Sunday, 8 June 2025
Wepergee

'ยูทูบเบอร์หนุ่ม' ยอมใจ!! ไม่มีเงิน ไม่มีการรักษา ประสบการณ์สุดเลวร้ายหลังประสบอุบัติเหตุแรงในลาว

(12 ธ.ค.66) จากช่องยูทูบ ‘Wepergee’ ซึ่งเป็นช่องเกี่ยวกับสายท่องเที่ยว ที่เน้นการผจญภัยในประเทศต่างๆ เพื่อสำรวจเนื้อแท้ด้านวัฒนธรรม การใช้ชีวิต ในมิติที่ทุกคนอาจจะไม่เคยรับรู้ หรือสัมผัสมาก่อน ได้โพสต์คลิปวิดีโอตอนใหม่ ชื่อ ‘เกิดอุบัติเหตุในลาวเสียเงินเท่าไหร่? ที่นี่เงินสำคัญกว่าชีวิต’ โดยเจ้าของช่อง ‘คุณแบงค์’ ได้มาเล่าประสบการณ์หลังเกิดอุบัติเหตุในประเทศลาว ที่หลวงพระบาง ที่ดูเหมือนจะไม่ร้ายแรงนัก แต่กลับสาหัสเอาการเลยทีเดียว เพื่อเป็นอุทาหรณ์และเป็นประโยชน์สำหรับใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวลาวหรือประเทศอื่น ๆ ในเรื่องของ ‘อุบัติเหตุ’ โดยระบุว่า… 

จริง ๆ แล้วผมคิดว่ามันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร ไม่ได้มีความคิดจะรอดหรือไม่รอด และผมรู้ตัวว่าตัวเองไหว ณ ตอนนั้น แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับร่างกายมีมันเยอะมาก ๆ เริ่มจากเลือดออกใต้เยื่อบุสมอง เพราะว่ารถชนประสานงากับรถมอเตอร์ไซค์ และจริง ๆ จะผ่าตัดสมองด้วย แต่คุณหมอเขาอัดยาเยอะมากในระหว่าง 2 อาทิตย์ที่อยู่โรงพยาบาล แล้วทีนี้คุณหมอเขาพยายามเทสร่างกาย เทสสมอง จึงบอกว่าตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ดังนั้น จึงไม่ต้องผ่าตัดสมองแล้ว 

ซึ่งในส่วนที่เกิดขึ้นเยอะที่สุดจะเกี่ยวกับใบหน้าทั้งหมดเลย อย่างเช่น กะโหลกหน้าร้าว กรามร้าว จมูกหัก และวันนี้ผมก็เพิ่งจะไปถอดสิ่งที่คุณหมอเขาจัดกระดูกใหม่ให้ แต่ไม่ได้เสริม ถัดมามีเรื่องฟัน ซึ่งมันไม่ได้หักแต่ว่ามันบิ่น แล้วก็ฟันห่างออกหมดเลย และยังมีสิทธิ์ที่รากฟันจะตายได้ อีกทั้งในระหว่างนี้จะไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้เป็นเวลา 1 เดือน และอีกอย่างนึงคือเกี่ยวกับจมูกหลังจากที่มันหัก ผมไม่ได้กลิ่นเลย หลังจากเกิดอุบัติเหตุจนตอนนี้มาก็ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว แต่ปากยังรับรสชาติได้อยู่ จึงได้สอบถามคุณหมอว่ามีโอกาสที่จะกลับมาได้กลิ่นเหมือนเดิมไหม ซึ่งคุณหมอตอบว่ายาก…ดังนั้น ผมอาจจะไม่ได้กลิ่นไปตลอดชีวิต…อันนี้ก็เป็นเรื่องที่จะบอกว่ารับไม่ได้มันก็ใช่ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะหนักหนาสาหัสขนาดนี้

