Tuesday, 24 June 2025
TheStatesTimes

จันทบุรี - กองทัพเรือร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 กปช.จต. มอบอาหารพร้อมน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย จำนวน 500 ชุด บรรเทาความเดือดร้อน เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี

วันนี้ (11 พ.ค.64) เวลา 1700 กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เดินหน้าจัดกิจกรรม "กองทัพเรือร่วมใจสู้ภัยโควิด-19" เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดย พล.ร.ต.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม รอง ผบ.กปช.จต.พร้อมด้วย พล.ร.ต.อภิรักษ์ กลิ่นหม่น เสธ.กปช.จต. และจิตอาสาฯ ได้ทำพิธีส่งมอบอาหาร พร้อมน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัยจำนวน 500 ชุด ให้แก่ประชาชนชุมชนย่อยที่ 10 เนินเอฟเอ็มและชุมชนย่อยที่ 14 บ้านมั่นคง เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี  

โดยมีผู้เแทนจากเทศบาลเมืองจันทบุรี ผู้นำท้องถิ่น พัฒนาชุมชน เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามที่พักอาศัย เป็นการลดการแออัด การรวมกลุ่มของคนหมู่มาก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว และในวันที่ 12 พ.ค.64 เป็นต้นไป หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้สนับสนุนรถครัวสนาม มาให้บริการประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนตามชุมชนที่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  ชลาธร  รัตตพลสกุล / จันทบุรี

นราธิวาส – โจรใต้ตาย 1จับเป็น 2 หลบหนีไปได้ 1 หลังทหารบังคับใช้กฎหมายพื้นที่บาเจาะ

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 พ.ค. 64 น.อ.ธงฉาน บุญระเทพ ผบ.ฉก.ทพ.นย.ทร. พ.ต.อ.ดุลมาน แยนา ผกก.สภ.บาเจาะ ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถามและรวบรวมข่าวสาร ฉก.นย.ภต. จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการณ์ บังคับใช้กฎหมายในการบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 7 จุด ในพื้นที่ อ.บาเจาะ เพื่อกดดันสมาชิกกองกำลังติดอาวุธในช่วง 10 วันสุดท้ายในช่วงเดือนรอมฎอน หรือ ถือศีลอด ในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง 1 ใน 7 เป้าหมาย เป็นบ้านปูน 2 ชั้น เลขที่ 3 ม.9 ต.บาเจาะ ที่เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อม ก่อนที่จะแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่คนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ได้ใช้อาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพก ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆนานกว่า 15 นาที

เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่โดยรอบของบ้านหลังดังกล่าว พบศพนายซูไรดิน กะแต หรือ มะดง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ม.5 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณด้านในของประตูหลังบ้านดังกล่าว โดยมีอาวุธปืนสงคราม AK102 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ที่ข้างศพ และมีอาวุธปืนพกขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ห่างจากศพ ประมาณ 5 เมตร จำนวน 1 กระบอก และมีปลอกกระสุนปืนของคนร้าย ตกกระจายเกลื่อนทั่งบริเวณ จำนวนกว่า 100 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว 2 พี่น้อง เจ้าของบ้านพักหลังดังกล่าว คือ นายกูอัฟนัน และนายกูอัมรัน กุพะมา มาทำการสอบสวนในเบื้องต้น พบว่าทั้ง 2 คน ไม่มีปะวัติอาชญากรรมและก่อคดีความมั่นคง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามที่ ฉก.ทพ.นย.ทร. และจากการตรวจสอบประวัตินายซูไรดิน ผู้เสียชีวิต เป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป. วิ  อาญา จำนวน 2 หมาย ซึ่ง 1 ในนั้น ก่อเหตุยิง 2 แม่ลูกเสียชีวิต คือนางนิตยา และน.ส.อัจฉริยา แก่นเรือง เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2561 ส่วนอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า อาวุธปืน AK102 คนร้ายใช้ก่อเหตุดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณป้อมจุดตรวจหลัง สภ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564 และใช้อาวุธปืนดักซุ่มยิงจุดตรวจบาตู ในพื้นที่ ต.ต้นไทร อ.บาเจาะ เมื่อ 8 เม.ย. 2561 ส่วนอาวุธปืนพก ขนาด 11 ม.ม. เป็นอาวุธปืนที่คนร้ายได้ขโมยจากอาสารักษาดินแดนมูฮำหมัดซับรี สาและ ประจำที่ว่าการ อ.บาเจาะ ที่คนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา

ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพรานนาวิกโยธินกำพล แก้วจำรัส อายุ 28 ปี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณข้อมือซ้าย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะ

และจากการตรวจสอบคนร้ายที่สามารถหลบหนีไปได้ 1 คน คือ นายซูเฟียน ยูโซ๊ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังในการติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด คาดว่าจะหลบหนีไปอาศัยบ้านพักของสมาชิกแนวร่วมหลังใดหลังหนึ่งในพื้นที่รอยต่อกับจุดเกิดเหตุ โดย พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.บาเจาะ ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจจุดสกัดทุกจุดในพื้นที่ อ.บาเจาะ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในการตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิด เกรงจะมีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่นำนายพาหนะมารับหลบหนี ซึ่งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจสอบพบนายซูเฟียน ยูโซ๊ะ แต่อย่างใด


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

กาฬสินธุ์ - เขื่อนลำปาวน้ำลด ชาวบ้านนำสัตว์ไปเลี้ยงแทนทุ่งนา เพื่อเพียงพอหน้าแล้ง

ผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วง และสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนลำปาวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสภาพที่เคยเป็นท้องน้ำเกิดสันดอน และกลายเป็นแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์บริเวณกว้าง ให้ชาวบ้านต้อนฝูงวัว ควาย เข้าไปเลี้ยง ขณะที่ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ขอความร่วมมือประชาชนในช่วงหยุดการส่งน้ำ ช่วยกันบำรุงรักษาคูคลองละใช้น้ำอย่างประหยัด

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงเริ่มต้นเดือนแรกของฤดูฝน พบว่าเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงและยังไม่ตกลงมาตามดูกาล ส่งผลให้สภาพอากาศร้อนจัด ปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำทั่วไป โดยเฉพาะเขื่อนลำปาวเกิดการระเหยและลดระดับลงอย่างรวดเร็ว  เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาเติมน้ำไหลลงเขื่อน ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเพียง 455 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23 % จากความจุอ่าง 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ผลจากระดับน้ำในเขื่อนลำปาวลดลงดังกล่าว ทำให้บริเวณท้ายเขื่อนและริมฝั่ง รวมทั้งส่วนที่เคยเป็นผืนน้ำในฤดูฝน เกิดสันดอนและกลายเป็นทุ่งหญ้า ให้ชาวบ้านต้อนฝูงวัว ควาย ลงไปเลี้ยง บางส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงปลูกพืชเป็นอาชีพเสริมในฤดูแล้งอีกด้วย

ขณะที่นายฤาชัย จำปานิล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า ทางโครงการฯ ได้ทำการหยุดส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2564 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรรมการบริการจัดการน้ำ และดำเนินการตามปฏิทินปฏิบัติ  เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ในการอุปโภคบริโภค และการเกษตรกรรม โดยหลังจากหยุดส่งน้ำแล้วก็จะมีการซ่อมแซมคลองส่งน้ำและดูแลขุดลอกตะกอนดิน เพื่อเตรียมความพร้อมของคลองไว้สำหรับการส่งน้ำเพาะปลูกข้าวฤดูฝน ที่จะดำเนินการส่งน้ำในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564

นายฤาชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งนี้ เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคแน่นอน อย่างไรก็ตาม อยากจะขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ได้ร่วมกันใช้อย่างอย่างประหยัด เนื่องจากฝนยังทิ้งช่วง ไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทั้งนี้ ในส่วนของเกษตรกรผู้ใช้น้ำ เช่น ชาวนา ชาวประมง เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลา ที่ใช้น้ำจากคลองสายเล็กหรือคลองไส้ไก่ ในช่วงที่ทางโครงการหยุดส่งน้ำดังกล่าว ก็ให้ช่วยกันซ่อมแซมคูคลอง เพื่อน้ำจะได้ไหลสะดวกในช่วงทำการระบายน้ำในโอกาสต่อไป ในขณะเดียวกันทางโครงการได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนรับผิดชอบ ออกสำรวจตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะให้ผู้ใช้น้ำได้รับน้ำอย่างทั่วถึง


