Tuesday, 22 April 2025
กรมอุทยาน

ครม. ควักงบกลาง 251 ล้านบาท จ้างพนักงานกรมอุทยานฯ 3,999 อัตรา 

ครม.ไฟเขียว งบ 251 ล้านบาท จ้างเหมาพนักงาน 7 เดือน ปฏิบัติงานกรมอุทยานฯ 3,999 อัตรา 

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. อนุมัติโครงการจ้างเหมาพนักงานปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงินงบประมาณ 251.94 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ 2565 สำหรับจ้างเหมาพนักงานจำนวน 3,999 อัตรา ในอัตราจ้าง 9,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการจ้าง 7 เดือน ระหว่าง มี.ค. - ก.ย. 2565 เพื่อปฏิบัติงานตามภารกิจสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 

กรมอุทยานฯ เอาจริง!! ติดป้ายเตือนขับรถชนช้างป่าสลักพระ โทษ คุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน หลังเกิดเหตุบ่อย

กรมอุทยานฯ เอาจริง ติดป้ายเตือนขับรถชนช้างป่าสลักพระ เจอคุก 10 ปี ปรับ 1 ล้าน หลังพบช้างป่าถูกรถชน 2 ครั้ง ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการติดป้ายเตือน “ระวังช้างป่าข้ามถนน ขับรถชนช้างป่ามีโทษจำคุกและปรับ” “โปรดระวังช้างป่า ห้ามขับรถเร็วเกิน 60 กม./ ชม.” ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ บริเวณถนน 1399 ตำบลวังด้ง จนถึงตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 15 กิโลเมตร โดยมี นายไพฑูรย์ อินทบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เป็นผู้นำตรวจ โดย นายไพฑูรย์ แจ้งว่าได้ทำการติดป้ายเตือนระวังช้างป่า โดยได้ติดป้ายเตือนระวังช้างป่าทั้ง 2 ข้างถนนบริเวณดังกล่าว ตลอดสายระยะทาง 15 กม. ทั้งขาไปและขากลับ เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ระยะไกล รวมทั้งหมด 35 ป้าย

นายนิพนธ์  กล่าวว่า ตามข้อสั่งการของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการยกระดับแก้ไขปัญหาช้างป่า ในกรณีช้างป่าถูกรถยนต์ชน ทำให้เกิดการบาดเจ็บทั้งคน และช้างป่า ในบริเวณเส้นทางถนนหมายเลข 1399 ต.ด้งวัง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จึงได้ดำเนินการติดป้ายเตือนระวังช้างป่าดังกล่าว

ทั้งนี้ขอกล่าวเตือนว่า การที่ผู้ขับขี่รถยนต์คันใด ขับรถมาด้วยความเร็วเข้ามาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ถนนสาย 3199 ระหว่าง ต.วังด้ง ถึง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี แล้วเห็นป้ายเตือน “ระวังช้างป่า ห้ามขับความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.” ป้ายเตือน “ระวังช้างป่าข้ามถนน ชนช้างป่าโทษจำคุกและปรับ” ติดอยู่ตลอดสองข้างทางถนน ที่มองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล จำนวน 35 ป้าย ย่อมรู้ หรือคาดหมายได้แล้วว่า บริเวณถนน 3199 ต.วังด้ง ถึง ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี ระยะประมาณ 15 กม. ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อาจจะมีช้างป่าออกมาข้ามถนนในบริเวณดังกล่าว หากยังฝ่าฝืนยังขับรถยนต์ด้วยความเร็วอีก แล้วไปชนช้างป่า ที่ข้ามถนนมาบาดเจ็บ หรือตาย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ต่อไปนี้ทาง นายไพฑูรย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าสลักพระ จะดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถยนต์ชนช้างป่า โดยทันที ทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานกระทำอันตรายด้วยประการใดๆ โดยการขับขี่รถชนช้างป่าได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำและปรับ แล้วต้องชดใช้ค่าเสียหายมูลค่าของช้างป่าที่บาดเจ็บหรือตาย เชือกละหลายแสนบาท ตามมาตรา 87และ 88 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ไม่ว่าผู้ขับขี่รถยนต์ชนช้างป่าจงใจชนช้างป่าหรือประมาทเล่นเลอในการชนช้างป่าก็ตาม อีกด้วย