ถัดมา ตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น คือ รถมอเตอร์ไซค์มา 2 ฝั่ง แล้วถนนเป็นแอ่งและเป็นทางโค้ง ซึ่งตอนนั้นผมกำลังไปน้ำตก ขณะช่วงที่ขึ้นเนินนั้น เวลาจะลงก็มีรถคุณลุงท่านนึงขี่มอเตอร์ไซค์มา ซึ่งผมก็เห็นแล้ว แต่ก็เอ๊ะ…ทําไมเขาขับมาแบบไม่เบาเลย ซึ่งเขาก็เห็นว่ารถผมก็มาเหมือนกัน แล้วอีกอย่างที่ลาวเขาใช้เลนส์คนละฝั่งกับที่เมืองไทย ซึ่งตอนนั้นผมก็เริ่มเห็นแล้วว่าคุณลุงขับมาแบบไม่มีหยุด ไม่มีเบาเลย จึงหาแหล่งที่เราจะสามารถหลบได้ แต่ทีนี้ดันหลบไม่พ้น จึงทำให้แฉลบลงข้างทาง แต่คุณลุงท่านนั้น เขาไม่แฉลบไม่ทําอะไรเลย ทีนี้พอผมลงข้างทางไม่พ้น เพราะรถมันประสานงากันก่อน ผมก็โดนจัง ๆ เลยในส่วนของหน้าและกระโหลก เพราะมันปะทะเข้ากับกระจังหน้าของรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งไม่แน่ใจว่าของคุณลุงหรือโดนรถมอเตอร์ไซค์ตนเอง แต่จากภาพที่เห็นมันมีจุดนึงที่ชัดเจนเลยว่าอันนี้คือเลือดของผม ซึ่งคิดว่าตรงนั้นทำให้หัวอาจจะกระแทกด้วย ยอมรับเลยว่าโมโห เพราะลืมตาแทบมองไม่เห็น จึงมีความรู้สึกกลัวตาบอด เพราะตอนนั้นตามันปิดไปหมดเลย แม้จะพยายามลืมแต่มันก็เห็นได้นิดนึง 

แต่สิ่งหนึ่งที่ได้ยินแล้วมันมันคาใจมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ คือคุณลุงที่ขับรถเขาตะโกนว่าผมว่า… “จับมันเลย มันเมาแล้วขับ” ทีนี้รถชาวบ้านผ่านมาจึงช่วยกันเรียกรถพยาบาลให้ และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ช็อกเหมือนกัน คือเขามาถามหาเงินกับผมก่อนเลย ถาม ‘น้องมีเงินไหม มีเงินเท่าไหร่ ถ้าไม่มีเงินพาไปโรงพยาบาลไม่ได้นะ’ ผมก็เลยรีบบอกไปว่ามีเงินอยู่ ซึ่งหากรวมทั้งเงินไทยเงินกีบ จะประมาณ 8,000 บาท และช่วงที่เขามาไม่ได้ถามเลยว่ามีประกันไหมหรือจะทํายังไงเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เขากลับถามหาเงินผมก่อนเลย ซึ่งหลังจากที่เขาเห็นว่ามีเงิน เขาก็หยิบกระเป๋าคาดเอวผมไปค้นคนจนได้เงิน แล้วเขาถึงจะแบบมาช่วยทําแผล ช่วยรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้ 

ไม่เพียงเท่านั้น…ถัดมาอีกสิ่งหนึ่งที่ช็อก มันทําให้ผมสลบไปเลย…คือตรงหน้าผากผมมันแตก ตอนนั้นเขาก็หยิบเข็มมาผมจําได้เลยเห็นเข็มเล่มใหญ่มาก ซึ่งเขาบอกว่าหัวคุณต้องเย็บตรงนี้ เพราะเลือดมันออกเยอะ ผมจึงบอกพี่ช่วยซับเลือดไปก่อนได้ไหม เข็มขนาดนี้ไม่ไหว ผมตายแน่นอน… แค่ตรงนี้ก็เจ็บไม่รู้จะยังไงแล้ว ตาก็ลืมไม่ขึ้น หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ฟัง เขาก็เอาเข็มจิ้มเข้าไปตรงแผล และหลังจากนั้นผมสลบไปเลย ตื่นมาอีกทีคือโรงพยาบาล

หลังจากที่ตื่นมาจากโรงพยาบาล ยอมรับเลยผมไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุแล้วสลบคาไปเลย โดยตอนนั้นยังรู้ตัว ยังพอมีสติอยู่ แต่พอเข็มมันทิ่มเข้าไปแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมมันสลบ แต่ก็ยังดีที่เขามาช่วย ไม่อย่างงั้นคงสลบอยู่ตรงนั้น และอีกอย่างนึงตรงที่เกิดเหตุมันเป็นทางกลับจากน้ำตก มันก็จะมีแต่ป่า แต่สิ่งที่รับไม่ได้จริง ๆ คือคุณลุงเขามาปรักปรำ หาว่าผมเมาเหล้าแล้วขับรถ 

