เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ ผู้เขย่าสถาบันการเงินเวียดนาม โกงมโหฬาร 4 แสนล้านบาท มหาศาลที่สุดในอาเซียน!!
‘เวียดนาม’ ประเทศที่ถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดในอาเซียน แต่ก็ยังมีสิ่งที่ยังฉุดรั้งเศรษฐกิจของเวียดนาม นั่นก็คือ ‘การคอร์รัปชันในระบบ’
และเมื่อไม่นานมานี้ ก็เกิดคดีอื้อฉาวเขย่าภาพลักษณ์เวียดนามอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดโปงคดีคอร์รัปชัน ยักยอกทรัพย์ในสถาบันการเงินของเวียดนาม ด้วยยอดเงินสูงถึง 1.24 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 4.4 แสนล้านบาท) ทุบสถิติทุกคดีคอร์รัปชันในเคยเกิดขึ้นในย่านอาเซียน ซึ่งมากกว่าคดีอื้อฉาวการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB ของมาเลเซีย ที่มีมูลค่าความเสียหายราว 4 พันล้านเหรียญ ชนิดไม่เห็นฝุ่น
ซึ่งวงเงินมหาศาลนี้ ถูกยักย้ายถ่ายเทโดยเศรษฐินีผู้ทรงอิทธิพลของเวียดนามเพียงคนเดียว และทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี โดยไม่มีใครตรวจสอบจนกระทั่งวันนี้
ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์นี้ เกิดจากความฉลาดมากของเจ้าสัวหญิง หรือความฉลาดน้อยของเจ้าหน้าที่รัฐฯ แต่วันนี้ กระทรวงความมั่นคงสาธารณะได้ออกคำสั่งจับกุม ‘Trương Mỹ Lan’ (เจือง หมี ลาน) อภิมหาเศรษฐินีเวียดนาม ประธานบริษัท Van Thinh Phat Group หนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในข้อหายักยอกเงินจากธนาคาร ‘Saigon Commercial Bank’ (SCB) กว่า 1.24 หมื่นล้านเหรียญ มาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี
‘Trương Mỹ Lan’ ถือเป็นนักธุรกิจสาวชาวเวียดนาม เชื้อสายจีน ปัจจุบัน อายุ 67 ปี เคยขึ้นทำเนียบเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเวียดนาม ครอบครัวของเธอประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งร้านอาหาร โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ มีบริษัทจดทะเบียนในเครือกว่า 1,000 แห่ง และได้ทำสินเชื่อไว้กับ Saigon Commercial Bank ในวงเงินสูงถึง 4.3 หมื่นล้านเหรียญ
แต่ทั้งนี้ Trương Mỹ Lan และ บริษัทของเธอเริ่มมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวพันกับการคอร์รัปชัน และให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐฯ หลายครั้ง โดยเริ่มตัังแต่ปี 2014 มีข่าวว่าเธอได้จ่ายสินบนให้แก่อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่งคงสาธารณะถึง 1 ล้านเหรียญ เพื่อขอสิทธิพิเศษในการใช้พื้นที่ท่าเรือแห่งใหม่ในไซง่อน
ต่อมาปี 2016 ชื่อของเธอ และ ‘Eric Chu Nap Kee’ สามีชาวฮ่องกงของเธอ มีชื่ออยู่ในเอกสาร ‘Panama Paper’ แฟ้มคดีเปิดโปงการฉ้อโกง และหลบเลี่ยงภาษีระดับโลก จากการจดทะเบียนบริษัทแต่ในนามชื่อ ‘EurAsia ID Concept Group’ ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
และเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2022 Trương Mỹ Lan ก็ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีฉ้อโกง พร้อมกับเหล่าผู้บริหารด้านการเงินของบริษัทในเครือ Van Thinh Phat Group อีกจำนวนหนึ่ง จากกรณีการออกหุ้นกู้ของบริษัท Van Thinh Phat Group ตั้งแต่ช่วงปี 2008 - 2020 จำนวน 25 ฉบับให้แก่นิติบุคคล และประชาชนทั่วไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทางการเวียดนามก็ได้ตั้งข้อหาอภิมหาเศรษฐินีแห่งเวียดนามอีกหลายกระทงในข้อหาฉ้อโกง และยักยอกเงินจากธนาคาร Saigon Commercial Bank 1.24 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเทียบเท่ากับ GDP ของประเทศเวียดนามถึง 6% และถือเป็นคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดในย่านอาเซียน
มหากาพย์การยักยอกเงินจากธนาคารของเธอ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2011 เมื่อ Trương Mỹ Lan เริ่มซื้อหุ้นของธนาคารเวียดนาม 3 แห่งมาสะสมไว้ ได้แก่ Saigon Commercial JSC, Vietnam Tin Nghia และ De Nhat ผ่านนอมินีถึง 27 ราย และถือครองในนามของตนเองเพียง 4% ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ว่า “บุคคลธรรมดาสามารถถือหุ้นของธนาคารได้ไม่เกิน 5%”
หลังจากนั้นเพียง 1 ปี เธอควบรวมกิจการ 3 ธนาคารเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ชื่อธนาคาร ‘Saigon Commercial Bank’ (SCB) โดยรักษาระดับหุ้นในนามตัวเองเพียง 4% แต่หากรวมหุ้นในส่วนที่ถือผ่านนอมินีแล้ว เท่ากับว่า Trương Mỹ Lan ถือหุ้นของ SCB ไว้ถึง 91.5%
หลังจากนั้น เธอเริ่มใช้อำนาจผ่านหุ้นที่เธอมีแต่งตั้งคนใกล้ชิดเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร ที่ทำให้บริษัทในเครือ Van Thinh Phat Group ของเธอได้วงเกินกู้จากธนาคารอย่างไม่จำกัด และไม่มีการตรวจสอบเอกสารใดๆ แม้กระทั่งการเบิกเงินจากเช็คที่ไม่มีที่มา หรืออนุมัติวงเงินกู้เกินกว่าราคาประเมินโครงการก่อสร้าง หรือออกเงินกู้ให้แก่บริษัทผี ที่จดทะเบียนแต่ในนาม ทั้งในและต่างประเทศหลายแห่ง
ว่ากันว่า เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการเงินก้อนใหญ่ เธอจะเรียกผู้บริหารระดับสูงออกมาประชุมนอกสำนักงานใหญ่ของธนาคาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ หรือเพียงแค่ต่อสายตรงไปที่ผู้จัดการธนาคาร ก็สามารถกู้เงินฉุกเฉินได้ทันทีโดยไม่ต้องมีเอกสารหลักฐานใดๆ
และพบว่า ช่วงปี 2012 - 2022 เธอได้กู้เงินจากธนาคารที่เธอเข้าไปถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นสัดส่วนถึง 93% ของวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารปล่อยกู้ในช่วงเวลานั้น โดยเธอได้จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางเวียดนาม เพื่อให้เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ กับรายงานบัญชีอันผิดปกติของธนาคาร SCB
แต่แล้วพฤติกรรมของเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ก็ถูกขุดคุ้ยและเปิดโปง จากผลพวงของแคมเปญกวาดล้างคอร์รัปชันของรัฐบาลเวียดนาม มีการสั่งปลด ลงโทษข้าราชการระดับสูง และคนระดับรัฐมนตรีมากมายในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี Trương Mỹ Lan ด้วยข้อหาคอร์รัปชันและฉ้อโกงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในภูมิภาคอาเซียน
อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงจุดอ่อนและความหละหลวมของระบบธนาคาร และการตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยภาครัฐ จนเกิดความเสียหายหลักแสนล้านบาท แต่ที่เสียหายหนักกว่านั้น คือความศรัทธาต่อสถาบันการเงินทั้งระบบของเวียดนาม ที่อาจต้องชำระและล้างบางเป็นการด่วน