Friday, 11 April 2025
กฤษฎาจีนะวิจารณะ

เปิดประวัติ-ผลงานเด่น!!

‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง​ ผู้มากความสามารถและประสบการณ์ที่ครบครัน

และด้วยวันนี้ ก็ได้รับการยอมรับขึ้นแท่น สู่ว่าที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ใน ‘ครม.เศรษฐา ​1’
 

'รมช.คลัง-กฤษฎา' ชง ครม.ช่วยหนี้นอกระบบ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท  พ่วงช่วยเหลือลูกหนี้รหัส 21 รับผลพวงจากโควิด-19 พ้นเครดิตบูโร

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผย 'คลัง' ชง ครม.ช่วยหนี้นอกระบบ วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมช่วยเหลือลูกหนี้รหัส 21 พ้นเครดิตบูโร

(12 ธ.ค.66) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.วันนี้ มีการช่วยเหลือหนี้นอกระบบ โดยได้มีการพูดคุยธนาคารออมสินกับกระทรวงการคลังได้มีการหารือกันช่วยเหลือกันแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการลงทะเบียนอยู่

โดยจะมีการทำมาตรการรองรับให้ธนาคารออมสินออกสินเชื่อออกมาให้รัฐรองรับความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบ ซึ่งถือเป็นโครงการใหม่

ขณะที่เกษตรกรก็จะช่วยหนี้นอกระบบผ่านทางธนาคาร ธกส.โดยวงเงินรวมที่ธนาคาร ธกส.กับธนาครออมสินนำมาใช้มีถึง 15,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายกฤษฎากล่าวว่า อีกมาตรการหนึ่งคือเงินที่เคยอนุมัติเงิน วงเงินที่เคยอนุมัติไปแล้ว และเหลือที่ยังไม่ได้ใช้ จะนำวงเงินนี้มาให้ธนาคารออมสินมาช่วยลูกหนี้รหัส 21 ที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์ โควิด-19 ได้หลุดจากประวัติเครดิตบูโร

‘กฤษฎา-รมช.คลัง’ คิกออฟ ‘โครงการ บสย. Business School’ ดึง ‘บสย.- ธปท.’ ให้ความรู้นักศึกษาเพื่อก้าวสู่ SMEs รุ่นใหม่

ไม่นานมานี้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง สนับสนุนให้หน่วยงานจากภาคการเงิน ภาคการศึกษา และภาคการพัฒนาสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะทางการเงินให้กับประชาชนถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของกระทรวงการคลังที่สำคัญด้านการสร้างโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ล่าสุด ตนพร้อมด้วยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จัด ‘โครงการ บสย. Business School’ โดยเริ่ม Kick Off โครงการที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว บสย. และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือร่วมกันเป็นวิทยากรให้ความรู้ในหลักสูตรทางด้านการเงิน เพื่อเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับการก้าวไปสู่การตั้งธุรกิจ และผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ให้กับนักศึกษา โดยเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความรู้พื้นฐานทางด้านการเงิน สำหรับนำไปใช้กับครอบครัว และนำไปใช้ในการประกอบธุรกิจได้ต่อไปในอนาคต 

'รมช.กฤษฎา' เผย!! 'คลัง' จ่อขยายค่าโอน-จดจำนองบ้านเกิน 3 ล้าน พร้อมเพิ่มเพดานกู้ผ่าน 'โครงการบ้านล้านหลัง' จาก 1.5 เป็น 2 ล้าน

เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 67) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานสัมมนาประจำปี 2567 สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ‘เจาะลึกปัญหาสินเชื่อกับหนี้ครัวเรือนและทางออก’ โดยกล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลัง มีการทบทวนมาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ทั้งมาตรการการคลังและมาตรการการเงินเพิ่มเติม เพราะถือว่าภาคอสังหาฯ เป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยมีสัดส่วนถึง 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่พอที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้

นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับแนวทางแรกนั้น กระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% ที่ปัจจุบัน ให้เฉพาะที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญานั้น โดยจะทำการขยายให้ สำหรับที่อยู่อาศัยที่ราคาซื้อขายเกิน 3 ล้านบาทมีสิทธิเข้าร่วมด้วยมาตรการด้วย โดยให้สิทธิเฉพาะ 3 ล้านบาทแรกเท่านั้น

