตร นายอนุชา กล่าวว่า ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว มีแต่คนที่ทำงานการเมืองอยู่พรรคพปชร.

‘สมศักดิ์’ โต้!! คนปล่อยข่าว ‘สามมิตร’ ซบ ‘เพื่อไทย’ แค่ว่างงาน ยัน!! โค้งสุดท้ายรัฐบาล ค่อยพูดการเมือง 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแกนนำกลุ่มสามมิตร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่มีข่าวว่ากลุ่มสามมิตร จะไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า วันนี้รัฐบาลยังมีเวลามากกว่า 1 ปี 6 เดือน การจะไปพูดคุยเรื่องการเลือกตั้ง หรือการย้ายพรรค คงไม่เป็นธรรมชาติ แม้อาจจะมีคนที่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้ามองในภาพรวม ประเทศไทยและรัฐบาลกำลังออกจากอุโมงค์แห่งความมืด เริ่มเห็นแสงที่เป็นความสุข สดชื่นของประเทศ ทั้งเรื่องโควิด-19 และน้ำท่วม สิ่งเหล่านี้กำลังเริ่มคลี่คลายและรัฐบาลก็กำลังทำงาน 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะที่ส่วนหนึ่ง พยายามปล่อยข่าว ซึ่งสื่อมวลชนและตน ก็รู้ว่าสื่อที่ปล่อยข่าวฉบับแรกเป็นใคร แต่อยากบอกว่าเรื่องการเมือง ยังไม่ควรเอามาพูดกันในเวลานี้ ควรให้ถึงเวลาที่เหมาะสม ให้ประเทศได้เห็นแสงสว่างเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องอื่นที่กำลังจะพัฒนาก่อน การนำเรื่องของการเลือกตั้งหรือการโยกย้ายต่าง ๆ มาพูดตอนนี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศในภาพรวม ตนอยากให้ลืมเรื่องการเลือกตั้ง และการย้ายพรรคไปก่อนที่จะถึงเวลาอันควร อย่างน้อยให้เกินไป 1 ปี เหลือเวลา 5-6 เดือน ค่อยมาพูดกันเรื่องนี้ก็เป็นไปได้ แต่วันนี้ไม่สมควร

‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ นักบริหารมืออาชีพ ตัวจริงข้างรัฐบาลลุงตู่

นับตั้งแต่การก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐเมื่อปลายปี 2561 จนถึงวันนี้ ตัวละครในพรรคพลังประชารัฐเปลี่ยนโฉมหน้าไปหลายคำรบ ตั้งแต่ผู้บริหารพรรคยันไปจนถึง ส.ส. เหตุเพราะตลอดช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ ต้องเผชิญกับปัญหาภายในพรรคมาอย่างต่อเนื่อง 

แน่นอนว่า หนึ่งในภาพใหญ่ที่คอการเมืองคงจำได้ดี นั่นคือ กลุ่ม ‘4 กุมาร’ ภายใต้การนำของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ กลุ่ม อดีต กปปส. ที่ต้องคำพิพากษา จนต้องตัดสินใจหันหลัง ออกจากพรรคไป ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ตั้งพรรคมากับมือ แต่สัมพันธภาพของ 4 กุมาร และ ‘สุริยะ’ ก็ไม่ได้ขัดแย้งกันแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเหนียวแน่น เป็นการออกกันไปเองของ 4 กุมาร และตอนนี้ก็มีพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ของเหล่าคีย์แมนหลักอย่าง ‘นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รมว.อุตสาหกรรม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดูจะไม่ได้กระเทือนอย่างที่ใครคาดคิด เพียงแต่ดุลอำนาจจากกลุ่มสามมิตรที่เสียไป อาจจะสั่นคลอนไปบ้าง สังเกตได้จากกรณี นายอนุชา นาคาศัย ถูก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กระชากเก้าอี้ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไปแบบต่อหน้าต่อตา 