สุดท้ายคุณลุงเขาก็เรียกเงินผมอีกด้วย เป็นจำนวน 20,000 บาท แต่ก็จบกันที่ 18,000 บาทแทน ซึ่งเขาก็เอาไป แต่เชื่อไหมว่าคุณลุงเขาไม่เป็นอะไรเลย… ทั้งที่ผมเองก็ใส่หมวกกันน็อคด้วย ยังเป็นถึงขนาดนี้ หลังจากที่จ่ายคุณลุง ค่าทำขวัญเสร็จ ก็ต้องมาจ่ายค่ารถเช่ามอเตอร์ไซค์อีกประมาณ 12,000 หรือ 15,000 บาท ซึ่งตรงนี้ในส่วนค่าทําขวัญกับค่ามอเตอร์ไซค์หมดไปประมาณ 35,000 บาทหรือ 32,000 บาทนี่แหละ ซึ่งจําตัวเลขที่แม่นยําไม่ได้

***นอกจากนี้ ยังมีเรื่องพีคอีก…หลังจากที่มาโรงพยาบาล คุณหมอก็พยายามทํา CT Scan ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย แต่กว่าจะได้ทําในแต่ละอย่าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่ประเทศนี้เขาเป็นแบบนี้รึเปล่า ก่อนที่จะทำอะไร จะพยายามขอเงินทุกอย่าง และต้องเป็นเงินสดด้วย ผมนอนจนปวดหลัง จากการที่เย็บแผล หน้าก็ปวดไปหมด ปวดจนกินแค่ยาพาราก็เอาไม่ไหวแล้ว ดังนั้น ผมเลยขอยาแก้ปวดแบบฉีดได้ไหมแทน แต่พยาบาลกลับถามว่ามีเงินไหม? ถ้ามีเงินก็จะไปเอายามาฉีดให้ ถ้าไม่มีเงินก็ทำไม่ได้ เช่นเดิม…ผมเลยตอบไปว่ามีเงิน แต่คือตอนนี้ลุกไปไม่ได้ แล้วที่โรงพยาบาลก็ไม่สามารถรูดบัตรได้ด้วย จะให้คนไปกดก็กดไม่ได้ เพราะตู้ ATM เป็นไรไม่รู้ ซึ่งผมก็พยายามขอร้องให้ช่วยรักษาก่อน เพราะเรื่องเงินผมไม่มีปัญหาเลย ออกจากโรงพยาบาลเคลียร์ให้ได้แน่นอน จะเอาพาสปอร์ตหรืออะไรไว้ก็ได้ แต่เขาก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ ต้องมีเงินและต้องเป็นเงินสดเท่านั้น ซึ่งตอนนั้นก็พยายามอธิบายต่อไปว่าอยากให้ดูสภาพตนก่อน ยังไงก็จ่ายแน่นอน แต่อยากให้รักษาก่อน เพราะว่าไม่อยากอยู่ที่นี่นาน เดี๋ยวก็ต้องกลับประเทศแล้ว

จากนั้นเขาไปคุยปรึกษากับแผนก แล้วก็เอาใบสัญญามาให้เซ็นต์ว่าการรักษาต้องจ่ายอะไรงี้นะ ซึ่งตอนนั้นเซ็นต์ไม่ไหว ลุกนั่งยังไม่ได้เลย ตอนนั้นผมนอนลากอยู่กับเตียง ตาก็ปิดอยู่ สุดท้ายเขาก็เลยเอาที่แสตมป์มือ เพื่อที่จะเอามาเป็นสัญญาในการรักษา

ดังนั้น ถ้าเกิดว่าใครไปเที่ยวลาว ต้องฟังประสบการณ์ในการเกิดอุบัติเหตุของผมไว้นะครับ…และหลังจากที่ผมได้รบกวนคนที่โรงพยาบาล เพื่อถามว่าแถวนี้มีใครรับโอนเงินไทยไหม เพราะจะได้โอนเงินไทยเพื่อขอแลกเป็นเงินกีบมาจ่ายค่ารักษาตรงนี้ ไม่งั้นเขาก็ไม่ยอม ทางโรงพยาบาลจึงช่วยหา สุดท้ายก็หาจนเจอและก็ได้รักษา