ภาพ/ข่าว ณัฐพงษ์  ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดฝึกออนไลน์ Upskill ให้ผู้กักตัว จัด 20 หลักสูตร พัฒนาทักษะผ่าน Online ฟรี ฝึกจบรับวุฒิบัตร 

นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ กพร. ช่วยเหลือแรงงานทั้งแรงงานในระบบ
และแรงงานอิสระ ภายใต้ภารกิจของ กพร.โดยการฝึกอบรมฝีมือแรงงานแบบ New Normal ผ่านระบบออนไลน์เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้แก่แรงงานได้พัฒนาทักษะฝีมือในช่วงกักตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 และเตรียมความพร้อมเป็นแรงงานคุณภาพกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานหลังสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย 

อธิบดี กพร. กล่าวต่อไปว่า กพร.ได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) ทุกแห่งทั่วประเทศจัดหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ฟรี 20 หลักสูตร โดยเน้นหลักสูตรด้านการพัฒนาทักษะดิจิทัล โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการประยุกต์ใช้งาน และการประกอบอาชีพอิสระ ได้แก่ Microsoft Excel Advanced การผลิตสื่อโฆษณาและหนังสั้นด้วยสมาร์ตโฟน เทคนิคการสร้างร้านค้าและขายสินค้าออนไลน์ การสร้างงานสร้างอาชีพด้วยระบบ E-Commerce การออกแบบและตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม Photoshop  illustrator การสร้างแอปพลิเคชันโมบายระบบแอนดรอยด์ การเขียนแบบก่อสร้าง 3D ด้วยโปรแกรม Sketch-up การสร้างโปรแกรมฐานข้อมูลด้วย Google Form การประยุกต์ใช้งานโปรแกรม Solid Work ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ภาษาพม่าเบื้องต้นเพื่อการทำงาน ไคเซ็น (KAIZEN) เพื่อการปรับปรุงงาน  การใช้งานโปรแกรม Microsoft Power point 2010  เทคนิคการสร้างสื่อมัลติมีเดียเพื่อการท่องเที่ยว การใช้ Google Application เพื่อธุรกิจ การสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2016 และการสร้างอินโฟกราฟิกเบื้องต้น 

ผู้สนใจสามารถค้นหาหลักสูตร และลงทะเบียนสมัครฝึกอบรมได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.dsd.go.th เลือกอบรมออนไลน์ผู้กักตัว COVID – 19 เลือกหลักสูตรที่ต้องการฝึกอบรม นัดหมายและเตรียมความพร้อมก่อนฝึก เมื่อถึงวันฝึกอบรมให้ผู้สมัครลงทะเบียนเข้ารับการฝึกอบรมผ่านแอปพลิเคชัน Zoom Meeting และประเมินผลการฝึกผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ ผู้ผ่านการประเมินจะสามารถพิมพ์วุฒิบัตรผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเอง การฝึกอบรมในครั้งนี้     เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้กักตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 ระลอกเดือนเมษายน 2564 ไม่จำกัดเพศ และวุฒิการศึกษา 


“การกักตัวอยู่บ้านตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือ นอกจากจะเป็นการช่วยชาติลดการแพร่เชื้อโควิด – 19 แล้ว แรงงานยังสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองผ่านระบบออนไลน์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้อีกด้วย ผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรเหล่านี้ และหลักสูตรอื่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สพร.และสนพ. ทุกแห่งทั่วประเทศ” อธิบดี กพร. กล่าวทิ้งท้าย

เชียงราย – UN ช่วยเหลือชาวบ้านไร้สถานะทางทะเบียน ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล พ้นภัยโควิด

ที่บ้าน เฮโก  ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย นายไกรทอง เหง้าน้อย  ผู้จัดการโครงการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มคนไร้สัญชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19 โดยมูลนิธิพัฒนาชุมชน และเขตภูเขา(พชภ.)  นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา ที่ปรึกษาโครงการฯ  ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการ เสริมสร้างศักยภาพกลุ่มคนไร้สัญชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19  โดยกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวเป็นผู้ที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์ในการเยี่ยวจากผลกระทบของไวรัสโควิด -19 ของรัฐบาลไทย

โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่าน UNDP โดยมีการแบ่งจัดสรรไปตามชุมชนต่างๆทั่วประเทศ 24 แห่ง โดยจะเน้นไปที่หมู่บ้านที่มีผู้ไร้สถานะทางทะเบียน ที่ไม่เข้าข่ายรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในช่วงโควิด -19 ระบาด โดยโครงการเสริมสร้างศักยภาพกลุ่มคนไร้สัญชาติที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ลงพื้นที่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ก.พ.64  เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นทางอาหารด้วยระบบนวัตกรรมเกษตรยั่งยืน ชุมชนบนพื้นที่สูง

นายไกรทอง เหง้าน้อย  กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ด้วยมีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งประเทศพม่า ประเทศลาว และมีการเข้ามาของคนจีนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไว้หลายระดับ แต่กลุ่มคนชายขอบ กลุ่มคนที่ไร้สัญชาติ คนเหล่านี้ไม่ได้รับการเยียวยา จากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงรอบด้าน เพียงเพราะไม่มีบัตรแสดงสถานะบุคคลที่เป็นคนไทย จากข้อมูลจำนวนประชากรคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการปกครองปี 2562 พบว่าในจังหวัดเชียงราย มีจำนวน 96,960 คน โดยแยกออกเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 10% กลุ่มเด็กเยาวชนอายุ18 ปี คิดเป็น18% อายุ18-60 ปี คิดเป็น71% แบ่งเป็นผู้หญิง 54% ผู้ชาย46% จึงเป็นกลุ่มคนที่มีความเปราะบางเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์โควิด19 ระบาด มีความจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาและเสริมศักยภาพให้สามารถปรับตัวอยู่ได้ภายใต้สถานการณ์โควิดในระยะยาว

 "โครงการพัฒนาศักยภาพ ส่งเสริมให้เกิดการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิต ของครอบครัวผู้ไร้สัญชาติใน 4 ชุมชนหลักเพื่อเป็นต้นแบบ เพื่อให้กลุ่มผู้ไร้สัญชาติสามารถปรับตัวและสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาว ให้สามารถพึ่งตนเองได้ โดยมีแหล่งผลิตอาหารไว้บริโภคในครัวเรือน และช่องทางที่สามารถสร้างรายได้ โดยโครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 24 โครงการระยะสั้น ภายใต้โครงการ “การเสริมสร้างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสังคม ความมั่นคงของมนุษย์และการฟื้นคืนสู่สภาพปกติในประเทศไทยในบริบทของการระบาดใหญ่ของ COVID-19″ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังและปกป้องความคืบหน้าเพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) ประจำประเทศไทยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลญี่ปุ่น" นายไกรทอง กล่าว

โดยโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการใน 4 หมู่บ้าน ชุมชนชาติพันธุ์  ธุ์ลาหู่ ลีซู อาข่า ได้แก่บ้านป่าคาสุขใจ บ้านพนาสวรรค์ บ้านจะบูสี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง และบ้านเฮโก ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย  โดยได้มอบปัจจัยการผลิตที่เป็นความต้องการของชุมชนและเหมาะสมกับการทำเกษตรบนพื้นที่สูงที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และแหล่งน้ำ เช่นการเลี้ยงไก่กระดูกดำ การเลี้ยงหมูดำ หมูหลุม  และการปลูกพืชผักอาหาร รวมทั้งการปลูกผลไม้ยืนต้น ให้สามารถสร้างแหล่งอาหารในครัวเรือนได้และเป็นแนวทางสร้างรายได้ในระยะยาวได้