ขณะเดียวกันความขัดแย้งระหว่างสามมิตรกับธรรมนัส ที่ยังคงดูจะยังคุกรุ่นต่อเนื่อง จนถึงขั้นมีข่าวลือหนาหูว่าสามมิตร จะหวนกลับไปซบรังเก่า ‘พรรคเพื่อไทย’ พลันให้แกนหลักอย่าง ‘สุริยะ’ ต้องรีบออกมาสยบข่าวลือว่า ‘กลุ่มสามมิตรจะยังอยู่กับ พปชร. ต่อไป ไม่ย้ายซบเพื่อไทยแน่นอน’

แต่ถึงกระนั้น ภายหลังก๊วน ส.ส. กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ถูกขับออกจากพรรคเมื่อ 19 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา กูรูการเมืองต่างก็วิเคราะห์กันว่า ‘กลุ่มสามมิตร’ จะกลับมาพาวเวอร์ฟูล ในพลังประชารัฐอีกครั้ง หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันที่จะนำรัฐนาวาแห่งนี้แล่นไปถึงฝั่ง (อยู่ครบเทอม) เพราะ ส.ส.ที่อยู่ในกลุ่มนี้ราว 30 คน ล้วนเป็นฐานเสียงสำคัญที่จะช่วยประคองขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ไม่ให้หักก่อนเวลาอันควร

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การมโน เพราะหากตรวจแนวรบของสามมิตร โดยมี ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ ค้ำยันเป็นคีย์แมนหลักแล้ว ก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่า โอกาสที่สถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐจะหมดสิ้น รวมไปถึงการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ น่าจะเดินหน้าไปด้วยกันได้ดี

เหตุที่กล่าวเช่นนี้ นั่นเพราะ ในยุทธจักรการเมืองไทย ‘สุริยะ’ ถือเป็น ‘นักการเมืองที่ไม่ค่อยมีภาพความขัดแย้ง’ และที่สำคัญสามารถทำงานได้กับทุกฝ่ายทุกก๊วน 

‘สมศักดิ์’ ยังอุบย้ายพรรคหรือไม่ ลั่น ยังมีเวลาให้ตัดสินใจถึง 7 กุมภาฯ

'สมศักดิ์' เผยยังมีเวลาตัดสินใจทางการเมืองตามกรอบ 7 ก.พ. ลั่นกลุ่มสามมิตรไม่มีพลิกขั้ว บอก 'ธนกร' ไม่ต้องมาจีบไปอยู่กับนายกฯ ตัวเองรู้จักทุกคนอยู่แล้ว

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงข้อมูลในการตัดสินใจของกลุ่มสามมิตร หลังนายกรัฐมนตรีประกาศชัดเจนทางการเมืองว่า ข้อมูลก็มีเพิ่มขึ้น แต่จะให้ตนตัดสินใจอย่างไรได้ เพราะว่าผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนอยู่ด้วยและบริหารร่วมกันด้วยก็ต่างเป็นที่เคารพรักทั้งนั้น ถ้าตนพูดอะไรไปอย่างหนึ่งการทำงานที่ต้องทำอยู่ก็อาจต้องอึดอัดใจ ดังนั้นอย่าให้ตนพูดเลยว่าจะต้องตัดสินใจอย่างไรในทิศทางและแนวทาง แต่ยืนยันว่าตนมีทิศทางที่สามารถทำงานให้กับผู้ที่สนับสนุนและเลือกเรามาได้ หรือโหวตเตอร์ต่างๆ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา ขอสื่ออย่าเพิ่งถามตนเลยว่าตัดสินใจตรงไหน วันนี้ยังพอมีเวลาที่ตนต้องทำงานในฐานะเป็นรมว.ยุติธรรมอยู่ จึงขอร้องสื่อมวลชน การที่ใครจะขยับหรือพูดว่ารักใครชอบใคร ท่านแสดงออกกันมาได้ แต่ว่าผมมีมาตรฐานของผมเช่นนี้ ก็คิดว่า ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องพูด