หลังจากรักษาเบื้องต้นเสร็จ คุณหมอก็บอกว่ามีเลือดออกใต้เยื่อบุสมอง กระโหลกร้าว เขาขอไม่รักษา เพราะไม่อยากเสี่ยง เลยให้กลับประเทศให้ได้ไวที่สุด เพราะที่นี่ไม่มีอุปกรณ์ที่เพียงพอจะรักษาเคสแบบนี้ พอได้ยินดังนั้นจึงหาวิธี เพราะผมก็อยากกลับไทยให้ได้ไวที่สุด จนสุดท้ายก็ได้ประสานงานกับทีมงานผมที่ฝั่งไทย และได้ติดต่อรถพยาบาลจากทั้งฝั่งลาวและฝั่งไทย โดยนั่งรถตู้พยาบาลจากหลวงพระบางมากลับมาที่กรุงเทพฯ เกือบ 24 ชั่วโมง ส่วนค่ารถตู้ที่จ่ายไปทั้งหมดประมาณ 52,000 บาท ตัวเลขอาจจะผิดพลาดไปในหลักพัน จึงขอตีเป็นกลม ๆ ประมาณนี้

ถัดมายังมีเรื่องพีคอีก ประกันการเดินทางที่ผมซื้อมารายปี มันไม่รับรองอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ ทีนี้ก็เป็นเป็นเรื่องที่ช็อกที่ต้องจ่ายคนเดียว…ส่วนในเรื่องของค่าการรักษา ก็มีบางส่วนที่ประกันเขาช่วยประสานงานให้ ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไป…

ดังนั้น หากใครจะไปเที่ยวที่ไหน อยากจะให้ดูประกันการเดินทางให้ดี ต้องอ่านกรมธรรม์เกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุ ต้องให้รับรองทุกอย่างเลย ดังนั้น อยากให้ทุกคนคอยระวัง ถึงแม้เมื่อเราคิดว่ายังไงอุบัติเหตุมันไม่เกิด แต่ประกันการเดินทางก็เป็นสิ่งที่สําคัญมากเลยจริง ๆ ขนาดผมมีสุดท้ายก็ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นแสนเลย…

อันนี้ก็เป็นประสบการณ์ในการเที่ยวลาว จึงอยากให้ทุกคนระวังตัวไปไหนมาไหนใช้สติให้ได้มากที่สุด… ซึ่งจากประสบการณ์นี้ผมก็ไม่อยากจะโทษใคร ถือเป็นจุดซวย ๆ ของชีวิตอย่างน้อยก็ไม่ถึงตาย แต่ก็รอดมาได้…

‘ยูทูบเบอร์สาวลาว’ ชื่นชม ‘หมอไทย’ เก่งด้วย ใส่ใจคนไข้ด้วย ไม่แปลกใจทำไม ‘คนลาว’ แห่ไปรักษาที่ รพ.ไทยกันหมด

จากกรณีที่ คุณ ‘แบงค์’ ยูทูบเบอร์ดังสายท่องเที่ยว เจ้าของช่อง ‘Wepergee’ ที่มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ‘Thailand Influencer Awards 2023’ ด้าน ‘Best Travel Influencer’ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เล่าอุทาหรณ์ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ ‘สปป.ลาว’ หลังประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนที่หลวงพระบาง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อคุณแบงค์ถูกนำตัวมาถึงที่โรงพยาบาลก็พบกับสิ่งที่น่าช็อก คือ เจ้าหน้าที่พยายามจะขอเงินทุกอย่าง ต้องขอเงินสดทุกครั้ง หากตนจะขอให้ทำอะไรให้ ขอฉีดยาแก้ปวดก็เจอพยาบาลถามว่า “มีเงินไหม ถ้ามีเงินจะเอามาฉีดให้” คุณแบงค์อ้อนวอนจนท้ายที่สุด ทางโรงพยาบาลก็เอาใบสัญญามาให้เซ็น ซึ่งคุณแบงค์เซ็นไม่ไหว ลุกนั่งไม่ได้ จนต้องปั๊มนิ้วเซ็นสัญญาในการรักษาแทน หลังจากนั้น ต้องหาคนลาวที่มีแอปพลิเคชันธนาคารไทยมาให้ตนโอนเงินจนได้รักษา

แม้คุณแบงค์จะทำประกันการเดินทางมาแล้ว แต่กลับพบว่าประกันนั้นไม่ครอบคลุม จนต้องเสียเงินหลักแสนบาท เพื่อกลับมารักษาตัวที่ไทย

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค. 66) ‘คุณดาว’ ยูทูบเบอร์สาวชาวลาว ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่มีคลิปประเด็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝั่งของคนไทย อีกทั้งได้มีคนไทยบางส่วนคอมเมนต์ว่า “ถ้าอย่างนั้น คนไทยเอาคืนคนลาวได้ไหม? จะไม่ให้คนลาวเข้ามารักษาตัวที่ฝั่งของไทยดีไหม เพราะทางฝั่งลาวปฏิเสธการรักษาประชากรของไทย”