นายอาหลู งัวยา ผู้นำหมู่บ้านเฮโกซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ลีซู กล่าวว่า ชุมชนได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ ในเรื่องการเลี้ยงหมู เพื่อใช้เป็นอาหารในครอบครัว และเพื่อจำหน่ายได้ โดยในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 สมาชิกในชุมชนยังไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐตามมาตการต่างๆที่ออกมาเท่าที่ควร เพราะบางส่วนไม่มีบัตรประชาชน บางส่วนไม่มีโทรศัพท์และบางส่วนทำไม่เป็น  การที่ พชภ.และ UNDP เข้ามาสนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงหมูจึงเป็นเรื่องที่ดีมาก  การเลี้ยงหมูจะช่วยเพิ่มพื้นที่ป่า เนื่องจากอาหารหลักที่ใช้เลี้ยงหมูคือต้นกล้วย ที่ผ่านมาชาวบ้านบางส่วนได้ปลูกข้าวโพดและใช้สารเคมีทำให้กลายเป็นภูเขาหัวโล้น แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นการปลูกต้นกล้วยแทนทำให้ผืนดินเกิดความชุ่มชื้นเพราะต้นกล้วยสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดี ทำให้พืชอื่นๆเจริญเติบโตด้วยโดยเฉพาะไม้ผลต่างๆ ทั้งมะม่วง อาโวคาโด ลิ้นจี่ ทุเรียน โดยหมู่บ้านเฮโกเป็นแหล่งต้นน้ำ การส่งเสริมการเลี้ยงหมูจึงเป็นการส่งเสริมให้ฟื้นฟูต้นไม้ใหญ่ในแหล่งต้นน้ำด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

"ชวน" เผยรัฐบาลส่งร่างพ.ร.บ.งบ 65 มาสภาฯ 17 พ.ค. เตรียมบรรจุวาระ ถกนัดแรก 31 พ.ค.-2 มิ.ย. ชี้หากช้ากว่านี้หวั่นกระทบควมเชื่อมั่นรัฐบาล-เศรษฐกิจ  ยันส.ส.และจนท. ที่เข้าประชุม ต้องฉีดวัคซีน หากไม่ฉีดต้องมีหนังสือรับรองปลอดเชื้อโควิดทุกครั้ง 

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการนัดตัวแทนรัฐบาล คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา หารือในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ว่า จะเป็นการหารือเพื่อหาความร่วมมือในการประชุม ให้สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดี ในขณะที่ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งสภาฯ ต้องเป็นตัวอย่าง ในการทำงานในขณะที่มีวิกฤตไม่ใช่หนีปัญหา 

นายชวน กล่าวต่อว่า โดยวางกรอบในเบื้องต้นว่าหลังเปิดสมัยประชุมวันที่ 22 พ.ค.แล้วจะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27 พ.ค. เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด 2 ฉบับ และได้รับการประสานจากทางรัฐบาลมาแล้วว่าจะส่งร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 มาที่สภาฯ ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ จึงจะบรรจุระเบียบวาระการพิจารณา ร่างพ.รบ. งบประมาณฯ วาระแรกในวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย. เพื่อให้เวลากับสมาชิกได้ดูเอกสารในร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ส่วนที่ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า อาจจะให้บรรจุระเบียบวาระในวันที่ 9 มิ.ย. นั้น เห็นว่าจะเลยกรอบเวลาไปมาก และเกรงว่าจะมีปัญหากับทางรัฐบาลเอง เพราะงบประมาณเป็นส่วนสำคัญมากในการที่จะทำให้เกิดความมั่นใจในการบริหารบ้านเมือง และมีผลต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นงบประมาณควรออกไปตามปฏิทินที่สำนักงบประมาณได้วางเอาไว้ 

นายชวน ยังกล่าวถึงมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สภาฯ ว่า นอกจากขอความร่วมมือส.ส. ฉีดวัคซีนให้ครบทุกคนแล้ว ยังประสานให้ เจ้าหน้าที่ที่จะต้องทำงานในห้องประชุมได้รับวัคซีน และให้นโยบายไปแล้วว่าสำหรับคนที่มีความประสงค์จะไม่ฉีดวัคซีน จะต้องมีหนังสือรับรองมาว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ภายในเวลาที่กำหนดเอาไว้ในระเบียบ และในการประชุมครั้งต่อไปก็ต้องมีหนังสือรับรองอีก เพื่อเป็นมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดภายใน ซึ่งทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกันยังคงเน้นมาตรการในการคัดกรองบุคคลเข้า-ออก ในอาคารรัฐสภา ทั้งนี้ได้ย้ำเจ้าหน้าที่ด้วยว่า ไม่ต้องเกรงใจ แม้จะเป็นส.ส.มาขอร้อง หากใครไม่ผ่านกระบวนการในการคัดกรองเบื้องต้น ต้องไม่อนุญาตให้เข้ามาในพื้นที่สภาฯ ซึ่งเชื่อว่าจากมาตรการที่วางเอาไว้น่าจะสามารถลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ในระดับหนึ่ง