นายกฤษฎา กล่าวว่า ส่วนมาตรการทางการเงิน คือ โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ปัจจุบันกำหนดให้กู้ได้เฉพาะซื้อที่อยู่อาศัยราคาหรือค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1.5 ล้านบาทนั้น อาจจะขยายไปเป็นราคาสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองมากขึ้น เพราะปัจจุบันที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ล้านนั้นหาได้ยากแล้วจึงต้องปรับให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน และการขยายเป็นราคาสูงสุดเป็น 2 ล้านบาท ก็ไม่ได้เสี่ยงอะไร เพราะสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการก็ต้องเป็นคนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองจริงๆ

'รัดเกล้า' เผย!! สศค.เล็งทบทวน มาตรการช่วยอสังหาฯ เพิ่มเงินกู้บ้านล้านหลังเป็น 2 ล้านบาท พร้อมลดค่าจด-โอน เหลือ 0.01%

(30 มี.ค.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมพิจารณาทบทวนมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ให้เติบโตขึ้น โดยพิจารณามาตรการลดค่าจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% เหลือ 1% คำจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% สำหรับอสังหาฯที่ราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน3 ล้านบาท โดยจะขยายให้ราคาซื้อขายเกิน 3 ล้านบาทมีสิทธิเข้าร่วมมาตรการด้วย แต่ให้สิทธิเฉพาะ 3 ล้านบาทแรก

ส่วนมาตรการการเงิน โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่กำหนดให้กู้ได้เฉพาะผู้ซื้อบ้านก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน1.5 ล้านบาทนั้น จะขยายเป็นราคาสูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท เพราะที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท หาได้ยากและไม่ได้เสี่ยงมาก ส่วนการทบทวนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้มา 5-6 ปีแล้ว กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย กำลังศึกษาร่วมกันเพื่อทบทวนให้เหมาะสม เช่นการจัดระเบียบประเภทที่ดินให้ชัดเจนมากขึ้นรวมทั้งการให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ปัจจุบันให้ อปท. ใช้ดุลพินิจได้ตามความเหมาะสม เช่น ที่ดินเปล่าที่เจ้าของปลูกต้นไม้ทำสวน แต่ไม่ถึงเกณฑ์เป็นที่ดินเพื่อการเกษตรนั้นได้ให้ อปท.ตัดสินใจได้เลยว่าจะเข้าเกณฑ์ใดส่วนอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังไม่มีแนวคิดปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การปรับมาตรการกล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมรายละเอียดเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในเร็ว ๆ นี้

'รมว.คลัง' ปัดตอบ 'กฤษฎา' ทิ้งเก้าอี้ เพราะไม่ให้เกียรติ ยัน!! วิธีทำงานมีเหตุผล ด้าน 'เผ่าภูมิ' ย้ำไม่ขัดแย้ง

(14 พ.ค.67) ที่ มรภ.เพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) กรณีที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อดีตรมช.คลังระบุเหตุผลในจดหมายลาออกว่า เป็นเพราะไม่ให้เกียรติกันในการทำงาน ว่า ขออนุญาตยังไม่ให้ความเห็น ต้องขอเวลาอีกนิด ส่วนความคืบหน้าการนัดหมายพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ใกล้ถึงเวลานัดหมายเพื่อพูดคุยกัน ขอย้ำว่าทุกอย่างพูดคุยกันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้อ่านจดหมายลาออกแล้วรู้สึกอย่างไร นายพิชัย กล่าวว่า “ก็เข้าใจได้ และวิธีการทำงานของผมมีเหตุและผลอยู่” เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับนายกฤษฎา ให้ความเห็นไว้ อย่างไรบ้าง นายพิชัยกล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบในขณะนี้ได้ และไม่ว่าเหตุผลที่เขียนในจดหมายลาออกเป็นอย่างไร ก็ไม่เป็นไร

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ขอความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่ส่วนตัวไม่มีปัญหากัน พอรู้จักกันมาเป็น 10 ปีตั้งแต่สมัยที่ตนยังทำงานอยู่ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ส่วนเรื่องการแบ่งงานใหม่ หลังจากที่นายกฤษฎา ลาออก ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top