โดยคุณดาวได้แสดงความคิดเห็นว่า จริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพของการเป็นแพทย์ คือ คุณต้องรักษาชีวิตของคนไข้ให้หายดีก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องเงินทีหลัง

นอกจากนี้ คุณดาวยังได้กล่าวว่า ปัจจุบันคนลาวที่มีกำลังทรัพย์มากพอ ก็จะข้ามมารักษาตัวที่ฝั่งไทย เพราะหากเทียบคุณภาพในการรักษาแล้ว ทางฝั่งไทยให้การรักษาที่ดีกว่าฝั่งลาวมาก เนื่องจากทีมแพทย์ของไทยนั้นรักษาเก่งมาก มีความรอบคอบ และมีความสะอาดในทุกขั้นตอนของการรักษา ผิดกับทางฝั่งลาว เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวของคุณดาวที่เคยไปทำการรักษา พบว่า โรงพยาบาลและคลินิกที่ลาวนั้นมีความสกปรกเป็นอย่างมาก แพทย์และพยาบาลส่วนใหญ่นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ ไม่ได้สนใจคนไข้ที่มาใช้บริการเลย

“คนไทยอย่าเพิ่งไปน้อยใจนะคะ ว่าคุณเลือกปฏิบัติ เพราะแม้แต่คนลาวด้วยกันเองก็ถูกเลือกปฏิบัติเช่นกัน ทำให้คนลาวส่วนใหญ่ถึงแห่มารักษากับหมอไทย เพราะว่าจรรยาบรรณของหมอลาวบางคนนั้นไม่ได้เรื่อง ไร้ซึ่งจิตสำนึกในหน้าที่ของตัวเอง เข้าใจว่าทุกอย่างต้องใช้เงิน แต่คุณต้องมีจิตสำนึก ถ้าคุณจะเป็นแพทย์ เป็นหมอ เป็นพยาบาล คุณต้องมีจิตใจที่เมตตาก่อน” คุณดาว กล่าว

คุณดาวยังได้กล่าวต่อว่า ตนนั้นไม่ได้มีเงินมากพอจะเรียนแพทย์ เรียนหมอ แต่สิ่งหนึ่งที่ตนเองและทุกคนควรจะมีคือ ‘จิตใต้สำนึก’ สิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งที่กำลังจะตาย ไปโรงพยาบาลหาหมอเพื่อรักษา เพราะอยากมีชีวิตรอดกลับบ้าน สิ่งที่เขาต้องการ คือ การได้รับความใส่ใจจากแพทย์ จากหมอ จากพยาบาล

นอกจากนี้ คุณดาวยังได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ตนเคยพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลแล้วเจอหมอที่ไม่กระตือรือร้นจะทำอะไร นั่งเล่นแต่โทรศัพท์ เวลาไปขอใบรับรองแพทย์ ก็เจอหมอนั่งสั่นขาไปมา ไร้มารยาท

อย่างไรก็ตาม คุณตาวได้เน้นย้ำว่า ตนไม่ได้เหมารวมหมอลาวทั้งหมด สิ่งที่ตนเล่ามานั้น คือประสบการณ์การส่วนตัวที่ตนเคยได้ไปเจอมา แพทย์ หมอ พยาบาลส่วนใหญ่ที่ดี มีความตั้งใจในการรักษาคนไข้ก็มี ตนอาจจะโชคร้ายเองที่ไปเจอหมอที่นิสัยแย่

“ส่วนตัวดาวเชื่อว่า แม้คนไทยจะขู่ว่า จะไม่ให้คนลาวข้ามมาหาหมอที่ฝั่งไทยแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ คนไทยเขาก็คงทำไม่ลงหรอก และสิ่งสำคัญที่ดาวอยากจะบอก คือ รัฐบาลไทยนั้น ออกงบประมาณสวัสดิการการดูแลคุ้มครองต่างด้าว หรือชาวต่างประเทศที่มารักษาตัวที่ประเทศไทย ปีหนึ่งพันกว่าล้านบาท แก่กระทรวงสาธารณสุขไทย ทำไมเราถึงไม่มีจิตสำนึกว่า ประชาชนลาวของเราก็ไปรักษาตัวที่ประเทศเขาเยอะแยะมากมาย แล้วเมื่อคนไทยเขามาประเทศเรา เหตุใดเราจึงไม่ดูแลคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือเขาคืนบ้าง” คุณดาว กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top