‘สาธารณสุขอินโดนีเซีย’ เผยผลการศึกษาวัคซีนซิโนแวค พบประสิทธิภาพสูง ป้องกันโควิดได้ 94% และป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% หลังฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ 25,374 ราย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ผลวิจัยการใช้งานจริงจากกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวคของจีนนั้น สามารถลดการติดเชื้อในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ของอินโดนีเซียลงได้อย่างมาก ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนาที่ต้องพึ่งพาวัคซีนดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่า วัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพต่ำกว่าวัคซีนของบริษัทจากชาติตะวันตกอย่างมากในการทดลองทางคลินิก

นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า ทางกระทรวงฯ ได้ติดตามผลกับบุคลากรทางการแพทย์ 25,374 ราย ในกรุงจาการ์ตาเป็นเวลา 28 วัน หลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวคโดสที่สองจนถึงช่วงปลายเดือนก.พ. และได้พบว่าวัคซีนของซิโนแวคสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% รวมถึงป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลได้ 96% ภายในเวลาเพียง 7 วันหลังจากได้รับวัคซีน

นายซาดิคินกล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ได้รับการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ถึง 94% ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งและดีกว่าข้อมูลจากในการทดลองทางคลินิกที่เกิดขึ้นหลายครั้งก่อนหน้านี้มาก อย่างไรก็ดี การวิจัยของกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ได้มีการคัดกรองบุคลากรเพื่อตรวจหาผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหรือไม่

นอกจากนี้ นายซาดิคินยังระบุว่า อัตราการเสียชีวิตและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของบุคลากรทางการแพทย์นั้นลดลงอย่างมาก

ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า วัคซีนของซิโนแวคป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใดที่แพร่ระบาดในอินโดนีเซีย แต่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอินโดนีเซียยังไม่มีรายงานว่าเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่จากไวรัสสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด

ผลวิจัยครั้งนี้ยังสนับสนุนข้อมูลจากบราซิลที่ว่า วัคซีนซิโนแวคนั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ระบุไว้ในขั้นทดลองซึ่งประสบปัญหาหลายประการ ทั้งข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพที่ไม่แน่นอน รวมถึงข้อกังขาเกี่ยวกับความโปร่งใสของข้อมูล


ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2021/86197

ของแพง-ตกงาน ทำกำลังซื้อครัวเรือนไทยทรุดหนัก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเดือนเกิดระบาดโควิด-19 รอบสามได้ปรับตัวลดลงอย่างมากอยู่ที่ระดับ 37.0 จากระดับ 40.4 ในเดือนมี.ค. ส่งผลต่อกำลังซื้อครัวเรือนในขณะที่มาตรการเยียวยาเพิ่มเติมยังไม่ออกมา รวมถึงราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มอย่างมาก และครัวเรือนกังวลด้านรายได้ การมีงานทำ ทิศทางของดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับสูงขึ้นในรอบ 8 ปี ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือนด้วย 

ทั้งนี้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ยังประเมินว่า ครัวเรือนยังเจอความเสี่ยงทั้งตลาดแรงงานในภาพรวมยังไม่ฟื้นตัวโดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นกำลังซื้อของครัวเรือนจะถูกกระทบอย่างมากจากรายได้ที่มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ฐานะทางการเงินของครัวเรือนมีแนวโน้มเปราะบางลงเรื่อย ๆ ต่อเนื่องมาจากการระบาดในครั้งก่อน ๆ แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือออกมาเพื่อบรรเทาผลกระทบอยู่บ้าง แต่ขนาดไม่เท่ากับมาตรการเยียวยาในรอบก่อน ทำให้นอกจากการเร่งจัดหาและฉีดวัคซีนแล้ว ครัวเรือนยังรอมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ด้วย

ส่วนการว่างงานของผู้ประกันตนมาตรา 33 พบว่า อยู่ในระดับสูง โดยในเดือนก.พ.64 อยู่ที่ 310,031 คน เมื่อเทียบกับ 151,802 คน ในเดือนก.พ. 63 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคที่เป็นตัววัดค่าครองชีพของประชาชนก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ในเดือนเม.ย. 64 เงินเฟ้อกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 14 เดือนอยู่ที่ 3.41% ซึ่งปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาผักสดที่สูงขึ้น รวมถึงค่าสาธารณูปโภคที่ปรับเพิ่มขึ้นหลังไม่มีมาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ในปีก่อนหน้า