เมื่อถามย้ำว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่ถึงจะพูด เพราะเคยบอกว่าเมื่อถึงเวลาแล้วจะบอก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอมคนที่จะขยับขยายก็ต้องก่อนวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งทุกคนรับทราบอยู่แล้ว ดังนั้นบุคคลที่เขาร้อน ก็ต้องไปหรือย้ายให้ทันรถรางเที่ยวสุดท้าย แต่ว่าตนไม่ได้ร้อนรนเช่นนั้น ยังมีเวลาอยู่

อ้าแขนรับศิษย์เก่า!! ‘อุ๊งอิ๊ง’ เปิดรับ ‘สมศักดิ์-แกนนำกลุ่มสามมิตร’ เข้าพรรค ลั่น!! หากมีเป้าหมายเดียวกัน ยินดีรับ เพื่อให้ประเทศไปต่อ

"อุ๊งอิ๊ง"ดีใจ! ได้ช่วย พท.ปราศรัยโค้งสุดท้าย พร้อมหย่อนบัตรหากเลือกตั้ง 14 พ.ค.จริง แซะ ภท.รบกวนหาข้อมูลเพิ่ม เย้ยก๊อปปี้นโยบายพักหนี้ของตัวเองไม่ได้ เปิดรับศิษย์เก่าเข้าพรรคทุกคน "แพทองธาร"ชี้ครม.เคาะงบผูกพัน 6.8 หมื่นล้าน ต้องจัดการ ชู พท.มีความรู้ความสามารถ-จัดการได้ "ชลน่าน"มั่นใจไม่ห่วงเพราะหาเงินเก่ง

(8 มี.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค.นั้น น.ส.แพองธาร จะดีใจมาก เพราะจะได้คลอดแล้วออกมาช่วยปราศรัยใหญ่ให้พรรค พท.ช่วงโค้งสุดท้าย ว่า ตนมีกำหนดคลอดปลาย เม.ย.ถึงต้น พ.ค.ตนไม่อยากคลอดในวันเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าหากวันเลือกตั้งเป็น 14 พ.ค.จริงๆ ก็คงดี เพราะตนจะได้มีโอกาสขึ้นปราศรัยใหญ่

เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณกล่าวถึงบัตรสวัสดิการต่างๆ หากพรรค พท.เป็นรัฐบาลจะทำได้มากกว่า 1,000 บาท น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นความหวัง พรรค พท.มีนโยบายผลักดันเศรษฐกิจภาพรวม ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท นโยบายเพื่อเกษตรกร นโยบายที่เราทำเป็นตัวผลักดันภาพรวมเศรษฐกิจ ย้ำว่าเราคิดใหญ่ทำเป็นนโยบายมุ่งหวังให้ประชาชนกินดีอยู่ดีทั้งระบ

เมื่อถามต่อว่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวหาว่าพรรค พท.ก๊อปปี้นโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราไม่สามารถก๊อปปี้นโยบายที่เราริเริ่มได้ ออริจินัลมาจากเรา และอาจจะต้องรบกวนขอให้หาข้อมูลเพิ่ม ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้หัวเราะกับคำตอบของตัวเอง พร้อมกล่าวติดตลกว่า "ไม่ได้ตั้งใจค่ะ"

เมื่อถามถึงกระแสข่าวบิ๊กเนมอย่างกลุ่มของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และแกนนำกลุ่มสามมิตร จะย้ายมาอยู่กับพรรค พท.นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยินดีต้อนรับศิษย์เก่าของพรรคไทยรักไทย (ทรท.) และพรรค พท.ทุกท่าน เพราะเป้าหมายของเราคือพัฒนาประเทศ ใครที่มีเป้าหมายเดียวกันกับเรา เรายินดีต้อนรับเพื่อให้ประเทศไปต่อ ส่วนเรื่องตำแหน่งไม่มีการพูดถึง

ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค กล่าวว่า จากคำให้สัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์ ท่านรอ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ตัดสินใจ คาดว่าจะมีการตัดสินใจภายในสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้า แต่ในพรรค พท.เราไม่ได้มีการคุยกัน ขึ้นกับการตัดสินใจของท่าน ทั้งนี้ ส.ส.ในกลุ่มท่านบางคนย้ายมาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของเราแล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top