ทั้งนี้ หากชนช้างป่าแล้วหนี ก็จะมีโทษตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 78 ผู้ใดขับรถในทางซึ่งก่อ ให้เกิดความเสียหาย แก่บุคคล หรือทรัพย์สิน จะต้องหยุดรถ ให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งแสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ใกล้เคียงทันที ไม่ว่าจะเป็นความผิด ของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตาม ถ้าไม่ดำเนินการระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2 พันบาท ถึง 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกกระทงหนึ่งด้วย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมกรมอุทยาน ดำเนินคดีลักลอบทำประมงพื้นที่ตะรุเตา โทษหนักปรับ 40.5 ล้าน พร้อมริบเรือ 27 ลำ

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านกว่า 200 คน ซึ่งขณะลงพื้นที่ได้ตรวจสอบพบเรือประมงขนาดใหญ่จำนวน 27 ลำ ลากอวนขนาดใหญ่อยู่ในทะเล ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แก้ไขปัญหาข้อพิพาทบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ รวมทั้งฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ ให้เข้ากับวิถีชีวิตของชาวเลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จึงได้มอบหมายให้ กรมประมง และกรมอุทยานแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีเรือประมงที่ลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งจากการตรวจสอบ ทั้งสองหน่วยงานยืนยันว่า เรือประมงขนาดใหญ่ทั้ง 27 ลำดังกล่าว เข้าไปลากอวนยักษ์ทำประมงในเขตอุทยานจริง

“กรมทะเลชายฝั่ง” จับมือ “กรมอุทยานฯ” ร่วมสนับสนุนโครงการ SEA YOU STRONG ทะเลคือหัวใจของไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ว่ายน้ำข้ามทะเล 70 กม. กระตุ้นจิตสำนึกรักษ์ทะเล กระบี่- พังงา-ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) ร่วมให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมภายใต้ “โครงการ SEA YOU STRONG ทะเลคือหัวใจของไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล” ซึ่งเป็นโครงการที่นายสิรณัฐ สก๊อต หรือ “ทราย สก๊อต” จัดขึ้นโดยนำทีมนักอนุรักษ์ 36 คน ว่ายน้ำข้ามทะเลอันดามันเป็นระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร ผ่าน 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ พังงา และภูเก็ต เริ่มจากหาดยาว จ.กระบี่ ไปสิ้นสุดที่อ่าวปอ จ.ภูเก็ต ในระหว่างทางก็จะแวะพักตามเกาะท่องเที่ยวชื่อดังของแต่และจังหวัด โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 – 29 เมษายน 2566 โดยทางกรม ทช. จัดเรือราชการ 2 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำเรือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในกิจกรรม รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ร่วมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทำกิจกรรม Big Cleaning Day ลด ละ เลิกใช้พลาสติก

 
นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

นายอภิชัย รรท.อทช. กล่าวหลังจากพิธีเปิดโครงการ SEA YOU STRONG ทะเลคือหัวใจของไทย อาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ เป็นการสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการดูแล รักษา ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความหลากหลายทางชีวิภาพสำหรับแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีภารกิจที่สอดรับกับนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เน้นย้ำเรื่อง “การส่งเสริมการมีส่วนร่วม” ของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ และประชาชน กรมพร้อมให้การสนับสนุนเครือข่ายอาสาสมัครที่ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนปลุกจิตสำนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพราะตนเชื่อมั่นว่าการรวมพลังในสังคมเป็นจุดเริ่มต้นของพลังที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะ “คนรุ่นใหม่” ที่มีแนวคิดสร้างสรรค์กลายเป็น “Soft Power” ที่กระตุกจิต กระชากใจ เปลี่ยนแปลงความคิด ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วม หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อย่างกิจกรรมในครั้งนี้ที่คุณทราย สก๊อต นักอนุรักษ์รุ่นใหม่ได้นำทีมนักว่ายน้ำอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลว่ายน้ำข้ามทะเลอันดามัน นอกจากจะกระตุ้นให้คนหันมาเห็นมุมต่างๆ ของทะเลไทย ที่ประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมหลายเรื่อง ทั้งที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ และธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในฝั่งอันดามันให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จักมากขึ้นอีกด้วย โอกาสนี้ จึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนให้เห็นความสำคัญ และช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อให้คงความอุดมสมบูรณ์สืบต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top