“บิ๊กป้อม” ถก คกก. อวกาศแห่งชาติ เห็นชอบ NT บริหารหลังสิ้นสุดสัญญาฯ เน้น ประโยชน์สาธารณะ-ปชช.ใช้บริการ ทั่วถึง

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 มีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เข้าร่วมบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

โดยที่ประชุมเห็นชอบให้บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) เป็นผู้บริหารจัดการทรัพย์สิน หลังสิ้นสุดสัญญาจนสิ้นสุดอายุทางวิศวกรรมของดาวเทียม และให้เสนอคณะกรรมการดิจิทัลฯ พิจารณา ก่อนดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนั้นรับทราบรายงานความก้าวหน้า ผลการดำเนินงาน ของดาวเทียมธีออส (THEOS) ประกอบด้วยการจัดหาดาวเทียมหลัก ดาวเทียมเล็กและระบบภาคพื้นดิน การพัฒนาแอพพลิเคชั่น AIP เพื่อดึงข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ประโยชน์ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากร  และรับทราบรายงานแนวทางการนำเทคโนโลยี ทางด้านภูมิสารสนเทศในการแก้ปัญหาและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านเกษตรเชิงพื้นที่อาหาร สุขภาพและคุณภาพชีวิต พลังงานทดแทน และด้านการท่องเที่ยว รวมถึงรับทราบ รายงานการจัดหาดาวเทียม NAPA-1 ซึ่งเป็นดาวเทียมของกองทัพอากาศ มีน้ำหนัก 5.73 กก. และได้นำขึ้นสู่วงโคจรแล้ว เมื่อ 3 ก.ย. 63 ที่ความสูง 530 กม. เหนือพื้นโลก สำหรับการใช้งานระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียม ของกระทรวงกลาโหมจะมีการดำเนินการในอนาคต ต่อไป  

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้ ดีอีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัด บูรณาการขับเคลื่อนกิจการอวกาศของประเทศอย่างจริงจัง ต้องคำนึงถึงเป้าหมายเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์และไม่ให้เกิดผลกระทบ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคงและสิ่งแวดล้อม และต้องเกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ต่อสาธารณประโยชน์อย่างทั่วถึงในอนาคต 

‘ไทยคู่ฟ้า’ ยืนยัน ไม่มีการชาร์จค่าหัวคิววัคซีนเอกชน เผย ยังไม่ได้คุยราคาต้นทุนนำเข้าอย่างชัดเจน 

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจไทยคู่ฟ้า โพสต์ข้อความระบุว่า ยืนยัน! ไม่มีการชาร์จค่าหัวคิววัคซีนเอกชน

สืบเนื่องที่มีการแชร์ข่าวการจัดซื้อวัคซีนให้ภาคเอกชนขององค์การเภสัชกรรม ว่าทางเอกชนจะต้องเสียภาษีถึง 2 ครั้ง และจะถูกชาร์จค่าบริหารจัดการ 5-10% ขอยืนยันนะครับว่าข้อมูลดังกล่าว “ไม่เป็นความจริง” เพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงตัวเลขราคาและต้นทุนต่าง ๆ ระหว่างองค์การเภสัชฯ กับ รพ.เอกชน แต่อย่างใด

ขณะนี้ อยู่ระหว่างการรวบรวมความต้องการวัคซีนจาก รพ.เอกชนต่าง ๆ เพื่อส่งคำสั่งซื้อไปยังบริษัทนำเข้าที่ได้รับอนุญาต และแน่นอนว่าในการจัดซื้อวัคซีนจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งค่าจัดเก็บ ค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ 3-5% และมีภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 

องค์การเภสัชฯ เป็นเพียงหน่วยงานอำนวยความสะดวกในการซื้อวัคซีน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของผู้ผลิตวัคซีนทั่วโลก เนื่องจากวัคซีนโควิดทุกชนิดที่ผลิตได้ขณะนี้ จะใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น

ดังนั้น การกำหนดราคาขายวัคซีนให้กับ รพ.เอกชน จะต้องเป็นราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะสม ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม เพื่อเป็นวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top